ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 256 ตัดขาด
เฉินถิงเซียวอุ้มมู่น่อนน่อนลงจากตึก ก็พบกับซือเฉิงหยู้ที่กำลังเดินเข้ามา
ซือเฉิงหยู้มองมู่น่อนน่อนที่อยู่ในอ้อดกอดของเขาแวบหนึ่ง อารมณ์สีหน้าเหมือนจะยิ้มไม่ยิ้ม : “ยังไง นี่จะรีบร้อนจะพามู่น่อนน่อนไปไหน ผมจำได้ว่าน่อนน่อนตอนนี้เป็นบุคคลต้องสงสัยนะ”
เฉินถิงเซียวมองซือเฉิงหยู้ด้วยสีหน้าเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง : “สนใจเรื่องตัวเองเถอะ”
ซือเฉิงหยู้ถูกเฉินถิงเซียวมองด้วยสีหน้าเย็นชาจนรู้สึกหงุดหงิด
ซือเฉิงหยู้ไม่พูดอะไรอีก เฉินถิงเซียวจึงเดินอ้อมผ่านเขาแล้วจากไป
สือเย่นำรถมาจอดที่หน้าประตูใหญ่ เห็นเฉินถิงเซียวที่กำลังอุ้มมู่น่อนน่อนมา จึงได้ช่วยเขาเปิดประตูรถ
เมื่อเฉินถิงเซียวขึ้นรถแล้ว สือเย่ก็อ้อมไปด้านหน้าเพื่อไปขับรถ
หลังจากที่กลับมาถึงคฤหาสน์ เฉินถิงเซียวก็อุ้มมู่น่อนน่อนมุ่งหน้าขึ้นตึกไป
เวลานี้ อาหูเดินออกมาจากห้องครัว : “คุณผู้ชายคะ”
เฉินถิงเซียวใบหน้าบังเกิดความประหลาดใจ : “อาหู?”
คืนวันส่งท้ายปีเก่า เฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนกลับบ้านตระกูลเฉิน แน่นอนว่าได้ให้อาหูกับคนรับใช้คนอื่นกลับบ้านไปพักผ่อน
อาหูเดินเข้ามา มองมู่น่อนน่อนที่อยู่ในอ้อมกอดของเฉินถิงเซียว จึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง : “คุณผู้ชายคะ เกิดอะไรขึ้นคะ คุณหญิงน้อยไม่เป็นไรใช่ไหม ตอนเช้าดิฉันเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์จึงได้รีบกลับมาค่ะ”
เฉินถิงเซียวกล่าวเบาๆ : “ไม่เป็นไร”
จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนตึกต่อ
เดินได้สองก้าว เขาก็ได้หยุดชะงักขึ้น แล้วหันกลับมามองอาหู : “สองสามวันนี้คงต้องรบกวนอาหูแล้ว”
อาหูกล่าวอย่างไม่พอใจ : “คุณผู้ชายพูดเรื่องอะไรกันคะ ดูแลคุณหญิงน้อยเป็นหน้าที่ของดิฉัน”
เฉินถิงเซียววางมู่น่อนน่อนลงบนเตียง แล้วเปิดเครื่องปรับอากาศ ช่วยเธอห่มผ้าห่มแล้วยืนดูเธออยู่สักพัก จากนั้นถึงได้จากไป
……
เมื่อมู่น่อนน่อนตื่นขึ้นมา รู้สึกที่หลังคอเจ็บเล็กน้อย
“คุณหญิงน้อย ตื่นแล้วเหรอคะ”
เสียงอาหู?
มู่น่อนน่อนหันหน้าไปมอง คนที่ยืนอยู่ข้างเตียงนี่คืออาหูนิ
“อาหู? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ มู่น่อนน่อนพลางพูด พลางพยุงร่างที่อยากลุกขึ้นยืน
อาหูจึงรีบยื่นมือมาพยุงเธอ : “คุณผู้ชายส่งคุณหญิงน้อยกลับมา ตอนนี้อยู่ที่คฤหาสน์ของคุณผู้ชายค่ะ”
มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้นจึงมองไปรอบ ๆ ถึงได้พบว่าที่นี่ไม่ได้เป็นห้องนอนที่บ้านตระกูลเฉินแล้ว
“เฉินถิงเซียวส่งฉันกลับมาเหรอ แล้วเขาล่ะ” มู่น่อนน่อนจับมือของอาหูแล้วกล่าวถาม
อาหูตอบ : “คุณผู้ชายส่งคุณหญิงน้อยกลับมาจากนั้นก็จากไปแล้วค่ะ ส่วนไปที่ไหนนั้นดิฉันเองก็ไม่ทราบค่ะ”
มู่น่อนน่อนกัดฟันแล้วด่าพึมพำออกมา : “เฉินถิงเซียวไอ้คนเลว!”
ก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่บ้านตระกูลเฉินนั้น เธอรู้สึกเหมือนตัวเองจะสามารถเค้นให้เฉินถิงเซียวพูดความจริงออกมา
แต่ผลที่ได้กลับถูกเฉินถิงเซียวคนเฮงซวยทำให้หมดสติไป
ช่างสมกับวิธีการของเฉินถิงเซียว
ขณะเดียวกัน นี่ก็ทำให้มู่น่อนน่อนมั่นใจได้ว่า เฉินถิงเซียวจะต้องมีเรื่องที่ปิดบังเธออย่างแน่นอน และไม่ได้สงสัยเธอแต่อย่างใด
มู่น่อนน่อนด่าเฉินถิงเซียวประโยคสักครู่นั้น พูดน้ำเสียงที่ค่อนข้างเบา อาหูจึงฟังไม่ชัดเจน อดไม่ได้และถามขึ้น : “ คุณหญิงน้อยพูดว่าอะไรนะคะ”
มู่น่อนน่อนส่ายหน้าปฏิเสธทันใด ยิ้มแล้วถามขึ้น : “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันรู้สึกหิวนิดหน่อย อาหูมีอะไรทานไหมคะ”
“มีค่ะ คุณหญิงน้อยอยากจะทานอะไรคะ ดิฉันทำได้ทุกอย่าง……”
อาหูรักและเอ็นดูเฉินถิงเซียว หลังจากที่มู่น่อนน่อนตั้งครรภ์ ก็ได้ทุ่มเททุ่มใจทำอาหารหลากหลายให้มู่น่อนน่อนทาน เมื่อได้ยินมู่น่อนน่อนบอกว่าหิวแล้ว จึงรีบเบนความสนใจไปทันที
อาหูลงจากตึกไปทำอาหาร มู่น่อนน่อนลุกขึ้นจากเตียงแล้วสวมใส่เสื้อคลุม
หางตาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์วางอยู่บนหัวเตียง
เธอจึงเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์มา เป็นเครื่องเดียวกับโทรศัพท์ที่เธอใช้ก่อนหน้านี้
มู่น่อนน่อนเบะปาก เธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเฉินถิงเซียวที่เอาไป
สำหรับเหตุผลที่เอาไปนั้น เธอนั้นก็ไม่รู้แล้ว
จากนั้นเข้าไปล้างหน้าที่ห้องอาบน้ำ แล้วก็ออกมาจากห้องนอนเดินลงตึกไป มองดูห้องที่ตกแต่งคุ้นเคย มู่น่อนน่อนรู้สึกสับสนงุนงง
เธอกับเฉินถิงเซียวกลับไปที่บ้านตระกูลเฉินผ่านไปเพียงสามวัน กลับมาอีกครั้ง เธอกลับรู้สึกราวกับว่าผ่านไปนับหลายศตวรรษ
อาหูทำอาหารหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัดผัก ต้มตุ๋น ของหวานต่าง ๆ ได้ทำเตรียมไว้ให้กับมู่น่อนน่อน
หลังจากที่มู่น่อนน่อนทานอิ่มแล้ว จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมที่จะโทรหาเฉินถิงเซียว
เธออยากจะไปเยี่ยมคุณปู่
เธอนั้นเป็นห่วงสถานการณ์ของคุณปู่จริง ๆ
ครุ่นคิดอยู่สักพัก เธอก็เกิดลังเลขึ้นมา
เฉินถิงเซียวตอนนี้มีท่าทีแปลก ๆ ต่อเธอ ถ้าเธอโทรไปหาเขาแล้วบอกว่าอยากจะไปเยี่ยมคุณปู่ เขาจะต้องไม่ให้เธอไปอย่างแน่นอน
มู่น่อนน่อนถือโทรศัพท์ไว้ แล้วพลางเดินไปคิดไป จนเดินมาถึงที่ห้องรับแขก
ทันใดนั้นมีเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก
จากนั้นก็มีเสียงเรียกชื่อของเธอ
“มู่น่อนน่อน ฉันรู้ว่าเธออยู่ด้านไหน!”
เสียงนี้ไม่ใช่เสียงแปลกหูแต่อย่างใด เป็นเสียงของมู่หวั่นขี
มู่น่อนน่อนจับโทรศัพท์แล้วเดินออกไปด้านนอก เห็นมู่หวั่นขีกับเซียวชู่เหอถูกบอดิ้การ์ดขวางไว้ที่หน้าประตู ด้านหลังยังตามด้วยมู่สือยั่น
เมื่อมู่หวั่นขีเห็นมู่น่อนน่อน ก็ยกริมฝีปากเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มกระหยิ่ม : “ไม่เจอตั้งนาน เธอดูผอมลงไปเยอะเลยนะ”
มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วขึ้น แล้วกล่าวไหลตามน้ำ : “จริงเหรอ เธอดูแล้วอ้วนขึ้นไม่น้อยนะ”
เซียวชู่เหอก็ได้เปล่งเสียงขึ้นในเวลานี้ : “ น่อนน่อน เข้าไปคุยข้างในกันเถิด”
มีบอดี้การ์ดและคนรับใช้มากมายในคฤหาสน์ ถึงแม้ว่ามู่น่อนน่อนจะเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้
มู่น่อนน่อนยกมือขึ้นโบกส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดปล่อยตัวพวกเธอสามคนเข้ามา
เมื่อเข้าไปในห้องโถง มู่น่อนน่อนจึงนั่งลงบนโซฟา เซียวชู่เหอสสามคนข้างลงอีกฝั่ง
สายตาของมู่น่อนน่อนกวาดมองบนตัวของพวกเธอ จากนั้นหันหน้าไปทางอาหู : “อาหู เสิร์ฟน้ำชา”
มู่หวั่นขีมาหาเธอ ไม่บอกก็รู้ว่าต้องมาหัวเราะเยาะเธออย่างแน่นอน มู่สือยั่นน่าจะส่งพวกเธอมา ส่วนเซียวชู่เหอ…..เธอนั้นไม่รู้แล้ว
ไม่รอให้ มู่หวั่นขีได้เปิดปากพูด มู่น่อนน่อนก็พูดออกมาก่อน : “ซือเฉิงหยู้เป็นคนบอกเธอเหรอ”
เธอเพิ่งกลับมาที่คฤหาสน์ของเฉินถิงเซียว มู่หวั่นขีก็มาหาถึงที่ จะต้องเป็นซือเฉิงหยู้ที่บอกเธออย่างแน่นอน
“เธอไม่ต้องสนหรอกว่าใครเป็นคนบอกฉัน” มู่หวั่นขีทำเสียงฮึดฮัด: “เธอนี่ช่างไม่กลัวตายจริง ๆ แม้แต่คุณท่านเฉินก็ยังกล้าลงเรือ”
มู่น่อนน่อนไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับเธอให้เสียเวลา จึงหันหน้าไปทางเซียวชู่เหอ : “มีธุระเหรอ”
“บนหน้าหนังสือพิมพ์นั้นเป็นเรื่องจริงเหรอ ทำไมเธอต้องลงมือกับคุณท่านเฉิน ตระกูลเฉินไม่มีทางปล่อยเธออย่างแน่นอน!” ท่าทางของเซียวชู่เหอที่ดูเหมือนเป็นห่วงเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนพูดอย่างลอย ๆ : “ถ้าหากเป็นเรื่องจริงล่ะ”
วันนี้ไม่ว่าเซียวชู่เหอจะพูดอะไร ในใจมู่น่อนน่อนก็สงบเยือกเย็น ไร้คลื่นใด ๆ
ไม่ไปใส่ใจก็ย่อมไม่เจ็บปวดทรมาน
มู่สือยั่นที่อยู่ข้างๆก็ได้เปล่งเสียงออกมา : “น่อนน่อน เรื่องนี้จะทำเป็นเล่นไม่ได้ เธอก็รู้ว่าตระกูลเฉินเป็นตระกูลพลิกแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ พวกเราจะไปมีเรื่องด้วยไม่ได้”
“พวกเรา?” มู่น่อนน่อนแววตาประกายความเย้ยหยัน : “คำพูดนี้ฟังแล้วอย่างกับพวกเธอกำลังช่วยฉันอย่างนั้นแหละ”
มู่สือยั่นเงียบไม่ส่งเสียง คนตระกูลมู่เหล่านี้อยู่สักพักก็จากไป
มู่น่อนน่อนเดาว่าจุดประสงค์การมาของพวกเธอ คือเพื่อยืนยันความจริงที่อยู่บนหนังสือพิมพ์ อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ตัดขาดกับเธอตั้งแต่เนิ่น ๆ