ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 496 ฉันกับมู่มู่?
จากสิ่งที่เฉินชิงเฟิงทำลงไปเมื่อก่อนก็มองออกได้ว่าในใจของเขาเฉินเหลียนกับซือเฉิงหยู้ต่างก็ยึดครองตำแหน่งที่สำคัญมากด้วยกันทั้งคู่
ส่วนแม่ของเฉินถิงเซียว เพราะว่ารู้เรื่องเฉินเหลียนกับเฉินชิงเฟิงเข้า จึงได้มีการเผชิญหน้ากับเรื่องอย่างนั้นเข้า
แต่เดิมมู่น่อนน่อนก็เกือบจะลืมไปแล้วว่ายังมีเฉินชิงเฟิงคนนี้อยู่อีกคน
ตอนนี้มาพูดถึงเฉินชิงเฟิงกับเฉินถิงเซียวขึ้นมาอีกครั้ง คิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาอีกที มู่น่อนน่อนก็มีความรู้สึกแผ่นหลังเย็นยะเยือกขึ้นมา
“คุณวางแผนว่าจะกลับไปเมื่อไหร่…” มู่น่อนน่อนชะงักไปเล็กน้อย ไม่ได้คิดให้เรียบร้อยเลยว่าควรจะเรียกเฉินชิงเฟิงต่อหน้าเฉินถิงเซียวไปว่ายังไงดีเลยจริงๆ
น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวนิ่งเรียบออกมา “พรุ่งนี้”
ตอนที่เขาพูดออกมา ดวงตาทั้งสองข้างได้จรดไปที่บนร่างของมู่น่อนน่อนนิ่ง เหมือนกับมีอะไรจะพูดกับเธอ
มู่น่อนน่อนหลุบตาลงเล็กน้อย ไม่ไปมองเขา
ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ เสียงทุ้มต่ำของเฉินถิงเซียวก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง “พวกคุณไปกับผมด้วย”
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยใบหน้าประหลาดใจออกมา “ฉันกับมู่มู่?”
“ใช่” มุมขอบตาของเฉินถิงเซียวยกสูงขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มบางๆแต่กลับเต็มไปด้วยความปีติยินดีออกมาอีกด้วย
เฉินชิงเฟิงชั่วชีวิตนี้พยายามทุกวิถีทาง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีอะไรเลยสักอย่าง
แต่เขากลับมีทุกอย่าง
มู่น่อนน่อนไม่ได้ตอบรับเฉินถิงเซียวออกไปโดยทันที เธอได้มองเขาไปด้วยสายตาสงบนิ่ง “ทำไม?”
เฉินถิงเซียวถามเธอ “คุณไม่อยากไป?”
สายตาของเขามุ่งมั่นตั้งอกตั้งใจสุดๆ มู่น่อนน่อนพูดปฏิเสธออกไปไม่ออก สุดท้ายก็เลือกที่จะพยักหน้าตอบตกลงออกไปอยู่ดี
……
เช้าวันต่อมา
ตอนที่มู่น่อนน่อนตื่นนอนออกมา ก็ได้พบว่าเฉินถิงเซียวได้นั่งอยู่ที่ตรงหน้าโต๊ะทำงานในห้องโถงใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บนร่างของเขายังสวมชุดอยู่บ้านเอาไว้อยู่ ข้างๆได้วางกาแฟที่ยังปล่อยไอความร้อนออกมาอยู่
มู่น่อนน่อนมองกาแฟแก้วนั้น แล้วหันไปมองที่ตู้เย็นอีกที
เธอเดินเข้าไป ถามเฉินถิงเซียวออกไป “กาแฟคุณชงเองเหรอ?”
“อืม” เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมา สายตาอ่อนโยนออกมา “เอามาจากในตู้เย็น ครั้งหน้าจะซื้อใหม่ให้คุณ”
มู่น่อนน่อนลังเลพลางเอ่ยออกมา “นั่นเป็นกาแฟสำเร็จรูป…”
เฉินถิงเซียวแสยะริมฝีปากออกมาเล็กน้อย ไม่รู้เหมือนกันว่าคำพูดของเธอมันน่าตลกที่ตรงไหน ในน้ำเสียงได้ประดับไปด้วยท่าทางหัวเราะขบขันออกมา “บนห่อก็มีเขียนไว้”
เขาพูดจบ ก็ยังยกกาแฟขึ้นมาดื่มไปอีกคำ ไม่เห็นการรังเกียจออกมาเลยสักนิดเดียว
ในความทรงจำของมู่น่อนน่อน เฉินถิงเซียวจู้จี้จุกจิก แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยจะดื่มกาแฟสำเร็จรูปมาก่อน
แต่ว่าตอนนี้เขาดื่มกาแฟสำเร็จรูปซองแค่ไม่กี่หยวนที่ตัวเองชงไปอย่างไม่สะทกสะท้านอย่างนี้ ทำให้มู่น่อนน่อนเกิดความรู้สึกที่ตัวเองรู้สึกผิดกับเขาขึ้นมา
มู่น่อนน่อนถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “ครั้งหน้า คุณให้ผู้ช่วยสือช่วยคุณซื้อเมล็ดกาแฟมาให้ ฉันจะช่วยต้มกาแฟให้คุณเอง”
เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมาทันที ในดวงตาประหนึ่งน้ำหมึกดำได้มีแสงประกายเล็กๆแวบออกมา “จริงเหรอ?”
เหมือนกับเด็กที่ได้คำสัญญาที่ตัวเองต้องการมา ความรู้สึกดีใจได้ผุดขึ้นมาบนใบหน้า
มู่น่อนน่อนเห็นเขาอย่างนี้แล้ว ในใจก็หนักใจอยู่บ้าง “อืม”
ในใจของเธอ เฉินถิงเซียวก็คงจะเป็นคุณชายเฉินที่สูงส่งเหนือใครคนนั้น จู้จี้จุกจิกทั้งยังหยิ่งยโส
ท่าทางที่แค่ง่ายๆก็พึงพอใจแล้วอย่างนี้ของเขาในตอนนี้ แต่กลับทำให้มู่น่อนน่อนปรับตัวไม่ทันอยู่บ้าง
จนกระทั่งถึงตอนที่กินข้าวเช้า อารมณ์ของเฉินถิงเซียวก็ยังคงดีอยู่เหมือนเดิม
แสดงท่าทีออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ตอนที่เฉินมู่บอกว่าเธอไม่อยากกินไข่แดงของไข่ไก่ต้ม เฉินถิงเซียวก็รับไปกินมันไปเงียบๆ
กินข้าวแล้ว มู่น่อนน่อนได้พาเฉินมู่กลับห้อง “แม่ช่วยมัดผมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนู”
วันนี้ต้องกลับไปตระกูลเฉินด้วยกันกับเฉินถิงเซียว สำหรับในบางแง่ความหมายนึงแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาสามคนพ่อแม่ลูกได้กลับตระกูลเฉินอย่างเป็นทางการ
ดังนั้นแล้วมู่น่อนน่อนเลือกที่จะใช้ความคิดในการแต่งตัวให้กับตัวเองกับเฉินมู่สักหน่อย
เฉินมู่มีหน้าตาสวยผิวขาวนวล ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดีไปหมด
จัดแจงให้เฉินมู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่น่อนน่อนจึงกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้า
เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จากนั้นก็ถึงจะนั่งลงแต่งหน้าตรงข้างหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
ตอนที่มู่น่อนน่อนเขียนคิ้ว ก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมองตนอยู่
เธอหันหน้าไปตามความรู้สึก ก็เห็นเฉินถิงเซียวกำลังเอียงตัวพิงเข้ากับขอบประตู
เขากอดแขนทั้งสองข้างเอาไว้ มองเธอไปด้วยสีหน้าที่เหม่อลอย มองไปแล้วดูเหมือนกับว่าจะดูอยู่นานแล้ว
มือที่กำลังเขียนคิ้วอยู่ของมู่น่อนน่อนได้หยุดชะงักไป มองเขาไม่พูดอะไร ส่งสัญญาณให้เขาออกไป
ตอนนี้เธอไม่ได้แต่งหน้าตามปกติ มือไม้ไม่ค่อยจะชินอยู่บ้าง คิ้วก็ไม่อาจเขียนให้เสร็จในทันทีได้ ปกติตอนที่เขียนคิ้วเวลาออกจากบ้าน เขียนๆไปก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะมีอะไร
ถูกเฉินถิงเซียวมองการแต่งหน้า มักจะรู้สึกแปลกๆอยู่ตลอด
เฉินถิงเซียวไม่เพียงแต่จะไม่ไป แต่กลับยังเดินตรงเข้ามาหาเธอ
เขาเดินเข้าไปยืนนิ่งอยู่ที่ข้างหลังมู่น่อนน่อน สายตาจรดไปที่บนคิ้วที่เธอเพิ่งจะลากเส้นไปเมื่อกี้ พลางเอ่ยออกมาด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก “คุณสามารถวาดให้มันเท่ากันเองได้เหรอ? ให้ผมช่วยคุณเป็นไง?”
มู่น่อนน่อนนิ่งอึ้งไปแป๊บนึง จากในกระจก สามารถมองเห็นสีหน้าที่แสดงออกมาของเฉินถิงเซียวได้ชัดเจน
สีหน้าที่แสดงออกมาของเฉินถิงเซียวไม่เหมือนกับกำลังล้อเล่นอยู่เลยสักนิดเดียว
“คุณทำเป็น?” มู่น่อนน่อนแคลงใจอยู่บ้าง เพราะว่าแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเห็นเฉินถิงเซียววาดภาพเลย
เธอไม่เชื่อชายแท้ๆที่ไม่มีพื้นฐานความชำนาญทางด้านศิลปะเลยสักนิดคนหนึ่ง จะเขียนคิ้วเป็น
เฉินถิงเซียวเลิกคิ้วออกมา พลางพยักหน้าออกมาด้วยสีหน้ามั่นใจ “อืม”
มู่น่อนน่อนยื่นดินสอเขียนคิ้วไปให้เขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เฉินถิงเซียวรับดินสอเขียนคิ้วมา แล้วสั่งออกไป “หันหน้ามา หลับตาลง”
มู่น่อนน่อนหลับตาลง ปล่อยให้เฉินถิงเซียวเขียนคิ้วให้เธอไป
ผ่านไปหลายนาที เสียงของเฉินถิงเซียวก็ได้ดังขึ้นมา “เสร็จแล้ว”
มู่น่อนน่อนกำลังจะลืมตาออกมา ก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่มที่บนริมฝีปากของตัวเอง
เธอได้ลืมตาออกมาทันที ตรงหน้าก็คือใบหน้าที่ขยายใหญ่ออกมาของเฉินถิงเซียวนั่นเอง
มู่น่อนน่อนนั่งอยู่บนเก้าอี้ มือข้างหนึ่งของเฉินถิงเซียวได้ค้ำยันอยู่ที่บนโต๊ะเครื่องแป้งด้านหลังเธอ ส่วนมืออีกข้างนึงประคองท้ายทอยของเธอให้เธอเงยหน้าขึ้นมา ส่วนเขาก็ได้โน้มตัวกดริมฝีปากเธอเอาไว้ จูบดูดดื่มเข้ามา
ด้านหลังเป็นขอบโต๊ะเครื่องแป้ง ข้างหน้าเป็นหน้าอกของเฉินถิงเซียว
มู่น่อนน่อนไม่มีที่ให้ถอย มือทั้งสองข้างไม่รู้จะไปวางที่ไหนดี จึงกำชายเสื้อของเฉินถิงเซียวแน่นอย่างไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันยังไง
จูบนี้กับครั้งที่แล้วเมื่อเทียบกันแล้ว ดูเหมือนว่าจะอ่อนโยนขึ้นมาหน่อยนึง
เพียงแต่ว่าความอ่อนโยนมันไม่ได้ดำรงต่อไปได้นานนัก เขาก็เริ่มเปลี่ยนไปจนอุกอาจขึ้นมาเล็กน้อย
ในเวลานี้ด้านนอกก็ได้มีเสียงฝีเท้าเบาๆดังเข้ามา
เป็นเฉินมู่ที่เข้ามาหา
ถึงแม้ว่าจะไม่อยากปล่อยไปอย่างนี้เลย แต่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เฉินถิงเซียวจำต้องปล่อยเธอไป
ก่อนที่จะเหยียดตัวขึ้นไป เฉินถิงเซียวก็เหมือนกับจะไม่ยินยอมก็ไม่ปาน จึงได้กัดลงไปเบาๆบนคางของเธอ จากนั้นก็ถึงจะเหยียดตัวยืนตัวตรงขึ้นมา พลางจัดเสื้อผ้าให้มู่น่อนน่อนไปด้วย
สีหน้าของมู่น่อนน่อนแดงออกมาเล็กน้อย ในดวงตาแมวทั้งสองข้างส่องประกายออกมา ตัวเธอมองไปแล้วน่ากินสุดๆไปเลย
ลูกกระเดือกของเฉินถิงเซียวขยับออกมาเล็กน้อย เสียงทุ้มต่ำและแหบพร่าออกมา “ผมไปห้องน้ำแป๊บนึง คุณเตรียมตัวเสร็จแล้วก็ออกมานะ”
ตอนที่เขาพูด ยังยื่นมือไปทัดผมให้เธอ การกระทำเป็นไปอย่างอ่อนโยนและอาลัยรัก
เฉินถิงเซียวออกไป ก็พาเฉินมู่ไปด้วย
มู่น่อนน่อนเงี่ยหูฟังอยู่สักพักนึง รู้สึกได้ว่าด้านนอกไม่มีเสียงอะไรแล้ว จึงได้หันหน้าไปเผชิญเข้ากับโต๊ะเครื่องแป้ง
ตอนที่เธอมองเห็นคิ้วของตนที่หนาเสียจนเหมือนกับคิ้วของชินจังในกระจกไปชัดเจน ก็ตะโกนเสียงดังออกมาด้วยความโกรธจัด “เฉินถิงเซียว!”