ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 231 ซือเฉิงหยู้ฉีกสัญญากับเสิ้งติ่ง
บทที่ 231 ซือเฉิงหยู้ฉีกสัญญากับเสิ้งติ่ง
เฉินถิงเซียวคลายคิ้วกลับไปเล็กน้อย อารมณ์บนใบหน้าเขาดูอ่อนลงทันที
เขาโบกมือเรียกมู่น่อนน่อน “มานี่”
มู่น่อนน่อนเดินเข้าไปแล้ว พึ่งเห็นว่าเขาถือโทรศัพท์ของเธออยู่
คุณปู่เฉินเห็นมู่น่อนน่อนในวิดีโอแล้ว ก็เรียกเธอแบบยิ้มๆ “น่อนน่อนนี่นา”
“คุณปู่” มู่น่อนน่อนเงยหน้ามอง ยิ้มให้กับปู่เฉินในวิดีโอ
เฉินถิงเซียวหันโทรศัพท์มาที่หน้าตัวเอง “พอแล้ว อายุเยอะแล้วก็นอนเร็วหน่อย ไม่มีอะไรทำก็ดื่มชาเยอะๆรำไทเก๊กฝึกกายฝึกใจบ่อยๆ
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ ไม่ต่างอะไรกับตอนปกติ
มู่น่อนน่อนไม่รู้อีกแล้วว่าก่อนหน้านี้พวกเขาคุยอะไรกัน แต่ก็ยังพยักหน้าแบบเห็นด้วยอย่างยิ่ง “หนูว่าเฉินถิงเซียวพูดถูกนะ คุณปู่ต้องนอนเร็วหน่อย แล้วก็ออกกำลังกายให้มากๆ”
คุณปู่เฉินสำลักไปทีนึง โบกมืออย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ “โอเคๆ ฉันไปนอนก็ได้”
ยังพูดไม่ทันจบ เฉินถิงเซียวก็วางสายวิดีโอคอลไปแล้ว
ความเร็วนี้เร็วจนทำให้คนรู้สึกว่าทำไปแบบลวกๆ
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าต้องสั่งสอนเขาหน่อย “คุณควรจะรอให้คุณปู่เขาวางสายก่อนถึงจะถูกนะ”
“อายุมากแล้วมือช้า รอให้เขาวางมันเสียเวลา” สีหน้ากับน้ำเสียงของเฉินถิงเซียวดูไม่ใส่ใจจนไม่อยากจะพูดแล้ว
มู่น่อนน่อนนึกถึงเรื่องของฉินสุ่ยซาน ขึ้นมาก็เลยไม่พูดอะไรอีก
เรื่องของเฉินถิงเซียว ในใจของเขาเองก็รู้ว่าควรไม่ควร
……
วันรุ่งขึ้น
มู่น่อนน่อนตื่นสายนิดหน่อยตามเคย
เธอเข้าโรงอาหารปุ้บ ก็เห็นฉินสุ่ยซานกำลังเสิร์ฟอาหารอยู่อย่างเงียบๆ ถุงที่บวมอยู่บนหน้าผากก็เล็กลงหน่อยแล้ว ดูไม่ทำให้คนกลัวเท่าเมื่อวานแล้ว
ฉินสุ่ยซานเสิร์ฟอาหารเช้าบนโต๊ะอาหารโดยไม่แสดงอาการใดๆ
มู่น่อนน่อนกินข้าวเช้าไปพลาง มองฉินสุ่ยซานอย่างเงียบๆไปพลาง
เธอรู้สึกว่าเมื่อวานหลังจากกลับมาจากโรงพยาบาลแล้ว ฉินสุ่ยซานก็ดูแปลกๆไป
ให้บอกว่าแปลกตรงไหนก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ที่แน่ๆคือพูดน้อยมาก แล้วก็ยังทำงานอย่างจริงจังมากอีกด้วย
กลัวว่าเมื่อวานจะถูกตีจนกระทบกระเทือนสมอง หรือฉินสุ่ยซานจะ รู้สึกว่าเป็นคนใช้ก็สนุกดีกันนะ?
เมื่อกินอาหารเช้าอย่างช้าๆจนเสร็จ อยู่ๆฉินสุ่ยซานก็เดินตรงมาหาเธอ ท่าทางเหมือนมีอะไรจะพูด
มู่น่อนน่อนโบกมือ ให้คนใช้คนอื่นออกไป
รอให้คนใช้ที่เหลือออกไปจนหมดแล้ว มู่น่อนน่อนก็มองฉินสุ่ยซาน “มีอะไรก็พูดมา”
ฉินสุ่ยซานพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ฉันอยากกลับแล้ว”
“ห้ะ?” หรือว่าจะเป็นเพราะไปทะเลาะกับเฉินอินหย่ามาสมองเลยโดนตีกลับแล้ว?
บนใบหน้าของฉินสุ่ยซานแสดงร่องรอยของความไม่เต็มใจ เธอหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ถึงแม้จะไม่อยากยอมรับ แต่ฉันมองว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเฉินถิงเซียวดีมาก”
เมื่อวานตอนอยู่โรงพยาบาล เธอยืนอยู่ข้างๆ ในฐานะคนดูเหตุการณ์ ไม่รู้จะดูให้ชัดกว่านี้ยังไงแล้ว
หลังจากเฉินถิงเซียวมาแล้ว ในตาก็มีแต่มู่น่อนน่อนคนเดียว
อย่าว่าแต่เธอเลย ก็ขนาดเฉินอินหย่า ผู้ชายคนนั้นยังไม่เคยเห็นมาก่อน
เธอมีความทะเยอทะยาน บางครั้งความมั่นใจที่เป็นเหตุให้ตาบอดนั้นก็ชวนให้เวียนหัว แต่ก็เป็นผู้ใหญ่คนนึงที่มีวิจารณญาณ
เธอเป็นลูกสาวคนเดียว ครอบครัวฐานะดี ในกระดูกมีความภาคภูมิใจที่มีมาแต่กำเนิด บางครั้งก็รุนแรงซุ่มซ่ามไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าโง่
มู่น่อนน่อนเอียงหัวไปเอาแก้วน้ำ พอได้ยินก็ตกใจเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าฉินสุ่ยซานจะพูดอย่างนี้
เธอเงยหน้ามองฉินสุ่ยซาน อย่างช่วยไม่ได้
ฉินสุ่ยซานเหมือนกับว่าไม่ชินกับการถูกคนจ้อง สีหน้าอึดอัดเล็กน้อย หันหน้าไปมองที่อื่น “ก็แค่รู้สึกว่าเฉินถิงเซียวชอบเธอมาก แล้วยังเอาใจเธอมากด้วย”
“อ๋อ ก็มองออกมาอย่างงี้ได้อยู่นะ” มู่น่อนน่อนกระพริบตา แสดงออกว่ามันเป็นเรื่องที่แน่นอน
ฉินสุ่ยซานรู้สึกว่ามู่น่อนน่อนผู้หญิงคนนี้อุบายลึกล้ำมาก ดูก่อนเลย รูปร่างก็โอเค ท่าทางที่ดูเฉื่อยชาก็ไม่ได้ไปทำร้ายอะไรใคร
แต่ว่า เธอสามารถสะกิดคุณโดยไม่ได้ตั้งใจได้ตลอด
เห็นได้ชัดว่าไม่มีพื้นฐานครอบครัว แล้วก็เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้โดดเด่น แต่ก็มีท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ เวลาเธอกับเฉินถิงเซียวยืนด้วยกัน จะทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเป็นคู่ที่สมกันมากอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อวานตอนที่ฉินสุ่ยซานเห็นเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนยืนอยู่ด้วยกัน ก็รู้สึกแบบนี้
รู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกัน ไม่ว่าใครก็แทรกเข้าไปไม่ได้
“มู่น่อนน่อน วันนี้ฉันจะคุยเรื่องเงื่อนไขกับเธอ ช่วงนี้เธอเขียนบทละครอยู่หนิ? อยากขายบทละครมั้ย? ฉันเป็นโปรดิวเซอร์ ฉันอาจจะเป็นเส้นสายดึงเธอเข้าหาแหล่งทรัพยากรได้นะ แต่เธอต้องเอาสัญญาจ้างงานคืนฉันมา
ฉินสุ่ยซานรู้สึกว่าตัวเองยืนอยู่ มู่น่อนน่อนนั่งอยู่ จะดูเหมือนว่าตัวเองด้อยกว่าเธอขั้นหนึ่ง ก็เลยไปนั่งตรงข้ามมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนประหลาดใจมาก
ฉินสุ่ยซานสามารถเข้าไปในวิลล่าในฐานะคนใช้เพื่อเข้าหาเฉินถิงเซียว ก็แสดงได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีความกล้าหาญ
แต่ว่า เธอใช้ความกล้าหาญแบบนี้ผิดที่ผิดทาง
มู่น่อนน่อนไม่ค่อยไว้ใจฉินสุ่ยซาน แต่ก่อนหน้าก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย
“ฉันให้สัญญาจ้างงานเธอได้ วันนี้เธอก็ไปได้ ส่วนเรื่องเป็นเส้นสายให้ฉัน ตอนนี้อาจจะยังไม่ต้อง”
ไม่ใช่ว่ามู่น่อนน่อนใจร้ายใจดำ แต่ในวงการนี้มีการโจรกรรมไม่น้อย
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะไม่มีชื่อเสียงอะไร แต่บทละครของเธอก็ทุ่มเทกายใจลงไปถึงจะเขียนออกมาได้
ถ้าฉินสุ่ยซานต้องการที่จะทำร้ายเธอจริงๆ ก็สามารถลงมือตรงนี้ได้เลยแน่นอน
ฉินสุ่ยซานไม่ประหลาดใจสักนิดที่มู่น่อนน่อนตรงไปตรงมาอย่างนี้ “โอเค ถ้าเธอต้องการเมื่อไหร่ ก็โทรหาฉันได้นะ”
เธอพูดจบ ก็หยิบเบอร์โทรที่เขียนเตรียมเอาไว้แล้วจากกระเป๋าเสื้อออกมา
มู่น่อนน่อนก็รับมาไว้
ฉินสุ่ยซานเปลี่ยนชุดคนใช้ออกแล้ว มู่น่อนน่อนก็ให้คนขับรถส่งเธอกลับไป
ขณะที่มองฉินสุ่ยซานนั่งรถออกไป มู่น่อนน่อนก็รู้สึกเบื่อนิดๆ
โชคดีที่เธอยังเล่นเน็ตได้
อาจเป็นเพราะไปดูการค้นหายอดนิยมหลายครั้งแล้ว มู่น่อนน่อนที่ก่อนหน้านี้ไม่ชอบปัด Weibo ตอนนี้จะมีธุระหรือไม่มีก็เข้า Weibo ปัดดูรายการค้นหายอดนิยม
เธอเข้า Weibo แล้ว หัวข้อสนทนาที่กำลังมาแรงเป็นที่1สำหรับเธอ ก็คือข่าวด่วน
“ซือเฉิงหยู้ฉีกสัญญากับบริษัทเสิ้งติ่ง” ตัวอักษรจีนไม่กี่ตัว อยู่ข้างบนหัวข้อสนทนาอยู่อย่างนั้น
มู่น่อนน่อนกดเข้าไปดู ถึงรู้ว่าชาวเน็ตพากันเดือดดานกันไปหมดแล้ว
“จริงหรือปลอมเนี่ย? ช่วงก่อนหน้านั้น Weibo ที่ผู้ก่อตั้งผู้ลึกลับของเสิ้งติ่ง XN เขียนยังผ่านไปไม่ทันไรเลย อย่างงี้ราชาภาพยนต์ซือก็ยกเลิกสัญญากับบริษัทเสิ้งติ่งแล้ว?”
“ฉันว่าอาจจะเป็นเพราะราชาภาพยนต์ซืออยากเป็นเถ้าแก่ทำเงินเองก็ได้”
“พูดจริงๆนะ ไม่กี่ปีมานี้ที่บริษัทเสิ้งติ่งทำให้ตัวของซือเฉิงหยู้ก็มีแต่ไปทุบทรัพยากรที่ดีที่สุด จนทรัพยากรลำเอียงอย่างหนัก ดูบทละครที่ซือเฉิงหยู้รับมาสิ มีอะไรขาดไปมั้ย? ถ้าไม่ใช่เพราะอุ้มซือเฉิงหยู้อย่างเต็มที่ บริษัทเสิ้งติ่งสามารถปั้นดาราได้หลายคนแล้ว เพราะอย่างนี้ผลคือพอคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมา ก็หันหน้าหนีไม่เอาใครแล้ว!”
Weibo โพสต์นี้ ไลค์กับความคิดเห็นตั้งหลายพัน ความร้อนแรงก็สูง
ข้างล่างคนที่โพสต์แย้งก็มี ที่เห็นด้วยก็มี
แม้มู่น่อนน่อนที่เห็น Weibo โพสต์นี้แล้ว ก็ยังรู้สึกว่าคนโพสต์พูดมีเหตุผลเลย
ไม่กี่ปีมานี้ซือเฉิงหยู้ดังจนเกินจริงแต่โดยพื้นฐานแล้วกลับไม่มีเรื่องอื้อฉาวเลย ในประเด็นนี้ บริษัทเสิ้งติ่งก็ใช้ความพยายามอย่างมากเช่นกัน
การฉีกสัญญาของซือเฉิงหยู้ครั้งนี้ ทำให้บริษัทเสิ้งติ่งสูญเสียอย่างมาก
แต่มู่น่อนน่อนกลับคิดลึกลงไปกว่านั้นหน่อย
เป็นซือเฉิงหยู้ที่ต้องการฉีกสัญญา หรือเป็นเฉินถิงเซียวกันแน่?