ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - ตอนที่40 วงการนี้สับสนวุ่นวายมาก
ตอนที่40 วงการนี้สับสนวุ่นวายมาก
มู่น่อนน่อนยืนอยู่ข้างหลังเสิ่นชูหานและถอยไปหนึ่งก้าว
มู่หวั่นขีโกรธมาก “ชูหานคุณอยากทำอะไร คุณอยากบกป้องผู้หญิงขี้เหร่คนนี้หรือ”
“เธอเป็นน้องสาวของคุณ” เสิ่นชูหานรู้สึกไม่ชอบมู่หวั่นขีตอนนี้
มู่หวั่นขีโตขึ้นมาโดยถูกตามใจ เธอฟังคำพูดของเสิ่นชูหานไม่เข้าหูหรอก เธอยิ้มแห้งๆ “คุณไม่ต้องมาทำเป็นคนดีตอนนี้ คุณเป็นคนเสนอฉันไปบอกว่าผู้หญิงขี้เหร่คนนี้แย่งสามีของฉัน”
เสิ่นชูหานพูดว่า “นั่นคือเพราะว่าผมถูกคุณหลอก”
พอได้ยินคำพูดของพวกเขา มู่น่อนน่อนจึงคิดว่าเมื่อก่อนเธอดูเบาเสิ่นชูหานไปแล้ว
ดูหน้ายิ่งเหมือนคนซื่อตรง แต่จริงไม่น่าไว้วางใจ
ดีที่ตอนนี้เธอรู้เนื้อแท้ของเสิ่นชูหานแล้ว
“พอเถอะ” มู่น่อนน่อนเดินเข้าจากหลังเสิ่นชูหานและพูดว่า “ให้ฉันคุยกับพี่ฉันหน่อยได้ไหม”
เมื่อก่อนเสิ่นชูหานถูกมู่หวั่นขีหลอกจึงเข้าใจผิดกับมู่น่อนน่อนตอนนี้มีข่าวน่าอายเกี่ยวกับมู่หวั่นขีออกมา เขาจึงเลือกยืนกับข้างมู่น่อนน่อน
ในสายตาของเขา สองคนนี้เป็นพี่น้องกันแท้ๆถ้ามีปัญหาอะไรก็ควรจัดการเอง เขาจึงพยักหัวแล้วออกไปจากห้อง
พอเสิ่นชูหานออกไป มู่หวั่นขีก็ด่าว่า “ผู้หญิงเลว แกทำร้ายฉัน ตอนนี้ทั้งหมดของฉันก็พังไปหมด”
เธออยากจะมาตีมู่น่อนน่อนแต่มู่น่อนน่อนหลีกไป เธอจึงล้มอยู่บนพื้น
มู่น่อนน่อนนั่งย่องๆข้างเธอแล้วดึงเส้นผมของเธอไว้พูดว่า “มู่หวั่นขีเธอสมน้ำหน้า พวกเธอบังคับฉันมากเกินไปแล้ว”
เธอดึงผมของมู่หวั่นขีอย่างแรง มู่หวั่นขีเจ็บจนหน้าซีด “มู่น่อนน่อนแกบ้าแล้วหรือ แกกล้าทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง”
มู่น่อนน่อนยิ้มเยาะแล้วตอบหน้ามู่หวั่นขีประมาณสี่ห้าที
“แก…ฉัน… เซียวชู่เหอ…จะไม่มีวัน……”
หน้ามู่หวั่นขีถูกตอบจนพอง เธอมองมู่น่อนน่อนด้วยความตกใจ เธอกลัวจนพูดประโยชน์ที่ครบไม่ได้
มู่น่อนน่อนยิ้มหวานว่า “การตบหน้าเมื่อกี๊สำหรับเธอ เธอยังอยากเอาเซียวชู่เหอมาบังคับฉันหรือ ตามใจเถอะ ฉันไม่สนใจเซียวชู่เหอ”
แม้ว่าพูดแบบนั้นไป แต่มู่น่อนน่อนรู้ว่าตนเองไม่มีวันจะใจร้ายกับเซียวชู่เหอจริงๆ
เธอไม่เคยคิดว่าจะแก้เผ็ดเขา
“วันหลังก็วางตัวให้ดีเถอะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก”
มู่น่อนน่อนปล่อยผมมู่หวั่นขีแล้วยืนก้าวข้ามร่างกายมู่หวั่นขีออกไป
มู่หวั่นขียืนจากพื้น หน้าของเธอพองจนไม่น่าดูตาแดงของเธอเต็มไปด้วยความประสงค์ร้าย
มู่น่อนน่อนฉันจะให้เธอเจ็บกว่าฉันไปหลายร้อยเท่า
…..
แม้ว่าจัดการมู่หวั่นขีแล้วแต่มู่น่อนน่อนก็ไม่ค่อยดีใจเท่าไร
มู่หวั่นขีเป็นพี่สาวสายเลือดเดียวของเธอแท้ๆ แต่พวกเขาเป็นฝ่ายตรงการข้าม
สภาพของเธอไม่ค่อยดี การสัมภาษณ์ของตอนบ่ายก็ไม่ค่อยราบรื่น
ระหว่างทางกลับ เธอรับสายจากเสิ่นเหลียง
เสิ่นเหลียงพูดตรงๆว่า “มู่น่อนน่อนเธอได้รับการชวนสัมภาษณ์ของบริษัทเสิ้งติ่งใช่ไหม ”
“เธอรู้ได้ยังไง” มู่น่อนน่อนรู้สึกแปลกใจ
นึกถึงว่าเสิ่นเหลียงรู้จักกับกู้จือหยั่น หรือว่ากู้จือหยั่นเป็นนบอกเธอ
แต่คุณผู้จัดการอย่างกู้จือหยั่นอาจมาเกี่ยวกับเรื่องๆอย่างไม่ได้หรอก
“ไม่ต้องถามว่าฉันรู้ได้ยังไง ได้รับการชวนแล้วทำไมไม่ไปสัมภาษณ์ เธอโง่หรือไง”
มู่น่อนน่อน“คนของ บริษัทเสิ้งติ่งก็เคยมาหาเธอ และเธอก็ไม่ได้เซ็นสัญญากับพวกเขา ไม่ใช่หรือ”
เสิ่นเหลียง“ฉันไม่เข้ากันกับกู้จือหยั่นเธอไม่มีความเกลียดชังกับเขา ทำไมไม่ไป”
มู่น่อนน่อนกำลังจะพูดต่อ แต่มีคนมาตัดบทเสิ่นเหลียง
เสิ่นเหลียงพูดกับมู่น่อนน่อนอย่างรีบร้อนว่า “น่อนน่อนฉันจะไปแต่งตัวเตรียมงานในคืนนี้แล้ว”
ตู———-
มู่น่อนน่อนยังไม่ทันตอบสนองเลย เธอก็วางสายไป
มู่น่อนน่อนรู้สึกหดหู่นิดหน่อย เธอเคยบอกกับ“เฉินเจียฉิน”ว่าไม่อยากไปทำงานที่บริษัทเสิ้งติ่งแต่ตอนนี้เธอจะเปลี่ยนท่าทีแล้วหรือ
เธอเลือกเรียนสาขาวิชาละครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเสิ่นเหลียงมาก
เสิ่นเหลียงเป็นนักแสดง เธอก็เขียนบทละครให้เสิ่นเหลียงแสดง
แต่บริษัทที่เสิ่นเหลียงอยู่ตอนนี้เป็นคู่แข่งของ บริษัทเสิ้งติ่งถ้าวันหลังเธอได้เขียนบทละครดีๆออก ก็อาจให้เสิ่นเหลียงมาแสดงไม่ได้
แต่ตอนนี้เสิ่นเหลียงรู้เรื่องนี้เข้า ถ้าเธอไม่ไปเสิ่นเหลียงก็จะโทษตัวเอง
และที่จริงเธอก็อยากไปทำงานที่บริษัทเสิ้งติ่ง
ไม่ให้“เฉินเจียฉิน”รู้ก็ดีแล้ว ไม่ใช่หรือ
……
หน้าบ้านพัก มู่น่อนน่อนเห็นรถสีดำที่หรูหราน่าสบายขับเข้ามาเรื่อยๆ
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่ารถนี้สวยและเจ้านายของรถก็จะเป็นคนสายตาดีและมีความสงบของจิตใจ
แต่ว่า เธอเห็น“เฉินเจียฉิน”ลงจากรถ……
ในเวลาที่อยู่รถเฉินถิงเซียวก็ได้เห็นมู่น่อนน่อนเขายิ้มทักทายว่า “พี่สะใภ้ครับ”
สือเย่ตามลงรถ พอได้ยินคำทักทายแล้วเขาก็รู้สึกเกิดอาการชาขึ้นมา
“ค่ะ” มู่น่อนน่อนตอบอย่างรีบเร่งแล้วก็เข้าไปข้างใน
แต่เรื่องทำให้เธอแปลกใจก็คือ ทำไม“เฉินเจียฉิน”อยู่กับสือเย่เสมอ
แต่เธอก็ไม่ค่อยคิดอะไรไปมาก พอได้รู้ว่าเฉินถิงเซียวก็อยู่ในบ้าน เธอก็ไปทำกับข้าวที่ห้องครัวแล้ว
หลังกินข้าวเสร็จเธอก็กลับห้องไปเล่นอินเตอร์เน็ต
ทันใดนั้น เธอได้เห็นข่าวหนึ่งข่าว
“[วงการนี้สบสนจริงๆ] ได้รับการชวนไปงานหนึ่งจากเพื่อ เราก็ว่างๆอยู่จึงรับปากไป แต่คิดไม่ถึงเลยว่างานนี้ไม่ใช่งานที่มีหน้ามีตา ทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็รวมกันทำ……”
และข้างหลังยังมีวิดีโออยู่ด้วย
มู่น่อนน่อนเปิดวิดีโอมาดู เธอได้เห็นรูปทรงร่างกายของเสิ่นเหลียงแม้ว่าวิดีโอไม่ค่อยชัดแต่เธอก็ดูออกแล้ว
เธอยังจำได้ว่าเสิ่นเหลียงบอกว่าคืนนี้จะไปงาน
เธอจึงรีบเอามือถือโทรหาเสิ่นเหลียงแต่ไม่มีคนรับสาย
มู่น่อนน่อนรู้สึกเป็นห่วง จึงหยิบกระเป๋าออกไป
เธอหาวิธีเข้าไปถึงที่ที่จัดงาน บรรยากาศของงานแปลกๆ เธอหาไปทุกมุมของงานก็ไม่พบเสิ่นเหลียง
ในขณะที่เธอกำลังกลุ้มใจ เธอรู้สึกมีใครคนหนึ่งดึงแขนข้างหนึ่งของเธอไว้ เธอหมายจะหันตัวไปแต่แขนอีกข้างหนึ่งก็ถูกดึงไว้ทันที แล้วก็ถูกคนเทเหล้าเข้าปาก
พอดื่มเหล้าเข้าไป เธอก็รู้สึกว่าสายตาครึ้มๆ แล้วก็ถูกสองคนค้ำไปข้างนอกโดยตัวร่างกายของเธอที่อ่อนแอ