ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่ 667 เฉินถิงเซียวต่างหากที่เป็นยาดีของเธอ
เสิ่นเหลียงซักไซ้มู่น่อนน่อนทันที “แล้วมันอะไรกัน ถ้าพวกเธอไม่ได้คืนดีกัน เขาลงทุนละครของเธอทำไม ตัวเขาเองก็มีบริษัทเสิ้งติ่งอยู่บริษัทนึง ถ้าเขาสนใจธุรกิจบันเทิง สู้ลงทุนบริษัทเสิ้งติ่งดีกว่า”
“คงจะรู้สึกเบื่อมั้ง”มู่น่อนน่อนก็เดาไม่ถูกเหมือนกันว่าเฉินถิงเซียวกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงแม้รู้สึกว่าเหตุผลอันนี้ไร้สาระนิดหน่อย แต่คิดไปคิดมากลับรู้สึกว่ามีเหตุผลดี
เฉินถิงเซียวไม่ใช่คนที่ใช้จิตใจกำลังไปกับเรื่องที่ไร้สาระ ในเมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เขายังมาลงทุนละครของเธอโดยเฉพาะอีก ไม่ใช่เพราะเบื่อเหรอ
อ๋อ และมีความเป็นไปได้ว่าจะตอบสนองความต้องการของซูเหมียน
ตอนนี้ซูเหมียนอยากหาเรื่องเธอ อยากกดขี่เธอไม่ใช่เหรอ
บริษัทเฉินซื่อลงทุน เมืองพัง2 เฉินถิงเซียวเป็นเสี่ยสายเปย์ ซูเหมียนที่ฐานะเป็นแฟนของเฉินถิงเซียว อยากวางอำนาจบาตรใหญ่อยู่ในกองถ่าย เมืองพัง2 ก็ใช่ว่าเป็นเป็นไม่ได้
อย่างน้อย เรื่องอย่างเช่นว่าซูเหมียนจู้จี้จุกจิก เรื่องมาก และหาเรื่องมู่น่อนน่อน ก็อาจจะเกิดขึ้นได้อยู่
พอคิดแบบนี้ มู่น่อนน่อนก็รู้สึกว่าน่าเบื่อสุดๆ
เสิ่นเหลียงแสยะยิ้มมุมปาก หลังจากครุ่นคิดไปครู่นึง ก็ได้พูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าบอสใหญ่จะโรคเก่ากำเริบ ความจำเสื่อมอีก ”
น้ำเสียงของเธอจริงจังสุดขีด จนมู่น่อนน่อนก็เกือบจะเชื่อแล้ว
แต่ความจริงคือร่างกายของเฉินถิงเซียวปกติดี ไม่มีปัญหาเลยสักนิด เขาแค่จิตใจตั้งมั่นแน่วแน่ว่าไม่อยากอยู่กับเธอเฉยๆ
“เปล่า ทะเลาะกัน จากนั้นเขาก็ไล่ฉันไป……”
มู่น่อนน่อนยังพูดไม่จบ เสิ่นเหลียงก็ปรี๊ดแตกเลย “อะไรนะ เธอบอกว่าเฉินถิงเซียวไล่เธอ นึกว่าเธอไม่มีปัญญาซื้อบ้านหรือว่าอะไร ไล่เตี่ยมันสิ ”
มู่น่อนน่อนรอให้เสิ่นเหลียงแขวะเสร็จถึงพูดต่อว่า “ตอนนั้นฉันจากไปโดยตรง แต่ต่อมาพอคิดๆดูแล้ว ก็รู้สึกอยู่เรื่อยเลยว่าเฉินถิงเซียวอาจจะไม่อยากแยกกับฉันจริงๆ อาจจะมีเหตุผลอย่างอื่น เพราะยังไง……เขาก็เคยเป็นผู้ชายที่เพื่อช่วยฉันแล้วถึงขั้นยอมสละชีวิตตัวเอง……”
ตอนที่ไม่ไปคิดเรื่องพวกนี้ ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไร
แต่พอนึกถึงเรื่องในอดีต มู่น่อนน่อนก็พบว่า ความทรงจำระหว่างเธอกับเฉินถิงเซียวมีเยอะมากๆ
เฉินถิงเซียวนอกจากค่อนข้างอคติในบางครั้ง อย่างอื่นล้วนดีมากๆ
เสิ่นเหลียงเอามือตบขาอ่อนแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่ง “ใช่ ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน บอสใหญ่มีเรื่องลำบากใจอะไรหรือเปล่า ”
มู่น่อนน่อนสังเกตเห็นครั้งนี้เสิ่นเหลียงเรียกว่า“บอสใหญ่”
นิสัยของเสิ่นเหลียงก็เป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้แหละ ตอนแขวะเรียกเฉินถิงเซียวโดยตรง คราวนี้รู้สึกคำพูดของมู่น่อนน่อนมีเหตุผล ก็เปลี่ยนมาเรียกเขาว่าบอสใหญ่แล้ว
“ฉันก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน” มู่น่อนน่อนหายใจลึกๆแล้วพูดต่อ “เพราะฉะนั้นฉันก็เลยเคยไปหาเขา”
จากนั้น มู่น่อนน่อนก็ได้เล่าเรื่องคราวก่อนตอนที่พวกเขาทานข้าวอยู่ที่โรงแรมจีนติ่ง หลังจากเธอไปหาเฉินถิงเซียวแล้วเกิดเรื่องให้กับเสิ่นเหลียงฟัง
ปฏิกิริยาแรกของเสิ่นเหลียงก็คือถามมู่น่อนน่อนว่า “เจียงซ่งไอ้ขยะนั่นคงไม่ได้ทำอะไรเธอใช่มั้ย ห๊ะ ”
“ไม่ ฉันไม่ได้ถูกลวนลาม แต่ตั้งแต่ต้นจนจบเฉินถิงเซียวก็ไม่พูดสักคำเลย ถึงเจียงซ่งทำกับฉันแบบนั้นก็ตาม เขาก็ไม่เคยลุกขึ้นมาเลย” มู่น่อนน่อนหัวเราะเยาะตัวเอง
เสิ่นเหลียงขยับริมฝีปาก แต่กลับไม่รู้ควรจะพูดอะไร
เธอรู้สึกถึงแม้เฉินถิงเซียวดูดุมาก แต่ก็ไม่ใช่คนที่ไร้มนุษยธรรม แถมดูแล้วยังเป็นคนที่รักใครรักจริงมาก
ยังไงเธอก็ไม่มีทางเชื่อว่าเฉินถิงเซียวจะทิ้งมู่น่อนน่อน
แต่ที่มู่น่อนน่อนพูด ก็ทำให้เธอจำต้องเชื่อว่าเฉินถิงเซียวคือจิตใจตั้งมั่นแน่วแน่ไม่เอามู่น่อนน่อนแล้ว
เฉินถิงเซียวเป็นคนที่เผด็จการมาโดยตลอด เจียงซ่งลวนลามมู่น่อนน่อนต่อหน้าเขา เขาก็ยังไม่สะทกสะท้าน นี่แสดงให้เห็นถึงอะไร
นี่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่รักมู่น่อนน่อนแล้วจริงๆ
เธอหันไปมองมู่น่อนน่อน ถึงแม้สีหน้ามู่น่อนน่อนสงบนิ่งมาก แต่เธอก็ยังดูอ้างว้างในแววตามู่น่อนน่อนออกอยู่ดี
เฉินถิงเซียวสามารถใจดำได้ถึงขนาดนั้น แต่สลัดมือก็ไม่เอามู่น่อนน่อนแล้ว เห็นได้ชัดว่ามู่น่อนน่อนยังรักเขาอยู่
ที่เธอมาหามู่น่อนน่อนเพราะนึกว่ามู่น่อนน่อนคือดีกับเฉินถิงเซียวแล้วจริงๆ แต่คิดไม่ถึงว่าทั้งคู่ไม่เพียงไม่คืนดีกัน กลับกันยังแยกทางกันอย่างสิ้นเชิง
ในใจเสิ่นเหลียงหงุดหงิดนิดหน่อย หลายวันนี้มู่น่อนน่อนคงไม่สบายใจมากแน่ๆเลย แต่เธอดันยังมาหาถึงที่มาพูดเรื่องพวกนี้อีก……
“น่อนน่อน ขอโทษนะ ฉันไม่ได้……”
มู่น่อนน่อนแสร้งทำเป็นจ้องเธอด้วยสีหน้าโกรธแวบนึง “เสิ่นเสี่ยวเหลียง เก็บสีหน้าแบบนี้ของเธอไว้เลยนะ ผู้ใหญ่คบกันและเลิกกันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ ฉันสบายดี”
เสิ่นเหลียงเบะปาก “เธอบอกว่าดีก็ดี”
พวกเธอล้วนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เหมือนตอนอายุสิบกว่าแล้ว ดื้อด้านคิดว่าทุกอย่างล้วนต้องมีคำตอบและคำอธิบายที่ชัดเจน
ถึงแม้เสิ่นเหลียงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามู่น่อนน่อนเสียใจและเศร้าใจ แต่มู่น่อนน่อนบอกว่าเธอสบายมาก เสิ่นเหลียงก็เปิดโปงไม่ได้
ถึงเปิดโปงแล้วจะทำเป็น เธอกับมู่น่อนน่อนเป็นเพื่อนกัน เป็นเพื่อนที่ดีมากๆ
แต่ความรักกับมิตรภาพมันไม่เหมือนกัน เรื่องความรัก สำหรับมู่น่อนน่อนแล้ว เฉินถิงเซียวต่างหากที่เป็นยาดีของเธอ
เธอไม่สามารถช่วยมู่น่อนน่อนอะไรเลย
ถ้ามี นั่นก็คือช่วยเธอมีความสุขหน่อย
เสิ่นเหลียงคิดแล้ว ได้เอียงศีรษะมองไปที่มู่น่อนน่อน “เราออกไปเที่ยวกันเถอะ ”
มู่น่อนน่อนหันมามองเธอ “ที่เที่ยวที่ไหน ”
“ไปดูโรงเรียนสมัยเรียนของพวกเรา”
“ห๊า ”
เสิ่นเหลียงยิ้มอย่างลึกลับให้เธอ จากนั้นได้หยิบมือถือขึ้นมาแล้วเดินไปข้างๆไปโทรหาผู้จัดส่วนตัวของเธอ
ผ่านไปสักพัก ผู้จัดการส่วนตัวของเสิ่นเหลียงก็ได้มาถึง ในมือหิ้วกระเป๋าใบใหญ่เอาไว้สองใบ
ผู้จัดการส่วนตัวรู้ว่าความสัมพันธ์ของเสิ่นเหลียงกับมู่น่อนน่อนดี ก็ไม่ได้อยู่นาน แค่ทิ้งของเอาไว้ก็ไปเลย
ก่อนจะไป เธอแค่กำชับเสิ่นเหลียงคำนึงว่า “อย่าเที่ยวจนลืมกลับบ้านนะ”
เสิ่นเหลียงทำท่า“OK”ให้ผู้จัดการส่วนตัวแล้วก็ไล่เธอไปเลย
พอผู้จัดการส่วนตัวไป เสิ่นเหลียงได้เปิดกระเป๋าทั้งสองใบออก
พอมู่น่อนน่อนเดินไปดู ไม่นึกเลยว่าในกระเป๋าจะเป็นชุดนักเรียนของมัธยมปลายสองชุด
“เซอร์ไพรส์ใช่มั้ยล่ะ ”เสิ่นเหลียงหยิบชุดนักเรียนออกมา เทียบใส่ตัวไปด้วยและถามมู่น่อนน่อนอย่างตื่นเต้นไปด้วย
“……เฉยๆ”พูดตามตรง เธอไม่รู้สึกมีอะไรเซอร์ไพรส์เลย
“เธอก็ถือว่าใส่cosplayเป็นเพื่อนฉันก็แล้วกัน ละครที่ฉันรับเรื่องหน้าเป็นบทนักเรียน ทบทวนความรู้สึกของสมัยเรียนล่วงหน้าหน่อย”
เสิ่นเหลียงดูออกว่ามู่น่อนน่อนไม่ค่อยมีอารมณ์ จึงได้เอาชุดนักเรียนยัดใส่ไปให้เธอ “รีบเปลี่ยนเร็ว”
มู่น่อนน่อนก็ไม่อยากทำให้เสิ่นเหลียงเสียน้ำใจ ได้สวมชุดนักเรียนทับอยู่ด้านนอกของเสื้อไหมพรมโดยตรง
เสิ่นเหลียงเห็นมู่น่อนน่อนใส่ชุดนักเรียนแล้ว ได้ส่งเสียง“จึกๆ”สองทีพร้อมพูดว่า “ห่างมานานหลายปี มาดูเธอใส่ชุดนักเรียนนี้แล้ว รู้สึกว่า……”
มู่น่อนน่อนตกใจ จากนั้นได้หยิบหมอนกอดที่อยู่ข้างๆเขวี้ยงใส่เสิ่นเหลียง “เธอว่าใคร ไหนลองพูดอีกครั้งซิ”
วัยของมู่น่อนน่อน เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ผมดำผิวขาว หน้าตางดงาม สวยสะพรั่งสุดๆ ใส่ชุดนักเรียนแล้วมีความรู้สึกcosplayชุดนักเรียนจริงๆด้วย
เสิ่นเหลียงลุกขึ้นมาวิ่งจากทางด้านนี้ของโซฟาไปที่ทางโน้น พร้อมวิ่งไปด้วยแล้วตะโกนออกมาด้วย
มู่น่อนน่อนโดดขึ้นบนโซฟาและตามไปตีเธอโดยตรง