ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 618 เจ็บก็ต้องทนผมให้ได้!
มู่น่อนน่อนถึงกลับอ้าปากค้างกับพฤติกรรมคล่องตัวราวกับน้ำไหลทั้งหมดของเฉินถิงเซียว จนร่างกายแข็งทื่อไปทั้งตัว
มู่น่อนน่อนจ้องมองเฉินถิงเซียวอยู่ชั่วครู่ พลางยื่นมือออกไปหยิบบุหรี่ออกมาจากมือของเขา พลางกระซิบพูด “อย่าหาเรื่องน่า”
เฉินถิงเซียวยอมให้เธอเอาบุหรี่ที่อยู่ระหว่างนิ้วมือออกไป พลางมองเธอที่หันหลังไปจัดการบี้บุหรี่ให้ดับลง ซึ่งไม่ได้พูดอะไรแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้
มู่น่อนน่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางหันตัวกลับมามองเฉินถิงเซียว “ฉันพูดกับคุณอย่างจริงจังนะ เฉินถิงเซียวคะ คุณลองคิดทบทวนดูหน่อยนะคะ”
เฉินถิงเซียวยังคงไม่พูดไม่จาเช่นเดิม พลางก้าวเท้าเดินออกไปทางด้านนอก
ตอนแรกมู่น่อนน่อนก็อยากจะไปหาเสิ่นเหลียง แต่เธอกลับมาคิดดูใหม่ ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้คนรู้เรื่องน้อยยิ่งดี จึงตัดสินใจไม่ไปดีกว่า
……
ในงานเลี้ยงก่อนหน้า ทุกคนต่างได้กินอาหาร จนเกือบจะห้าทุ่ม คนรับใช้จึงเตรียมมื้อดึกไว้ให้
สือเย่ขึ้นมาเรียกมู่น่อนน่อนให้ลงไปกินมื้อดึก
ตอนที่มู่น่อนน่อนลงไปนั้น คนอื่นต่างนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะกันแล้ว
เหลือแค่ตำแหน่งข้างเฉินถิงเซียวที่ยังคงว่างอยู่
มู่น่อนน่อนมองแล้วมองอีก ก็นั่งลงด้านข้างเฉินถิงเซียว
เมื่อเธอนั่งลง ก็รู้สึกว่าทุกสายตาจับจ้องมาที่ตัวเธอ
เฉินถิงเซียวหยิบตะเกียบขึ้นมา พลางไปเคาะโดนขอบถ้วยอย่างไม่ลงแรงมากนัก คนอื่นต่างเบนสายหนีไปอย่างเงียบๆ และก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
แต่มู่น่อนน่อนยังคงจับสัมผัสได้ว่าสายตาของพวกเขาคอยมองมาที่ตัวเธออยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่ตอนที่เธอนั่งลง กระทั่งตอนที่เธอกินมื้อดึกเสร็จแล้ว ซึ่งไม่ได้พูดอะไรออกมาสักประโยค และไม่ได้ส่งสายตาสื่อสารกับคนใดเลย
เฉินถิงเซียวก็เหมือนกัน
เมื่อกินมื้อดึกเสร็จ คนอื่นต่างออกไปจากห้องอาหารกันอย่างเงียบเชียบมาก
ห้องอาหารขนาดใหญ่เหลือแค่มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวเพียงสองคน
“คุณคิดจะปล่อยฉันกลับไปเมื่อไหร่คะ?” มู่น่อนน่อนนั่งอยู่หน้าโต๊ะกินข้าว พลางหันหน้าไปทางเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวหันกลับมามองเธอ “มู่น่อนน่อน ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะ อย่าได้คิดเองว่าผมจะตอบตกลงคุณ”
มู่น่อนน่อนหรี่ตาลง และไม่พูดไม่จา
……
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
มู่น่อนน่อนถูกเฉินถิงเซียว หิ้วปีกขึ้นรถตั้งแต่ไก่โห่
เป้าหมายคือสนามบิน
เมื่อคืนนี้เฉินถิงเซียวได้พูดแล้ว ว่าวันนี้เครื่องบินจะบินกลับเมืองหู้หยาง
เฉินถิงเซียวพูดได้ก็ทำได้ ไม่ได้หลอกเธอเลย
ตอนที่มาเมือง M ในตอนแรกนั้น มู่น่อนน่อนมาก่อนส่วนเฉินถิงเซียวตามมาติดๆ
ส่วนในเวลานี้พวกเขากลับไป กลายเป็นกลับพร้อมกันเป็นกลุ่มคณะใหญ่
แต่ว่าตอนนี้เสิ่นเหลียงเป็นคนอยู่ในวงการบันเทิง เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความยุ่งยาก จึงไม่ได้นั่งเครื่องบินเที่ยวเดียวกับพวกเขา
การเช็คอิน และการตรวจพาสปอร์ตผ่านตรวจคนเข้าเมือง
ทุกอย่างราบรื่นเป็นอย่างดี
กระทั่งตอนเช็คBoarding passขึ้นเครื่องนั้น…
พวกเขาดันมาเจอลี่จิ่วเชียนบริเวณห้องโดยสาร First class เนี่ยสิ
“คุณเฉิน บังเอิญขนาดนี้เชียว” ลี่จิ่วเชียนเดินตามหลังอาลั่ว ทั้งสองคนยืนขวางทางทั้งด้านหน้าและหลัง
ส่วนมู่น่อนน่อนและเฉินถิงเซียวสองคน คนหนึ่งอยู่หน้าอีกคนยืนอยู่หลังในทางเดิน
เฉินถิงเซียวพลางกวาดตามองลี่จิ่วเชียน พลางหันมามองมู่น่อนน่อน
ส่วนมู่น่อนน่อนไม่มองเฉินถิงเซียวเลยด้วยซ้ำ แต่พยักหน้าให้ลี่จิ่วเชียนเล็กน้อย
วินาทีต่อมา เฉินถิงเซียวก็ดึงมู่น่อนน่อนไปยังห้องน้ำทันที
เมื่อเข้าห้องน้ำได้ เฉินถิงเซียวก็ปิดประตูดัง “ปึง” และจัดการกดตัวมู่น่อนน่อนไว้กับบานประตู
“มู่น่อนน่อน!” เฉินถิงเซียวราวกับเค้นคำพูดออกมาจากไรฟัน
กระทั่งมู่น่อนน่อนรู้สึกว่า วินาทีต่อมาเขาอาจจะเริ่มลงมือทำร้ายเธอก็ได้
ในห้องน้ำคับแคบมาก มู่น่อนน่อนราวกับถูกลมหายใจเฉินถิงเซียวห้อมล้อม ความรู้สึกกดดันอันแรงกล้า จนทำให้เธอตัวสั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว
เฉินถิงเซียวโมโหขึ้นมา ว่าต้องทำเรื่องอะไรบางอย่าง ที่เธอไม่กล้าแน่ชัด
เธอกลัวว่าตนเองขืนพูดอะไรออกไป ก็จะทำให้เฉินถิงเซียวโมโห จึงไม่ยอมพูดอะไร
ซึ่งไม่ทันคาดคิดเลยว่า มู่น่อนน่อนหลุบตาต่ำ และแสดงท่าทางไม่ยอมพูดอะไรออกมา ในทางกลับกันเฉินถิงเซียวยิ่งโมโหหนักกว่าเดิม
เฉินถิงเซียวสูดลมหายใจเข้าออกเฮือกใหญ่ ในน้ำเสียงต่างอดกลั้นความโกรธเคือง “มู่น่อนน่อน คุณคิดจริงๆ หรือว่าผมมีความอดทนอยู่เยอะมากหรือไง?”
ราวกับ มู่น่อนน่อนตอบคำถามอย่างแน่ชัดทันควัน “ไม่มีค่ะ”
เฉินถิงเซียวโมโหจนถึงขั้นสุด พลางยื่นมือมาบีบปลายคางมู่น่อนน่อนเอาไว้ “เมื่อไหร่คุณจะทำตัวเชื่อฟังสักหน่อยนะ? อะไรที่ห้ามไม่ให้คุณทำ คุณยิ่งจะทำให้ได้! ผมไม่ให้คุณเข้าไปเสี่ยงอันตราย แต่คุณดันบอกการเดินทางของพวกเราให้ลี่จิ่วเชียนรู้!”
“ไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันบอกเขาเอง ว่าวันนี้พวกคุณจะกลับเมืองหู้หยาง” เฉินถิงเซียวก็พูดออกมาอย่างชัดเจนแล้ว มู่น่อนน่อนจึงต้องพูดตรงไปตรงมา
ซึ่งเป็นเธอที่บอกลี่จิ่วเชียนจริงๆ ว่าพวกของเฉินถิงเซียวจะกลับเมืองหู้หยางในวันนี้ ดังนั้นลี่จิ่วเชียนจึงปรากฏตัวขึ้นในเที่ยวบินลำนี้ด้วย
เฉินถิงเซียวโกรธจัดจนโมโหออกมา!
มู่น่อนน่อนหดคอลง เพราะรู้สึกว่าฉินถิงเซียวที่เป็นเช่นนี้ช่างน่ากลัวมากกว่าเดิม
เขาโกรธอยู่ ทว่าแล้วเขาจะทำอะไรมู่น่อนน่อนได้ล่ะ?
เฉินถิงเซียวกัดฟันเอาไว้ และอดใจไม่ไหวจนอยากจะจัดการมู่น่อนน่อนสักยก แต่ท้ายที่สุด เขาก็แค่ขบกัดลงบนริมฝีปากมู่น่อนน่อนเป็นการเอาคืน
แต่การกัดลงไปป เขาขบกัดลงแรงไปมากจริงๆ จนทำให้ริมฝีปากมู่น่อนน่อนเป็นแผลเหวอะทันที
มู่น่อนน่อนเจ็บจนต้องร้อง “ซี๊ด” ออกมา พลางยื่นมือออกไปแต่ผลักเขาไม่ได้
เฉินถิงเซียวบีบปลายคางของเธอ และถามกลับ “เจ็บไหม?”
มู่น่อนน่อนจ้องตาเขาเขม็ง “ฉันลองกัดคุณกลับ คุณก็จะรู้เองแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“เจ็บก็ต้องอดทนแทนผมไว้!” เฉินถิงเซียวยื่นมือออกมา พลางกดลงบนตำแหน่งที่เขาเพิ่งกัดจนเป็นแผลเมื่อครู่ พร้อมทั้งพูดแรงๆ ใส่เธอมาหนึ่งประโยค “ช้าเร็วคงมีสักวันที่โมโหคุณจนผมต้องตายไป!”
พูดจบ เขาก็ผลักมู่น่อนน่อนไปด้านข้าง และเปิดประตูห้องน้ำเดินออกไป
มู่น่อนน่อนอยู่เป็นคนสุดท้าย และส่องกระจกที่อยู่ด้านหน้า
ริมฝีปากของเธอถูกเฉินถิงเซียวกัดจนเป็นแผลที่เห็นได้อย่างชัดเจน พอคนอื่นมองก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ไม่สามารถซ่อนเร้นได้ มู่น่อนน่อนทำได้แต่เดินออกไปในแบบนี้
เธอเดินออกจากห้องน้ำเพื่อไปยังที่นั่งนั้น ยังต้องผ่านตำแหน่งที่นั่งของลี่จิ่วเชียนและอาลั่ว
ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยง ว่าต้องสบตากับพวกเขา
เมื่อตอนที่มู่น่อนน่อนเดินมาถึงด้านข้างของพวกเขานั้น สายตาของลี่จิ่วเชียนจ้องมองใบหน้าของเธอสามวินาที จากนั้นก็แสดงความรู้สึกแกมอมยิ้มออกมา
มู่น่อนน่อนเหลือบมองเขา แต่ไม่ได้พูดจาอะไร พลางก้มหน้าก้มตาเดินมุ่งหน้าไปทางเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวกำลังนั่งพิมพ์งานอยู่บนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ มู่น่อนน่อนนั่งลงด้านข้างของเขา เขาไม่ได้มองเธอสักนิด
มู่น่อนน่อนเดาว่าตอนนี้เขาน่าจะโกรธจนไฟสุมหัวแล้ว
เฉินถิงเซียวเคยโกรธเธอจริงๆ เมื่อไหร่กันนะ?
เคยโกรธ แต่ก็หายแล้วนี่?
แต่ครั้งนี้ ราวกับไม่เหมือนครั้งก่อน
มู่น่อนน่อนหันศีรษะไปอีกทาง และให้แอร์โฮสเตสหยิบผ้าห่มมาให้เธอ เธอเอาผ้าห่มคลุมตัวและจัดการปรับเก้าอี้และเริ่มนอน
ตอนที่เฉินถิงเซียวปิดคอมพิวเตอร์นั้น จึงสังเกตเห็นว่ามู่น่อนน่อนหลับไปแล้ว
หึ ผู้หญิงที่ไม่มีมโนธรรม
เสียงดัง “ปึก” ตอนที่เขาพับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงมา ซึ่งจงใจลงแรงเพิ่ม
เสียงพับคอมพิวเตอร์มันดังอยู่บ้าง จนปลุกมู่น่อนน่อนให้ตื่น
เธอลืมตามามองเขา และมองคอมพิวเตอร์ที่ถูกเขาพับหน้าจอลง พลันเบะปากเล็กน้อย และหลับตานอนต่อ
น่าเบื่อ!
แต่ว่า เมื่อเธอเพิ่งข่มตานอนนั้น ก็รู้สึกว่ามีคนดึงผ้าห่มเธอ
มู่น่อนน่อนลืมตาขึ้นมา ก็มองเห็นเฉินถิงเซียวกำลังดึงผ้าห่มของเธออยู่
มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วทันที พลางใช้แรงดึงผ้าห่มไม่ยอมปล่อย