ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - ตอนที่13 ฉันจน
ตอนที่13 ฉันจน
มู่น่อนน่อนสตั้นไปชั่วครู่ ถึงรู้สึกตัว เจ้าของเสียงนี้คือเฉินเจียฉิน
“ทำไมเธอยังไม่ไป?”
ที่ตอบเธอ คือเสียงตัดสาย
เธอมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย นั่งยองๆกุมหัวอย่างหงุดหงิด
ทำไมทุกๆคนถึงต้องมาทำให้เธอลำบากในใจกันนะ?
เซียวชู่เหอกับมู่ลี่เหยียนให้กำเนิดเธอออกมา แต่กลับไม่เคยรักเธอ
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเฉิน เฉินถิงเซียวเกลียดจนไม่อยากเจอเธอ
เธอไม่อยากสร้างปัญหา แต่เฉินเจียฉินกลับยุ่งกับเธอ
แต่ว่า ถ้าเกิดไม่สนใจเฉินเจียฉิน เขาจะไปบอกกับเฉินถิงเซียวจริงๆหรือเปล่าว่า เธออ่อยเขา?
พอนึกถึงข้อนี้ มู่น่อนน่อนก็หายใจเข้าลึกๆแล้วลุกขึ้นมา
ถึงแม้เธอจะใช้เรื่องแบบนี้มาข่มขู่เซียวชู่เหอกับมู่หวั่นขี แต่ถ้าสมมุติเฉินเจียฉินพูดบ้าๆจริงๆ ตระกูลเฉินไม่สนถูกผิด ยังไงก็ต้องเสียสละเธอเพื่อรักษาชื่อเสียงตระกูลเฉินอยู่แล้ว
……
มู่น่อนน่อนไม่ได้ไปห่ออาหารพวกนั้นกลับมาอย่างที่เฉินเจียฉินบอก แต่ไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาดกลับไป
เธอเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นรูปร่างใหญ่โตของเฉินเจียฉินอยู่ที่โซฟาขนาดเล็กสำหรับคนเดียว
ผู้ชายที่หล่อสง่าเอียงหัวพิงโซฟา ขายาวสองข้างทับด้วยกัน รักษาท่าทีที่สบายอิสระไว้ ถ้าไม่ใช่สีหน้าของเขาขาวซีดเกินไป สีหน้านิ่งเงียบแบบนี้ มองไม่ออกว่าเขาเพิ่งถูกยิงมาเลย
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เขายังคงดูเหมือนไม่เข้ากับห้องเดียวขนาดเล็กที่แคบของเธอ
ยังไงก็เป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยที่ถูกโอ๋มาจนโต ถึงแม้ศีลธรรมแย่ไปนิด แต่ความสูงศักดิ์สง่างามซ่อนไว้ไม่ได้อยู่แล้ว
เธอเอาผักในมือตั้งไว้ข้างๆ ก้มลงเปลี่ยนรองเท้า
จู่ๆกลิ่นไอความเยือกเย็นเข้ามาใกล้
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างแรง ก็เห็นผู้ชายที่ก่อนหน้านี้ยังเห็นนั่งพิงโซฟาอยู่ ไม่รู้เดินมาตรงหน้าเธอเมื่อไหร่ กำลังก้มหน้าสำรวจผักที่เธอเอากลับมา
เฉินถิงเซียวเห็นผักที่หล่อนซื้อชัดๆ ยักคิ้วมองหล่อน”นี่คืออาหารที่เธอห่อกลับมา?”
มู่น่อนน่อนเปลี่ยนรองเท้าเสร็จแล้ว หันหลังกลับหยิบผัก พูดเบาๆ”ห่ออาหารสุกแพงเกินไป ฉันจน”
เฉินถิงเซียวประเมินเสื้อที่หล่อนใส่ ดูแล้วถูกมากเก่ามากจริงๆ
เจ้าสาวของเขานี้ช่าง……โทรมจริงๆ
มู่น่อนน่อนก็ไม่ใส่ใจความคิดเห็นของเขา หยิบผักไปห้องครัวขนาดเล็กที่กั้นอยู่
……
1ชั่วโมงผ่านไป มู่น่อนน่อนยกอาหารที่ทำเสร็จแล้วออกมา
เฉินถิงเซียววางโทรศัพท์ลงมองหล่อน สายตาตกลงบนอาหารที่หล่อนทำ
หน้าตาอาหารดูดีมาก ดูเหมือนจะจืด เป็นอาหารที่เหมาะกับคนป่วย
มู่น่อนน่อนตักข้าวตั้งไว้ตรงหน้าเขา ไม่ต้องสนเขาอีกเลย
ชำเลืองอย่างไม่ตั้งใจ เธอสังเกตเห็น หลังจากเฉินเจียฉินกินอาหารไปไม่กี่คำ จู่ๆสีหน้าหมองลง อารมณ์มีความอึมครึมเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนใจเต้นแรง
เป็นอะไรไป?
อาหารที่เธอทำทำให้คุณชายนี้ไม่พอใจ?
เฉินถิงเซียววางตะเกียบลงด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง ลึกขึ้นเดินออกไปข้างนอก
ก้าวฝีเท้าอย่างสุขุม ไม่เห็นมีความอ่อนแอ
ท่าทางพุ้ยข้าวด้วยตะเกียบของมู่น่อนน่อนหยุดไปพักหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ตามออกไป
ข้างนอก
เฉินถิงเซียวล้วงกระเป๋าหาบุหรี่อย่าง หงุดหงิด ล้วงตั้งนานเพิ่งนึกขึ้นได้ไม่มีบุหรี่
รสชาติที่คุ้นเคยเมื่อกี้ ทำให้เขานึกถึงแม่
แม่ที่อ่อนโยนสง่างามถึงแม้จะมาจากตระกูลที่เสียงโด่งดัง แต่กลับเป็นกุลสตรีอ่อนโยน ชอบทำอาหาร
แต่ว่า สุดท้ายกลับ……
เขานึกถึงห้องใต้ดินที่เปียกชื้นสกปรกนั้น กำหมัดแน่นต่อยไปที่กำแพง มีเสียง”ปัง”ออกมาดังๆ
ขนาดมู่น่อนน่อนที่นั่งกินข้าวในห้องยังได้ยินเสียงนี้
มู่น่อนน่อนลังเลสักแปป ยังคงไม่วางใจ วางตะเกียบลงเปิดประตูออกไป”เป็นอะไร?เกิดอะไรขึ้น?”