ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 516 ขุดหลุมให้เธอกระโดดลงไป
ทั้งสองคนหอบหายใจแรง
ฝ่ามือใหญ่ของเฉินถิงเซียววางลงบนมือที่กำหมัดแน่นของเธอ แล้วค่อยๆ กุมมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน และจับมือเธอไว้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณแต่งงานกับผมได้ไหม”
“อืม…” ตอนนี้สติของมู่น่อนน่อนเหลือเพียงครึ่งเดียว ที่เธอตอบจึงเป็นการตอบสนองของจิตใต้สำนึกอย่างสมบูรณ์แบบ
วินาทีต่อมา เขาก็ประทับจุมพิตที่พรั่งพรูไปทั่วใบหน้าและเรือนร่างของเธอ
…….
แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่าง แสงแดดที่แยงตาลอดผ่านช่องผ้าม่านเข้ามา
ทั้งสองคนนอนกอดกันอยู่บนเตียงในห้องนอน
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์ที่ข้างเตียงก็สั่นขึ้นมากะทันหัน ก่อนที่เสียงเรียกเข้าที่ปลุกจิตวิญญาณและทำลายความเงียบของเช้าวันนี้
มู่น่อนน่อนฝังทั้งหัวของเธอไว้ในผ้าห่ม แต่ก็ยังได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ เธอไม่ได้ดึงผ้าห่มออก เพียงแต่เหยียดแขนเรียวของเธอออกไป เพื่อควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียง
ที่แตกต่างไปจากเดิม คือครั้งนี้เธอยังความหาโทรศัพท์ไม่เจอ แต่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็หยุดลงก่อน
มู่น่อนน่อนลืมตาขึ้นครึ่งหนึ่ง แล้วดึงผ้าห่มลง ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นมา เธอก็ได้ยินเสียงแหบแห้งของผู้ชายดังขึ้นมาข้างหูว่า “ยังเช้าอยู่ นอนต่ออีกหน่อยเถอะ”
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังพูด เขาก็ดึงผ้าห่มมาห่มให้เธอด้วย
มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะมองไปตามเสียง ที่เห็นตรงหน้าคือใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายของเฉินถิงเซียว
พอเห็นมู่น่อนน่อนเหล่มองมาที่เขา ท่าทางของเฉินถิงเซียวก็ยังง่วงนอนและขี้เกียจ แม้แต่สายตาของเขาก็อ่อนโยนขึ้นหลายส่วน
เขาจูบหน้าผากมู่น่อนน่อนเบา ๆ แล้วกอดเธอไว้ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง “นอนเถอะ”
เมื่อคืนที่ผ่านมามู่น่อนน่อนเหนื่อยจริงๆ ตอนนี้พอถูกเสียงที่ไพเราะและอ่อนโยนของเฉินถิงเซียวปลอบโยน เธอจึงหลับตาลงและผล็อยหลับไปอีกครั้ง
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทันทีที่มู่น่อนน่อนลืมตาตื่น เธอก็ได้ยินเฉินถิงเซียวกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยเสียงเคร่งขรึม
เธอขยับร่างกายส่วนบนของเธอขึ้นมา แล้วเห็นว่าเฉินถิงเซียวกำลังสวมผ้าเช็ดตัวไว้รอบเอวเธอ ในมือจับโทรศัพท์ไว้แล้วเดินออกไปข้างนอก ในขณะที่พยายามลดเสียงลงเพื่อคุยกับคนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์
เสียงของเขาเบามาก และกำลังจะออกไปข้างนอก มู่น่อนน่อนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดชัดเจนนัก
ได้ยินแค่บางคำและบางประโยคเท่านั้น
“ไร้ความสามารถ…นี้…เรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่ได้…นาย…เขาไม่ใช่…”
มู่น่อนน่อนได้ยินคำพูดติดต่อกันเป็นระยะ แต่ไม่สามารถรวบรวมประโยคของเขาให้สมบูรณ์ได้
ในตอนนี้เฉินถิงเซียวเดินไปที่ประตูแล้ว เขาเดินออกไปข้างนอก ก่อนจะปิดประตูด้วยหลังมือแล้วเดินออกไป ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นว่ามู่น่อนน่อนตื่นนอนแล้ว
แต่เขาเพิ่งเอามือแตะลูกบิดประตู ก็หันกลับมามองที่เตียง ราวกับว่ากำลังพิสูจน์ด้วยว่ามู่น่อนน่อนยังหลับอยู่หรือเปล่า
เพราะแบบนี้ ดวงตาของทั้งสองจึงปะทะกันกลางอากาศ
เฉินถิงเซียวที่กำลังจะปิดประตูก็หยุดลง ก่อนจะกดวางสายโทรศัพท์ เดินกลับไปที่เตียง “ตื่นมาทำไมครับ นอนพักต่ออีกสักหน่อยเถอะ”
เธอมุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม จู่ๆ เรื่องที่เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาในสมอง…
ทั้งที่เธอกับเฉินถิงเซียวกำลังทะเลาะกัน กำลังพูดถึงลี่จิ่วเชียน ทำไมพวกเธอถึงม้วนตัวอยู่ด้วยกันในตอนท้าย?
“นอนพักต่อเถอะ” เฉินถิงเซียวลูบหัวเธอ แล้วช่วยห่มผ้าห่มให้เธอ
มู่น่อนน่อนดึงผ้าห่มคลุมศีรษะของเธอ ไม่มองเฉินถิงเซียวอีก
หลังจากที่เฉินถิงเซียวเดินออกไป มู่น่อนน่อนก็ลุกขึ้นนั่งโดยใช้ผ้าห่มคลุมตัว แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะข้างเตียง
มีสายที่ไม่ได้รับหลายสาย เป็นเสิ่นเหลียง และสือเย่ที่โทรมา
สือเย่โทรหาเธอ คงหนีไม่พ้นตามหาเฉินถิงเซียว
พอคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็อดที่จะหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้
สือเย่โทรหาเธอเพื่อตามหาเฉินถิงเซียว คงเป็นเพราะเขาไม่เห็นเฉินถิงเซียวที่บ้าน โทรหาก็ไม่รับสาย เขาจึงโทรหาเธอ
สือเย่คงเดาได้ว่าเฉินถิงเซียวใช้เวลาอยู่กับเธอทั้งคืน
มู่น่อนน่อนขมวดคิ้ว ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกจากเตียงเพื่อหาเสื้อผ้าที่จะใส่
หลังจากที่เธอแต่งตัวเสร็จแล้ว เฉินถิงเซียวก็เดินเข้ามา
เขาก็เห็นมู่น่อนน่อนแต่งตัวอย่างเป็นระเบียบกำลังนั่งดูโทรศัพท์อยู่บนเตียง แล้วชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไป “ทำไมถึงไม่นอนต่อ?”
เขานั่งลงข้างเตียง เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของมู่น่อนน่อนมาแล้ววางลง
มู่น่อนน่อนโน้มตัวหลบมือของเขา แล้วหันหน้าจอโทรศัพท์มาหาเขาอีกครั้ง ก่อนจะกระตุ้นให้เขาอ่านเนื้อหาบนโทรศัพท์
พอเฉินถิงเซียวเห็นเนื้อหาบนโทรศัพท์ สีหน้าของเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลย แสดงว่าเขาได้เห็นเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว
เนื้อหาในโทรศัพท์เป็นเพียงเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเขาและซูเหมียน
ในงานเลี้ยงเมื่อคืน มีนักข่าวแอบแฝงตัวเข้าไป แล้วยังถ่ายรูปเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนไว้มาก ทั้งรูปที่ยืนด้วยกันหรือนั่งด้วยกัน
แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ใกล้ชิดกัน แต่เพราะมุมในการถ่ายภาพ เฉินถิงเซียวกับซูเหมียนจึงถูกถ่ายภาพออกมาเหมือนทั้งสองสนิทสนมกันมาก
ภาพถ่ายที่ดูอบอุ่นที่สุด คงเป็นภาพที่เฉินถิงเซียวอุ้มเฉินมู่ออกมาจากซูเหมียน
โชคดีที่เฉินถิงเซียวระมัดระวังตัวมาก ตอนที่เขาอุ้มเฉินมู่มาจากซูเหมียน เขาพยายามปิดใบหน้าของเธอไว้
แม้แต่นักข่าวมืออาชีพก็ไม่สามารถถ่ายรูปใบหน้าของเฉินมู่ได้ ซึ่งก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเฉินถิงเซียวระมัดระวังมากแค่ไหน
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น นักข่าวก็เอาถ่ายภาพเหล่านี้มาแต่งเป็นเรื่องราวแล้วโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต และถูกสำนักพิมพ์อื่นเอาไปโพสต์ต่อ จนตอนนี้ข่าวทั้งหมดถูกแพร่จนทั่วอินเทอร์เน็ต
เฉินถิงเซียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาวางบนเตียง แล้วมองไปที่มู่น่อนน่อนอย่างตั้งใจ และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “มู่น่อนน่อน คุณไม่ต้องดูข่าวไร้ประโยชน์พวกนี้หรอก ข่าวปลอมทั้งนั้น ผมจะรีบให้คนจัดการให้เร็วที่สุด คุณเตรียมพร้อมที่จะเป็นเจ้าสาวก็พอแล้ว”
“เจ้าสาวอะไรคะ” คำพูดก่อนหน้านี้ของเฉินถิงเซียวเธอพอจะฟังเข้าใจ แต่เธอไม่ค่อยเข้าใจประโยคหลัง
เธอจำไม่ได้ว่าเธอรับปากกับเฉินถิงเซียวว่าจะแต่งงานกับเขาตอนไหน
“เมื่อคืนคุณลืมคำตอบของตัวเองไปแล้วหรือไง?” เฉินถิงเซียวหรี่ตาลง แล้วพูดข่มขู่
มู่น่อนน่อนเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ “ฉันสัญญากับคุณตอนไหนคะ?”
ถ้าเธอตอบตกลงกับเฉินถิงเซียวจริง ๆ เธอจะจำไม่ได้ได้ยังไงกัน?
ไม่แน่ว่าอาจเป็นเฉินถิงเซียวขุดหลุมเพื่อให้เธอกระโดดลงอีกครั้งก็ได้