ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 540 เป็นห่วงว่าคุณจะตายเมื่อไหร่
มู่น่อนน่อนเองก็สังเกตเห็นว่าเฉินถิงเซียวตามเธอมาตลอด
ในเมื่อเขาอยากจะตามมา ก็ตามมาสิ
ยังมีอีกเหตุผลนึงคือเธอไม่มีทางสลัดเฉินถิงเซียวออกไปได้เลยเช่นกัน
ทั้งสองคนขับตามกันมาอย่างนี้ไปยังเขตหมู่บ้านที่ลี่จิ่วเชียนอาศัยอยู่
หลังจากมู่น่อนน่อนที่อยู่ข้างหน้าลงจากรถมา ก็ยืนรอเฉินถิงเซียวอยู่ตรงที่เดิม
เฉินถิงเซียวเดินเข้ามาที่ตรงหน้าเธอด้วยใบหน้ามืดครึ้ม จ้องเธอเขม็ง
“ขึ้นไปด้วยกันเถอะ” มู่น่อนน่อนอยากจะโกรธ แต่เห็นท่าทางอย่างนี้ของเขาแล้วก็เกิดความโกรธไม่ลงขึ้นมาอีก
เฉินถิงเซียวยิ้มเย็นพลางเอ่ยออกมาว่า “คุณนึกว่าผมตามมา เพื่อที่จะให้คุณขึ้นไปเจอลี่จิ่วเชียนงั้นเหรอ?”
“เปล่านี่” มู่น่อนน่อนส่ายหน้าปฏิเสธออกมาด้วยความซื่อตรงอย่างมาก “คุณไม่มีทางให้ฉันไปเจอลี่จิ่วเชียนอย่างแน่นอน ดังนั้นแล้ว…”
มู่น่อนน่อนพูดถึงตรงนี้จู่ๆก็หยุดชะงักไป ก้าวเข้าไปข้างหน้าก้าวนึง ยื่นมือไปจูงมือของเฉินถิงเซียวเอาไว้ พลางเงยหน้าขึ้นไปมองเขา แล้วพูดคำพูดท่อนหลังต่อจากนั้นออกมาจนจบ
“ขึ้นไปด้วยกันเถอะ”
“ใครจะ…” เฉินถิงเซียวเพิ่งจะเอ่ยปากพูดออกมา มู่น่อนน่อนก็ได้ลากเขาเดินเข้าไปในเขตหมู่บ้านเสียแล้ว
เมื่อก่อนมู่น่อนน่อนเคยอยู่ที่นี่มาก่อน รปภ.ของเขตหมู่บ้านแห่งนี้มีภาพจำที่ลึกซึ้งต่อเธอ ก็เลยยังจำเธอได้ จึงได้ปล่อยเธอเข้ามาได้
พอเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว เธอก็รู้สึกได้ถึงความกดอากาศต่ำลงที่แผ่ออกมาจากร่างของเฉินถิงเซียวที่อยู่ข้างๆที่แรงขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับว่าเขาจะต่อต้านเขตหมู่บ้านเล็กๆนี้มากเลยก็ไม่ปาน
ว่ากันตามหลักแล้ว ไม่ควรจะเป็นอย่างนี้สิ
เมื่อก่อนหน้านี้เฉินถิงเซียวก็เคยอยู่ที่เขตหมู่บ้านนี้มาก่อนช่วงหนึ่งเหมือนกัน ทำไมเขาถึงได้ต่อต้านเกลียดชังสถานที่นี้กันนะ?
ทั้งสองคนเข้าลิฟต์มา ยืนเรียงอยู่ด้วยกัน
บนประตูลิฟต์ที่แสงสว่างสะท้อนเงาร่างของทั้งสองคนออกมา มู่น่อนน่อนเห็นสีหน้าย่ำแย่สุดๆของเฉินถิงเซียวจากในเงาสะท้อนที่ประตูลิฟต์
ในใจเธอมีความสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ถามเขาไปว่าทำไมถึงได้เกลียดที่นี่ได้ขนาดนี้
ติ๊ง——
ลิฟต์มาถึงชั้นที่บ้านของลี่จิ่วเชียนอยู่แล้ว
ลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนแทบจะก้าวออกไปพร้อมกัน เดินเข้าไปด้านนอกประตูลิฟต์ด้วยกัน
ทั้งสองคนหันหน้ามองอีกฝ่ายทันที เฉินถิงเซียวส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมา แล้วเป็นฝ่ายเบือนหน้าออกไปก่อน
มู่น่อนน่อนเองก็ได้ส่งเสียงเฮอะอย่างไม่สบอารมณ์ออกมาเช่นกัน
เฉินถิงเซียวเขาพาลไร้เหตุผลขึ้นมาเอง ตอนนี้ทำเหมือนกับว่าเธอผิดเสียยังไงอย่างนั้น!
ผู้ชายที่พาลไร้เหตุผลเสียจนมั่นใจมากว่าตัวเองถูกอย่างนี้ นอกจากเฉินถิงเซียวแล้ว เกรงว่าคงหาไม่เจออีกแล้ว
ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้คุยกันเลย เดินตรงไปที่ประตูบ้านของลี่จิ่วเชียนทันที
มู่น่อนน่อนเข้าไปข้างหน้า กำลังจะเคาะประตู แต่ผลสุดท้ายเฉินถิงเซียวที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอได้อาศัยส่วนสูงของตัวเองมาเป็นประโยชน์ ยื่นมือไปจับคอปกเสื้อด้านหลังของเธอเอาไว้แล้วพาเธอไปอยู่ที่ข้างหลัง
มู่น่อนน่อนที่ถูกหิ้วไปที่ข้างหลังมีความไม่ยอมขึ้นมา ก็จะเข้าไปที่ข้างหน้าอีกครั้ง แต่เฉินถิงเซียวก็เหมือนกับมีตาหลังยังไงอย่างนั้น พลิกมือมาคว้าแขนเธอเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างนึงที่ว่างก็เข้าไปเคาะประตู
ประตูก็เคาะไปแล้ว แต่กลับไม่มีคนมาเปิด
ผ่านไปได้สักพักนึง เฉินถิงเซียวก็ได้ยื่นมือไปเคาะอีกครั้ง ก็ยังไม่มีใครมาเปิดประตู
ภายในใจของมู่น่อนน่อนร้อนใจขึ้นมา อ้าปากตะโกนเข้าไปข้างในเสียงดัง “ลี่จิ่วเชียน คุณอยู่บ้านหรือเปล่า?”
ทันทีที่เสียงเพิ่งจะหลุดออกไป ด้านในก็ได้มีเสียงเปิดประตูดังเข้ามา
จากนั้น ประตูบ้านก็ถูกเปิดออกมา
มู่น่อนน่อนเอียงหน้าเข้าไป ตอนที่เห็นเงาร่างของลี่จิ่วเชียนโผล่ออกมาจากด้านในประตู ตัวเธอถึงได้ผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอกออกมา
“คุณอยู่บ้านเหรอเนี่ย? ทำไมคุณถึงไม่รับสายฉัน? ฉันนึกว่าคุณจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเสียอีก!” มู่น่อนน่อนเป็นห่วงลี่จิ่วเชียนจริงๆ
ลี่จิ่วเชียนอยู่ที่เมืองหู้หยางไม่มีเพื่อนอะไรกับเขาเลย อาศัยอยู่คนเดียว เมื่อตอนนั้นมู่หวั่นขีคิดจะทำร้ายเธอ เธอไม่เป็นอะไร แต่ลี่จิ่วเชียนที่ขับรถกลับได้รับบาดเจ็บแทน
เมื่อกี้ระหว่างทางที่มาเธอได้ทำการเตรียมใจที่แย่ที่สุดเอาไว้แล้ว คาดเดาไปว่าเขาคงจะถูกมู่หวั่นขีแค้นฝังใจ แล้วมาแก้แค้นไปแล้ว
ตอนนี้เห็นเขายังปลอดภัยหายห่วง ก็สบายใจขึ้นมาแล้ว
ลี่จิ่วเชียนได้ยินคำพูดของมู่น่อนน่อนแล้ว ก็ยิ้มพลางเอ่ยออกมาว่า “โทรศัพท์วางเอาไว้ที่คลินิก ลืมเอากลับมา”
เขาสวมชุดนอนสีดำตลอดทั้งตัว สีดำล้วนภายใต้การส่องสว่างของหลอดไฟ ดูเหมือนว่าจะสะดุดตาผิดปกติเลย ในขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกไม่มีความกลมกลืนกันอย่างบอกไม่ถูกอยู่บ้างเหมือนกัน
มู่น่อนน่อนหันไปมองเฉินถิงเซียวแวบนึง พบว่าเขากำลังจ้องมองลี่จิ่วเชียนตาเขม็ง แววตาเยือกเย็น มองไม่ออกเลยว่าอารมณ์เป็นแบบไหน
ลี่จิ่วเชียนพูดจบ ก็หันไปมองทางเฉินถิงเซียว
ไม่รู้ว่ามู่น่อนน่อนตาฝาดไปหรือเปล่า ตอนที่ลี่จิ่วเชียนกำลังมองเฉินถิงเซียวนั้น สายตาเหมือนจะแวบออกมาแป๊บนึง แล้วจากนั้นก็ถึงจะเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนออกมา “คุณเฉินก็มาด้วย ดูเหมือนว่าคุณเฉินเองก็เป็นห่วงผมมากเลยเหมือนกัน”
เฉินถิงเซียวยิ้มเย็นออกมา แล้วเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ “ใช่แล้ว ผมเป็นห่วงว่าคุณจะตายเมื่อไหร่ จะได้เตรียมงานศพที่ใหญ่โตสักงานเอาไว้ให้คุณ”
มู่น่อนน่อนตะลึงไปแป๊บนึง แล้วก็รีบพูดกับลี่จิ่วเชียนออกไปทันที “เขาล้อเล่นน่ะ คุณอย่าไปคิดจริงจังเลยนะ”
ในจุดที่ลี่จิ่วเชียนมองไม่เห็น เธอได้ยื่นมือไปหยิกที่หลังเอวของเฉินถิงเซียว แต่ก็ไม่อาจแข็งใจลงแรงไปมากนักได้
เฉินถิงเซียวเจอกับ “วิธีการทำร้ายคนอื่น” โดยที่ไม่แม้แต่จะกะพริบตาเลยของเธอ “ผมพูดคำไหนคำนั้น ไม่ว่าคุณจะตายเมื่อไหร่ ผมก็จะจัดงานศพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้คุณเอง”
มู่น่อนน่อน “…” เธอหมดคำที่จะพูดแล้ว
ดวงตาโตของลี่จิ่วเชียนได้หดเล็กลงไปเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปแป๊บนึง แต่เพียงไม่นานก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง น้ำเสียงสบายๆ “งั้นผมลี่จิ่วเชียนก็ต้องขอบคุณสำหรับความหวังดีของคุณเฉินเอาไว้ล่วงหน้า”
“ดึกมากแล้ว ขอไม่รบกวนการพักผ่อนของคุณแล้ว พวกเราขอตัวกลับก่อนนะ” มู่น่อนน่อนไหนเลยจะยังกล้าอยู่นานอีก จึงได้ลากเฉินถิงเซียวเตรียมจะพาออกไป
เฉินถิงเซียวยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเลยสักนิดเดียว สายตายังคงจ้องลี่จิ่วเชียนตาเขม็ง น้ำเสียงเนิบช้าสบายๆออกมา “ไปอะไรกัน? คนมาเป็นแขก คุณลี่ไม่เชิญพวกเราเข้าไปนั่งสักหน่อยเหรอ?”
“เฉินถิงเซียว” มู่น่อนน่อนเรียกเขาออกมา เตือนสติเขาว่าอย่าทำอะไรส่งเดช
ก่อนหน้านี้คนที่ไม่ให้เธอมาคือเฉินถิงเซียว ตอนนี้คนที่ไม่ยอมไปก็ยังเป็นเขาอีกเช่นกัน
มู่น่อนน่อนไม่เข้าใจเลยว่า ตกลงแล้วเฉินถิงเซียวกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว” ลี่จิ่วเชียนเบี่ยงตัวไปยืนที่ข้างๆ ยื่นมือทำท่าทางเชิญออกมา “คุณเฉินเชิญด้านในครับ”
เฉินถิงเซียวจูงมู่น่อนน่อนเดินเข้าไปทันที
พอเข้ามาในบ้าน มู่น่อนน่อนก็ได้พบว่าบ้านค่อนข้างที่จะรกเลยทีเดียว
ของอย่างอื่นต่างก็ยังวางกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ แต่ของจำพวกกล่องกระดาษแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะน้ำชาได้วางกันอยู่อย่างไม่มีการจัดเรียงเอาไว้เลยสักนิดเดียว
อันที่จริงลี่จิ่วเชียนเป็นคนที่ใส่ใจกับอะไรๆอย่างพิถีพิถันมากคนหนึ่ง ในบ้านจะเก็บกวาดจนเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีการยึดตามความเคยชินในการวางข้าวของเอาไว้ให้เป็นที่ด้วย
มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวนั่งเรียงกันอยู่บนโซฟา ลี่จิ่วเชียนไปรินน้ำมาให้พวกเขาทั้งสองคน
มู่น่อนน่อนถามเขา “ช่วงนี้คุณยุ่งเหรอ?”
“ก็เรื่อยๆ” เสียงของลี่จิ่วเชียนดังเข้ามา
งั้นก็คงจะยุ่งแหละ ไม่อย่างนั้นแล้วจะไม่มีแม้แต่เวลาจะเก็บกวาดบ้านได้ยังไงกันล่ะ
เขายกน้ำสองแก้วเข้ามา แบ่งวางไปที่ตรงหน้าเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อน
“ขอบคุณ” มู่น่อนน่อนหยิบน้ำขึ้นมา จิบไปคำนึง หันหน้าไปเห็นเฉินถิงเซียวเหมือนกับว่าอยากรู้อยากเห็นมากยังไงอย่างนั้น กำลังมองสำรวจบ้านอยู่ตลอด
ลี่จิ่วเชียนได้นั่งลงตรงหน้าพวกเขา “ทำให้คุณเป็นห่วงแล้ว ครั้งหน้าผมจะไม่ลืมพกโทรศัพท์มาให้เรียบร้อยอย่างแน่นอน”
มู่น่อนน่อนได้ยินอย่างนั้น จึงเอ่ยออกไป “เมื่อตอนบ่ายฉันไปหาคุณที่คลินิกของคุณ แต่คุณไม่อยู่”