ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 463 อย่าเดิมตามผม
มู่น่อนน่อนหรี่ตาลงเพื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เพิ่งจะนึกออกว่า เมื่อสามปีที่แล้วมู่หวั่นขีพยายามขับรถชนเธอ
มู่หวั่นขีอยากจะขับรถชนเธอจนตาย แต่ก็ไม่สำเร็จ เฉินถิงเซียวเลยโกรธมากๆ ก็เลยให้คนไปเอาตัวมู่หวั่นขีมาก จากนั้นก็ใช้วิธีที่โหดร้ายที่สุดในการทรมานมู่หวั่นขี
เขาไม่ได้ต้องการจะเอาชีวิตของมู่หวั่นขี แต่เขาต้องการจะให้เธอทรมานเหมือนตายทั้งเป็น
ในสถานการณ์นั้น แค่นึกถึงเรื่องราวในตอนนั้นมู่น่อนน่อนก็รู้สึกขยะแขยงเล็กน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่ต้องพบเจอด้วยตัวเองอย่างมู่หวั่นขี
เมื่อเห็นท่าทีตอบสนองของมู่หวั่นขี ก็เห็นแล้วว่า เธอกลัวเฉินถิงเซียวมากจริงๆ
ถ้าพูดให้ถูกต้องหน่อย เธอรู้สึกเกรงกลัวมากๆ
มู่หวั่นขีจับกระเป๋าไว้แน่น จนนิ้วมือของเธอเริ่มจะซีด ในแววตาที่เต็มไปด้วยความกลัว มีความหวาดระแวงแอบแฝงอยู่
จากนั้น เธอและเฉินถิงเซียวก็สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็รีบหลบสายตาอย่างรวดเร็ว เธอขยับขาของเธอ เหมือนเธออยากจะลุกขึ้นและเดินออกจากที่นี่ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงไม่ขยับตัว
มู่น่อนน่อนดึงสายตากลับ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นและมองไปทางเฉินถิงเซียว จากนั้นเธอถามเขาว่า “ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้”
เฉินถิงเซียวตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ผ่านมาน่ะ”
เฉินถิงเซียวไม่ยุ่งเรื่องของบริษัทเสิ้งติ่งมาโดยตลอด งานที่จัดขึ้นในวงการบันเทิงแบบนี้ เขาก็ไม่เคยมาเข้าร่วมเลย
ที่เขาบอกว่าเขาผ่านมา มันผ่านมาได้พอดีเลย
มู่น่อนน่อนไม่ได้พูดสิ่งที่เธอคิดในใจ
“งั้น…”
เธอครุ่นคิด ในขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เฉินถิงเซียวก็ตัดบทเธอทันที “ผมมีธุระจะคุยกับคุณ”
หลังจากเขาพูดจบ เขาก็ไม่ได้สนใจท่าทีของมู่น่อนน่อนเลย เขาหันเดินออกไปทันที
มู่น่อนน่อนยืนอยู่ที่เดิม เธอไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ เฉินถิงเซียวถึงมาหาเธอ
ต่อให้จะมาหาเธอเพราะมีธุระจริงๆ เมื่อครู่นี้ที่เธอส่งข้อความไปหาเขา เฉินถิงเซียวก็ควรจะโทรศัพท์มาถามเธอทันทีเลยไม่ใช่เหรอ?
แต่สุดท้ายเขาก็เดินมาหาเธอเอง แล้วก็พูดเพียงไม่กี่ประโยคก็จากไป
แปลกจริงๆ
เมื่อเฉินถิงเซียวจากไป มู่หวั่นขีก็กลับมาเป็นปกติ
เธอมองไปยังทางที่เฉินถิงเซียวจากไป จากนั้นก็หันกลับมามองที่มู่น่อนน่อน
น้ำเสียงของเธอฟังดูอึมครึ้ม “นี่เธอยังคบกับเฉินถิงเซียวอยู่เหรอ?”
“เกี่ยวอะไรกับเธอ” มู่น่อนน่อนยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนที่จะเดินจากไป
เธอเพิ่งจะก้าวได้เพียงก้าวเดียว เธอก็ถูกมู่หวั่นขีห้ามไว้
นิ้วมือของมู่หวั่นขีผอมจนเหลือแต่กระดูก มู่น่อนน่อนรู้สึกเจ็บที่เธอมาจับแขนไว้
มู่น่อนน่อนหันไปมอง ก่อนที่จะขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เมื่อกี้นี้เฉินถิงเซียวก็พูดแล้วว่ามาหาฉันเพราะมีธุระ ถ้าเกิดว่าฉันยังไม่ยอมไปหาเขา…”
เมื่อเธอพูดถึงตรงนี้ เธอก็จงใจหยุดพูด
เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อพูดถึงเฉินถิงเซียว มู่หวั่นขีก็ดูอ่อนแอลงทันที
ดูเหมือนว่าสิ่งที่เฉินถิงเซียวทิ้งไว้ มันยังคงตราตรึงอยู่ในใจเธอ
มู่หวั่นขีจ้องมองเธอด้วยท่าทางเคร่งขรึม จากนั้นก็สะบัดมือออกอย่างแรง และพูดอย่างดุร้ายว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
มู่น่อนน่อนไม่ได้ตอบอะไร เธอเดินจากไปทันที
มู่หวั่นขีจ้องไปยังทิศทางที่เธอเดินจากไป ก่อนที่เธอจะกำมือทั้งสองไว้แน่น
เธอกับซือเฉิงหยู้ต้องแยกจากกัน แต่นี่มู่น่อนน่อนกลับยังมาคบหาอยู่กับเฉินถิงเซียวอีก?
นี่มันไม่ยุติธรรมเลย!
ทำไมเวลามู่น่อนน่อนพบเจอกับอุปสรรคอะไรมากมายถึงไม่ตาย แล้วนี่ไม่ว่าเธอจะอยากได้อะไรเธอก็ได้ทั้งหมด!
ถ้าเกิดว่ามู่น่อนน่อนและเฉินถิงเซียวยังคบกันอยู่จริงๆ ถ้าเธอคิดที่จะแก้แค้นก็คงจะยากแล้ว
ถ้าเธอแค่จัดการกับมู่น่อนน่อน ยังไงเธอก็จะหาโอกาสจนได้
แต่นี่พวกเขายังคบกันอยู่ ยังไงเฉินถิงเซียวก็จะปกป้องมู่น่อนน่อน โอกาสที่เธอจะลงมือก็น้อยมาก
ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะต้องคิดอย่างรอบคอบแล้ว
……
มู่น่อนน่อนออกจากจุดพักผ่อน เธอหันมองซ้ายขวา จากนั้นเธอก็เห็นเฉินถิงเซียวที่ยืนพิงกำแพงอยู่
มือทั้งสองข้างของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สีหน้าของเขาดูราบเรียบ ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะมายืนรอเธอที่นี่
คนที่ทำให้เฉินถิงเซียวยอมรอได้ มีอยู่ไม่กี่คน
ยิ่งเป็นเฉินถิงเซียวในตอนนี้แล้ว
อารมณ์ของมู่น่อนน่อนดีขึ้นเยอะมากๆ
“เฉินถิงเซียว”
เธอเดินไปตรงหน้าเขา ก่อนที่จะเรียกชื่อเขาออกมา
เฉินถิงเซียวเงยหน้ามองไปที่เธอ ก่อนที่เขาจะหันเดินไปอีกทาง เขาก้าวเดินออกไปอย่างมั่นคง มู่น่อนน่อนเดินตามไม่ทัน
มู่น่อนน่อนเลยรีบเดิน จนตามเขาทัน “คุณบอกว่ามีธุระจะคุยกับฉันไม่ใช่เหรอ? มีธุระอะไรเหรอ?”
เฉินถิงเซียวตอบอย่างราบเรียบว่า “ไม่มีอะไร”
มู่น่อนน่อนเม้มริมฝีปาก อยู่ๆ เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ด้วยความสามารถในการพูดคุยของทั้งสอง ตอนนี้พวกเขาก็เดินมาจนถึงหน้าประตูลิฟต์แล้ว
เฉินถิงเซียวเอื้อมมือไปกดลิฟต์ เมื่อหันไปเขาก็เห็นว่ามู่น่อนน่อนยังอยู่ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า “อย่าเดิมตามผม”
มู่น่อนน่อนต้องการจะลงลิฟต์ไปพร้อมกับเขา
แต่เมื่อเฉินถิงเซียวพูดแบบนี้ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะรังเกียจเธอมาก แล้วเธอต้องการที่จะลงไปพร้อมกับเขา
เธอสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่ได้จะเดินตามคนไป ฉันก็จะลงลิฟต์เหมือนกัน”
ในตอนนั้น ลิฟต์ก็มาถึงพอดี
ประตูลิฟท์เปิดออก ข้างในไม่มีคนอยู่เลย
มู่น่อนน่อนมองไปที่เขา เธอเตรียมที่จะเดินเข้าไปในลิฟต์ แต่เมื่อเธอกำลังจะก้าวเข้าไป เธอก็ถูกเฉินถิงเซียวห้ามไว้
มู่น่อนน่อนชะงักไป “ทำไม?”
“คุณรอรอบถัดไป” หลังจากเฉินถิงเซียวพูดจบ เขาก็เดินผ่านตัวเธอเข้าไปในลิฟต์
มู่น่อนน่อนทำหน้าไม่ถูก “ทำไมฉันต้องรอรอบถัดไปด้วย?”
เฉินถิงเซียวขมวดคิ้ว ก่อนจะยกคางขึ้นลงเพื่อบอกให้เธอหันไปมองด้านหลัง
มู่น่อนน่อนหันกลับไป เธอก็เห็นนักข่าวหลายคนเดินมาทางนี้ แต่เนื่องจากว่าอยู่ห่างกันค่อนข้างเยอะ นักข่าวพวกนั้นก็เลยไม่ทันสังเกตเห็นมู่น่อนน่อน
เฉินถิงเซียวกลัวว่าทางสื่อจะถ่ายรูปตอนที่พวกเขาเดินอยู่ด้วยกันเหรอ?
สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้มู่น่อนน่อนรู้สึกดีใจมากนะ
ไม่อยากโดนนักข่าวแอบถ่าย กับเฉินถิงเซียวไม่อยากให้ถ่ายรูปตอนที่พวกเขาเดินอยู่ด้วยกัน มันต่างกันนะ
ตอนที่มู่น่อนน่อนหันกลับไป ประตูลิฟต์ก็ปิดลงแล้ว เฉินถิงเซียวใช้ลิฟต์ลงไปข้างล่างแล้ว
เธอทำได้เพียงแค่รออีกพักนึง
……
แม้ว่าเฉินถิงเซียวจะไม่ได้ลงลิฟต์ไปพร้อมกับมู่น่อนน่อน แต่ภาพถ่ายก่อนหน้าของทั้งสองคนในเฟรมเดียวกันที่ทางเข้า ก็ ถูกโพสต์ลงบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว
และชื่อของทั้งคู่ก็ขึ้นเทรนการค้นหาอย่างรวดเร็ว
#มู่น่อนน่อน เฉินถิงเซียว#
เฉินถิงเซียวเป็นคนที่โดดดังอยู่แล้ว ส่วนมู่น่อนน่อนชื่อของเธอเพิ่งจะถูกพาดหัวข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อน เมื่อนำชื่อทั้งสองนี้มารวมกัน จำนวนการเข้าชมและการอ่านก็เพิ่มขึ้น
มู่น่อนน่อนนั่งอยู่ในรถ เธอกดเข้าไปดูที่เทรนการค้นหา
ภาพบนสุดของWeibo คือภาพของเธอและเฉินถิงเซียวในเฟรมเดียวกัน ในรูปถ่ายเธอและเฉินถิงเซียวอยู่กันมาก เฉินถิงเซียวเดินเข้าไปในสถานที่โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ส่วนมู่น่อนน่อนถูกรายล้อมไปด้วยนักข่าวกลุ่มหนึ่ง สิ่งที่บังเอิญมากก็คือ เธอกำลังเงยหน้าขึ้นมองเฉินถิงเซียว
ภาพนี้ ถูกการตีความอย่าง “ล้ำลึก” โดยบล็อกเกอร์บันเทิงชั้นนำคนนี้
บทความของบล็อกเกอร์คนนี้ค่อนข้างยาว และสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อก็คือ ประโยคที่ว่า “หลังจากห่างกันไปสามปี ความรักที่มู่น่อนน่อนมีให้คุณชายเฉินยังคงอยู่”
“วันก่อนยังพูดกันอยู่เลยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังจะกลับไปคบกับคนรักคนแรกของเธอไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าความรักที่เธอมีให้อดีตสามียังคงอยู่”
“เธอมีความรักแบบนี้ให้อีกกี่คน”
สองความคิดเห็นสุดฮอตบนWeibo ที่มียอดไลค์มากที่สุด ล้วนเป็นความคิดเห็นที่ต้องการเกาะกระแสเท่านั้น
ด้านหลังมีชาวเน็ตตัวจริงหลายคน ที่ตั้งคำถามกับทางบล็อกเกอร์