ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 318 ลูกนอกสมรส
มู่น่อนน่อนไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้ออาหาร จากนั้นเธอก็ขับรถไปที่คอนโดของเฉินถิงเซียว
ผลตรวจความเป็นพ่อของซือเฉิงหยู้และเฉินชิงเฟิงออกมาในวันนี้ แม้ว่ามู่น่อนน่อนจะสามารถยืนยันผ่านเฉินถิงเซียวได้ว่าทั้งสองต้องเป็นมีความสัมพันธ์แบบพ่อ-ลูก แต่ในใจเธอก็ยังรู้สึกประหม่า
เธอนึกถึงคำพูดของเสิ่นชูหาน ตระกูลเฉินนั้นซับซ้อนกว่าที่คิด
นี่เธอได้ประสบพบเจอด้วยตัวเอง
เมื่อเธอไปที่คอนโดของเฉินถิงเซียว คนที่ไปรับผลการตรวจDNAยังมาไม่ถึง
เฉินถิงเซียวกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ในมือเขาถือบุหรี่ไว้ แต่ไม่ได้จุดไฟ
เฉินถิงเซียวไม่ค่อยสูบบุหรี่ อย่างน้อยเฉินถิงเซียวในอดีตก็ไม่เคยติดบุหรี่
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เฉินถิงเซียวก็เอาบุหรี่ในมือไปวางไว้ที่โต๊ะกาแฟตรงหน้าเขา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางของมู่น่อนน่อน “รถติดเหรอ?”
ดวงตาของเขาก็ไปสะดุดกับสิ่งของในมือของเธอ เขาสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินไปหาเธอ และช่วยยกทุกสิ่งที่อยู่ในมือของเธอออก
“คุณไปซื้อของพวกนี้มาจะทำอะไร?” เฉินถิงเซียวขมวดคิ้ว น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยดีนัก และสีหน้าของเขาก็ดูไม่พอใจเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนรู้ว่าทำไมเฉินถิงเซียวถึงดูไม่พอใจ เธอเลยพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นว่า “เมื่อคืนตอนที่คุณพ่อของคุณมาที่นี่ ข้อแก้ตัวที่ฉันบอกเขาก็คือฉันมาทำอาหารให้คุณทานเพื่อเอาชนะใจคุณ แน่นอนว่าฉันต้องแกล้งทำให้สมจริงหน่อยสิ”
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร แต่ใบหน้าเขาก็ดูเย็นชามาก เขานำของที่มู่น่อนน่อนซื้อไปไว้ในตู้เย็นทีละชิ้น
มู่น่อนน่อนยืนอยู่ที่ประตูห้องครัว เธอมองเขาก้มลงเอาของเก็บเข้าไปข้างใน เธออดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเขา “ท่าทีของคุณเย็นชาเหมือนตู้เย็นเลยนะ”
เฉินถิงเซียวหันหน้าไปและชำเลืองมองเธอ และพูดเบาๆ ว่า “ผมก็เย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งได้เหมือนกันนะ คุณอยากสัมผัสดูไหม?”
“ไม่” มู่น่อนน่อนรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
เฉินถิงเซียวปิดประตูตู้เย็นและเดินไปหาเธอโดยไม่ยิ้ม
มู่น่อนน่อนก้าวถอยหลังทันที
สีหน้าของเฉินถิงเซียวดูแย่กว่าเดิม และเขาก็คว้ามือของมู่น่อนน่อนไว้ “จะหลบทำไม?”
มู่น่อนน่อนบอกความจริง “ฉันกลัวว่าคุณจะตีฉัน”
“เหอะ” เฉินถิงเซียวเย้ยหยัน “ถ้าทุกครั้งที่คุณทำให้ผมโกรธแล้วผมจะตีคุณ คุณก็คงจะตายไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นครั้งแล้ว”
“ฉันทำให้คุณโมโหบ่อยเหรอ?” มู่น่อนน่อนแปลกใจกับคำว่า “หนึ่งหมื่นครั้ง” ของเขา
น้อยครั้งที่ทั้งสองคนจะต่อปากต่อคำกันแบบนี้ มู่น่อนน่อนชอบความรู้สึกนี้มาก
เฉินถิงเซียวแสร้งทำเป็นดุ “คุณคิดว่ายังไงละ?”
มู่น่อนน่อนเม้มริมฝีปากก่อนจะหัวเราะออกมา ในขณะที่เธอกำลังจะพูด เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
ทั้งสองมองหน้ากัน พวกเขารู้ว่าคนที่ไปเอาผลตรวจDNAความเป็นพ่อลูกมาถึงแล้ว
มู่น่อนน่อนตีที่มือเขา “ฉันจะไปเปิดประตู”
เฉินถิงเซียวปล่อยเธอ จากนั้นก็เดินไปที่โซฟาและนั่งลง
มู่น่อนน่อนเปิดประตู และเธอพบว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกคือสือเย่
สือเย่ไม่แปลกใจที่เห็นมู่น่อนน่อน แต่เขามักจะเรียกออกมาด้วยความเคยชินว่า “คุณหญิง”
“เข้ามาเร็ว” มู่น่อนน่อนยืนอยู่ข้างๆ หลังจากรอให้สือเย่เข้ามา เธอก็ปิดประตู
สือเย่ถือซองกระดาษไว้ เขาเดินไปหาเฉินถิงเซียวอย่างรวดเร็ว “คุณชาย นี่คือผลการตรวจ”
เฉินถิงเซียวเปิดซองกระดาษ และเอารายงานการประเมินข้างในออกมา เขาเปิดดูทีละหน้า และก็หยุดที่คำว่า “มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด”
เขาก้มลงมองสักครู่ จากนั้นก็ยื่นให้มู่น่อนน่อน
ตอนที่เขาเปิดดู มู่น่อนน่อนก็นั่งอยู่ข้างๆ เขา
มู่น่อนน่อนรับไว้ ใบหน้าของเธอไม่สามารถซ่อนความตกใจของเธอไว้ได้ “คิดไม่ถึงว่าซือเฉิงหยู้จะเป็นลูกนอกสมรสของพ่อคุณ”
ในห้องตกอยู่ในความเงียบแบบแปลกๆ ไปในชั่วขณะหนึ่ง
มู่น่อนน่อนวางผลการประเมินในมือลง จากนั้นก็หันไปมองเฉินถิงเซียว “ถ้าซือเฉิงหยู้เป็นลูกนอกสมรสของพ่อคุณ แล้วใครคือแม่โดยกำเนิดของซือเฉิงหยู้?”
เฉินถิงเซียวไม่ได้ตอบคำถามของเธอ แต่กล่าวว่า “ป้าของผมแต่งงานเร็วมาก เธอให้กำเนิดซือเฉิงหยู้ตอนอายุ 18 ปี สามีของเธอคือซือหมิงหวนซึ่งเขาเป็นศิลปิน พวกเขาเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก หลังจากทั้งสองคนแต่งงานกัน พวกเขาก็ไปตั้งรกรากที่ต่างประเทศ”
มู่น่อนน่อนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก? งั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ต้องดีเป็นพิเศษใช่ไหม?”
“ใช่ ตอนที่ผมอาศัยอยู่ในบ้านของพวกเขา ผมเห็นว่าลุงรักป้าของผมมาก” เมื่อเฉินถิงเซียวพูดจบ เขาก็ขมวดคิ้ว
“แล้วช่วงตรุษจีนปีที่แล้ว ทำไมครอบครัวของป้าคุณถึงกลับมากันทั้งหมด แต่ป้าของคุณไม่กลับมา?” ตั้งแต่ในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าของปีที่แล้ว มู่น่อนน่อนก็อยากถามคำถามนี้แล้ว
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็นึกถึงสิ่งที่เฉินเจียฉินเคยพูดไว้
“เสี่ยวฉินเคยบอกฉันว่า เขารู้สึกว่าพ่อแม่ของเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดี แต่เด็กก็อาจจะไม่เข้าใจความรักของผู้ใหญ่ แต่การที่พ่อแม่รักกันหรือไม่ เขาจะต้องสัมผัสได้แน่ๆ ยิ่งกว่านั้นในช่วงอายุของเขานี้มันอ่อนไหวต่อสิ่งเหล่านี้มาก ฉันเชื่อว่าเขาไม่ได้โกหก”
หากเฉินเหลียนและซือหมิงหวนเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และพวกเขาก็มีลูกคนแรกตอนอายุ 18 ปี พวกเขาจะต้องเป็นคนสองคนที่รักกันมาก
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ดูแปลกมาก
“ถ้าซือเฉิงหยู้เป็นลูกของพ่อคุณ แล้วลูกของป้าคุณอยู่ที่ไหน?”
หลังจากที่มู่น่อนน่อนพูดจบ เธอก็จมอยู่ในความคิดของตัวเอง
ทันใดนั้น เฉินถิงเซียวก็พูดออกมาว่า “ความทรงจำในวัยเด็กของผม พ่อแม่ของผมรักกันมาก”
“ซือเฉิงหยู้โตกว่าคุณสองปี หากตอนที่พ่อของคุณยังเด็กและได้ทำผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจจนมีซือเฉินหยู้มา เขาก็ไม่จำเป็นต้องส่งให้ป้าของคุณเลี้ยงดู หากปู่ของคุณรู้เรื่องนี้ เขาจะไม่ยอมให้คุณป้าเอาไปเลี้ยงดูแน่ๆ พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ คุณปู่ไม่รู้ว่าพ่อของคุณมีลูกนอกสมรส?”
เฉินถิงเซียวนึกถึงคำพูดที่ปู่ของเขาพูดกับเขาในช่วงวันส่งท้ายปีเก่า เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ไม่แน่นอน”
มู่น่อนน่อนคิดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง
ในตอนนั้น เฉินถิงเซียวก็พูดขึ้นทันทีว่า “สือเย่ จองตั๋วเครื่องบินคืนนี้ให้ฉันด้วย ฉันจะไปเมืองM”เฉินเหลียนอาศัยอยู่ในเมืองM
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่น่อนน่อนก็มองไปที่เขา “คุณจะไปหาป้าของคุณเหรอ?”
“ใช่” ท่าทีของเฉินถิงเซียวดูเข้มงวดผิดปกติ “เรื่องนี้มีเพียงคุณป้าคนเดียวที่จะสามารถไขข้อสงสัยทั้งหมดได้”
ทางเฉินชิงเฟิง เขาไม่สามารถรู้อะไรจากเขาได้เลย
แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจน ว่าเรื่องที่ซือเฉิงหยู้เป็นลูกนอกกฎหมายของเฉินชิงเฟิง จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวในตอนนั้นและเฉินมู่ที่ถูกขโมยไปหรือไม่ แต่พวกเขาทำได้แค่ตรวจสอบจากข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมด
สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเฉินชิงเฟิง ยังไงก็ต้องตรวจสอบ
มู่น่อนน่อนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันอยากไปกับคุณ”
เห็นได้ชัดว่าเฉินถิงเซียวไม่มีท่าทีที่จะพาเธอไปที่เมืองMด้วย “รอผมกลับมา ถ้ามีอะไรให้ติดต่อสือเย่ ไม่ก็จือหยั่น”
มู่น่อนน่อนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เฉินถิงเซียวยกข้อมือขึ้นและมองดูเวลา เขาพูดขัดจังหวะสิ่งที่เธอกำลังจะพูด “ตอนนี้ 11 โมงแล้ว เดี๋ยวผมจะเดินทางไปที่สนามบินเลย คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ทำอาหารเที่ยงให้ผมทาน?”
มู่น่อนน่อนเม้มริมฝีปาก “ฉันจะทำเดี๋ยวนี้เลย”
ในเมื่อเฉินถิงเซียวได้ตัดสินใจว่าจะไม่พาเธอไปด้วย เธอจึงไม่ไป
เฉินถิงเซียวมองมู่น่อนน่อนที่เข้าไปในครัว จากนั้นเขาก็หันไปมองสือเย่ “ตอนที่ฉันไม่อยู่ ส่งคนไปจับตาดูที่ตระกูลเฉินให้ดี”
สือเย่กล่าวด้วยความเคารพ “ครับ”