ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่225 ถึงยังไงตอนนี้ฉันก็เป็นคุณนายเฉิน
เซียวชู่เหอได้ยินดังนั้น ก็มองคนที่อยู่ในรถไปด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ
แสงไฟขมุกขมัวเล็กน้อย เธอจึงมองเห็นใบหน้าของคนคนนั้นได้ไม่ชัดเจนอยู่สักพัก
ต่อมา ประตูรถก็ถูกคนเปิดออกมาจากด้านใน คนที่อยู่ในรถเดินลงมาจากรถเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของเซียวชู่เหอ “คุณป้า ผมเองครับ ชูหาน”
“ชูหาน?”
เซียวชู่เหอมองดูเผินๆ ก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูคุ้นหน้า
ลองสังเกตดูอย่างละเอียดแล้ว จึงได้พบว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเสิ่นชูหานที่เมื่อก่อนหน้านี้เคยมีการหมั้นหมายกับมู่หวั่นขีหรอกหรอ?
เสิ่นชูหานเองก็เคยไปที่ตระกูลมู่อยู่หลายครั้ง ภาพจำที่เซียวชู่เหอมีต่อเขานั้นก็คือเป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาที่ดูเลอค่าเลยคนนึง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีทางที่จะได้รับความโปรดปรานมาจากมู่หวั่นขีได้หรอก
ต่อมาก็ได้เกิดเรื่องขึ้นมาหลายเรื่อง มู่หวั่นขีกับเสิ่นชูหานก็ไม่ได้ไปมาหาสู่อะไรกัน แต่เป็นพวกที่ชอบแสดงละครกัน
“ดึกๆดื่นๆทำไมคุณป้าถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะครับ?”
เซียวชู่เหอถูกเสิ่นชูหานถามออกมาจนมีสีหน้ากระอักกระอ่วนออกมา ลังเลไปสักพักนึงแน่นอนว่าเธอไม่กล้าบอกออกไปอยู่แล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่พูด แต่เสิ่นชูหานก็พอจะคาดเดาได้อยู่แล้วบ้าง
“บ้านผมอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ถ้าคุณป้าไม่รังเกียจ คืนนี้จะมาพักที่บ้านผมก็ได้นะครับ” เสิ่นชูหานพูดจบ เห็นเซียวชู่เหอเผยสีหน้าที่ลำบากใจออกมา จึงเอ่ยออกไปอย่างมีน้ำใจสุดๆ “เป็นห้องของผมเองครับ”
สภาพเซียวชู่เหอในตอนนี้ไปบ้านเสิ่นชูหานจะต้องไม่เหมาะสมแน่
พอได้ยินเขาบอกว่าเป็นห้องของเขาเอง บนใบหน้าของเซียวชู่เหอก็เผยรอยยิ้มออกมา “นี่มันจะเหมาะได้ยังไง…”
“ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมหรอกครับ” เสิ่นชูหานพูดไป แล้วก็ได้เปิดประตูให้เธอไปอย่างสุภาพ
เซียวชู่เหอขึ้นรถไปด้วยรอยยิ้ม
ตลอดการเดินทาง ทั้งสองคนต่างก็หาเรื่องมาคุยกันไม่หยุด
ไม่ทันได้รู้เนื้อรู้ตัว เสิ่นชูหานก็ดึงได้ประเด็นไปที่เรื่องของมู่น่อนน่อนขึ้นมา
เขาทำเป็นถามเปรยๆออกมา “ไม่ได้เจอน่อนน่อนมานานแล้ว ช่วงนี้เธอยังสบายดีอยู่มั้ยครับ?”
“คุณรู้จักน่อนน่อนด้วย?” หลังจากที่เซียวชู่เหอมีอาการตื่นตกไปชั่วขณะ จากนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อก่อนมู่หวั่นขีเคยมาบ่นกับเธอว่ามู่น่อนน่อนคิดจะแย่งแฟนเธอ
แฟนของมู่หวั่นขีในตอนนั้นก็คือเสิ่นชูหาน
มู่น่อนน่อนก็ยังเคยชอบเสิ่นชูหานด้วยหรอ?
“ใช่ครับ ผมเป็นรุ่นพี่ของเธอ รู้จักกันมานานแล้ว” ในน้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความรู้สึกที่โหยหาออกมา เหมือนกับมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับมู่น่อนน่อนเลย
เซียวชู่เหอถามออกไปอย่างเสียไม่ได้ “คุณช่วยฉันเพราะว่ามู่หวั่นขีหรือว่ามู่น่อนน่อนกันคะ?”
“แน่นอนว่าต้องเพราะมู่น่อนน่อนอยู่แล้ว” เสิ่นชูหานพูดจบก็เสริมออกมาอีกประโยคนึง “น่อนน่อนเป็นผู้หญิงที่ดีคนนึง”
ในตอนนี้ก็ได้มาถึงที่พักเล็กๆของเสิ่นชูหานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เสิ่นชูหานจอดรถสนิท ก็มาเปิดประตูรถให้กับเซียวชู่เหอ “ที่นี่แหละครับ”
เขาพูดจบ ก็เปิดท้ายรถออกมา “คุณป้าช่วยรอผมแป๊บนึงนะครับ ผมต้องเอาของนิดหน่อย”
เสิ่นชูหานหยิบของมา เดินนำทางอยู่ข้างหน้า
เซียวชู่เหอเดินตามอยู่ข้างเขา มองเงาร่างเบื้องหลังของเขาแล้วก็คิดไปอย่างเหม่อลอย ถ้าเขาเป็นลูกเขยเธอก็ดี
ชายหนุ่มที่มีมารยาทแล้วยังสุภาพเรียบร้อยอย่างนี้ ดีกว่าเฉินถิงเซียวคนนั้นไม่รู้ตั้งกี่เท่า
เธอนึกถึงเฉินถิงเซียว สั่นสะท้านออกมา ถึงได้เดินตามต่อเข้าไปในห้อง
……
วันต่อมา
ตอนที่มู่น่อนน่อนเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหาร ก็เห็นกับฉินสุยซานที่กำลังยกอาหารขึ้นโต๊ะ
ไม่ใช่เพราะเธอตั้งใจที่จะไปดูฉินสุยซาน แต่ฉินสุยซานนั้นแสดงออกมาชัดเจนเกินไปต่างหาก
ถึงแม้ว่าฉินสุยซานเป็นคนที่คิดจะมาแย่งเฉินถิงเซียวกับเธอ แต่เธอเองก็ต้องยอมรับเลยว่าฉินสุยซานหน้าตาสวยเลยทีเดียว บวกเข้ากับตัวเธอเองก็ดูค่อนข้างจะมีบุคลิกภาพที่ดี แล้วยังตั้งใจแต่งหน้าแต่งตามาเป็นพิเศษอีก ถึงแม้ว่าจะแค่สวมชุดสาวใช้ธรรมดาๆอยู่บนร่างของเธอ ก็ยังสามารถมองออกว่าเธอนั้นไม่เหมือนใคร
ฉินสุยซานได้ประสบการณ์จากเรื่องเมื่อวานมา สงบจิตใจเอาไว้ ตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปช้าๆ
เห็นมู่น่อนน่อนเดินเข้ามา เธอก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย “คุณผู้หญิง”
เฉินถิงเซียวได้เข้ามานั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ช่วงนี้เธอตื่นสายนิดหน่อย เฉินถิงเซียวต้องไปบริษัท จึงต้องตื่นเช้า แต่โดยปกติแล้วเขากินข้าวเสร็จเตรียมที่จะออกไปบริษัทแล้ว กว่ามู่น่อนน่อนจะตื่นนอน
บางครั้งเธอก็นอนอืดอยู่บนเตียง ตอนที่ลงมา เฉินถิงเซียวก็ไม่อยู่แล้ว
ทันทีที่เธอนั่งลงไป ก็ได้ยินเฉินถิงเซียวพูดออกมาว่า “วันนี้เปิดศาล ผมคงจะกลับมาเย็นสักหน่อย”
เฉินถิงเซียวพูดถึงคดีของมู่หวั่นขีออกมา
ดำเนินคดีในโทษตั้งใจทำร้ายคนอื่นโดยเจตนา แต่มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ
แต่ทว่าเพราะทนายเป็นฟู้ถิงซี มู่หวั่นขีจึงจะถูกตัดสินลงอาญาว่าเป็นเรื่องที่ได้มีการตัดสินโทษไปแล้ว
มู่น่อนน่อนคิดอยู่สักพักแล้วเอ่ยพูดออกไป “ฉันจะไปด้วย”
เธออยากจะไปเข้าฟังสถานการณ์ด้วย ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าคิดอะไรอยู่ ก็แค่อยากไปดูสักหน่อยว่ามู่หวั่นขีจะเสียใจบ้างหรือเปล่า
เฉินถิงเซียวย่นคิ้วออกมา “ผมไปเองก็พอ”
มู่น่อนน่อนได้ยินอย่างนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป วางช้อนในมือลง หรี่ตาลงมองเฉินถิงเซียว
เธอนั้นคิดว่าคำขอนี้มันไม่ได้เกินไปเลย แต่เฉินถิงเซียวมีสิทธิ์อะไรไม่ให้เธอไป?
ยิ่งไปกว่านั้น ฉินสุยซานก็ยังอยู่ตรงนี้ นี่ไม่เป็นการตบหน้าเธอหรือไงกัน?
สาเหตุที่เธอให้ฉินสุยซานอยู่ต่อ ยังมีอีกเหตุผลนึงก็คืออยากจะลองดูว่าเฉินถิงเซียวมีความจริงใจต่อเธอมากแค่ไหนกันแน่
เธอเชื่อเฉินถิงเซียว แต่ในใจบางครั้งก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เธอก็ไม่คู่ควรกับเฉินถิงเซียวเอาเสียเลย
ความมั่นใจทั้งหมดของเธอ จะมีแค่เพียงเพราะความจริงใจของเฉินถิงเซียวเท่านั้น
ตรงระหว่างคิ้วของเฉินถิงเซียวนิ่วเข้าหากันแน่นกว่าเดิม “อากาศเย็นแล้ว ร่างกายของคุณก็ไม่สะดวกด้วย”
มู่น่อนน่อนก็ไม่ยอมแพ้ “ฉันสวมเสื้อผ้าเยอะหน่อยก็ได้ คุณหมอบอกว่าฉันแข็งแรงมาก”
เธอยังมีความพะวงในใจอยู่ตลอดเวลากับเรื่องที่เฉินถิงเซียวไม่ให้เธอออกจากบ้านเมื่อก่อนหน้านี้นั้น ทั้งสองคนไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนั้นมันจะปล่อยผ่านไปอย่างนั้น
เฉินถิงเซียวเลิกสายตาขึ้นมองจ้องเธออยู่หลายวิ “ถึงเวลาผมจะกลับมารับคุณ”
มู่น่อนน่อนนึกถึงเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้ขึ้นมา ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาชั่วขณะ ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ คำพูดในปากที่พูดออกไปกลับกลายเป็นกำลังไล่เขาไปเสียอย่างนั้น “ก็ดี คุณไปทำงานเถอะ”
เฉินถิงเซียวเม้มริมฝีปากออกมาเล็กน้อย เดินออกไปด้วยใบหน้าเย็นชา
หลังจากที่ฉินสุยซานเห็นเฉินถิงเซียวออกไปแล้ว ก็ได้มองมู่น่อนน่อนไปท่าทางเยาะหยัน
ในความคิดของเธอ มู่น่อนน่อนชอบหลงตัวเองเกินไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะกล้าขัดคำพูดของเฉินถิงเซียว
มู่น่อนน่อนรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมองเธออยู่ เธอเงยหน้าขึ้นไปมองฉินสุยซาน แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย เอ่ยเสียงอ่อนออกไป “ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่”
สีหน้าฉินสุยซานเริ่มเปลี่ยนไปก่อน ตามมาด้วยการตอบกลับมาอย่างปกติ “งั้นหรอคะ?”
เธอไม่เชื่อหรอกว่ามู่น่อนน่อนจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“เฉินถิงเซียวเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมเลยคนหนึ่ง ตรงจุดนี้ทุกคนต่างก็รู้ดี พวกเธอก็เลยแย่งกันวิ่งไล่ตามเขากัน นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากจะเข้าใจหรอก แต่ว่า…”
มู่น่อนน่อนหยุดชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าดูจริงจังมากขึ้น “ทุกคนต่างก็เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ของประดับของใคร มีความคิดและวิธีการกระทำของตัวเอง คบกับผู้ชายที่หน้าตาดีมีพื้นฐานครอบครัวดีกว่าตัวเองสักคน จะต้องปล่อยท่าทางของตัวเองให้ต่ำลง?”
สีหน้าของฉินสุยซานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เม้มริมฝีปากไม่ได้พูดอะไร
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะน่าตลกเลยทีเดียว “อ้อ บางทีเธอคงจะไม่ได้หลงใหลเฉินถิงเซียวมากเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าสถานะคุณนายน้อยแห่งตระกูลเฉินนี่น่ะมันดูมีเกียรติดีก็เท่านั้นเอง ผู้หญิงที่คิดว่าสถานะคุณนายน้อยแห่งตระกูลเฉินมันมีเกียรติไม่ได้มีเพียงแค่เธอคนเดียวหรอก เธอไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเฉินถิงเซียวจะต้องชอบเธออย่างแน่นอน?”
ฉินสุยซานถูกเธอถามแทงใจดำ น้ำเสียงก็ร้อนรนออกมาเล็กน้อย “มู่น่อนน่อน หุบปากไปซะ! เธอพูดเสียอวดดีจังเลยนะ เธอก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง!”
มู่น่อนน่อนเบ้ปากออกมา “แน่นอนว่าฉันไม่เหมือนกับพวกเธออยู่แล้ว เพราะถึงยังไงตอนนี้ฉันก็เป็นคุณนายเฉิน”
เห็นฉินสุยซานโกรธจนหน้าดำหน้าแดงออกมา มู่น่อนน่อนก็รู้สึกสนุกขึ้นม