ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่224 อย่างนั้นแล้วผมก็เป็นของคุณเหมือนกัน
ฉินสุยซานมาที่วิลล่าหลายวันแล้ว แต่นี่ก็ยังเป็นครั้งแรกที่เห็นเฉินถิงเซียวยิ้มออกมา
ปกติเฉินถิงเซียวจะมีใบหน้าที่เย็นชา ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา ทำให้รู้สึกทั้งกลัวและทั้งอยากเข้าใกล้ รอยยิ้มที่ออกมาจากใจอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าบนร่างของเขามันเหมือนกับได้ข้ามผ่านชั้นแสงสว่างออกมาก็ไม่ปาน ทั้งร่างมันส่องประกายไปหมด ทำให้คนอื่นเห็นเพียงแค่นิดเดียวมันก็อดไม่ได้ที่จะลุ่มหลงออกมา
เธอแอบกำหมัดแน่นอยู่เงียบๆ ผู้ชายอย่างนี้สิถึงจะคู่ควรกับเธอฉินสุยซาน
……
เฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนทั้งสองคนกินมื้อเย็นกันเสร็จก็กลับห้องนอนไป
อาหูรีบส่งผลไม้ขึ้นไปให้อย่างรวดเร็ว
มู่น่อนน่อนหลังจากที่ได้กินผลไม้เรียบร้อยแล้ว ตอนที่อาบน้ำเสร็จก็ยืนแปรงฟันหน้ากระจก ส่องกระจกมองซ้ายมองขวา ก็คิดแต่เพียงว่าตัวเองเหมือนจะอ้วนแล้ว
นี่เพิ่งเท่าไหร่เอง? อ้วนเสียแล้ว?
เธอควรจะกินให้น้อยลงหน่อยใช่มั้ย?
แต่กินให้น้อยลงสักหน่อย เธอก็จะหิวนี่นา?
มู่น่อนน่อนแปรงฟันเสร็จไปด้วยใบหน้าที่หงิกงอ ตอนที่ออกไป เห็นเฉินถิงเซียวสวมเสื้อคลุมอาบน้ำนั่งอ่านเอกสารอยู่บนโซฟาเดี่ยว
ความสง่าและเลอค่าแผ่ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ทำเอามู่น่อนน่อนเห็นแล้วก็รู้สึกรำคาญ
ถึงแม้จะรู้ว่าเรื่องเมื่อเย็นวันนี้จะไม่ได้เกี่ยวกับเฉินถิงเซียว แต่เธอก็อดที่จะเห็นเขาแล้วรู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้
มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป ดึงเอาเอกสารในมือของเขาโยนออกไปอีกด้านนึง กอดอกมองเขา
เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมา เห็นท่าทางถามโทษของเธอแล้ว ก็กลั้นขำเอาไว้ เอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีนิ่งขรึม “เป็นอะไรไป?”
สายตาของเขาเรียบนิ่งน้ำเสียงฟังดูจริงจัง มันกลับทำให้มู่น่อนน่อนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดีแทนเสียอย่างนั้น
เธอเหมือนกับกำลังระบายอารมณ์ ยื่นมือออกไปหยิกหน้าเฉินถิงเซียว
หยิกไปสองทีเธอก็อดที่จะแขวะเขาออกไปไม่ได้ “ผู้ชายแท้ๆ ผิวดีขนาดนี้เชียว! อารมณ์ก็แปรปรวนอย่างกับผู้หญิง!”
เฉินถิงเซียวเลิกคิ้วออกมา “อารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้หญิง?”
มู่น่อนน่อนเลียนแบบท่าทางของเขา เลิกคิ้วกลับไปหาเขา
แขนยาวของเฉินถิงเซียวยื่นออกมา แล้วก็ได้ดึงเธอเข้าไปสู่อ้อมแขน
มือข้างหนึ่งของเขารัดลงบนเอวเธอแน่น น้ำเสียงทุ้มต่ำ แฝงไปด้วยการคุกคาม “อารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้หญิง?”
มู่น่อนน่อนสั่นออกมาเล็กน้อย “เปล่า คุณไม่ได้อารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้หญิง!”
เฉินถิงเซียวจึงได้พอใจขึ้นมา เอียงหัวจูบลงไปบนศีรษะของเธอ
จากนั้นมันก็เป็นไปตามสเต็ปเดิม ทั้งสองคนได้นอนลงไปกับเตียง
แต่กลับ…ทำอะไรไม่ได้
เพราะถึงยังไงมู่น่อนน่อนก็ท้องอยู่
มือทั้งของข้างของเฉินถิงเซียวประคองสีข้างของมู่น่อนน่อนทั้งสองด้าน เอนตัวลงไปตรงส่วนบนของเธอ ในดวงตาดำสนิทดูมืดสนิทเหมือนกับตอนกลางคืน หลุดเสียงลมหายใจที่ไม่มั่นคงออกมา “ตอนนี้ทำไงดี?”
มู่น่อนน่อนรู้สึกมีความสุขในความทุกข์ของคนอื่นขึ้นมาเล็กน้อย แสดงสีหน้าไร้เดียงสาออกมา “ไม่รู้ค่ะ นั่นเป็นเรื่องของคุณ ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าพวกผู้ชายเขาจะต้องแก้ปัญหานี้กันยังไง”
แต่รอยยิ้มในดวงตาของเธอได้ขายเธอออกมาหมดแล้ว
เฉินถิงเซียวพลิกตัวลงนอนข้างๆตัวเธอ พาเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน ดวงตาดูสะลึมสะลือเล็กน้อย ในน้ำเสียงประดับไปด้วยความเหนื่อยล้า “อย่าขยับ ขอกอดสักพัก”
“ปล่อย” ไม่ใช่ว่ามู่น่อนน่อนไม่อยากให้เขากอดสักหน่อยหรอกนะ แต่เพราะ…
เสียงของเฉินถิงเซียวกดต่ำออกมามากกว่าเดิม “อย่าขยับ”
มู่น่อนน่อนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเขาได้อย่างชัดเจนมาก ตกใจจนไม่กล้าส่งเสียงออกไปทันที จึงได้แต่ปล่อยให้ถูกเขากอดไปเงียบๆ
มู่น่อนน่อนรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะใช่เท่าไหร่ของเขา ก็ได้เปล่งเสียงถามเขาออกไป “เป็นอะไรไป?”
“ถ้าไม่อยากเจอฉินสุยซาน ก็ให้หล่อนออกไป” เขาพูดจบก็เสริมออกมาอีกประโยคนึง “ต่อจากนี้จะไม่มีเรื่องจำพวกนี้อีกแล้ว”
เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆว่าท่านปู่เฉินจะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้
พันธมิตรทางธุรกิจของตระกูลเฉินมีจำนวนมาก พ่อของฉินสุยซานเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ ฐานะก็ไม่นับว่าต่ำเลย ท่านปู่เฉินเป็นคนที่ระวังและรอบคอบขนาดนั้น ลูกน้องเองก็หัวแหลมเหมือนๆกัน ไม่มีทางที่จะแสดงออกมาชัดขนาดนั้นแน่
นี่ก็บ่งบอกได้เพียงว่าฉินสุยซานปะปนเข้ามาในกลุ่มสาวใช้ที่ถูกส่งมาให้เฉินถิงเซียวที่นี่ นั้นเป็นคนที่ได้ถูกท่านปู่เฉินเห็นชอบด้วยแล้ว
มู่น่อนน่อนส่งเสียงเฮอะออกมาทีนึง “ฉันไม่ค่อยอยากจะเจอหน้าเธอเท่าไหร่หรอก แต่ก็ไม่สามารถปล่อยเธอไปอย่างนี้ได้ เห็นบ้านพวกเราเป็นตลาดสด อยากมาก็มาอยากจะไปก็ไปเหรอ?
บ้านพวกเรา
สามคำนี้ได้ซึมลึกเข้าไปในใจของเฉินถิงเซียว
……
ท้ายที่สุดก็ไม่ได้หลบไป ทำได้เพียงต้องยอมช่วยเขาไป
หลังจากที่เสร็จสิ้นลง เฉินถิงเซียวก็เข้าห้องน้ำไปอย่างมีความสุข
ตอนที่ออกมาอีกครั้ง เขาก็ได้พบว่าบนเตียงมีผ้าห่มเพิ่มมาอีกผืน
มู่น่อนน่อนห่อตัวอยู่ในผ้าห่มของตัวเอง เอาหมอนวางเอาไว้ตรงกลางเตียง “คืนนี้อย่าล้ำเส้นเขตแดนเส้นนี้ ทางนี้เขตของฉัน ทางนั้นของคุณ อย่าล้ำเข้ามา! ไม่อย่างนั้นก็แยกห้องนอนกัน”
เธอพูดจบ ก็จ้องเฉินถิงเซียวมองปฏิกิริยาของเขา
เฉินถิงเซียวกวาดสายตามองหมอนที่เอามาเป็น “เส้นแดน” เดินเข้าไปโดยที่ไม่พูดจาอะไร ชี้ไปทางอีกครึ่งเตียงที่มู่น่อนน่อนนอน แล้วถามออกไป “ด้านนี้ของคุณ?”
“อืม” มู่น่อนน่อนพยักหน้า เธอพูดไม่ชัดเจนอีกหรอ?
เฉินถิงเซียวขยับ “เส้นแดน”เส้นนั้นไปอยู่ตรงขอบเตียง แต่ตัวเองกลับไปนอนข้างๆมู่น่อนน่อนซุกเข้าไปในผ้าห่มของเธอ “งั้นผมก็เป็นของคุณเหมือนกัน”
มู่น่อนน่อน “…”
ก็แค่ไปเข้าห้องน้ำมาเท่านั้นเองไม่ใช่หรอ นี่เฉินถิงเซียวไปโดนตัวอะไรแปลกๆมาหรือเปล่า? นึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดคำพูดแบบนั้นออกมาได้?
……
ในตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูหนาว เมืองหู้หยางตอนเที่ยงคืนก็ยิ่งหนาวไปถึงกระดูก
เซียวชู่เหอห่อตัวเข้ากับเสื้อผ้านั่งบนเก้าอี้ หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหามู่ลี่เหยียน ให้เขาส่งคนขับรถมารับตน
หรือว่าคืนนี้เธอจะต้องนอนข้างถนนงั้นหรอ?
รถยนต์คันนึงขับเข้ามาจากที่ไม่ไกลออกไป ค่อยๆจอดลงตรงหน้าเธอ
หน้าต่างรถเคลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าหล่อของชายหนุ่มคนนึง “คุณป้า?”