ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - ตอนที่ 43 เรื่องที่ไม่ควรทำคุณก็ทำกับฉันหมดแล้ว
ตอนที่ 43 เรื่องที่ไม่ควรทำคุณก็ทำกับฉันหมดแล้ว
เส้นประสาทที่ตึงเครียดตลอดทั้งคืนของเฉินถิงเซียว ในที่สุดก็ผ่อนคลายลงแล้ว
เขานั่งยองๆลงไป ยื่นมือไปลูบผมของเธอ ปัดผมที่ปิดบังหน้าของเธอออกไป เสียงที่แหบแห้งเล็กน้อยแต่ชัดเจน :”มู่น่อนน่อน ในที่สุดก็เจอคุณแล้ว”
ผมของเธอยุ่งเหยิงมาก เสื้อผ้าบนร่างกายก็ยับยู่ยี่ เหงื่อเม็ดละเอียดๆเกาะตัวหนาอยู่บนหน้าผาก แต่ยังดีที่เธอไม่เป็นอะไร
เฉินถิงเซียวยื่นมือเข้าไปอยากจะอุ้มเธอขึ้นมา เพียงแต่ แขนของเขาเพิ่งจะอ้อมไปที่หลังของเธอ เธอก็ตื่นตระหนกตกใจดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้สติสังเกตจากที่ดิ้นรนปฏิเสธ พูดอย่างอ่อนแรง: “ไปให้พ้น……”
สีหน้าของเฉินถิงเซียวแต่เดิมที่ผ่อนคลายลงแล้ว ก็กลับมาหม่นหมองอีกครั้ง
เขามองมู่น่อนน่อนด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง ผ่านไปชั่วครู่ ก็เข้าไปใกล้ๆหูของเธอ พูดเบาๆ : “ฉันเฉินเจียฉินเอง ฉันมารับคุณกลับบ้าน”
การเคลื่อนไหวที่ต่อต้านของมู่น่อนน่อนน้อยลงแล้ว จากนั้นก็โน้มเอียงหัวมาทางเขา แต่เดิมเฉินถิงเซียวก็อยู่ที่ข้างหูของเธอ ทั้งสองคนใกล้ชิดกัน หัวก็พิงกันเอาไว้
เขารู้สึกได้ถึงหน้าผากที่ร้อนจนผิดปกติของเธอ
เฉินถิงเซียวสีหน้าเย็นชา รีบอุ้มเธอขึ้นมา ก้าวยาวๆออกไปข้างนอก
ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดราวกับเตาไฟเครื่องเล็กๆที่ดูเหมือนกับกำลังจะอบเขา ราวกับว่าไม่สบายจนจะทนไม่ไหว ขมวดคิ้วแน่น เสียงลมหายใจทั้งแรงทั้งเร็ว แต่กลับไว้วางใจที่จะพิงที่อกของเขาอย่างแนบแน่น ไม่ขยับไม่ก่อกวน
เฉินถิงเซียวใบหน้าหม่นหมอง ความโมโหในใจที่มีเพิ่มขึ้นไม่หยุด
มีลูกน้องบอกให้กู้จือหยั่นกับสือเย่รู้เรื่องแล้ว ตอนที่เฉินถิงเซียวอุ้มมู่น่อนน่อนออกมาจากห้องจัดเลี้ยง ก็เห็นพวกเขาสองคนแล้ว
สือเย่เห็นใบหน้าอย่างนี้ของเฉินถิงเซียว ก็ไม่กล้าเข้าไปถาม กู้จือหยั่นจึงเป็นคนเข้าไปถามเอง : “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร” เฉินถิงเซียวเสียงทุ้มต่ำมาก หันไปบอกสือเย่: “ไปโรงพยาบาล”
“ครับ” สือเย่ตอบรับอย่างนอบน้อม แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร
ตอนที่ขึ้นรถ ดูเหมือนว่าเฉินถิงเซียวจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ถามกู้จือหยั่น: “ดาราที่ไม่ค่อยดังคนนั้นล่ะ?”
“เมื่อครู่เพิ่งติดต่อเธอได้ เธอไม่ได้อยู่ที่นี่” กู้จือหยั่นแม้จะยังไม่พอใจที่เฉินถิงเซียวเรียกเสิ่นเหลียงแบบนั้น แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเล็กคิดน้อยกับปัญหาอย่างนี้
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่เงยหน้าสั่งคนขับรถ: “ขับเร็วหน่อย”
ถึงแม้ว่าถ้าเร็วกว่านี้ก็จะเกิดกำหนดแล้ว แต่คนขับรถก็ไม่กล้าไม่เชื่อฟังคำสั่ง
ยังดีที่ตอนนี้เป็นเวลาค่อนข้างดึก รถบนถนนก็น้อยลงมากแล้ว
พวกเขาไปโรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุด
โรงพยาบาลไม่ได้ใหญ่มาก คนน้อย หมอที่เข้าเวรเป็นผู้ชาย กำลังคุยกับแฟนของเขาฆ่าเวลา
หมอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเฉินถิงเซียวพวกเขาเดินเข้ามา สีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย รีบวางโทรศัพท์
เฉินถิงเซียวที่อุ้มมู่น่อนน่อนเดินอยู่ข้างหน้าสุด สือเย่กับกู้จือหยั่นอยู่ข้างหลังเขา ด้านหลังเป็นกลุ่มลูกน้อง เพียงเห็นครั้งแรก ก็เหมือนจะมาก่อความวุ่นวายอยู่นิดหน่อย
หมอตกใจจนหน้าซีด : “ถาม……ถามหน่อยมาหาหมอใช่ไหมครับ?”
“อืม” เฉินถิงเซียวตอบ แล้ววางมู่น่อนน่อนลงบนเตียงคนไข้ จากนั้นก็ยืนอยู่ข้างๆจ้องไปที่หมอด้วยความเคารพ
หมอกลืนน้ำลายแล้ว ช่วยตรวจดูมู่น่อนน่อนอย่างสั่นๆด้วยความหวาดกลัว มือที่หยิบหูฟังก็กำลังสั่น
เฉินถิงเซียวมองเขาอย่างเย็นชา: “คุณหมอเป็นโรคลมบ้าหมูหรือ?”
หมอรีบตอบกลับ: “ไม่……ไม่ครับ……”
ข้างกายโดนล้อมรอบด้วยกลุ่มคนที่เหมือนปีศาจ ราวกับว่าถ้าเขาทำเรื่องผิดพลาดสักเล็กน้อย ก็จะจัดการเขาทันที เขาไม่กลัวได้หรือ?
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนี้โดนวางยา ค่อนข้างไม่น่าไว้ใจจริงๆ มีส่วนประกอบของยาสลบ แล้วก็เหมือนกับจะเป็นยาที่ทำให้มีความสุข……
แม้ว่าในเวลานี้จะยังดูไม่ออกว่าผู้หญิงคนนี้โดนวางยาอะไร แต่การรักษากลับไม่ยาก
เขาฉีดยาให้มู่น่อนน่อนเข็มหนึ่ง แล้วก็ให้น้ำเกลืออีกขวดหนึ่ง สถานการณ์ของมู่น่อนน่อนก็คลี่คลายลงแล้ว
หลังจากกลับมาที่คฤหาสน์ เฉินถิงเซียวก็อุ้มมู่น่อนน่อนเข้าไปให้ห้องของเขาทันที
หน้าของเธอเหงื่อออกมากเกินไปแบบนี้ดูแล้วท้อแท้หน่อยๆ เฉินถิงเซียวจึงลุกขึ้นไปที่ห้องน้ำหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นๆมาเช็ดหน้าเธอ
เขายื่นมือไปปัดผมหน้าม้าหนาๆของเธอขึ้นไป อีกมือหนึ่งก็ถือผ้าขนหนูเช็ดหน้าเธอ
เช็ดไปเรื่อยๆ มือของเฉินถิงเซียวก็อดไม่ได้ที่จะหยุดนิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาคอยปรนนิบัติคนอื่น แล้วยังทำได้อย่างราบรื่นเสียด้วย……
แต่ว่า หน้าของมู่น่อนน่อนเหมือนว่าจะต่างไปจากเดิมแล้ว?
ครั้งที่แล้วตอนที่อยู่ที่ร้านอาหาร เขาก็พบว่าหน้าของมู่น่อนน่อนมีปัญหา แต่เธอก็ระแวดระวังเขาอย่างหนัก ดังนั้นเขาก็เลยไม่มีโอกาสสืบหาความจริง นอกจากนั้นเขาเองก็ไม่ได้สนใจหน้าของผู้หญิงด้วย
ตอนนี้แค่ได้มอง ก็เป็นปัญหาที่ไม่เล็กเลยจริงๆ
เขาหรี่ตา หลังจากเช็ดหน้าเธอจนสะอาด เขาก็ถอยห่างออกมานิดหน่อยเพื่อมองเธอ
ไม่เหมือนกับตอนปกติที่หน้าของเธอเหลืองเหมือนเทียนไขแล้วยังมีจุดสีดำบนใบหน้าอีก สีผิวหน้าของเธอแต่เดิมเป็นผิวขาวสุขภาพดีเหลือเกิน ภายใต้แสงไฟที่ส่องสว่างก็ขาวจนเหมือนจะเรืองแสงแล้ว
ริมฝีปากแดงระเรื่อ จมูกเล็กๆโด่งๆ ขนตาที่ยาวและงอนแผ่ออกราวกับพัดลมเล็กๆ ทอดเงาที่อบอุ่นใต้ดวงตา หน้าผากเป็นเงาวาวและสะอาดหมดจด ไรผมที่สะอาดเรียบร้อย
อวัยวะทั้งห้ามองแยกกันก็สวยมากแล้ว เข้ามาอยู่ด้วยกันใกล้ๆ ยิ่งสวยมาก
เฉินถิงเซียวมองแล้วมองอีก จู่ๆก็หัวเราะเสียงต่ำๆออกมา
ผู้หญิงคนนี้ แกล้งโง่ก็แล้วนึกไม่ถึงว่ายังจะหน้าแต่งขี้เหร่อีก ดูแล้วแต่ก่อนคงจะใช้ชีวิตมาอย่างน่าเวทนาจริงๆ
……
ตอนที่มู่น่อนน่อนตื่นขึ้นมา ไม่เพียงแต่ปวดไปทั้งร่างกาย ในจมูกยิ่งแห้งจนอยากจะพ่นควันออกมาด้วย
เธอหมุนหัวไปมา มองซ้ายมองขวาอย่างเลอะเลือน ก็พบว่านี่ไม่ได้อยู่ในห้องของตน
เธอพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง สมองจำอะไรไม่ได้หน่อยๆ แค่เวลานี้ก็นึกไม่ออกเลยว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ในตอนนี้ ประตูก็โดนคนจากด้านนอกผลักเข้ามา
เฉินถิงเซียวถือแก้วน้ำเดินเข้ามา เดินมาถึงข้างเตียงส่งน้ำในมือให้เธอ: “ดื่มน้ำ”
มู่น่อนน่อนยื่นมือออกไปรับมาดื่มหมดในทีเดียว
ตอนนี้ เธอก็เพิ่งพบว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าสวมชุดนอน เธอก้มลงมองตนเอง พบว่าเธอเองก็สวมชุดนอน
ความจำกลับมาแล้ว ทะลักเข้ามาในสมองของเธอมากมาย เพียงแค่ตอนนี้เธอพูดไม่ชัดเจน: “เฉินเจียฉิน! คุณ……ฉัน……เมื่อคืน……พวกเรา……”
เฉินถิงเซียวนั่งลงที่ข้างเตียง มือหนึ่งพยุงที่ข้างตัวของเธอ มองเธอด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง เสียงทุ้มต่ำ : “เมื่อคืน ฉันไปช่วยคุณที่คลับจี่อจีน หลังจากกลับมา คุณต้องนอนที่ห้องของฉัน หลังจากนั้นยังดูถูกฉันอีก สิ่งไหนควรทำสิ่งไหนไม่ควรทำ คุณทำกับฉันทั้งหมดแล้ว!”
“??????”
ใบหน้าที่ไม่มีสติของมู่น่อนน่อน เธอจำได้แค่ว่าตนกระโดดลงมาจากตึก จับที่ราวของชั้นล่างปีนเข้ามาซ่อนที่หลังผ้าม่าน จากนั้นเธอก็จำไม่ได้แล้ว
แต่เธอจำได้ว่า ตอนที่กระโดดตึกนอกจากความปรารถนาที่จะเอาตัวรอดทำให้เธอจับราวเอาไว้ เวลาที่เหลือนั้นก็ไม่มีแรงอะไรอีกแล้ว
ในเมื่อไม่มีแรงอะไรทั้งนั้น ทำไมเธอถึงทำเรื่องที่ไม่ควรทำกับ “เฉินเจียฉิน” ได้อีกล่ะ?
“คุณอย่ามาโกหกฉัน! แม้ว่าฉันจะจำเรื่องของเมื่อคืนไม่ได้ แต่ฉันก็แน่ใจว่าฉันไม่มีแรงทำอะไรคุณทั้งนั้น!”
“ในเมื่อจำไม่ได้ ทำไมคุณถึงกล้ามั่นใจขนาดนี้ว่าไม่ได้ทำอะไรฉันล่ะ? พวกเขาวางยาคุณ แต่เป็นยาประเภทใหม่ ประสิทธิภาพดีมาก” เฉินถิงเซียวยิ่งใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความรู้สึกรัก: “ยิ่งไปกว่านั้น ฉันก็ชอบพี่สะใภ้มากๆมาโดยตลอด คุณคิดดู ฉันก็ไม่อยากจะปฏิเสธคุณ……”