ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่148 อย่างนั้นแยกห้องกันนอนเถอะ!
บทที่148 อย่างนั้นแยกห้องกันนอนเถอะ!
มู่น่อนน่อนและเฉินเจียฉินซื้อข้าวของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมากมาย
ครึ่งหนึ่งในนั้นคือขนมที่เฉินเจียฉินหยิบมา
เอาตามที่เขาพูด ก็ใกล้จะปิดเทอมแล้ว ปิดเทอมฤดูหนาวก็ต้องตักตวงความสุขเสียหน่อย
ตอนจ่ายเงิน มู่น่อนน่อนเพิ่งหยิบกระเป๋าสตางค์ ก็ถูกเฉินเจียฉินเอามือกดกลับไป“ช้อปปิ้งกับคุณชาย จะให้ผู้หญิงจ่ายได้ยังไงกัน ผมจ่ายเอง!”
มู่น่อนน่อน“……”
เมื่อก่อนเขาอยู่บ้านเช่าของเธอ เวลากินดื่ม เขาลืมไปหรือเปล่าว่าตนเองเป็นคุณชาย
เงินของเฉินเจียฉินได้มาจากการช่วยคนเขียนการบ้านและเล่นเกม และมันก็ยังคงเป็นงานที่หนักมากพอสมควร มู่น่อนน่อนเสียดายที่จะใช้เงินเขา แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเฉินเจียฉินได้
คุณชายที่อยู่ในวัยหนุ่มผอมเหมือนกับลิงตัวหนึ่ง แต่เรี่ยวแรงมากมาย ขวางมู่น่อนน่อนอย่างไม่ลดละ เขาจ่ายเงินเองแล้ว
มู่น่อนน่อนได้แต่จำใจปล่อยไป ในเมื่อเป็นเงินแค่ไม่กี่ร้อย คราวหลังเธอค่อยซื้อของให้เฉินเจียฉินก็ได้
……
ตอนกลางคืน
มู่น่อนน่อนเพิงจะยกอาหารมาวางบนโต๊ะอาหาร ก็มองเห็นสีหน้าของเฉินถิงเซียวไม่ค่อยพอใจนักเดินเข้ามาที่ห้องอาหาร
มู่น่อนน่อนถามออกมาหนึ่งประโยค“เป็นอะไรไปคะ”
“คุณน้าบอกว่าคืนพรุ่งนี้จะจัดงานเลี้ยงอะไรสักอย่างที่โรงแรมจินติ่ง ให้ผมพาคุณไปร่วมงาน”มู่เจียเฉินไม่รู้โผล่มาจากไหน มาไขข้อสงสัยของมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนมองเฉินเจียฉินอย่างกึ่งสงสัย ถามเฉินถิงเซียวว่า“งานเลี้ยงอะไร”
เฉินถิงเซียวไม่พูดอะไร นั่งลงที่หน้าโต๊ะอาหาร
“คุณไม่อยากไปเหรอ”สีหน้าท่าทางของเฉินถิงเซียวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่อยากไป
เฉินเจียฉินเข้ามากระซิบข้างหูเธอว่า“พี่เขาไม่อยากไปเจอคุณน้า”
เฉินเจียฉินกับพ่อของเขาเฉินชิงเฟิงไม่ค่อยลงรอยกัน มู่น่อนน่อนก็พอจะรู้สาเหตุอยู่บ้าง
แน่นอนว่าสาเหตุก็คือเกี่ยวข้องกับเรื่องแม่ของเฉินถิงเซียว
ส่วนรายละเอียดในนี้ มู่น่อนน่อนก็ไม่ค่อยแน่ใจแล้ว
กลับมาที่ในห้อง เฉินถิงเซียวยังมีสีหน้าเยือกเย็นอยู่แบบนั้น
มู่น่อนน่อนเดินไป ช่วยเขาแกะเนคไท“ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป เขาคงจะไม่บังคับคุณหรอก”
เฉินถิงเซียวโน้มตัวลง ให้ใกล้เคียงกับความสูงของมู่น่อนน่อน ให้เธอแกะเนคไทให้ตนได้อย่างถนัด
แต่ว่า ในขณะที่เข้าโน้มตัว สองแขนก็กลับโอบไปที่รอบเอวของเธออย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
มู่น่อนน่อนถลึงตาใส่เขาพูดอะไรไม่ถูก“ปล่อยมือ!”
เฉินถิงเซียวไม่เพียงไม่ปล่อยมือ ยังได้คืบจะเอาศอกเอามือเลื่อนขึ้นไปตามแผ่นหลังเธอ“เนคไทก็ช่วยผมแกะแล้ว เสื้อผ้าไม่ช่วยผมถอดด้วยเหรอ”
มู่น่อนน่อนผลักเขา “ฝันไปเถอะ!”
“งั้นผมช่วยคุณถอด”เฉินถิงเซียวพูดพลาง ใช้นิ้วยาวปาดจากท้ายทอยของเธอมาที่ด้านหน้า
เครื่องทำความร้อนในห้องทำงานได้อย่างเต็มที่มาก มู่น่อนน่อนพอเข้าประตูมาก็ถอดจนเหลือแต่เสื้อตัวเดียว นิ้วมือของเฉินถิงเซียวไล่ลงไปตามสาบเสื้อของเธอ ปลดกระดุมเสื้อของเธอทีละเม็ดอย่างคล่องแคล่ว
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าพอผู้ชายคนนี้ปิดประตู ความไร้ยางอายถึงขั้นที่ไม่มีใครเทียบได้แล้ว
……
เย็นวันเสาร์
มู่น่อนน่อนนั่งบนโซฟาในห้องโถง ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม สไตลิสต์ยืนเรียงแถวอยู่ตรงหน้า
เขยิบไปด้านหลังเล็กน้อย คือชุดราตรีเรียงเป็นแถบ
“ใครให้พวกคุณเอามา”
“คุณชายเฉินค่ะ”
แม้ว่าในใจเธอจะรู้อยู่แล้วว่านอกจากเฉินถิงเซียวแล้ว ก็คงไม่มีใครคนอื่นส่งของพวกนี้มา แต่ก็ยังรู้สึกรำคาญเล็กน้อย
เมื่อคืนเธอถามเขาแล้วว่าจะไปงานเลี้ยงมั้ย เขาไม่ได้ตอบอะไร เธอคิดว่าเขาไม่อยากไป ก็เลยไม่ได้เอาเรื่องงานเลี้ยงมาใส่ใจอีกตอนนี้เขาให้คนส่งของพวกนี้มา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเตรียมไว้สำหรับงานเลี้ยง
แต่มู่น่อนน่อนกลับไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้เลย
“คุณนายน้อย เวลามีไม่มากแล้ว คุณว่าพวกเราจะเริ่มลองชุดราตรีได้หรือยังคะ”ช่างทำผมเอ่ยถาม
“ไม่ต้องรีบ รออีกเดี๋ยว”
มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเฉินถิงเซียว
ตอนที่เธอหยิบโทรศัพท์มือถือมานั้นเอง เฉินถิงเซียวก็โทรมา
มู่น่อนน่อนรับสาย แต่ไม่ส่งเสียงพูด
เฉินถิงเซียวที่อยู่ปลายสายก็นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า“ลองชุดราตรีแล้วหรือยัง”
“ยัง”มู่น่อนน่อนมือหนึ่งถือโทรศัพท์ อีกมือดึงเล็บมือของตนเองอย่างเรื่อยเปื่อย น้ำเสียงฟังดูแล้วเนือยๆเล็กน้อย
แน่นอนว่าเฉินถิงเซียวฟังออกว่าเธอไม่ค่อยเต็มใจ
เขาดูเหมือนจะหัวเราะเยาะ พูดว่า“ก็คิดเสียว่าผมขอร้องคุณครั้งหนึ่งแล้วกัน ไปร่วมงานเลี้ยง ผมจะรับปากคำขอร้องคุณอย่างหนึ่ง”
ท่าทางดึงเล็บของมู่น่อนน่อนชะงักไปทันที ถามว่า“จริงเหรอ”
“อืม”เฉินถิงเซียวตอบ
มู่น่อนน่อนนั่งตัวตรง มุมปากกระตุก พูดว่า“งั้นก็——แยกห้องนอนกันเถอะ!”
“ไม่มีทาง”เฉินถิงเซียวปฏิเสธข้อเรียกร้องของเธอทันที
มู่น่อนน่อนพิงที่โซฟาอีกครั้ง เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีทางรับข้อตกลงของเธอได้ง่ายๆ
“อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุย งานเลี้ยงฉันไม่ไป!”ใครจะไม่มีอารมณ์บ้าง
ต่อให้ตัดสินใจไปกะทันหัน อย่างไรก็ต้องแจ้งให้รู้ล่วงหน้าสักเล็กน้อย ขนเอาช่างแต่งหน้าทำผมมาถึงบ้านเป็นโขยงแบบนี้ ไม่ถามความเห็นเธอ ก็ตัดสินใจแทนเธอ!ใครให้อำนาจเขา
เขาให้เธอไป เธอก็ต้องไปหรือ
เฉินถิงเซียวเชื่อมั่นในตนเองไม่ผิด แต่ก็เที่ยววางอำนาจบีบบังคับมากเกินไป
แต่มู่น่อนน่อนกับเซียวชู่เหอไม่เหมือนกัน เธอไม่อาจทำแบบเซียวชู่เหอนั้นได้ ปล่อยให้มู่ลี่เหยียนจัดการชีวิตของเธอ ไม่เพียงไม่ขัดข้อง แต่ยังสนุกกับมันด้วย
มู่น่อนน่อนตัดสายทันที
เงยหน้าขึ้นมองช่างหน้าผมเสื้อผ้าที่ยืนเรียงเป็นแถว ก็พูดว่า“พวกคุณกลับไปเถอะ ของพวกนี้ฉันไม่ต้องการ”
……
เฉินถิงเซียวมองดูโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายในมือ ในตามีความตกตะลึงฉายวาบขึ้น
มู่น่อนน่อนกล้าตัดสายเขาเหรอ
แม้ว่าการที่เขาจู่ๆก็ตัดสินใจให้มู่น่อนน่อนไปร่วมงานเลี้ยง เธออาจจะไม่พอใจเล็กน้อย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเธอจะยืนหยัดหนักแน่นขนาดนี้
ช่างอยู่เกินความคาดเดาของเขาจริงๆ
งานเลี้ยงเริ่มเวลาสองทุ่ม ตอนนี้หกโมงแล้ว ยังมีเวลาอีกสองชั่วโมงก็จะเริ่มแล้ว
เวลาเหลือไม่นาน เฉินถิงเซียวหยิบเสื้อคลุมขึ้นมา ลุกขึ้นยืนเดินออกไปข้างนอก
กู้จือหยั่นอุ้มกองเอกสารกองหนึ่งเข้ามา เห็นเฉินถิงเซียวจะไป ก็รีบไปขวางเขาไว้“คุณจะไปไหน ของพวกนี้ยังทำไม่เสร็จเลยนะ!”
วันเสาร์ใครอยากจะทำงานล่วงเวลากัน ถ้าไม่ใช่เพราะงานค่อนข้างยุ่ง เขาก็ไม่มา
“ที่เหลืออยู่ไม่เยอะแล้ว คุณจัดการอีกนิด”เฉินถิงเซียวตบที่ไหล่ของกู้จือหยั่น พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า“ถ้าหากเร่งมือหน่อย อาจจะได้กลับบ้านก่อนเที่ยงคืน”
“????”ทำไมน้ำเสียงของเฉินถิงเซียวฟังดู เหมือนกับกำลังบอกว่าการทำงานล่วงเวลาในวันเสาร์ได้กลับบ้านก่อนเที่ยงคืนนั้นถือว่าเร็วมาก
กู้จือหยั่นเกือบจะร้องไห้แล้ว“เหี้ย ตกลงว่านี่บริษัทใคร!”
เฉินถิงเซียวเดินไปถึงประตูแล้ว ค่อยๆหันกลับมาพูดว่า“ของคุณ”
กู้จือหยั่นโกรธจนพูดไม่ออก แต่ก็ไม่ได้โยนเอกสารลงบนพื้น แต่โยนลงบนโต๊ะ จากนั้นก็ชี้ไปที่เฉินถิงเซียวพูดว่า“ฉันอยู่มานานขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นใครหน้าด้านเหมือนคุณเลย!”
“ชมเกินไปแล้ว”
กู้จือหยั่นเบ้ปาก หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดเว็บไซต์ค้นหา พิมพ์ในช่องค้นหาว่า“ทำยังไงให้ผู้ชายที่มีความมานะบากบั่นเป็นพิเศษและไอคิวสูงกว่าคนทั่วไปคุกเข่าเรียกเขาว่าพ่อ