ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 168 คนฉลาดจะไม่ทำเรื่องโง่เขลา
บทที่ 168 คนฉลาดจะไม่ทำเรื่องโง่เขลา
คนขับรถโผล่หัวมาจากหน้าต่างรถ พูดกับหลัวหยิงด้วยสำเนียงพื้นเมืองว่า “คุณผู้หญิง คุณยังไม่ได้จ่ายเงินเลยนะ!แล้วยังมีค่าปรับอีก!”
“รู้แล้ว!” หลัวหยิงหันกลับมาอย่างรำคาญ หยิบธนบัตรสีแดงจากในกระเป๋าหลายใบออกมาโยนไปในรถ
คนขับพูดอย่างไม่พอใจว่า “คุณผู้หญิง คุณบอกว่าถ้าผมสามารถตามรถคันนั้นทัน จะให้ผมหนึ่งแสน!”
หลัวหยิงหัวเราะเยาะ “ทำไมคุณไม่ไปปล้นล่ะ!”
“คุณพูดไม่เป็นคำพูดใช่มั้ย” คนขับเปิดประตูลงจากรถ ใบหน้าของคนร่างสูงใหญ่ ดูแล้วน่าตกใจเล็กน้อย
และที่นี่ก็มีคนไม่เยอะ หลัวหยิงจะบ้าระห่ำขนาดไหน ก็ยังมีความกลัวบ้างเล็กน้อย
สุดท้าย แน่นอนว่าเธอไม่ได้ให้เงินหนึ่งแสนกับคนขับรถ ได้แต่เอาเงินสดที่มีติดตัวทั้งหมดให้เขา
แม้ในใจจะรู้สึกเสียใจ แต่พอนึกได้ว่าอีกไม่นานจะยั่วให้เฉินถิงเซียวหลงใหลได้ ก็เก็บอาการตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่
……
กลับมาถึงบ้าน อาหูก็เดินออกมาจากในบ้าน
“คุณหญิงน้อยกลับมาแล้วเหรอคะ” อาหูยิ้มจนดวงตาทั้งสองข้างหยี ดูแล้วน่ารักอบอุ่น
อาหูที่มู่น่อนน่อนชอบมาก ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “แต่พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานต่างเมือง ฉันขึ้นไปเก็บของก่อนนะคะ”
“รีบไปเถอะค่ะ รอคุณชายกลับมา ก็ทานข้าวได้แล้วค่ะ”
“ค่ะ”
มู่น่อนน่อนกลับมาถึงห้อง ลากกระเป๋าดินทางของตนเองออกมา จึงคิดขึ้นมาได้ว่าไปทำงานครั้งนี้ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องไปนานแค่ไหน
คาดว่าอาจจะหนึ่งสัปดาห์
มู่น่อนน่อนคิดอย่างนี้ ก็ลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว
สัปดาห์เดียวเท่านั้น เอาเสื้อคลุมไปเพิ่มหนึ่งตัว แล้วก็นำเสื้อที่ใส่ด้านในไปอีกชุดก็น่าจะได้แล้ว
เธอหอบชุดมาวางบนเตียง กำลังโน้มตัวพับเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงผลักประตูเปิด
มู่น่อนน่อนหันกลับไป ก็เห็นร่างสูงยาวของเฉินถิงเซียวยืนอยู่ตรงประตู
เธอยิ้มบางๆให้เขา “คุณกลับมาแล้ว”
เฉินถิงเซียวก้าวขาเดินมาหาเธอ ดึงมือเธอขึ้นมาวางบนเสื้อของเขา แสดงความหมายว่าให้เธอช่วยเขาแกะเนคไทออก
เฉินถิงเซียวเหมือนเป็นคนที่ไม่กลัวความหนาวเย็น ในสภาพอากาศของฤดูหนาว เขายังสวมเสื้อเชิ้ตกับสูท และบางครั้งก็สวมเสื้อคลุมขนสัตว์ด้านนอก ภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาก็ไม่สวมมันเช่นกัน
ในใจมู่น่อนน่อนรู้สึกไม่ยุติธรรมเล็กน้อย เขาสามารถสวมใส่อย่างสง่าดูดี แต่เธอกลับห่อเหมือนบ๊ะจ่าง!
เธอจงใจดึงเนคไทเฉินถิงเซียวให้แน่นยิ่งขึ้น จนติดคอของเขา
แม้สีหน้าของเฉินถิงเซียวจะยังคงไร้อารมณ์ความรู้สึกอย่างนั้น แต่กลับเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้โกรธเลย
เขาตีที่มือของเธอที่กำลังดึงเนคไทอยู่ พูดอย่างไม่ได้ข่มขู่ว่า “อย่าหาเรื่อง”
มู่น่อนน่อนเบ้ปาก ช่วยเขาแกะเนคไทออกอย่างว่าง่าย
เฉินถิงเซียวใช้มือข้างเดียวประคองด้านหลังศีรษะของเธอ ก้มหัวลงมาประกบรอยจูบที่บนริมฝีปาก เจตนาใช้เสียงทุ้มต่ำทำให้คนหลงใหล “นี่คือรางวัล”
มู่น่อนน่อนส่งเสียง “เชอะ” แสดงถึงความไม่พอใจ“รางวัล”ที่เขาให้นี้
เฉินถิงเซียวเหมือนจะโกรธนิดหน่อย จูบอย่างแรงอีกครั้ง เอ่ยปากถามเธอว่า “ได้ข่าวว่าคุณจะไปทำงานข้างนอกเหรอ”
ข่าวของผู้ชายคนนี้ช่างไวจริงๆ เธอก็แค่พูดกับอาหูนิดเดียวเท่านั้น เขาเพิ่งจะกลับมาก็รู้แล้ว
มู่น่อนน่อนพยักหน้า แกะกระดุมเสื้อสูทของเขาพลาง พูดพลางว่า“อืม คุณปู่โหรหาฉันเอง ให้ฉันไปทำงานเป็นเพื่อน อาจจะเป็นเพราะเพิ่งจะตัดสินใจอย่างกะทันหัน พรุ่งนี้ก็ต้องไปแล้ว”
ได้ยินคำพูดเธอ เฉินถิงเซียวก็ไม่ได้พูดออกมาในทันที ค่อยๆหรี่ตา ในดวงตาดำลึกล้ำ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่” มู่น่อนน่อนยื่นนิ้วมือออกมา จิ้มไปที่หน้าอดของเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวจับนิ้วที่ชี้มั่วซั่วนิ้วนั้นของเธอ พูดด้วยเสียงขรึมว่า “ไปอย่างวางใจเถอะ คุณปู่ของคุณจะแย่อีกแค่ไหน ก็ยังฉลาดกว่ามู่ลี่เหยียนนิดหน่อย”
คนฉลาดจะไม่ทำเรื่องโง่เขลา
ไม่ว่ามู่เจิ้งซิวจะเรียกให้มู่น่อนน่อนไปทำงานเป็นเพื่อนเขาด้วยวัตถุประสงค์อะไร แต่เขาจะต้องทำให้มู่น่อนน่อนกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้
คนอื่นในตระกูลมู่ตอนนี้ยังคิดว่าเฉินถิงเซียวก็คือ “เฉินเจียฉิน” แต่มู่เจิ้งซิวรู้ว่าเขาคือเฉินถิงเซียว
วันนั้นที่เขากลับไปทานข้าวที่บ้านตระกูลมู่ ก็ใช้การเคลื่อนไหวนี้บอกเป็นนัยกับมู่เจิ้งซิว มู่น่อนน่อนเป็นคนของตระกูลเฉิน คือภรรยาของเขาเฉินถิงเซียว ตระกูลมู่อย่าพยายามทำอะไรโง่ ๆ เพื่อท้าทายอำนาจของตระกูลเฉิน
มู่น่อนน่อนถลึงตาใส่เขา “คุณรู้อีกแล้วเหรอ!”
เฉินถิงเซียวลูบศีรษะเธอ สายตามองไปที่เสื้อผ้าที่วางบนเตียงเตรียมจัดเก็บ
เฉินถิงเซียวหยิบเสื้อโค้ทที่อยู่บนเตียงขึ้นมา ก้มมองเธอแล้วพูดว่า “บางขนาดนี้เลยเหรอ”
มู่น่อนน่อนดึงเสื้อคลุมสูทที่อยู่บนตัวของเขา พูดเลียนแบบน้ำเสียงของเขาว่า “บางขนาดนี้เลยเหรอ”
“……” น้อยครั้งที่เฉินถิงเซียวจะถูกล้อเลียน
“ผมเป็นผู้ชาย ไม่กลัวหนาว” เฉินถิงเซียวพูดพลาง หยิบเสื้อโค้ทเข้าไปในห้องแต่งตัว หยิบเสื้อขนเป็ดจากข้างในออกมาหนึ่งตัว
เฮ้อ เสื้อขนเป็ดตัวยาวอีกแล้ว
มู่น่อนน่อนกระตุกมุมปาก ไม่รู้จะพูดอะไร
“ฉันก็ไม่กลัวหนาว!” มู่น่อนน่อนอดไม่ได้ที่จะโต้เถียงเขา เธอเป็นหญิงสาวที่อายุยี่สิบต้นๆแล้วนะ
ใส่เสื้อโค้ท ใส่กระโปรง ดูสดใสดูสวยงามขนาดไหน!
แต่เฉินถิงเซียวกลับเพิกเฉยคำพูดของเธอ
เขาพับเสื้อขนเป็ดตัวนั้นเสร็จ ก็ยัดเข้าไปในกระเป๋าเดินทางของเธอทันที แล้วก็เอาสิ่งของที่เธอจะนำไปด้วย พับจัดเก็บเข้าไปข้างในเรียบร้อย
การกระทำของเขาคล่องแคล่วรวดเร็ว ดูแล้วเหมือนกับว่าทำเรื่องพวกนี้เป็นประจำ
มู่น่อนน่อนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “คุณพับผ้าเก็บกระเป๋าเดินทางได้ด้วยเหรอ!”
เฉินถิงเซียวเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเฉิน กลับทำงานแบบนี้เป็นด้วย
ตอนมู่หวั่นขีอยู่ในบ้าน พับผ้าจัดกระเป๋าล้วนเป็นคนรับใช้ทำให้ หรือไม่ก็เซียวชู่เหอช่วยเธอทำ
“ผมเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ผมก็เป็นคนเก็บกระเป๋าเอง” เฉินถิงเซียวพูดพลาง ไปช่วยเธอเก็บของใช้ในห้องน้ำ
มู่น่อนน่อนตามไปอย่างรู้สึกแปลกประหลาดใจ “ของพวกนี้ฉันเก็บเองก็ได้……”
เฉินถิงเซียวมองเธอเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม หลีกถอยครึ่งก้าว ให้มู่น่อนน่อนเก็บของด้วยตนเอง
มู่น่อนน่อนจึงรู้สึกว่า ตนเองรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเฉินถิงเซียวน้อยมาก
เธอได้แต่คิดว่าเขาคือคุณชายใหญ่ที่บ้าอำนาจอารมณ์แปรปรวน คิดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่จะเก็บกระเป๋าเดินทางเป็นด้วย และยังเก็บเสื้อผ้าได้เรียบร้อยกว่าเธออีกด้วย
บรรยากาศเป็นใจ มู่น่อนน่อนคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะเปิดหัวข้อถาม
เธอจึงถือโอกาสถาม “ใครสอนคุณ”
เฉินถิงเซียวเหมือนจะนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จึงได้เอ่ยปากพูดออกมา “คุณแม่ผม”
มู่น่อนน่อนชะงัก รู้สึกว่าตนเองไม่ระวังถามคำถามที่ไม่ควรถาม ใบหน้ารู้สึกผิด นิ่งเงียบไป ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
“นี่คืออารมณ์ไหน” เฉินถิงเซียวยื่นมือไปบีบหน้าเธอ น้ำเสียงสงบและไม่ได้ยินบ่อยนัก “ในช่วงหลายปีมานี้ ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงแม่ต่อหน้าผม แต่บางครั้งผมก็อยากได้ยินคนอื่นพูดถึงแม่บ้าง เวลาผ่านไปเร็วเกินไป เธอจะถูกคนอื่น ๆลืม คนพวกนั้นที่ทำร้ายเธอกลับยังมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข นี่มันไม่ยุติธรรมเลย ”
มู่น่อนน่อนมองเฉินถิงเซียวแบบนี้ เศร้าเสียใจ ก็อยากจะกอดเขา
เธอก็ทำแบบนี้เลย
เฉินถิงเซียวก้มเอว ฝังใบหน้าไว้ที่ไหล่ของเธอ สูดหายใจลึก ๆ เกาะแขนของเธอแน่น ค่อยๆพูดว่า “คุณสามารถปฏิเสธคำขอร้องของมู่เจิ้งซิว ได้ ไม่ต้องไปทำงานนอกสถานที่”