ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - ตอนที่ 129 มันเป็นเกมส์ตั้งแต่เริ่มต้น
ตอนที่ 129 มันเป็นเกมส์ตั้งแต่เริ่มต้น
มู่น่อนน่อนจึงโบกรถแท็กซี่ไปที่หมู่บ้านของซือเฉิงหยู้
เมื่อถึงประตูบ้าน หล่อนก็โทรหาซือเฉิงหยู้
ซือเฉิงหยู้รับสายอย่างรวดเร็ว คงเป็นเพราะกำลังออกกำลังกายอยู่ น้ำเสียงจึงมีความหอบอยู่ด้วย: “รอผมห้านาที”
ผ่านไปห้านาทีซือเฉิงหยู้ก็ออกมาจริงๆ
เขาสวมชุดออกกำลังกายสีดำ ผมเปียกเล็กน้อย รอยยิ้มอ่อนหวานเหมือนพี่ชายข้างบ้าน
ตอนที่กวาดสายตามองไปที่มู่น่อนน่อน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายิ้มอย่างลึกซึ้งมากขึ้น
เขาโบกมือให้มู่น่อนน่อน: “น่อนน่อน ตามผมมาสิ”
เมื่อพูดจบ เขาก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ผิดแปลก จึงถามหล่อนด้วยท่าทีรู้สึกผิด: “คุณเรียกผมว่าพี่ชายเหมือนที่เรียกเฉินถิงเซียว งั้นผมขอเรียกคุณว่าน่อนน่อนได้ไหม?”
มู่น่อนน่อนถึงกับสะอึกกับคำพูดของเขา จากนั้นพยักหน้าด้วยความมึนงง: “…ได้ค่ะ”
ซือเฉิงหยู้พาน่อนน่อนไปที่บ้านของเขา เมื่อไปถึงหน้าประตูก็หยิบรองเท้าแบบใช้ครั้งเดียวออกมาจากตู้รองเท้าให้หล่อน
“รกนิดหน่อยนะ อาทิตย์นี้ป้าแม่บ้านมีธุระที่บ้านจึงไม่ได้มา ผมก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลาทำความสะอาด” ซือเฉิงหยู้เดินเข้าไปในบ้านพลางอธิบายให้เธอฟัง
มู่น่อนน่อนยิ้ม ไม่พูดอะไร
ซือเฉิงหยู้พาเธอไปนั่งที่โซฟา จากนั้นรินน้ำให้หนึ่งแก้ว: “ก่อนหน้านี้ผมใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศช่วงหนึ่ง ในบ้านก็ไม่มีของอะไรมากมาย มีแค่น้ำ ลำบากคุณหน่อยนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ”
แม้ว่ามู่น่อนน่อนกับซือเฉิงหยู้จะไม่ได้สนิทคุ้นเคยกันมาก แต่เมื่อมานั่งอยู่ในบ้านเขาเช่นนี้ หล่อนจึงรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
หล่อนจิบน้ำหนึ่งอึก จากนั้นพูดถึงจุดประสงค์ที่มาในวันนี้อย่างตรงไปตรงมา: “คุณรับงานพรีเซนเตอร์สินค้าของมู่ซื่อแล้วเหรอคะ?”
“อื้ม รับแล้ว แต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาครับ” ซือเฉิงหยู้นั่งลงตรงข้ามหล่อน ยิ้มอย่างอ่อนหวาน: “มู่ซื่อส่งคุณมาคุยกับผมเรื่องสัญญา?”
“ใช่ค่ะ” มู่น่อนน่อนหุบยิ้ม จากนั้นวางแก้วน้ำที่อยู่ในมือลง: “คุณแน่ใจว่าจะเป็นพรีเซนเตอร์ให้มู่ซื่อแล้วเหรอคะ?”
“ไม่แน่ใจ ดังนั้นผมจึงให้พวกเขาส่งคุณมาคุยกับผมไงล่ะ” ซือเฉิงหยู้พูดขึ้นด้วยท่าทางไม่สนใจ คล้ายกับเฉินถิงเซียว
มู่น่อนน่อนตกตะลึงไปสักพัก ลูกพี่ลูกน้องมีนิสัยคล้ายกันขนาดนี้ได้เชียวเหรอ?
“แต่ทว่า ดูเหมือนคุณไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ผมรับงานพรีเซนเตอร์ให้กับมู่ซื่อ” ดวงตาของซือเฉิงหยู้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความชาญฉลาด
เมื่อมู่น่อนน่อนเห็นว่าเขาพูดตรงขนาดนี้ จึงไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป: “ก็ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วย ถึงแม้ว่าฉันเป็นคนของตระกูลมู่ แต่ฉันก็ต้องยอมรับว่า ถ้าคุณรับงานพรีเซนเตอร์ให้กับมู่ซื่อจะส่งผลกระทบในด้านลบต่องานแสดงของคุณได้นะคะ”
ซือเฉิงหยู้ถอยพิงไปด้านหลังเบาๆ หรี่สายตาลงมอง ดูเหมือนเฉินถิงเซียวมากจริงๆ
แต่ทว่า น้ำเสียงของเขากลับไม่นิ่งขรึมเหมือนเฉินถิงเซียว ยังคงอ่อนหวานเช่นเดิม: “คุณจริงใจกับทุกคนขนาดนี้เลยเหรอ?”
“…” มู่น่อนน่อนพูดต่อไม่ถูก
ทันใดนั้นเขาก็หุบยิ้มและพูดอย่างจริงจัง: “อย่าใจดีเกินไป จะถูกถิงเซียวรังแกได้นะ”
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าวันนี้ซือเฉิงหยู้พูดเยอะเป็นพิเศษ
เมื่อได้ยินซือเฉิงหยู้พูดถึงเฉินถิงเซียว มู่น่อนน่อนตกตะลึงไปสักพักจึงจะตั้งสติกลับมาได้
“เสี่ยวฉินก็กลัวเขามากนะ เขาชอบรังแกคนอื่นใช่ไหม?” มู่น่อนน่อนรู้สึกแปลกใจมากจริงๆ
ซือเฉิงหยู้นิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง: “ก็คงไม่ใช่ อย่างน้อยก่อนเขาอายุสิบสองปี เขาเป็นเด็กดีเชื่อฟังมากเลยนะ”
เด็กดีมากและเชื่อฟังมาก
ใช้คำพวกนี้มาบรรยายลักษณะนิสัยของเฉินถิงเซียว ช่างดูไม่เป็นธรรมชาติเหลือเกิน
……
จนกระทั่งตอนที่มู่น่อนน่อนกำลังจะกลับ เพิ่งจะนึกเรื่องจุดมุ่งหมายที่ตัวเองมาหาซือเฉิงหยู้ในวันนี้ขึ้นมาได้ คือการมาคุยเจรจาเรื่องพรีเซนเตอร์ สุดท้ายทั้งสองพูดคุยนอกเรื่องกันไปไกล จนลืมเรื่องพรีเซนเตอร์ไปทันที
มู่น่อนน่อนหมดหนทาง แต่ก็ไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา
หล่อนรู้สึกว่าเรื่องที่ซือเฉิงหยู้รับงานพรีเซนเตอร์ของมู่ซื่อคงไม่ง่ายขนาดนั้น
ค่อยๆดูไปแล้วกัน ถึงตอนนั้นมีอะไรก็ค่อยว่ากัน
ตอนบ่ายมู่น่อนน่อนก็ไม่ได้กลับไปที่บริษัท เพราะกลับไปก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ
หล่อนจึงโทรนัดเสิ่นเหลียงออกมาดื่มกาแฟ
หล่อนเล่าเรื่องที่ซือเฉิงหยู้รับงานพรีเซนเตอร์ของมู่ซื่อให้เสิ่นเหลียงฟัง ความตกใจของเสิ่นเหลียงไม่ได้น้อยไปกว่าหล่อนเลย
ปฏิกิริยาแรกของหล่อนคือไม่เชื่อ: “เป็นไปได้ยังไง? โกหกรึเปล่า?”
“วันนี้ฉันยังไปหาซือเฉิงหยู้มาแล้วด้วย เขาไม่ได้ปฏิเสธ” มู่น่อนน่อนเติมน้ำตาลลงไปในกาแฟตรงหน้าอีกหนึ่งก้อน จากนั้นพูดอย่างติดๆขัดๆ: “แต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา”
เสิ่นเหลียงที่กำลังนั่งดูWeibo เมื่อได้ฟังหล่อนพูดเช่นนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมา จากนั้นก้มลงไปดูหน้าจอมือถือต่อ ทันใดนั้นก็มีข่าวประเด็นร้อนเด้งขึ้นมาในตาของหล่อน
หล่อนอ่านพลางพูดออกมา: “บริษัทใจดำแห่งหนึ่ง ใช้วิธีสกปรกบีบบังคับข่มขู่ดาราชายดังให้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้า…”
มู่น่อนน่อนยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่า บริษัทใจดำที่ในWeiboกล่าวถึง เหมือนบริษัทมู่ซื่อมาก
หล่อนยื่นมือออกไปหยิบมือถือของเสิ่นเหลียง: “ขอฉันดูหน่อย”
มู่น่อนน่อนยิ่งอ่านยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้น เมื่อลองเลื่อนลงมาดูความเห็นด้านล่าง เนื้อหาของความเห็นยอดนิยมสูงสุดมีการพูดถึงซือเฉิงหยู้และมู่ซื่อ
“ทุกคนยังจำเรื่องราวใหญ่โตของโรงงานมู่ซื่อได้หรือไม่? ฉันสงสัยว่ากระทู้นี้ในWeiboกำลังพูดถึงบริษัทมู่ซื่อ”
ด้านหลังยังมีความเห็นตามมาอีกมากมาย
“แต่ ดาราที่ถูกข่มขู่คือใครล่ะ?”
“ธุรกิจของใช้ในชีวิตประจำวันแบบนั้นสามารถปิดข่าวในโลกอินเตอร์เน็ตได้ภายในระยะเวลาอันสั้นขนาดนั้น แสดงว่าเขาต้องมีอำนาจมากแน่นอน ถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังมีอำนาจเยอะ และต้องการข่มขู่ดาราเพื่อให้เป็นพรีเซนเตอร์ของพวกเขา ต้องหาดาราที่กำลังเป็นที่นิยมและมีแฟนคลับเยอะที่สุด อีกทั้งยังสามารถสร้างผลกระทบได้มากอีกด้วย! ตะโกนบอกฉันหน่อย ว่าดาราคนนี้คือ..”
“ซือเฉิงหยู้!”
“ความเห็นด้านบน+1”
“ต้องเป็นซือเฉิงหยู้แน่นอน!”
“……”
เป็นเพราะการนำของความเห็นอันเป็นกระแสนี้ ทำให้ความเห็นที่ตามมาต่างพากันด่ามู่ซื่อ
มู่น่อนน่อนคืนมือถือให้เสิ่นเหลียง จากนั้นเปิดWeiboในมือถือตัวเองขึ้นมา และเข้าไปดูความเห็นในWeiboหลักของมู่ซื่อ
เมื่อเธอกดเข้าไปดู เห็นโพสต์ข้อความของมู่ซื่อที่เพิ่งโพสต์ลงไปเมื่อหนึ่งนาทีก่อน: [โปรดติดตามชมการร่วมงานกับราชาภาพยนตร์ซือ]
จากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่แล้ว บัญชีWeiboหลักของมู่ซื่อถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะมาก จึงปิดการแสดงความเห็นไป
แต่เมื่อข้อความนี้ถูกส่งออกมา ไม่ถึงสองนาที มีการส่งต่อข้อความกันเป็นหลักแล้ว และยังมากขึ้นเรื่อยๆ
คนที่ส่งต่อข้อความในWeiboนี้ส่วนมากต่างพากันด่าว่ามู่ซื่อ
“หึ ดาราของพวกเราจะไปรับงานพรีเซนเตอร์กระจอกแบบนี้เหรอ? ตลกสิ้นดี”
“ครั้งที่แล้วแม้แต่งานพรีเซนเตอร์แบรนด์XXของต่างประเทศ ซือเฉิงหยู้ยังปฏิเสธเลย นับประสาอะไรกับการรับงานพรีเซนเตอร์ให้บริษัทกระจอกเช่นนี้? พวกเธอทำอะไรกับซือเฉิงหยู้ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง?”
“รีบล้มละลายเสียเถอะ!”
“……”
เสิ่นเหลียงก็เข้ามาดูข้อความที่มู่ซื่อส่งในWeiboเช่นกัน
หล่อนถามมู่น่อนน่อน: “เธอเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นบังเอิญขนาดนี้ไหม?”
“ไม่เชื่อ” มู่น่อนน่อนส่ายหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง
ซือเฉิงหยู้เป็นฝ่ายบอกว่ารับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้มู่ซื่อ งั้นก็แสดงว่าเรื่องนี้ก็เป็นเกมส์ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว
มู่น่อนน่อนเริ่มเข้าใจว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร
นี่จะใช้โอกาสจากผลกระทบของคนมีชื่อเสียง ทำให้มู่ซื่อต้องถูกผลักไปอีกข้างหนึ่งอีกหรือไง
ยังมีคุณปู่มู่อยู่ไม่ใช่เหรอ?
จู่ๆคำพูดที่เฉินถิงเซียวเคยบอกก็แวบเข้ามาในหัวของมู่น่อนน่อน