ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 354 ทายสิ คนไหนลูกสาวคุณ
ตอนแรกที่รู้ว่าเฉินถิงเซียวหาผู้หญิงหนึ่งคนมาเพื่อเปลี่ยนแปลงโฉมเป็นซูชิงหนิงนั้น มู่น่อนน่อนก็เคยตกใจและเกิดความสงสัย
ต่อมาเมื่อรู้ว่าซูชิงหนิงนั้นเต็มใจ ในใจเธอก็เกิดความคิดที่สับสนวุ่นวาย
ความรู้สึกแบบนั้นราวกับการใช้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งไปแลกกับลูกสาวของตัวเอง
ชีวิตไม่มีสูงต่ำจนรวย แต่ว่าคนเรามักจะเห็นแก่ตัวเสมอ
เห็นมู่น่อนน่อนเงียบอยู่นานสองนาน ซูชิงหนิงจึงยิ้มแล้วปลอบใจเธอ:“คุณหญิงน้อย คุณอย่าได้คิดว่าติดค้างอะไรฉันเลย นี่เป็นสิ่งที่ฉันเต็มใจ นี่ทำให้ฉันได้รู้สึกว่าการมีชีวิตของตัวเองนั้นยังมีค่า ถ้าหากว่าไม่ใช่คุณผู้ชาย ฉันคงตายไปนานแล้ว”
ถึงแม้มู่น่อนน่อนจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก แต่เมื่อเทียบกับเฉินถิงเซียว สิ่งร้ายๆที่เธอเจอมันเทียบไม่ได้เลยแม้แต่เศษเสี้ยวของเขา
เธอก้มหน้า เงียบไปครู่หนึ่งก่อนกล่าวขึ้น:“ขอบคุณนะ”
เธอคิดแล้วได้กล่าวเตือนซูชิงหนิง:“ซือเฉิงหยู้คนนั้นเจ้าเล่ห์มาก หากถึงเวลานั้นคุณจะต้องระมัดระวังตัวให้มากนะ”
……
เมื่อเครื่องบินมาถึงเกาะนั้น เป็นช่วงเวลาเช้าตรู่ของการนัดหมายของวันที่สามที่นัดกับซือเฉิงหยู้พอดี
หลังจากที่มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวมาถึงแล้วนั้น ซือเฉิงหยู้ก็ยังมาไม่ถึง
คนของเฉินถิงเซียวได้ค้นตรวจดูทั่วรอบเกาะ นอกจากคนรับใช้สองสามคนในบ้านแล้ว ไม่มีอะไรอื่นใดอีก
มู่น่อนน่อนมองท้องทะเลที่สีฟ้าครามสดใส ถามเฉินถิงเซียวด้วยจิตใจที่กระสับกระส่าย:“เขาจะเปลี่ยนใจกะทันหันแล้วไม่มาไหม”
เฉินถิงเซียวกะพริบดวงตาเบาๆ :“ไม่หรอก ผมรู้จักเขาดี”
คนสองคนที่คบกันมานานหลายปี ย่อมต้องมีส่วนที่คล้ายคลึงกัน
และส่วนที่คล้ายคลึงกันระหว่างเขากับซือเฉิงหยู้ ก็คือการแน่วแน่กับบุคคลและก็เรื่องงาน
ซูชิงหนิงสำหรับซือเฉิงหยู้แล้ว เป็นคนที่พิเศษมาก
ซือเฉิงหยู้รู้สึกว่ามู่หวั่นขีมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับซูชิงหนิงมาก ดังนั้นถึงได้อยู่ด้วยกันกับมู่หวั่นขี และตามใจเอาใจมู่หวั่นขีทุกอย่าง
แม้แต่มู่หวั่นขีเขายังสามารถอดทนได้ อย่าว่าแต่แบบคนจำลองที่เฉินถิงเซียวเตรียมไว้อย่างสมบูรณ์แบบเลย
ซือเฉิงหยู้จะต้องมาอย่างแน่นอน
มู่น่อนน่อนเดินตามเฉินถิงเซียว รอคอยการมาของซือเฉิงหยู้อย่างใจจดใจจ่อและลนลาน
พวกเขารอตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตกดิน จนในที่สุดซือเฉิงหยู้ก็มาพร้อมกับความมืด
ซือเฉิงหยู้นั้นได้นั่งเรือมา พาคนมาไม่น้อย
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันในห้องโถงของวิลล่า
เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ถูกซือเฉิงหยู้ซื้อไว้แล้ว และได้สร้างลานจอดเครื่องบินและวิลล่าสุดหรู
ลูกน้องของซือเฉิงหยู้ยืนเรียงกันเป็นแถวอยู่ทั้งสองข้าง โดยเว้นที่ตรงกลางเป็นทางไว้
ซือเฉิงหยู้เดินค่อยๆออกมา สายตาของเขาทอดไปยังตัวของเฉินถิงเซียว แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเหมือนปกติเช่นอย่างเคย:“เรือค่อนข้างช้า ทำให้คุณรอนานแล้ว ถิงเซียว”
เฉินถิงเซียวสีหน้าบึ้ง:“ลูกผมล่ะ”
ซือเฉิงหยู้ทำการปรบมือ จึงเห็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินอุ้มเด็กทารกเข้ามา
มู่น่อนน่อนยืนอยู่ด้านหลังเฉินถิงเซียว เมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนคนนั้นอุ้มเด็กทารกเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วงึมงำขึ้น:“มู่มู่……”
เฉินถิงเซียวดึงรั้งเธอไว้ สายตายังคงจ้องไปทางซือเฉิงหยู้ :“ผมจะเชื่อได้อย่างไรว่านั่นเป็นลูกสาวของผม”
“เหอะๆ!” ซือเฉิงหยู้หัวเราะขึ้น :“คุณยังคงฉลาดเหมือนเดิม”
ซือเฉิงหยู้พูดจบ ก็มีหญิงวัยกลางคนอีกคนอุ้มเด็กทารกเดินออกมา
มู่น่อนน่อนสีหน้าตกใจ วินาทีถัดไปก็ได้ยินเสียงซือเฉิงหยู้ดังขึ้นอย่างช้า ๆ :“ทายสิ คนไหนลูกสาวคุณ”
เมื่อเสียงสิ้นสุดลง ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังของซือเฉิงหยู้ได้ยื่นปืนหนึ่งกระบอกมาให้เขา
ซือเฉิงหยู้เป่าเข้าที่ปากกระบอกปืน ถือปืนแล้วเล็งไปตัวเด็กทารกสองคนนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าแลดูอ่อนโยน:“ได้ยินมาว่าพ่อแม่กับลูกนั้นจะมีกระแสจิตส่งถึงกัน ผมเชื่อว่าพวกคุณจะต้องทายถูกอย่างแน่นอน”
มู่น่อนน่อนกัดริมฝีปาก :“ซือเฉิงหยู้ พวกเขาเป็นแค่เด็กน้อย พวกเขายังเป็นเพียงทารกที่ไม่สามารถพูดหรือเดินได้เลยนะ!”
ถึงแม้ซือเฉิงหยู้จะไม่ได้อธิบายอย่างละเอียด แต่ความหมายของเขานั้นได้ชัดเจนในตัว ถ้าหากว่าเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนเลือกทารกใดทารกหนึ่ง ทารกอีกคนก็จะต้องถูกเขายิงทิ้ง……
ช่างอำมหิตผิดมนุษย์จริง ๆ
“น่อนน่อน คุณอย่าไปดูถูกคนอื่นว่าตัวเล็กสิ จะต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน จะต้องเคารพในกฎกติกาของเกม ไม่อย่างนั้น……” ซือเฉิงหยู้พูดมาถึงตรงนี้ก็ได้หยุดชะงักไปชั่วครู่ สีหน้าค่อยๆเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น : “พวกคุณสักคนก็อย่าหวังว่าจะได้!”
“เฉิงหยู้”
ทันใดนั้นจู่ ๆ มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
มู่น่อนน่อนหันหลังไปพร้อมกับพวกเขา แล้วก็เห็นซูชิงหนิงเดินลงมาจากบนตึก
ซูชิงหนิงผมตรงยาวถึงเอว สวมชุดรวดกระโปรงสีขาว อ่อนโยนและงดงาม
สายตาของเธอตกกระทบไปที่ตัวของซือเฉิงหยู้อย่างแน่วนิ่ง:“ไม่เจอกันตั้งหลายปี คุณเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะ”
เธอพลางพูดพลางเดินตรงมาหาซือเฉิงหยู้
มู่น่อนน่อนสังเกตเห็น วินาทีที่ซือเฉิงหยู้มองซูชิงหนิงนั้น มีท่าทีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปฉับพลัน
ตกใจ ประหลาดใจ ตื่นเต้น ดีใจ……หลากหลายอารมณ์ประกายแวบผ่านใบหน้าของเขา
“ชิง……ชิงหนิง?” “ปัง” เสียงปืนในมือของเขาตกลงกระแทกพื้น
ซูชิงหนิงเดินผ่านฝูงคนมาถึงด้านหน้าของเฉิงหยู้:“ฉันเอง”
ซือเฉิงหยู้มองใบหน้าใบนี้ของซูชิงหนิง เป็นใบหน้าเดียวกันกับซูชิงหนิงที่อยู่ในความทรงจำของเขา เขาที่ไม่อยากแม้แต่จะกะพริบตา
ซูชิงหนิงยื่นมือไปจับมือของซือเฉิงหยู้ น้ำเสียงอ่อนโยน “เฉิงหยู้ คุณกับถิงเซียวทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณมีอะไรเข้าใจผิดกัน แต่ว่าเด็กนั้นไม่รู้เรื่องอะไร คุณคืนเด็กให้พวกเขาไปเถอะนะ ดีไหม”
มู่น่อนน่อนกุมมือตัวเองด้วยความตื่นเต้น ปลายเล็บที่กำขึ้นได้ทิ่มแทงอยู่ที่ฝ่ามือ แต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บ
ซือเฉิงหยู้ราวกับถูกซูชิงหนิงสะกดจิตไว้ พยักหน้าให้เบาๆ
แววตามู่น่อนน่อนประกายความดีใจขึ้น แต่ว่าความดีใจของเธอนั้นยังไม่ทันได้แสดงออกมา ก็ได้ยินซือเฉิงหยู้กล่าวขึ้น :“ชิงหนิง พวกเราไม่ต้องรีบร้อน เล่นเกมกับผมก่อน เป็นเกมที่สนุก เมื่อจบเกมแล้ว ผมจะพาคุณกลับบ้านนะ”
ซือเฉิงหยู้พูดจบก็เงยหน้าขึ้นมองเฉินถิงเซียว:“ถิงเซียว วันนี้ผมเดินทางมาเหนื่อยมากแล้ว พรุ่งนี้ค่อยเล่นต่อแล้วกันนะ”
เมื่อพูดจบเขาก็พาคนเดินออกไป
บนเกาะนี้สร้างวิลล่าไว้หลายหลัง ซือเฉิงหยู้จึงพาคนอื่น ๆไปพักที่วิลล่าอื่น
ทันทีที่ซือเฉิงหยู้จากไป ซูชิงหนิงก็ล้มฟุบลงไปกองอยู่กับพื้น
มู่น่อนน่อนเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปพยุงเธอขึ้นมา
ซูชิงหนิงจับแขนของมู่น่อนน่อนไว้ แล้วกล่าวด้วยจิตใจที่สั่นระรัว:“ฉันรู้สึกว่าเขาดูออกว่าฉันเป็นตัวปลอม”
มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกตกใจ ยังไม่ทันที่เธอจะถามเฉินถิงเซียว เสียงของเฉินถิงเซียวก็ดังขึ้น:“เขารู้อยู่แล้วว่าคุณเป็นตัวปลอม”
มู่น่อนน่อนมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา: “คุณพูดว่าอะไรนะ ซือเฉิงหยู้รู้ว่าเธอเป็นซูชิงหนิงตัวปลอม อย่างนั้นทำไมเขายังนำมู่มู่ตัวจริงมาแลกเปลี่ยนล่ะ”
เธอรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
เฉินถิงเซียวจึงได้แต่เอ่ยปากเตือนสติเธอ:“มู่หวั่นขี”
มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นทันใด :“ความหมายของคุณคือ……”
“ใช่” เฉินถิงเซียวไม่รอให้เธอได้พูดจบ ก็พูดขัดจังหวะเธอ แล้วมองเธออย่างลึกซึ้ง: “ในใจของคนเราล้วนมีความคิดถึงคำนึงหา”
มู่น่อนน่อนนึกถึงความเอาใจอย่างอ่อนโยนและความรักความเอ็นดูที่ซือเฉิงหยู้มีต่อมู่หวั่นขี ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพราะมู่หวั่นขีมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับซูชิงหนิง