ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 532 คุณนายเฉินคุณมีเหตุผลหรือเปล่า?
พอเฉินถิงเซียวลงจากรถไป ก็เห็นเฉินมู่
“เฉินชิงเซียว”
เฉินมู่เหมือนกับกลัวว่าเขาจะโกรธ จึงเข้าไปหลบหลังคนใช้ไปอย่างรวดเร็ว แล้วส่งเสียงเรียกไปอย่างอยู่เป็นสุดๆ “คุณพ่อ!”
เฉินถิงเซียวมองเฉินมู่ไปหลายวิด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ จากนั้นก็แสยะริมฝีปากเผยรอยยิ้มไปทางเฉินมู่
มู่น่อนน่อนบอกว่าเขาโมโหใส่เฉินมู่ งั้นเขาก็ยิ้มให้เฉินมู่ก็จบล่ะมั้ง?
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเคยโมโหใส่เฉินมู่มาก่อน
แต่ผลสุดท้าย เขาไม่ยิ้มก็ยังดีอยู่ พอเขายิ้มมาแล้ว ก็ได้ทำให้เฉินมู่กลัวจนร้องไห้ออกมาเลย
มู่น่อนน่อนลงจากรถอยู่ที่ข้างหลัง ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองพ่อลูกคู่นี้ ก็เห็นเฉินมู่ร้อง “ว้าก” ขึ้นมาพอดี
“เป็นอะไรไป? มู่มู่” มู่น่อนน่อนพอได้ยินเสียงร้องไห้ ก็เดินเข้ามาทางเฉินมู่แล้วอุ้มเธอขึ้นมา
เฉินมู่ชี้ไปที่เฉินถิงเซียว ร้องไห้ออกมาไม่หยุด
มู่น่อนน่อนก็ได้หันหน้าไปมองเขาเช่นกัน
ไม่รอให้เธอพูดออกมา เฉินถิงเซียวได้ชิงพูดออกมาก่อน “ผมไม่ได้ดุเธอ และก็ไม่ได้โมโหใส่เธอด้วย”
เขาพูดจบ ก็ได้ก้าวเข้าประตูวิลล่าไป
เงาร่างเบื้องหลังมองไปแล้วเต็มไปด้วยความโกรธ
มู่น่อนน่อนอุ้มเฉินมู่เดินอยู่ที่ข้างหลัง ปลอบเฉินมู่ออกไปเบาๆ เฉินมู่จึงไม่ได้ร้องไห้อะไรมากมายแล้ว
เธอเอียงตัว ยืดคอยาวออกมา หลังจากที่เห็นเฉินถิงเซียวเข้าไปในบ้านแล้ว ถึงจะสูดจมูกไม่ได้ร้องไห้ออกมาแล้ว
“ทำไมถึงต้องร้องไห้? คุณพ่อดุหนู?” มู่น่อนน่อนยื่นมือไปปาดเช็ดน้ำตาให้เธอ ถามเธอไปอย่างอ่อนโยน
“เปล่า…” เฉินมู่เช็ดน้ำตาบนใบหน้าตัวเอง เอ่ยออกมาด้วยเสียงอ้อแอ้
มู่น่อนน่อนมึนงงอยู่บ้างเล็กน้อย “แล้วเป็นเพราะอะไร?”
เฉินมู่ถูกถามโดนจุดที่รู้สึกเสียใจเข้า ก็ได้บึนปากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่ลืมที่จะตอบคำถามของมู่น่อนน่อนออกไปก่อน
“คุณพ่อเขายิ้มให้หนู…ฮือ…ฮือ…”
มู่น่อนน่อน “…”
เธออ้าปากออกมา พูดไม่ออกไปชั่วขณะ
เธอเพิ่งได้ยินมาเป็นครั้งแรก เด็กถูกรอยยิ้มของพ่อทำเอากลัวจนร้องไห้ออกมาเลย
คุณชายใหญ่เฉินเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลย
มู่น่อนน่อนอยากจะหัวเราะอยู่บ้าง แต่เห็นเฉินมู่ร้องไห้เสียจนเสียใจขนาดนี้ จึงตัดสินใจเลือกที่จะปลอบเฉินมู่ให้เสร็จก่อน “คุณพ่อยิ้มให้หนู เป็นเพราะชอบหนู เป็นเพราะมีความสุขไง ทำไมหนูยังร้องไห้ออกมาอีก?”
“น่ากลัว…” เฉินมู่พูดสองคำนี้ออกมาอย่างสะอึกสะอื้น เอาหัวฝังเข้าไปในอ้อมแขนของมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
“ทำไมถึงได้น่ากลัวไปได้ล่ะ เขาชอบหนูต่างหากจึงได้ยิ้มมาให้หนูไง”
เฉินมู่ร้องไห้เสียงดังออกมากว่าเดิม
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้จักวิธีการอยู่ร่วมกันของสองพ่อลูกคู่นี้ดีพอ นึกไม่ถึงว่าเพียงแค่รอยยิ้มเดียวของเฉินถิงเซียวจะสามารถทำให้เฉินมู่กลัวจนร้องไห้ออกมาได้
ตอนที่เธออุ้มเฉินมู่เข้าห้องโถงใหญ่ เฉินมู่ก็ได้สงบลงแล้ว
เธอวางเฉินมู่ลง แล้วมองหาเงาร่างของเฉินถิงเซียวไปรอบๆ
คนใช้มองออกว่ามู่น่อนน่อนกำลังหาเฉินถิงเซียวอยู่ จึงเป็นฝ่ายเข้ามาพูดเองว่า “คุณหญิง คุณผู้ชายอยู่ข้างบนค่ะ”
“อืม” มู่น่อนน่อนพยักหน้าออกมาเล็กน้อย แล้วเอ่ยกับเฉินมู่ออกไป “หนูเป็นเด็กดีรออยู่ที่ตรงนี้ แม่จะไปชั้นบนหน่อย”
“ค่ะ” เฉินมู่นั่งเล่นของเล่นอยู่บนโซฟา
เด็กน้อยก็ยังคงเป็นเด็กน้อย เมื่อกี้ร้องไห้หนักขนาดนั้น ตอนนี้ได้เล่นเสียจนสนุกสนานขนาดนี้แล้ว
มู่น่อนน่อนขึ้นมาชั้นบน มาหาเฉินถิงเซียวที่ในห้องนอน
เธอเปิดประตูเข้าไป เฉินถิงเซียวกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดกางเกงอยู่พอดี
มู่น่อนน่อนได้หันหน้าออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เอ่ยออกไปอย่างไม่พอใจ “คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่รู้จักล็อกประตูหรือไง!”
“ไม่มีคนใช้กล้าอาจหาญเข้าห้องผมโดยไม่ได้รับอนุญาตหรอก ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องของผม คุณก็บุกเข้ามาเอง แล้วก็มาโทษผม?”
เฉินถิงเซียวสวมกางเกง เดินเข้าไปหาเธอช้าๆ “มองร่างกายของผมแล้ว คนร้ายร้องทุกข์ออกมาก่อนอีก คุณนายเฉินคุณมีเหตุผลหรือเปล่า?”
มู่น่อนน่อนรู้สึกได้ว่าเสียงของเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จึงก้าวเดินไปทางข้างๆประตู “คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ออกมาเอง”
ขายาวของเฉินถิงเซียวก้าวเข้าไปข้างหน้า เพียงพริบตาเดียวร่างก็ได้เดินเข้ามาขวางทางหน้าของเธอเอาไว้
มู่น่อนน่อนถูกขวางทางเอาไว้ แต่เห็นเขาได้สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว จึงได้เงยหน้าไปมองเขา
เฉินถิงเซียวเองก็ได้ก้มหน้าลงมาพอดี น้ำเสียงทุ้มต่ำออกมา “หนีอะไร? ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นเสียหน่อย”
มู่น่อนน่อนไม่อยากพูดประเด็นนี้กับเขา เพราะว่าถ้าเกิดเธอพูดประเด็นนี้กับเขาต่อ ก็จะถูกเขาชักนำไปทางที่ไม่ดีได้ เรื่องจริงจังจะไม่ได้คุยกัน
“ยิ้มให้ลูกสาวตัวเอง แต่กลับทำลูกสาวกลัวจนร้องไห้ รู้สึกยังไง” มู่น่อนน่อนกอดแขนทั้งสองข้าง มองเขาไปพร้อมกับพูดคำพูดเสียดสีเขาออกมา
เฉินถิงเซียวมีสีหน้าแข็งค้างออกมา แต่เพียงไม่นานก็ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกที แล้วยิ้มเย็นออกมา “ไม่ได้รู้สึกอะไร”
“ปกติคุณก็อย่าทำหน้าบึ้งตึงกับมู่มู่ ยิ้มให้มากๆหน่อย” มู่น่อนน่อนพูด พลางยื่นมือไปหยิกหน้าของเขาเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวแหงนหน้าขึ้นไปทางข้างหลัง ใบหน้านิ่วคิ้วขมวดต่อต้านออกมา “อย่ามาทำมือไม้อยู่ไม่สุข!”
มู่น่อนน่อน “…”
นึกไม่ถึงว่าเฉินถิงเซียวจะไม่ชอบให้เธอมือไม้อยู่ไม่สุข?
มู่น่อนน่อนเก็บมือกลับไป เตะไปที่แข้งของเขาไปทีนึง “หลีกไป ฉันจะออกไป”
เฉินถิงเซียวเม้มริมฝีปากออกมาเล็กน้อย เอ่ยเสียงเย็นออกมา “ไม่หลีก”
“คุณ…” มู่น่อนน่อนกำลังจะพูดอะไรออกไป ก็ได้ถูกเฉินถิงเซียวเอ่ยขัดออกมา “ผมก็จะออกไปเหมือนกัน”
เขาพูดจบ ก็ผันร่างเปิดประตูเดินออกไป
มู่น่อนน่อนรีบออกตามหลังเขาไปติดๆ เพียงไม่นานก็แซงเขาไป เดินไปที่ข้างหน้า
ทั้งสองคนลงไปข้างล่างเรียงหน้าหลังกัน ระหว่างทั้งสองฝ่ายได้รักษาระยะห่างกันเอาไว้ช่วงนึงไม่ห่างกันนัก
เฉินมู่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นเฉินถิงเซียว ยิ้มแล้วส่งเสียงเรียกออกมา “คุณพ่อ”
มู่น่อนน่อนเดินเข้ามานั่งลงที่ข้างๆเฉินมู่ เฉินถิงเซียวเองก็ได้ตามมาด้วยเช่นกัน แล้วก็ได้นั่งลงข้างๆเฉินมู่อีกข้างนึง
เฉินมู่แสดงสีหน้างงงวยออกมา
เธอมองมู่น่อนน่อนไปเล็กน้อย แล้วมองเฉินถิงเซียวไปอีกที รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับส่วนเกินอยู่บ้างเล็กน้อย
ดังนั้นแล้ว เฉินมู่จึงพลิกตัวไปเงียบๆ นอนลงไปบนโซฟาใช้ปลายเท้าเหยียบไปที่พื้น ไถลลงไปจากโซฟา หอบของเล่นบนโซฟาเดินไปเล่นฝั่งตรงกันข้าม
คนใช้เองก็มองออกเหมือนกันว่าเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนทะเลาะกันอยู่ จึงไม่กล้าส่งเสียงออกไป แต่กลับถูกพฤติกรรมของเฉินมู่ทำเอาขำขึ้นมา
แต่ทว่าพวกเธอก็ไม่กล้าจะส่งเสียงหัวเราะออกมา จึงพากันก้มหน้ากลั้นหัวเราะกันเอาไว้
มู่น่อนน่อนมองเฉินถิงเซียวไปแวบนึง แล้วก็ได้ผันร่างหันหลังให้กับเขาไปอย่างรวดเร็วอีกที
ไม่อยากเห็นเขา
เฉินถิงเซียวกอดอก นั่งอยู่ข้างเธอไปด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ทั้งร่างได้แผ่ความเย็นยะเยือกออกมา
คนใช้เตรียมอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไม่กล้าไปเรียกพวกเขา ก็เลยต้องเดินเข้าไปที่ข้างๆเฉินมู่เรียกเธอไปเพื่อเป็นการแก้ปัญหาทางอ้อมออกมา “คุณหนูน้อย กินข้าวได้แล้วค่ะ”
“อ้อ! กินข้าวแล้ว” ในสถานการณ์ปกติ เฉินมู่มีความกระตือรือร้นกับเรื่องการกินข้าวเรื่องนี้มากเลยทีเดียว
เธอกอดหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง ไถลจากโซฟาลงมา จะตามคนใช้ไปที่ห้องรับประทานอาหารด้วย
“คุณหนูน้อย” คนใช้ดันเธอไปเบาๆ พลางชี้ไปที่มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียว
เฉินมู่เป็นเด็กฉลาดคนหนึ่ง วิ่งไปที่ตรงหน้ามู่น่อนน่อนไปดึงมือเธอ พลางเอ่ยเสียงหวานออกไป “คุณแม่กินข้าวได้แล้ว”
มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวทะเลาะกัน แต่ตอนที่ปฏิบัติกับเฉินมู่ก็ยังคงเผยใบหน้ายิ้มออกมาอยู่ “ค่ะ”
เฉินมู่ได้หันหน้าไปมองเฉินถิงเซียวอีกครั้ง กะพริบตาปริบๆออกมาเล็กน้อย แล้วเอ่ยออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก “กินข้าว”
เฉินถิงเซียวกำลังจะพูดอะไรออกไป ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อกี้เพิ่งจะทำเธอกลัวจนร้องไห้ไป น้ำเสียงจึงได้อ่อนโยนลงกว่าปกติไปบ้าง “เรียกใครกินข้าว?”
เฉินมู่มองเขาไปแวบนึง แล้วส่งเสียงเรียกด้วยเสียงอ้อแอ้ออกไป “คุณพ่อ”