ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 530 ใส่ให้คุณดูคนเดียว
มู่น่อนน่อนวางสายโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ
เธอถูกเฉินถิงเซียวข่มขู่สำเร็จอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ในใจของเธอคิดอะไร เขารู้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ดังนั้นทุกครั้งที่ข่มขู่เธอถึงได้ประสบความสำเร็จทุกครั้ง
คล้ายกับว่าตั้งแต่ที่ทั้งสองคนเริ่มต้นมาจนถึงตอนนี้ เธอก็ถูกเฉินถิงเซียวข่มขู่มาตลอด
อีกทั้ง เฉินถิงเซียวไม่เคยพลาดสักครั้ง
มู่น่อนน่อนท้อแท้อยู่บ้าง
………
มู่น่อนน่อนกินข้าวกลางวันที่สตูดิโอของฉินสุ่ยซาน หลังจากนั้นก็ประชุมสั้นๆ และขับรถไปยังร้านชุดแต่งงาน
เฉินถิงเซียวรอเธออยู่ในร้านชุดแต่งงานแล้ว
ตอนที่เธอเข้าไป เฉินถิงเซียวกำลังพลิกอ่านนิตยสารการเงินและเศรษฐศาสตร์ที่อยู่ในมือ
เขานั่งหันหลังให้เธอ มู่น่อนน่อนเกิดความรู้สึกนึกสนุกขึ้นมา ทำมือเงียบเสียงให้กับพนักงานร้าน และเดินย่องไปทางเฉินถิงเซียว เตรียมทำให้เขาตกใจ
เพียงแต่ในตอนที่เธออยู่ในจุดที่ห่างจากเฉินถิงเซียวสองก้าว เฉินถิงเซียวก็เรียกชื่อเธอออกมากะทันหัน
“มู่น่อนน่อน”
เฉินถิงเซียวไม่ได้ขยับ นิตยสารในมือก็ไม่ได้ถูกวางลงเช่นกัน
เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอมาแล้วกัน
มู่น่อนน่อนหยุดฝีเท้า ผ่านไปสองวินาทีถึงได้เดินไปที่ด้านหลังเขา ขยี้เส้นผมเขาราวกับระบายความแค้น “คุณยังไม่เห็นฉันเลย คุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน”
เฉินถิงเซียวจับมือเธอที่กำลังทำให้ผมเขายุ่งเอาไว้ เธออยากจะดึงกลับมา เขาก็จับแน่นกว่าเดิม ที่มากกว่านั้นก็คือ เขาจับมือเธอทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยกัน
แบบนี้ มู่น่อนน่อนก็ทำได้เพียงแค่ยืนอยู่ด้านหลังเขา
เขาหันหน้ากลับมามองมู่น่อนน่อน เอ่ยด้วยท่าทางจริงจังว่า “คำถามนี้ คุณคิดแล้วก็คิดไม่ออกหรอก”
มู่น่อนน่อนเลิกคิ้ว ถามเขา “ทำไม”
เฉินถิงเซียวใช้มือที่ว่างอีกข้างหนึ่งชี้ไปที่ศีรษะของตัวเอง
มู่น่อนน่อนถูกเฉินถิงเซียวทำท่าทางรังเกียจไปหลายครั้ง จึงเข้าใจความหมายที่เฉินถิงเซียวต้องการแสดงออกมาได้ในทันที
ความหมายของเฉินถิงเซียวก็คือ ด้อยสติปัญญา
นี่ยังจะทนได้หรือ?
มู่น่อนน่อนถมึงตาใส่เขา “เฉินถิงเซียว ให้โอกาสคุณในการปฏิบัติตัวใหม่อีกครั้ง ตอบคำถามเมื่อครู่ใหม่อีกครั้ง ไม่อย่างนั้นวันนี้คุณก็รอที่จะนอนที่ระเบียงทางเดินเถอะ”
และไม่รู้ว่าคำพูดประโยคใดสะกิดถูกต่อมอารมณ์ขันของเฉินถิงเซียว จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมา
ทั้งยังเป็นการหัวเราะที่หยุดไม่ได้ด้วย
เฉินถิงเซียวกุมมือเธอเอาไว้ ดึงเธอมาด้านหน้า ร่างกายส่วนบนของเธอจึงเอนมาทางเขา
แต่เป็นเพราะเธอยืนอยู่ด้านหลังเฉินถิงเซียว ดังนั้นจึงล้มพิงลงไปบนร่างของเฉินถิงเซียวทั้งร่าง
มือหนึ่งของเฉินถิงเซียวกดเธอเอาไว้ อีกมือหนึ่งก็กดมือเธอ และจุมพิตลงไปราวกับรอบด้านไม่มีใคร
มู่น่อนน่อนเบิกตากว้าง เธอเพียงแค่เล่นสนุกตามสบายชั่วคราวเท่านั้นเอง ตอนนี้ทำให้คนได้เห็นเรื่องตลกแล้ว
เธอรู้ว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนที่ทำตามใจปรารถนาคนหนึ่ง ไม่เคยควบคุมตัวเองในด้านนี้เลย
เธอจึงทำได้เพียงแค่กัดเฉินถิงเซียวไปคำหนึ่ง แรงก็ไม่ได้เบามาก
เฉินถิงเซียวรู้สึกเจ็บ จึงเป็นธรรมดาที่จะปล่อยเธอออก
แต่นี่เป็นเพียงแค่ความคิดของเธอเท่านั้น เฉินถิงเซียวกลับไม่ได้ทำแบบนั้น
เขาไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยเธอ แต่กลับจุมพิตหนักหน่วงขึ้น
พนักงานร้านที่อยู่ด้านข้างล้วนเบนสายตาตามจิตใต้สำนึก ไม่มองพวกเขา
ผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินถิงเซียวถึงได้ปล่อยมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนลูบริมฝีปากตัวเอง รู้สึกได้ว่าริมฝีปากบวมตัวเองบวมแล้ว หลังจากนั้นก็มองเฉินถิงเซียวอย่างไม่สบอารมณ์
เธอลองชุดเจ้าสาวตลอดทั้งบ่ายอีกครั้ง
ทว่าในครั้งนี้ เธอลองสังเกตสีหน้าของเฉินถิงเซียวอย่างละเอียด
ทุกครั้งที่เธอลองชุดเจ้าสาวออกมา เฉินถิงเซียวล้วนตั้งใจมองเธอ บนใบหน้าไม่มีความหงุดหงิดรำคาญใจเลยแม้แต่น้อย
คล้ายกับว่าเขารู้สึกว่าชุดเจ้าสาวทุกชุดไม่เลวเลยจริงๆ ถึงได้พยักหน้าตลอด……..
มู่น่อนน่อนลองจนเหนื่อยแล้ว ระหว่างพักผ่อนก็วิ่งไปถามเขา “คุณไม่รู้สึกว่าชุดเจ้าสาวชุดไหนสวยเป็นพิเศษหรือ”
คำตอบของเฉินถิงเซียวธรรมดาและตรงไปตรงมา “ไม่มี”
มู่น่อนน่อนถูกคำพูดของเขาทำให้สำลักไปครู่หนึ่ง
เฉินถิงเซียวเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง เขาจึงมองความรู้สึกบนใบหน้าของมู่น่อนน่อนออกได้อย่างรวดเร็ว เธอไม่พอใจต่อคำตอบนี้
เขาขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เลือกที่จะพูดความจริงออกมา “เพราะว่าถูกสวมอยู่บนร่างของคุณ ดังนั้นทุกชุดล้วนไม่เลว”
มู่น่อนน่อนกระพริบตาปริบๆ ผ่านไปไม่กี่วินาที ถึงได้เอ่ยว่า “คุณพูดว่าทุกชุดล้วนไม่เลว หมายความว่าเช่นนี้?”
“อืม” เฉินถิงเซียวพยักหน้าจริงจัง
ยิ่งคนที่พูดคำหวาน เอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมาด้วยท่าทางจริงจังในตอนที่ไม่แคร์ ก็ยิ่งทำให้คนชื่นชอบมากยิ่งขึ้น
มู่น่อนน่อนหลุดหัวเราะ เขยิบเข้าไปจุมพิตเขา
เฉินถิงเซียวเหลือบตาขึ้นมองเธอ ดูเหมือนจะไม่เข้าใจถึงจุมพิตที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้
มู่น่อนน่อนก็ไม่อธิบายให้เขารู้ เพียงแค่ยิ้มน้อยๆ และเข้าไปลองชุดเจ้าสาวอีกสองชุด
การแต่งงานเป็นเพียงแค่รูปแบบหนึ่งเท่านั้น เธอกับเฉินถิงเซียวอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ความจริงแล้วรู้สึกเฉยๆกับสิ่งเหล่านี้มาก
เธอไม่เคยต้องอาศัยรูปแบบภายนอกเหล่านั้น ไปตามหาความรู้สึกมั่นคง
เธอเป็นอิสระเร็วเกินไป คนที่รู้จักพึ่งพามากที่สุดก็คือตัวเอง เธอไม่คิดอยากจะตามหาความรู้สึกมั่นคงจากเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวเป็นคนที่มีอำนาจมากคนหนึ่ง เขาสามารถกลายเป็นที่พักพิงของเธอได้นั้นมิผิด เธอก็ไว้ใจเขามากเช่นกัน
แต่เรื่องไม่คาดฝันในชีวิต มักจะมาอย่างกะทันหัน
ยกตัวอย่างเช่นการที่ต้องแยกจากกันในสามปีที่ผ่านมา และยกตัวอย่างเช่นเธอกับเฉินถิงเซียวที่สูญเสียความทรงจำ
ชีวิตคนเราเปลี่ยนแปลงได้มากมาย ไม่มีใครสามารถเป็นที่พักพิงของใครได้ตลอดชีวิต
แม้ว่าจะไม่มีเฉินถิงเซียว เธอก็สามารถปกป้องตัวเองให้ผ่านไปได้ด้วยดีได้
………
สุดท้าย มู่น่อนน่อนก็เลือกชุดเจ้าสาวมาสามชุด ให้เฉินถิงเซียวเลือกให้เธอชุดหนึ่ง
ชายหนุ่มที่คิดอุบายวางแผนในการทำธุรกิจ กลับถูกชุดเจ้าสาวสามชุดทำให้ลำบากใจเสียแล้ว
มู่น่อนน่อนยืนอยู่ตรงหน้าเขา เงยหน้ายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน “เฉินถิงเซียว ชุดแต่งงานนี้ฉันสวมให้คุณดูคนเดียว คุณเลือกมาชุดหนึ่งตามใจคุณ”
…..เป็นชุดที่สวมให้คุณดูคนเดียว
เฉินถิงเซียวร่างสั่นสะท้าน บนใบหน้ามีแววตกใจพาดผ่าน
มู่น่อนน่อนจับมือของเขา น้ำเสียงเจือไปด้วยการโอ๋เล็กน้อย “ช่วยฉันเลือกชุดหนึ่งนะ”
เฉินถิงเซียวพยักหน้าอย่างเชื่องช้า “อืม”
สายตาของเฉินถิงเซียวกวาดมองผ่านชุดเจ้าสาวสามชุดนั้นทีละชุด สุดท้ายก็ตกลงบนชุดเลอค่าของร้านที่ผู้จัดการร้านพูดชุดนั้น
นั้นเป็นชุดเจ้าสาวที่นักออกแบบเลื่องชื่อที่เสียชีวิตไปแล้วคนหนึ่งออกแบบในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นชุดสุดท้าย เป็นชุดที่ทำสำเร็จด้วยกันกับสามีเธอ ทั่วทั้งโลกมีเพียงแค่ชุดนี้ชุดเดียว
ชุดเจ้าสาวชุดนี้ผลิตขึ้นในหลายปีก่อน แต่ตอนนี้มองดูแล้วก็ยังคงสวยงามและโดดเด่น
ระหว่างทางกลับ เฉินถิงเซียวขับรถ ส่วนมู่น่อนน่อนก็เล่นโทรศัพท์มือถือ
เธอเลื่อนดูไทม์ไลน์ในวีแชทก่อน หลังจากนั้นก็เข้าไปในเว่ยป๋อ
เพราะข่าวไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เว่อป๋อของเธอได้รับข้อความส่วนตัวจำนวนมาก และยังมีข้อความที่เธอยังไม่ได้อ่าน
นอกจากคอมเม้นท์บางส่วน ก็ยังมีข้อความที่ @ เธอด้วย
เมื่อเธอเข้าไปในเว่ยป๋อ โทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้นมา
ในส่วนแจ้งเตือนของโทรศัพท์มือถือมีข้อความเตือนเด้งขึ้นมาไม่หยุด
เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือ
โทรศัพท์มือถือสั่นไม่หยุด มือของเธอถูกแรงสั่นสะเทือนทำให้ชาไปเล็กน้อย ถึงได้เข้าไปปิดการโหมดสั่นเตือนในตั้งค่า
โทรศัพท์มือถือดัง “ครืดๆ” ไม่หยุด จึงดึงดูดความสนใจของเฉินถิงเซียว
เขาหันหน้ามาถามเธอ “ทำไมหรือ”