ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 549 พิธีกรรมบางอย่าง
ใบหน้ามู่น่อนน่อนชะงักเล็กน้อย และเธอเบิกบานใจสักครู่หนึ่ง แล้วก็รีบเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่นิ่งลง
เธอรู้ว่าลี่จิ่วชังจะไม่พาเธอไปหา ลี่จิ่วเชียนอย่างง่ายดาย
ลี่จิ่วชังเห็นความลังเลของเธอและยิ้มพูดว่า “เป็นอะไร?ไม่กล้าไปเหรอครับ?”
“พูดแล้วทำได้ไหมคะ? คุณจะพาฉันไปเจอกับ ลี่จิ่วเชียนจริงๆ หรือ?” มู่น่อนน่อนกล้าไปอยู่แล้ว แต่เธอไม่เชื่อลี่จิ่วชัง
ลี่จิ่วชังยกคิ้ว น้ำเสียงที่พูดนั้นพร้อมกับความโกรธของเขา “พูดแล้วไม่กลับคำครับ”
มู่น่อนน่อนกัดฟันและพูดว่า “ตกลง ฉันจะไปกับคุณ”
ลี่จิ่วชังดูเหมือนจะคาดเดาถูกแต่แรก มู่น่อนน่อนจะตกลงที่ไปพบลี่จิ่วเชียนกับเขา สีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ยืนตัวตรง: “การเดินทางค่อนข้างไกล เราออกเดินทางได้เดี๋ยวนี้เลย”
มู่น่อนน่อนตามเขาออกจากร้านกาแฟ และขึ้นรถไปกับเขา
รถของลี่จิ่วชังคือรถจิ๊ป ซึ่งดูเท่มาก
เขาขับรถ มู่น่อนน่อนนั่งข้างคนขับ
รถค่อยๆ ออกจากเมืองและขับไปที่ชนบท
ระหว่างทาง มู่น่อนน่อนมองออกไปนอกหน้าต่าง พยายามจำป้ายถนนและป้ายพิเศษตลอดทาง
อาจจะใช้ได้ในตอนไหนก็ได้
ลี่จิ่วชังเหลือบมองเธอในกระจกหลัง: “คุณมีความจำที่ดีเหรอครับ?”
มู่น่อนน่อนพูดอย่างระมัดระวัง “ความจำของฉันไม่ดี สามปีที่แล้วล้มกระทบโดนสมอง สูญเสียความจำไประยะหนึ่งอีกด้วยค่ะ”
ใครจะไปรู้ลี่จิ่วชังพูดทันทีว่า: “ผมรู้เรื่องนี้ครับ”
มู่น่อนน่อนรู้สึกเสมอว่าลี่จิ่วชังดูเหมือนจะเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่และหยุดพูดกับเขา
พูดให้น้อยลงจะได้ผิดน้อยลง
เธอหยุดพูดแล้ว แต่ลี่จิ่วชังยังคงคุยกับเธออย่างไม่รู้สึกเหงา
มู่น่อนน่อนเพียงแค่หัวเราะออกไปอย่างฝืนๆ หรือ “อืม”คำเดียว
หลังจากขับรถมาห้า หกชั่วโมง รถก็ขับเข้าไปในเมืองชายทะเล
ในเมืองครึกครื้นอย่างมาก แต่ดูเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน
เมื่อลี่จิ่วชังขับรถเข้าไปในเมือง เขาก็ชะลอความเร็วลง และผู้คนก็ทักทายเขาตลอดทาง
มีคนรู้จักเขา ซึ่งหมายความว่านี่อาจเป็นที่ที่ลี่จิ่วชังอาศัยอยู่
อีกไม่นานพวกเขาน่าจะถึงที่หมายแล้ว
อย่างที่ว่า หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที รถก็จอดที่หน้าคฤหาสน์
คฤหาสน์สไตล์ยุโรป 3 ชั้น มีต้นไม้ใหญ่หลายต้นอยู่ตรงลานบ้าน แต่ดูเหมือนจะเงียบเย็นไปหน่อย เพราะใกล้จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
มีคนใช้กำลังกวาดพื้นตรงลานบ้าน และมีบอดี้การ์ดลาดตระเวนไปมาในลานบ้าน
เห็นได้ชัดว่า คฤหาสน์แห่งนี้ได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด
“ลงรถ”
เสียงของลี่จิ่วชังดังขึ้น และมู่น่อนน่อนก็กลับมามีสติอีกครั้ง ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูลงจากรถ
เขาเดินด้านหน้าและเข้าไปในคฤหาสน์ มู่น่อนน่อนเดินตามหลังอย่างใกล้ชิด
คนใช้ที่กวาดพื้นในลานเห็นลี่จิ่วชังและพูดด้วยความเคารพ: “คุณชายกลับมาแล้วค่ะ”
ลี่จิ่วชังไม่สนใจ และเดินตรงเข้าไปข้างใน
หลังจากเข้าไปในคฤหาสน์แล้วลี่จิ่วชังก็สั่งให้คนใช้ว่า: “พาคุณมู่ ไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน”
คนใช้เป็นคนประเทศZหรือไม่ลี่จิ่วชังพูดภาษาจีน
คนใช้เดินไปหามู่น่อนน่อนแล้วพูดเป็นภาษาจีนที่ไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่”คุณมู่ ตามหนูมาเลยค่ะ”
มู่น่อนน่อนเหลือบมองสาวใช้แล้วเอื้อมมือไปจับแขนของ ลี่จิ่วเชียนไว้: “คุณบอกว่าคุณจะพาฉันไปพบ ลี่จิ่วเชียนไม่ใช่เหรอ?”
“ผมบอกว่าจะพาคุณไปหาลี่จิ่วเชียน แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปตอนนิ ผมเคยบอกไหมว่า ผมจะพาคุณมาพบเขาทันทีเลย?”ลี่จิ่วชังยิ้ม และยิ้มแบบนี้ดูเหมือนลี่จิ่วเชียนมากที่สุด
แต่ว่า มู่น่อนน่อนได้สติมากขึ้นว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ ลี่จิ่วเชียน
มู่น่อนน่อนกดริมฝีปาก หันกลับแล้วเหลือบมองไปด้านนอกคฤหาสน์ ยังมีบอดี้การ์ดคอยลาดตระเวนอยู่ที่นั่น แม้ว่าเธออยากจะหนี เธอก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น
เธอจ้องไปที่ลี่จิ่วชังและพูดอย่างแรงๆ ว่า: “สารเลว!”
ลี่จิ่วชังแค่ยิ้ม รอยยิ้มของเขาดูน่าเกลียดเป็นพิเศษ
มู่น่อนน่อนจ้องที่ลี่จิ่วชังอย่างขมขื่นและตามสาวใช้ขึ้นไปชั้นบน
คฤหาสน์ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และถ้าลี่จิ่วชังได้พา ลี่จิ่วเชียน กลับมาจริงๆ ก็น่าจะอยู่ในคฤหาสน์นี้ด้วย
ในเมื่อเธอก็มาแล้ว อาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ไม่ช้าก็เร็วก็จะได้พบกับ ลี่จิ่วเชียน
…
มู่น่อนน่อนถูกคนใช้พาไปที่ห้องพัก
การตกแต่งห้องเป็นแบบชนบทสไตล์ยุโรป หลังจากที่คนใช้ออกไปแล้ว มู่น่อนน่อนก็เริ่มสำรวจห้อง
การตกแต่งห้องนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นห้องของผู้หญิง และทุกอย่างก็มีความเฉพาะเจาะจงมาก
มู่น่อนน่อนค้นลิ้นชักหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าดู
เมื่อเธอเปิดตู้เสื้อผ้า เธออดตกใจไม่ได้ มีเสื้อผ้าเต็มตู้ เป็นของใหม่ทั้งหมดแถมยังไม่ได้เอาป้ายออก ราวกับว่าเตรียมไว้ให้สำหรับใครบางคน
เสื้อผ้าเหล่านี้อัดไว้อย่างแน่นหนา มู่น่อนน่อนพยายามที่จะเอาเสื้อผ้าสักตัวออกอย่างยากลำบาก เธอทำได้เพียงดึงมุมเสื้อผ้า เพื่อดูว่าเสื้อผ้านั้นคือเสื้อผ้าอะไร
เธอดูจากซ้ายไปขวา เธอพบว่า เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ใช่เสื้อผ้าของผู้หญิงในวัยเดียวกัน
ซ้ายมือเป็นเสื้อผ้าสไตล์สาววัยรุ่น การตัดเย็บและสไตล์ค่อนข้างโต เหมาะกับสาววัยมู่น่อนน่อนมองไปด้านหน้าอีก จะมีกระโปรงลายดอกและชุดกะลาสี…
ยิ่งไปด้านหน้า ก็ยิ่งอายุน้อยลง. .
การจัดเรียงเสื้อผ้าเหล่านี้ ดูเหมือนจะบันทึกอายุของผู้หญิงคนหนึ่ง ตั้งแต่เด็กสาวจนถึงผู้หญิงสาวโต
มันเหมือนกับพิธีกรรมบางอย่าง
เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับเธอแน่นอน แต่เตรียมสำหรับเจ้าของห้องในห้องนี้
มู่น่อนน่อนปิดตู้เสื้อผ้า นั่งลงบนเตียง สงบสติอารมณ์และเริ่มค้นคิดทบทวน
ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดมาก ไม่สำคัญสำหรับเธอว่าใครเป็นเจ้าของห้องนี้ สิ่งที่สำคัญคือ ลี่จิ่วเชียนตอนนี้อยู่ที่ไหน
ตั้งแต่เวลาที่พบกับลี่จิ่วชังจนตอนนี้ลี่จิ่วชังเรียกว่า “ลี่จิ่วเชียน” อย่างเดียว ไม่เคยเรียกว่า “พี่ชาย” หรือ “น้องชาย” เลย
เห็นได้ชัดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องไม่ดี
แต่ว่าลี่จิ่วชังบอกว่าเขารู้เรื่องเกาะในเกาะ และรู้เรื่องเกี่ยวกับที่เธอเสียความจำไปด้วย…
ถ้า ลี่จิ่วเชียนไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้เขา เขาจะรู้ได้อย่างไร?
ไม่ใช่ลี่จิ่วชังเคยบอกว่า เขาบอก จริงๆคนที่จะช่วยมู่น่อนน่อนคือเขา
มู่น่อนน่อนเอื้อมมือไปกดขมับของเธอ มันวุ่นวายไปหมด ทุกเรื่องมาถูกนวดรวมกัน มันดูวุ่นไปหมด เธอไม่มีเงื่อนงำเลย
ในขณะนี้ เธอก็คิดถึงเฉินถิงเซียวเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวฉลาดขนาดนั้น เขาจะค้นพบความก้าวหน้าจากเรื่องเหล่านี้อย่างแน่นอน ไม่เหมือนเธอที่จะดูวุ่นวายไปหมด
แต่ว่า เธอกับเฉินถิงเซียวไม่ได้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว
กระทั่งเธอมาถึงประเทศZ จึงเข้าใจว่าไม่ใช่ว่าเฉินถิงเซียวไม่ได้โกรธ เขาแค่เปลี่ยนวิธีแสดงความโกรธเป็นอีกแบบหนึ่ง
ประเทศZคือเธอจะมาเอง และไม่ได้บอกเขาด้วยเฉินถิงเซียวก็สมควรที่จะโกรธเธอ
เพราะฉะนั้น เธอจึงต้องจัดการกับมันทั้งหมดด้วยตัวเอง
มู่น่อนน่อนหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ปัดหน้าจอสองสามครั้งแล้ววางโทรศัพท์กลับ
เรื่องของเธอเอง เธอก็จะจัดการมันให้ได้เอง