ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่196 ยังคิดจะติดชาร์ตคำค้นหายอดฮิตอีก?
บทที่196 ยังคิดจะติดชาร์ตคำค้นหายอดฮิตอีก?
วันที่สอง หกโมงมู่น่อนน่อนออกจากบ้านไปที่โรงแรมจีนติ่ง
เพราะเฉินถิงเซียวบอกว่าจะกินอาหารที่โรงแรมจีนติ่งตอนเจ็ดโมง เธอจะอยู่ที่บ้านก็ไม่ได้เป็นอะไร แต่ไปเร็วหน่อยจะดีกว่า
ตอนที่เธอไปถึงโรงแรมจีนติ่ง ก็เป็นเวลาหกโมงสี่สิบ
เธอก้าวเท้าแรกถึงห้องพิเศษ ก้าวต่อมาซือเฉิงหยู้ก็มาถึงแล้ว
ซือเฉิงหยู้เข้ามาในห้องพิเศษ พบว่าเฉินถิงเซียวไม่อยู่ ก็ถามเธอ “ถิงเซียวยังไม่มาเหรอ?”
มู่น่อนน่อนดูเวลาเล็กน้อย พบว่าใกล้จะเจ็ดโมงแล้ว เธอถอนหายใจแล้วพูด “ตั้งแต่เขากลับมาจากบริษัทเฉินซื่อ ก็ยุ่งทั้งวันจนไม่เห็นเงาเลย”
ในน้ำเสียงของมู่น่อนน่อนซ่อนความกังวลไว้ไม่มิด
ซือเฉิงหยู้เปลี่ยนเรื่องอย่างไม่แสดงอารมณ์ “วันนี้เสี่ยวฉินเองก็อยากตามมาด้วย แต่จากนั้นก็มีเพื่อนร่วมชั้นมาชวนเขาไปเตะบอล เขาก็วิ่งตามเพื่อนไปเลย”
มู่น่อนน่อนเองก็ไม่ได้เจอเฉินเจียฉินมาสักพักแล้ว ใจยังรู้สึกคิดถึงเขาอยู่บ้างจึงพูดคุยด้วยกันกับซือเฉิงหยู้
ทั้งสองคนคุยไปด้วย รอเฉินถิงเซียวไปด้วย
แต่เฉินถิงเซียวสายแล้วก็ยังไม่มา
เวลาผ่านหนึ่งทุ่มไปอย่างรวดเร็ว
เฉินถิงเซียวเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้นเสมอ และไม่ใช่คนที่ไม่รักษาเวลา จนถึงตอนนี้เขายังไม่มา คงไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกนะ….
มู่น่อนน่อนโทรหาเฉินถิงเซียว แต่กลับถูกตัดสาย
เธอขมวดคิ้วมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย สีหน้าค่อนข้างย่ำแย่
ซือเฉิงหยู้เห็นท่าทางนั้นก็ถามเธอ “เป็นอะไรไป?”
“ไม่….” มู่น่อนน่อนเม้มปาก แล้วยิ้มอย่างฝืน ๆ “เฉินถิงเซียวยังไม่มา น่ากลัวว่าคงเป็นเพราะเรื่องของบริษัททำให้ล่าช้า อย่างนั้นเรามาสั่งอาหารกันก่อนเถอะ”
ซือเฉิงหยู้ก็เหมือนกับเธอ ต่างยังไม่ได้กินข้าวเย็นกันมาเลย บางทีเฉินถิงเซียวอาจจะถูกเรื่องอะไรบางอย่างพันขาอยู่ กว่าจะมาได้ก็ดึกมาก หรือจะให้ซือเฉิงหยู้กับเธอท้องหิวอยู่ด้วยกันงั้นเหรอ?
ซือเฉิงหยู้พูดอย่างไม่ถือสา “ไม่ต้องหรอก รออีกหน่อยเถอะ”
จนถึงเวลาสองทุ่ม มู่น่อนน่อนจึงตัดสินใจไม่รอแล้ว ให้ซือเฉิงหยู้สั่งอาหารอย่างเข้มแข็ง
ด้วยเหตุนี้ มื้อนี้ที่เดิมทีเป็นมื้อเย็นที่มีสามคน กลายเป็นซือเฉิงหยู้กับมู่น่อนน่อนสองคน
ทั้งสองกินข้าวเสร็จก็จิบชากันต่อ แล้วเฉินถิงเซียวก็เพิ่งจะมาสายโด่ง
มู่น่อนน่อนเมื่อเห็นว่าเฉินถิงเซียวเข้ามา ก็ก้มหน้าลงมองชาในถ้วย
ตอนนี้เธอเห็นเฉินถิงเซียวก็โมโหขึ้นมา
ไม่มีเวลาก็อย่าเลือกวันนี้สิ ถ้ายุ่งมากก็โทรมาหน่อยไม่ได้เลยรึไง?
ซือเฉิงหยู้รินชาให้เฉินถิงเซียวแล้วยื่นให้เขา ถามอย่างอบอุ่น “ยุ่งมากเลยเหรอ?”
เฉินถิงเซียวนั่งลงข้างมู่น่อนน่อน มือข้างหนึ่งมองบนพนักพิงข้างหลังของมู่น่อนน่อนอย่างเคยชิน แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่
สายตาของซือเฉิงหยู้หยุดที่มือของเฉินถิงเซียวไม่กี่วินาที ก่อนจะละออกอย่างรวดเร็วราวกับการเหลือบมอง
“ยังโอเคครับ” เฉินถิงเซียวหยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่มจนเกลี้ยง มองมู่น่อนน่อนเล็กน้อยแล้วถาม “พวกเธอกินกันแล้วเหรอ?”
ซือเฉิงหยู้พูด “อืม นายไม่มาสักที พวกเราเลยสั่งมากินแล้ว”
เฉินถิงเซียวไม่พูดอะไร เพียงแค่หันไปมองมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกว่าเขากำลังมองมาที่ตัวเอง และเอาแต่ตั้งอกตั้งใจดื่มชา
โกรธเหรอ?
“อืม ที่จริงจะรีบมาเร็วสักหน่อย แต่มีอุบัติเหตุรถชนกันเล็กน้อยระหว่างทาง มือถือก็ตกลงมาพังด้วย” เฉินถิงเซียวพูดมองไปที่ซือเฉิงหยู้
มู่น่อนน่อนที่อยู่ข้าง ๆ แม้จะแสดงสีหน้าว่าไม่สนใจเขา แต่ตอนที่เขาพูด เธอกลับหูผึ่งได้ยินอย่างชัดเจน
เสียงของเขาเพิ่งจะเงียบลง มู่น่อนน่อนก็หันหน้าไปอย่างรวดเร็วแล้วถาม “นายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
“ไม่เป็นอะไร” เฉินถิงเซียวลดสายตามองเธอ เอ่ยด้วยรอยยิ้มในดวงตา “รถของคนอื่นชนกัน ทำให้เกิดการจราจรติดขัด ก็เลยเพิ่งจะมาซะสายเลยน่ะ”
……
ทั้งสองคนต่างก็กินข้างกันแล้ว เฉินถิงเซียวจึงสั่งอาหารแค่ของตัวเอง
เขากินอย่างรวดเร็ว แต่การกินของเขาไม่เพียงไม่ได้ดูมูมมาม ในทางกลับกันเขาดูค่อนข้างเจริญหูเจริญตาด้วยซ้ำ
อาจจะเพราะว่าใบหน้านั้นของเขาดูดีเกินไป….
กินข้าวเสร็จ มู่น่อนน่อนก็กลับบ้านด้วยกันกับเฉินถิงเซียว
นี่เป็นการกลับบ้านกับเฉินถิงเซียวครั้งแรกในรอบหนึ่งสัปดาห์เลย
ในห้องโดยสารรถเงียบสงบ ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนก็พูดขึ้น “พวกเราสองไม่ได้กลับด้วยกันมานานแล้ว”
“ก่อนหน้านี้ใครกันนะเอาแต่ไม่ยอมไปทำงานกับพร้อมฉัน?” เฉินถิงเซียวพูดอย่างเย็นชา และเริ่มพลิกบัญชีเก่ากับมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนเบะปาก “สถานการณ์นั้นไม่เหมือนกันสักหน่อย”
ทั้งสองเถียงเรื่องนี้กันไปตลอดทางจนถึงบ้าน
สุดท้าย การโต้เถียงนี้สิ้นสุดลงหลังจากที่เฉินถิงเซียวโยนเธอลงบนเตียง
ช่วงนี้เฉินถิงเซียวเหนื่อยเกินไปจริง ๆ และเพราะกลางคืนทนไม่ไหวจึงทำกับมู่น่อนน่อนไปหลายครั้ง ตอนที่มู่น่อนน่อนตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา จึงเพิ่งได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเฉินถิงเซียวที่หลับอยู่ข้าง ๆ เธอ
เธอยื่นมือไปบีบหน้าเขาเบา ๆ วาดไปตามโครงหน้าของเขา
เฉินถิงเซียวเหล่ตาเล็กน้อยก่อนจับมือเธอไว้ที่ริมฝีปากแล้วกัดเบา ๆ “อย่าจับ”
มู่น่อนน่อนยิ้มแล้วใช้มืออีกข้างแตะใบหน้าของเขา
ข้างหนึ่งลูบ ข้างหนึ่งบีบ ทั้งสองคนเริ่มทะเลาะกันบนเตียงครั้งแล้วครั้งเล่า
ในตอนนั้นเอง มือถือของมู่น่อนน่อนก็ดังขึ้นกะทันหัน ดึงความนึกคิดของทั้งสองกลับมา
มู่น่อนน่อนหยิบมือถือตัวเองจากหัวเตียง เอ่ยพึมพำ “ใครโทรมาหาฉันเช้าขนาดนี้กันนะ?”
เมื่อเธอหยิบมาดู ก็พบว่าเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก
เธอพูดกับตัวเอง “ใครกันน่ะ?”
เฉินถิงเซียวมองจากด้านหลังของเธอ แล้วพูดขึ้น “กู้จือหยั่น”
“กู้จือหยั่นโทรมาหาฉัน?” มู่น่อนน่อนสีหน้าประหลาดใจ
“คงจะตามหาฉัน” เฉินถิงเซียวพูดไปก็เอื้อมมือมาหยิบมือถือของมู่น่อนน่อนไป
เมื่อวานมือถือของเขาตกพังไปแล้ว หลังเข้าไปบริษัทเฉินซื่อ ก็ไม่ได้พกโทรศัพท์งานอันอื่นเลย กู้จือหยั่นหาเขาไม่เจอมาสักพัก จึงโทรหามู่น่อนน่อน
คิดอย่างนั้นก็สมเหตุสมผลอยู่
“มีเรื่องอะไร?” เฉินถิงเซียวรับสายด้วยน้ำเสียงเย็นชา เย็นเยือกสุด ๆ
มู่น่อนน่อนเอนตัวไปฟังอย่างอยากรู้อยากเห็น ก็ได้ยินน้ำเสียงบ้าคลั่งของกู้จือหยั่นพอดี “จะทำยังไง มีคนถ่ายรูปซือเฉิงหยู้กับเฉินถิงเซียวกินข้าวด้วยกันอีกแล้ว! ตอนนี้ขึ้นเป็นการค้นหายอดนิยมไปแล้ว!”
น้ำเสียงของกู้จือหยั่นรุนแรงมาก ราวกับวินาทีถัดไปเขาจะวิ่งทะลุมือถือมาได้อย่างนั้น
มู่น่อนน่อนได้ยินคำพูดนั้น อึ้งไปสักพักหลังจากรู้สึกตัวอีกทีก็ถามขึ้น “ฉันกับพี่ใหญ่ ถูกถ่ายจนติดคำค้นหายอดนิยมอีกแล้วเหรอ?”
เฉินถิงเซียววางสายด้วยไปหน้านิ่งขรึม แล้วเปิดweiboขึ้นมา
บนนั้นมีหัวข้อยอดนิยมของซือเฉิงหยู้กับมู่น่อนน่อนอย่างที่คิด
#แฟนสาวลึกลับของซือเฉิงหยู้#
มู่น่อนน่อนมุมปากกระตุก “ฉันว่า ขึ้นชาร์ตการค้นหากับพี่ใหญ่อีกไม่กี่ครั้ง ฉันคงได้เดบิวต์แล้ว….”
เฉินถิงเซียวเหลือบมองเธออย่างเย็นชา “ยังคิดจะติดชาร์ตการค้นหาอีก?”
รูปภายในการค้นหายอดนิยม เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนที่โรงแรมจีนติ่ง เธอและซือเฉิงหยู้ถูกแอบถ่ายตอนกินข้าวด้วยกันก่อนที่เฉินถิงเซียวจะไปถึง
ซือเฉิงหยู้ในรูปนั้นถ่ายได้อย่างชัดเจน แต่มู่น่อนน่อนยังเป็นรูปลักษณ์ที่คงคลุมเครือ
มู่น่อนน่อนเม้มปาก ไม่ยอมน้อยหน้า “ฉันก็ไม่ได้อยากติดชาร์ตคำค้นหาสักหน่อย เมื่อวานถ้าไม่ใช่เพราะนายไม่ยอมมาสักที คนอื่นก็คงจะถ่ายได้ภาพที่เราสามคนกินข้าวด้วยกัน!”