ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 533 บัญชีทางการ Weibo ของบริษัทเฉินซื่อออกมาปฏิเสธข่าวลือ
- Home
- ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
- บทที่ 533 บัญชีทางการ Weibo ของบริษัทเฉินซื่อออกมาปฏิเสธข่าวลือ
มู่น่อนน่อนมองเฉินถิงเซียวไปแวบนึง แล้วส่งเสียงเฮอะออกมา พลางจูงเฉินมู่ไปที่ห้องรับประทานอาหาร
เฉินถิงเซียวนั่งอยู่อีกฝั่งนึงคนเดียว มู่น่อนน่อนกับเฉินมู่นั่งอยู่ที่ฝั่งตรงกันข้ามกับเขา
การยืนแถวสามคนพ่อแม่ลูก แบ่งได้อย่างชัดเจนมากเลย
ตอนที่เฉินมู่กินข้าวยังคงเป็นเด็กดีอยู่ อยากกินอะไรก็จะชี้ให้มู่น่อนน่อน ให้มู่น่อนน่อนคีบให้เธอ
“เอากะหล่ำดอกอันนั้น!”
“เอาน่องไก่…”
“กินน่องไก่ก็ได้ งั้นก็ต้องกินผักอีกสักหน่อย…”
เด็กน้อยไม่ค่อยชอบกินผักเท่าไหร่นัก
มู่น่อนน่อนอยากให้เฉินมู่กินผัก ยังต้องเจรจายื่นเงื่อนไขกับเธอถึงจะได้
เฉินมู่ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบกิน แต่เพื่อน่องไก่แล้ว จึงจำต้องฝืนกินไปคำนึง
เฉินถิงเซียวจ้องมองแม่ลูกที่อบอุ่นสนิทสนมกลมเกลียวกันฝั่งตรงข้ามคู่นี้ไปตาเป็นมัน แล้วก็ก้มลงมองชามข้าวตรงหน้าตัวเองไปอีกที จู่ๆก็ไม่มีความอยากอาหารขึ้นมา
เขาวางตะเกียบลงบนอาหารดัง “ปัง” ออกมาทีนึง “ผมอิ่มแล้ว”
เห็นมู่น่อนน่อนไม่มีการตอบสนองออกมา เขาก็จงใจส่งเสียงดังออกไปอีกครั้ง “ผมบอกว่า ผมกินอิ่มแล้ว!”
มู่น่อนน่อนไหนเลยจะไม่รู้ว่าเขาจงใจโยนตะเกียบลงไปเสียเสียงดังขนาดนั้น ก็เพื่ออยากจะดึงดูดความสนใจเธอ
เธอเลิกสายตาขึ้นไป มองเฉินถิงเซียวอย่างรวดเร็วแวบนึง “กินอิ่มแล้วก็กินอิ่มแล้วสิ ฉันกับมู่มู่ยังกินไม่อิ่ม”
เฉินมู่เงยหน้าขึ้นมาจากในชามเล็กๆของตัวเอง พูดเสียงต่ำออกมา “มู่มู่ยังไม่อิ่ม”
“โอเค หนูกินของหนูต่อไป” มู่น่อนน่อนคีบอาหารให้เฉินมู่อีก
เฉินถิงเซียวใบหน้าเยือกเย็นจนน่ากลัว แต่มู่น่อนน่อนก็ไม่สนใจเขา เขาก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้อีก
เขาส่งเสียงฮึดฮัดเสียงเย็นออกมา ลุกขึ้นออกจากห้องรับประทานอาหารไป
เขาเพิ่งจะออกไป จู่ๆเฉินมู่ก็เงยหน้าขึ้นมา มองไปยังทิศทางที่เฉินถิงเซียวเพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้ แล้วก็หันไปมองมู่น่อนน่อนอีกที “คุณพ่อโกรธแล้ว”
มู่น่อนน่อนตะลึงงันไปเล็กน้อย แต่ก็นึกไม่ถึงว่าเฉินมู่จะพูดเรื่องนี้ออกมา
เธอถามเฉินมู่ออกไปด้วยความอยากรู้เล็กน้อย “เขาโกรธตรงไหน?”
“เขา “เฮอะ”!” เฉินมู่พูด แล้วสะบัดหน้าไป เลียนแบบท่าทางของเฉินถิงเซียวส่งเสียง “เฮอะ” ออกมาทีนึง
มู่น่อนน่อนหัวเราะ “พรืด” ออกมา อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปหยิกหน้าของเฉินมู่ “ลูกน้อยของฉันทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้กันนะ?”
เฉินมู่เชิดหัวเล็กๆขึ้น เอ่ยเสียงหวานออกมา “เพราะว่าแม่ของหนูคือมู่น่อนน่อนไงคะ”
มู่น่อนน่อนสอนเฉินมู่ท่องชื่อเธอกับเฉินถิงเซียวมาก่อน และชื่อของกู้จือหยั่นกับเสิ่นเหลียง ก็เคยสอนเธอมาก่อนเหมือนกัน เธอจำได้หมด
เพียงแต่ว่าตอนที่เธออ่านชื่อเฉินถิงเซียว มักจะอ่านเป็น “เฉินชิงเซียว” ไปด้วยความเคยชิน
มู่น่อนน่อนแก้ให้เธอไปหลายครั้ง เธอจะอ่านได้ชัดเจนเป็นครั้งคราว แต่ส่วนใหญ่ เธอมักจะอ่านเป็น “เฉินชิงเซียว” ไปหมด
ก็คงจะเป็นเพราะว่าชินไปแล้ว
ขอเพียงแค่ในใจเธอรู้ว่าพ่อของเธอชื่ออะไร เธออยากจะเรียก “เฉินชิงเซียว” ก็ให้เธอเรียกไป ถือเสียว่าเป็นชื่อเล่นเอาไว้เรียกน่ารักๆระหว่างพ่อลูกของเธอกับเฉินถิงเซียวไปแล้วกัน
……
มู่น่อนน่อนกับเฉินมู่กินข้าวเสร็จ ก็พาเฉินมู่ไปที่ห้องไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน
ก่อนหน้านี้เธอได้ยินคนใช้บอกว่าวันนี้เฉินมู่ไม่ได้นอนกลางวัน
ถ้าตอนกลางวันเฉินมู่ไม่ได้นอนกลางวันแล้วล่ะก็ ตอนกลางคืนจะนอนเร็วเป็นพิเศษ
เพียงไม่นานเธอก็ได้กล่อมเฉินมู่นอนหลับไป
หลังจากที่ทำให้เฉินมู่นอนหลับสนิทไปเรียบร้อยแล้ว มู่น่อนน่อนก็ได้ลุกขึ้นไปห้องนอนใหญ่
เธอผลักประตูห้องออก พบว่าด้านในว่างเปล่าไม่มีใครเลยสักคนเดียว
เฉินถิงเซียวยังไม่กลับห้องมานอน คือยังอยู่ที่ในห้องทำงาน
มู่น่อนน่อนเดินย่องๆไปที่หน้าประตูห้องทำงาน แอบแง้มประตูห้องทำงานออกมานิดหน่อยไปเงียบๆ ก็เห็นเฉินถิงเซียวกำลังนั่งดูอะไรอยู่ที่ด้านหลังโต๊ะทำงาน
คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น ตรงหน้าวางเอกสารเอาไว้หลายชุดมาก เหมือนกับว่าจะเจอปัญหาที่ยุ่งยากมากๆเข้า
มู่น่อนน่อนยืนอยู่ที่หน้าประตูอยู่สักพักนึง ก็ตัดสินใจที่จะปิดประตูผันร่างเดินออกไป
แต่เฉินถิงเซียวในตอนนี้ได้ค้นพบแล้วว่าที่ประตูมีคนอยู่ จึงได้มองไปทางประตูทันที พลางเอ่ยเสียงเข้มออกมา “ใคร!”
ถึงยังไงก็ได้ถูกพบเข้าแล้ว มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้หลบอีก จึงเดินตรงเข้าไปทันที
“ฉันเอง”
เฉินถิงเซียวเห็นว่าเป็นมู่น่อนน่อน สีหน้าบนใบหน้าจึงได้อ่อนลงไปบ้างเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนไม่ได้เข้าไปใกล้ เพียงแค่ยืนพูดอยู่ตรงที่ไม่ไกลจากข้างๆประตู “ฉันกลับห้องไปนอนก่อน จะกลับมาหรือเปล่าก็แล้วแต่คุณ”
เธอพูดจบ ก็ผันร่างเดินออกไป
เฉินถิงเซียวนั่งอยู่ที่ตรงหน้าโต๊ะทำงาน ยังคงไม่มีการตอบสนองออกมากับความหมายที่อยู่ในคำพูดของมู่น่อนน่อนอยู่บ้าง
ระหว่างทางกลับมาพวกเขาทะเลาะกันจนไม่น่าอภิรมย์เลย เขานึกว่าคืนนี้มู่น่อนน่อนจะนอนกับเฉินมู่
ความหมายของมู่น่อนน่อนเมื่อกี้นี้คือ…จะกลับมานอนห้องนอนใหญ่?
เฉินถิงเซียวพอคิดอย่างนี้แล้ว ไหนเลยจะยังมีกะจิตกะใจทำงานอะไรอีก จัดการของที่อยู่ในมือไปด้วยความรวดเร็ว แล้วก็ลุกขึ้นกลับห้องนอนใหญ่ไป
มู่น่อนน่อนได้อาบน้ำเสร็จแล้วก็นอนลงบนเตียง
เธอได้ยินเสียงเปิดประตู จึงได้ห่มผ้าห่มคลุมตัวเองเอาไว้แน่น พลิกตัวหันหลังไปทางประตู
เฉินถิงเซียวเดินเข้ามาแล้วก็มองไปบนเตียง
จากเดิมบนเตียงได้วางผ้าห่มเอาไว้แค่ผืนเดียว แต่ตอนนี้ได้เพิ่มผ้าห่มมาอีกผืนนึง
มู่น่อนน่อนห่มผ้าห่มผืนนึงนอนอยู่ที่อีกด้านนึงของเตียง และยังเว้นพื้นที่ส่วนใหญ่เอาไว้ ด้านบนก็ได้วางผ้าห่มเอาไว้อีกผืนนึง
เฉินถิงเซียวเดินไปที่ข้างเตียงหยุดอยู่สักพักนึง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ผันร่างเดินไปที่ห้องอาบน้ำ
ได้ยินเสียงน้ำซู่ๆ ซ่าๆดังออกมาจากในห้องน้ำ มู่น่อนน่อนจึงได้ลดผ้าห่มลงไป
อายุของเธอกับเฉินถิงเซียวเมื่อรวมๆกันดูแล้วก็ปาไปเกือบจะหกสิบปีไปแล้ว ทั้งสองคนในด้านความรู้สึกก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจนเป็นผู้ใหญ่มากนัก ยังทะเลาะกันอยู่ทั้งวัน
บางครั้งเธอก็คิดเหมือนกันว่าการทะเลาะปะทะคารมกับเฉินถิงเซียวมันค่อนข้างที่จะดูเป็นเด็กน้อยไปหน่อย แต่ว่าไม่ทะเลาะมันก็ไม่ได้อีก
เฉินถิงเซียวมักจะคิดว่าเธอกำลังเข้าข้างลี่จิ่วเชียนอยู่ ปกป้องลี่จิ่วเชียนอยู่ แต่เธอกลับคิดว่าเฉินถิงเซียวพาลหาเรื่องทะเลาะกันอย่างไม่มีเหตุผลเสียมากกว่า
เธอพยายามเจอกับลี่จิ่วเชียนให้น้อยลงแล้ว เฉินถิงเซียวก็ยังคิดอย่างนี้อยู่ เธอคิดว่าปัญหามันเกิดขึ้นที่ตัวของเฉินถิงเซียวเองมากกว่า
เธอคิดอยู่สักพักนึง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูWeibo
คำค้นหายอดนิยมที่เกี่ยวกับข่าวดีที่ใกล้เข้ามาของเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนอันนั้นยังติดเทรนอยู่ข้างบนยังไม่ลงไป ระดับความร้อนแรงไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย
เธอยังนึกว่าคำค้นหายอดนิยมนี้จะลงไปนานแล้วเสียอีก แต่ผลสุดท้ายก็ยังไม่ลงไป
เมื่อกี้เฉินถิงเซียวทำอะไรอยู่ที่ห้องทำงาน?
ภายในใจของมู่น่อนน่อนมีความคับข้องใจพูดไม่ออกขึ้นมา เธอโยนโทรศัพท์กลับไป
เรื่องนี้เดิมทีแล้วก็เป็นเรื่องที่เฉินถิงเซียวก่อขึ้นมาเอง ก็ให้เขาแก้ปัญหาเองไป…
ผ่านไปสักพักนึง เฉินถิงเซียวก็ออกมาจากห้องอาบน้ำ และได้ตรงเข้ามานอนลงข้างๆมู่น่อนน่อน
ทั้งคืนนี้ ทั้งสองคนได้นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน หันหลังให้กัน
……
เช้าวันต่อมา ตอนที่มู่น่อนน่อนตื่นขึ้นมา ข้างๆก็ไม่มีคนอยู่แล้ว
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความเคยชิน เห็นข้อความที่ยังไม่ได้อ่านที่เสิ่นเหลียงส่งมาให้เธอหลายฉบับบนหน้าจอ
“รีบมาดูความวุ่นวาย”
“บัญชีทางการWeiboของบริษัทเฉินซื่อได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือแล้ว นี่มันตบหน้ากันแรงมากเลย”
ตอนหลังก็ได้ส่งรูปที่แคบหน้าWeiboสองรูปมาให้ด้วย
มู่น่อนน่อนเปิดเข้าไปดู แล้วก็ออกไปจากวีแชทไปอย่างรวดเร็ว แล้วไปเข้าWeibo
เป็นไปอย่างที่คิดคำค้นหายอดนิยมอันดับหนึ่งก็คือ “บัญชีอย่างเป็นทางการของบริษัทเฉินซื่อได้ปฏิเสธข่าวลือ” คำพวกนี้นั่นเอง
เธอกดเข้าไปในWeiboออฟฟิเชียลของบริษัทเฉินซื่อ Weiboยอดนิยมด้านบนสุด ก็คือได้ขึ้นหัวข้อประเด็นเรื่องเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนเมื่อวานนี้เอาไว้ด้วย เนื้อหามันสั้นมาก “ข่าวปลอม ท่านประธานไม่ได้ชอบผู้หญิงแซ่ซู”
เวลาที่Weiboนี้ได้โพสต์ออกมา เป็นช่วงก่อนเช้าตรู่ของเมื่อเย็นวาน