ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 303 คนที่เหมาะสมกว่า
บทสนทนาของผู้หญิงสองคนนี้ ก็ต้องถึงหูของสือเย่อยู่แล้ว
“คอกแคก…….” สือเย่แกล้งไปทีหนึ่ง ตัดจบบทสนทนาของผู้หญิงคนนั้น
หญิงสาวคนนั้นพอนึกได้ว่าสือเย่เป็นลูกน้องของเฉินถิงเซียว ก็รู้ทันทีว่าคำพูดเมื่อกี้ของตัวเองไม่เหมาะสมมากแค่ไหน
เธอยังอยากให้สือเย่ช่วยพูดเรื่องดีๆของตัวเองกับเฉินถิงเซียวนะ
คิดได้แบบนี้แล้ว เธอกำลังจะพูดอะไรกับสือเย่ ก็ได้ยินสือเย่พูดอย่างมีมารยาทว่า: “ต้องขออภัยด้วยนะครับ รบกวนหลีกทางหน่อยครับ”
หญิงสาวจึงจำใจต้องหลบไปข้างๆ
สือเย่เดินตรงไปตรงหน้าของมู่น่อนน่อน: “……คุณมู่ครับ”
เรียก “คุณหญิงน้อย” จนเคยชินไปแล้ว เมื่อกี้เขาเกือบพูดมันออกไปเลย
มู่น่อนน่อนแปลกใจสักพัก จากนั้นก็พูดตอบอย่างเป็นธรรมชาติว่า: “ผู้ช่วยพิเศษสือ”
สือเย่กวาดตามองรอบๆโดยไม่แสดงออกมา ใช้โอกาสตอนที่ทุกคนไม่สังเกต ก็ถามมู่น่อนน่อนเสียงเบาว่า: “คุณหญิงน้อยเจอคุณชายหรือยังครับ?”
“อืม” มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็เห็นเฉินถิงเซียวเดินเข้ามาจากด้านหลัง เธอก็ชี้ไปที่ด้านหลังของสือเย่: “มาแล้วนี่ไง”
พอสือเย่เห็นเฉินถิงเซียวแล้ว ก็ทำสีหน้าโล่งอกทันที
เฉินถิงเซียวมาถึงก็ไปห้องน้ำทันที เขาถูกผู้หญิงพวกนั้นรุมถามจนรำคาญไปหมดแล้ว
สือเย่รีบเดินเข้าไปหาเฉินถิงเซียว: “คุณชาย”
“อืม” เฉินถิงเซียวตอบรับ แล้วแกล้งทำเป็นมองไปทางมู่น่อนน่อนโดยไม่ตั้งใจ
มู่น่อนน่อนเบือนหน้าแล้วเดินหนีไปทางอื่น
ในงานเลี้ยงนอกจากเฉินถิงเซียว สือเย่กับเสิ่นชูหานแล้ว มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้จักใครอีกเลย
ก็เลยไม่มีใครมาคุยกับมู่น่อนน่อนก่อนสักคน เธอจึงเดินไปนั่งตรงมุมห้องที่ไม่ค่อยสะดุดตาเท่าไหร่
เธอเลือกที่นั่งได้ดีมาก นั่งอยู่บนเก้าอี้สูง แทบจะเห็นผู้คนทั่วทั้งงานเลย
เฉินถิงเซียวตัวสูงโด่ง ท่าทีเย็นชา เดินอยู่ท่ามกลางผู้คนก็โดดเด่นมากเป็นพิเศษ
มู่น่อนน่อนนั่งไม่กี่นาที ก็มีผู้หญิงมากมายเข้าไปพูดคุยกับเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวก็เย็นชากลับไป แต่แม้จะเป็นแบบนี้ ก็ยังมีคนมากมายถาโถมเข้าหาเขาอยู่ดี และพยายามดึงดูดความสนใจของเฉินถิงเซียว
เมื่อก่อนเฉินถิงเซียวไม่ออกงานเลี้ยงพวกนี้ ผู้หญิงพวกนี้แม้จะมีใจอยาก แต่ก็ไม่มีที่ใช้ ตอนนี้เฉินถิงเซียวออกงานบ่อยๆแล้ว แล้วยัง “โสด” อีกด้วย ผู้หญิงพวกนี้ไม่มีทางปล่อยโอกาสพวกนี้ไปหรอก
มู่น่อนน่อนรู้เหตุผลนี้ดี
แต่เห็นแววตาที่ผู้หญิงพวกนั้นจ้องมองเฉินถิงเซียว เหมือนกับจะกลืนกินเขาไปเสียเดี๋ยวนี้เลย มู่น่อนน่อนก็อึดอัดมาก
“นี่แค่เริ่มต้นเอง เธอก็ทนไม่ได้แล้วเหรอ?”
ข้างๆมีเสียงของเสิ่นชูหานดังขึ้น
มู่น่อนน่อนหันหน้าไป ก็เห็นเสิ่นชูหานถือแก้วแชมเปญแล้วนั่งลงข้างๆตัวเอง และกำลังมองเธอด้วยใบหน้าเยาะเย้ย
มู่น่อนน่อนกระตุกมุมปาก แล้วพูดด้วยใบหน้าที่ไม่มีรอยยิ้มใดๆ: “นายยุ่งเยอะเกินไปแล้วล่ะ”
“น่อนน่อน ฉันหวังดีกับเธอนะ” แววตาของเสิ่นชูหานดูจริงจังมากขึ้น: “เฉินถิงเซียวเจ้าเล่ห์ดุร้าย น้ำของตระกูลเฉินก็ลึกจนมองไม่เห็นพื้น เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้พวกนั้นหรอก”
“งั้นนายบอกมาสิ เรื่องของตระกูลเฉินซับซ้อนยังไง?” มู่น่อนน่อนเห็นได้ชัดว่ากำลังหลอกให้เสิ่นชูหานพูด
เสิ่นชูหานส่ายหน้า: “ฉันจริงจังนะ ถึงแม้เธอจะไม่ได้คบกับเฉินถิงเซียวแล้ว และอาจจะไม่คบกับฉัน ฉันแค่คิดว่า เธอสามารถเลือกคนที่เหมาะสมกับเธอกว่านี้ได้”
มู่น่อนน่อนแววตาเย็นชาลง: “เหมาะสมหรือไม่ ฉันรู้ดีแก่ใจ”
เสิ่นชูหานเงียบไปสักพัก แล้วก็พูดเสียงทุ้มต่ำว่า: “หรือเธอคิดว่าคนที่ปกป้องไม่ได้แม้กระทั่งเด็ก จะเหมาะสมกับเธอจริงเหรอ?”
มู่น่อนน่อนได้ยินแล้ว ก็บีบแก้วแชมเปญแน่นมากขึ้น
เรื่องของเด็ก นอกจากเธอกับเฉินถิงเซียวแล้ว รวมไปถึงคนรอบข้างที่เชื่อใจได้ น่าจะไม่มีคนอื่นรู้นะ
เธอวางแก้วแชมเปญลง มองเสิ่นชูหานด้วยสีหน้าเข้มงวด: “นายรู้ได้ยังไง?”
“ฉันพูดถูกแล้วสินะ” เสิ่นชูหานหัวเราะแล้วก็ถอนหายใจยาว
มู่น่อนน่อนไม่ได้พูดอะไร รอเขาพูดอีกครั้ง
เสิ่นชูหานมองไปทางเฉินถิงเซียว: “ฉันรู้จักเธอดี เด็กคลอดออกมาแล้วเธอจะต้องดูแลอยู่ข้างๆแน่นอน แต่ตอนนี้เธออยู่คนเดียว ข้างๆก็ไม่มีเด็กสักคน ถ้าเด็กอยู่กับเฉินถิงเซียว เพื่อลูกเธอก็ไม่มีทางแยกทางกับเขาแน่……”
พูดถึงตรงนี้ เสิ่นชูหานชะงักสักพัก จากนั้นก็สำรวจดูสีหน้าของมู่น่อนน่อน แล้วจึงพูดต่อไป: “เด็กไม่อยู่กับเธอ แล้วยังไม่อยู่กับเฉินถิงเซียวอีก แล้วมันจะหมายความว่าอะไรได้ล่ะ?”
มู่น่อนน่อนเงียบไปทันที เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย ลดอาการที่ปรากฏขึ้นทางสายตาลง: “ดังนั้น นายคิดว่าลูกของฉันกับเฉินถิงเซียวอยู่ไหนล่ะ?”
“ลูกของฉันกับเฉินถิงเซียว” ประโยคนี้กระตุ้นประสาทของเสิ่นชูหานอย่างแรง
เสิ่นชูหานทำหน้าบึ้งตึง: “เธอกับเฉินถิงเซียวอยู่ด้วยกันไม่มีทางมีความสุขหรอก เขาดูเหมือนโดดเด่น ก็แค่ได้รับอิทธิพลจากตระกูลเฉิน…….”
“พอแล้ว” มู่น่อนน่อนพูดแทรกเขา: “ฉันกับเฉินถิงเซียวจะเป็นยังไง นั่นมันก็เป็นเรื่องของฉัน”
เสิ่นชูหานก็ไม่ได้บังคับมู่น่อนน่อนอีก
ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกัน ไม่มีใครพูดอะไรอีก
“ก็ผู้หญิงที่ใส่ชุดราตรีสีดำนั่นไง…….”
“หล่อนเองหรอกเหรอ? ก็ไม่เท่าไหร่นี่……”
“นั่นสิ หล่อนแค่โชคดีเลยได้แต่งงานเข้าตระกูลเฉิน”
“ก็แค่ยัยบ้านนอก ไม่คู่ควรกับคุณชายเฉินหรอก ในที่สุดก็เลิกกันสักที”
“วันนี้หล่อนคงรู้ว่าคุณชายเฉินมาร่วมงานเลี้ยงด้วย เลยตั้งใจมาที่นี่สินะ?”
“แน่นอนสิ ผู้ชายอย่างเฉินถิงเซียว มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ชอบ หล่อนคงอยากจะได้หัวใจของเฉินถิงเซียวกลับไปอีกครั้งล่ะสิ”
“ฝันไปเถอะนะ หล่อนไม่มีทางทำได้หรอก…….”
ข่าวซุบซิบของผู้หญิงไม่ควรประมาทเลย ก่อนหน้านี้หลังจากที่มีคนจำมู่น่อนน่อนได้ ข่าวที่ ‘อดีตภรรยาของคุณชายเฉินมาเข้าร่วมงานเลี้ยง’ ก็แพร่สะพัดไปทั่วงานเลี้ยง
มีผู้หญิงมากมายที่กำลังนินทามู่น่อนน่อนอยู่
คนที่ถ่อมตัวหน่อย ก็แอบมองอยู่ห่างๆ
ส่วนคนที่หน้าด้าน ก็เหมือนกับผู้หญิงสองคนเมื่อกี้ ที่วิ่งมาว่าร้ายมู่น่อนน่อนตรงหน้า
ถ้าเป็นปกติ มู่น่อนน่อนก็คงไม่สนใจอะไร
แต่เมื่อกี้เธอเพิ่งฟังคำพูดของเสิ่นชูหานเมื่อกี้ ตอนนี้ก็กำลังอารมณ์เสียอยู่มากๆ
มู่น่อนน่อนลงมาจากเก้าอี้สูง เดินกอดอกไปหาผู้หญิงสองคนนั้น: “นั่นสิ ฉันยังฝันได้ แต่เป็นพวกเธอน่ะสิ ที่ไม่มีโอกาสนั้นเลย”
ผู้หญิงหนึ่งนั้นลุกขึ้นทะเลาะกับเธอ: “เธอว่ายังไงนะ!”
“ฟังไม่ออกหรือไง?” มู่น่อนน่อนแสยะยิ้มเย็นชา เธอเชิดคางขึ้นเล็กน้อยแล้วมองผู้หญิงตรงหน้า: “ฟังไม่ออกก็กลับไปค้นดิกชันนารีนะ”
“เธอ……” ผู้หญิงคนนั้นชี้หน้าต่อว่ามู่น่อนน่อน: “เธอคิดว่าตัวเองยังเป็นคุณหญิงน้อยของตระกูลเฉินอีกเหรอ? มาทำตัวกร่างตรงนี้ให้ใครดูกัน”
“ก็ไม่นี่ ตอนนี้ฉันไม่ใช่คุณหญิงน้อยของตระกูลเฉินแล้ว แต่เมื่อก่อนฉันเคยเป็น” มู่น่อนน่อนมองดูท่าทางของผู้หญิงคนนั้นที่โกรธจนพูดไม่ออก ก็รู้สึกเบื่อขึ้นมา
แล้วเธอมาทะเลาะกับยัยโง่สองคนนี้ทำไมกันนะ
เธอรู้สึกน่าเบื่อ เลยกลับหลังหันหยิบกระเป๋าอยากจะออกจากงาน
เธอเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็รู้สึกว่าด้านหลังมีคนตามตัวเองอยู่
หันกลับไปดูก็เห็นว่าเสิ่นชูหานกำลังตามตัวเองอยู่