ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - บทที่236 สวยกว่าในรูปอีก
บทที่236 สวยกว่าในรูปอีก
มู่น่อนน่อนไม่ได้ตอบสนองกลับมาอะไรอยู่ครู่หนึ่ง
คุณป้าของเฉินถิงเซียว?
เธองงไปพักหนึ่ง ก็นึกขึ้นมาได้ คุณป้าของเฉินถิงเซียว ก็คือแม่แท้ๆที่ให้กำเนิดซือเฉิงหยู่ไม่ใช่หรอ?
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยเจอคุณป้าของเฉินถิงเซียวมาก่อน และเฉินถิงเซียวก็ไม่เคยพูดถึงป้าของเขาต่อหน้าเธอเลย แต่จากความสัมพันธ์ของสองพี่น้องเฉินถิงเซียวกับซือเฉิงหยู้ ก็สามารถมองได้ว่าความสัมพันธ์ของเฉินถิงเซียวกับป้าของเขาไม่ได้ต่างกับของซือเฉิงหยู้มากนัก
ถึงแม้เฉินถิงเซียวจะพูดเบาๆมาแค่ประโยคเดียว แต่มู่น่อนน่อนก็ฟังความทุ้มในน้ำเสียงของเขาออก
ก็เป็นเพราะความสัมพันธ์ของเขากับซือเฉิงหยู้พังไปแล้ว เขาเลยไม่รู้จะวางตัวต่อหน้าป้าเขายังไง แล้วก็จะอารมณ์ขึ้นๆลงๆแบบนี้ไม่ได้ด้วย…
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นมองตาเขา ถามเขาเสียงเบา “เธอกลับมาแล้วมีปัญหาอะไรหรอ?”
คำพูดที่ครั้งก่อนมู่เจิ้งซิวพูดกับเฉินถิงเซียว มู่น่อนน่อนนั้นไม่รู้เลย
เฉินถิงเซียวจ้องตาเธอนิ่งๆไปสองวินาที ยื่นมือมาปาดหน้าม้าที่ปลกหน้าผากให้เธอ สีหน้าและน้ำเสียงกลับมาเป็นปกติแล้ว เขาพูดอย่างไม่แยแส “ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้พวกเราอาจจะต้องกลับบ้านเก่าซักครั้ง”
ถึงแม้มู่น่อนน่อนจะเคยพูดไปแล้วว่าอยากช่วยเหลือเขา แต่เรื่องเหล่านี้หนักเกินไป เขาไม่อยากให้เธอมาปวดหัวกับเรื่องเหล่านี้
ตอนที่อยู่ด้วยกันกับเขา เขาหวังว่าเธอจะได้ผ่อนคลายและมีความสุขบ้าง
มู่น่อนน่อนไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการลักพาตัวในปีนั้น ยิ่งเวลาผ่านไป เฉินถิงเซียวยิ่งไม่ยอมให้เธอรู้มากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องของการลักพาตัวในปีนั้น
มู่น่อนน่อนที่เตรียมของเพื่อนกลับบ้านหลังเก่าเสร็จนานแล้ว พยักหน้าอย่างง่ายๆ “โอเค”
สิ่งนี้ทำให้เฉินถิงเซียวประหลาดใจนิดหน่อย
ก็คือ เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนที่เห็นมู่น่อนน่อนหยิบกระเป๋าเดินทางที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบตั้งนานแล้วออกมา เขาถึงรู้ว่ามู่น่อนน่อนเตรียมตัวกลับตระกูลเฉินเสร็จตั้งนานแล้ว
เฉินถิงเซียวยิ้มแห้ง เอากระเป๋าเดินทางของเธอวางกลับไป “ไม่ต้องเอาของไป แค่กลับไปกินข้าวสักมื้อเอง”
“ใกล้จะฉลองปีใหม่แล้ว ปีนี้คุณควรจะกลับบ้านไปฉลองนะ?” มู่น่อนน่อนเหลือบตามองกระเป๋าเดินทาง คิดจะไปเอากลับมาอีก
เฉินถิงเซียวหูตาไวรีบจับมือของเธอไว้ “ไม่ได้กลับบ้านเก่าฉลองปีใหม่มาตั้งหลายปี ปีนี้ไม่กลับไปก็ไม่เป็นไรหรอก”
มู่น่อนน่อนอ้าปากจะพูดอะไรออกมาอีก ก็โดนเฉินถิงเซียวตัดบท “โอเค ไปกันเถอะ อย่าไปคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้เลย”
กลับบ้านไปฉลองปีใหม่เป็นเรื่องไร้สาระหรอ…
……
ทั้งกลับมาถึงบ้านเก่าแล้ว
ที่ประตูยังเหมือนเดิมมีคนใช้และบอดี้การ์ดมาคอยต้อนรับพวกเขากลับไป แต่ว่าโอ่อ่าน้อยกว่าที่พวกเขากลับมาครั้งแรกหน่อยนึง
มู่น่อนน่อนเคยเห็นมาแล้วครั้งนึง ครั้งนี้เลยไม่ได้รู้สึกประทับใจขนาดนั้น
อาจเป็นเพราะช่วงนี้คนใช้และบอดี้การ์ดในบ้านเพิ่มขึ้น เธอเลยคุ้นชินกับชีวิตแบบนี้แล้ว
พอลองมาคิดดู เธอก็รู้สึกว่าเฉินถิงเซียวใจกว้างกับเธอมาจริงๆ
คนอื่นล้วนบอกว่าตระกูลใหญ่เขี้ยวลากดิน อย่างน้อยก็จนถึงตอนนี้ เธอยังไม่เคยสัมผัสเจอมาก่อนเลย
หลักๆก็เป็นเพราะช่วงนี้ความขี้โมโหของเฉินถิงเซียว ดีขึ้นมากแล้ว เขาตามใจเธอเกือบทุกเรื่อง
“คุณผู้ชาย คุณหญิงน้อย”
ทั้งทางเดิน ล้วนมีคนใช้และบอดี้การ์ดเรียกพวกเขาด้วยความเคารพ
ถึงห้องโถงใหญ่ มู่น่อนน่อนยังไม่ทันเห็นคนข้างใน ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ถิงเซียว”
มู่น่อนน่อนมองไปตามเสียง ก็เห็นหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมสีแดงเข้มคนหนึ่งเดินตรงเข้ามา
เธอไม่ได้แต่งหน้ามาก บนตัวก็ไม่ได้สวมใส่เครื่องประดับล้นเหลือ ดูแล้วเรียบหรูดูสง่ามาก
เธอเดินไปหาเฉินถิงเซียว แล้วยื่นมือไปจับแขนของเขา
มู่น่อนน่อนเข้าใจได้ในทันที ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นคุณป้าของเฉินถิงเซียวเฉินเหลียน
“คุณป้า” เฉินถิงเซียวเรียกด้วยใบหน้าที่ไม่ได้แสดงอาการอะไร แต่กลับจับมู่น่อนน่อนถอยกลับไปครึ่งก้าวอย่างเงียบๆ หลบมือของเฉินเหลียน
ประกายความประหลาดใจปรากฎบนใบหน้าของเฉินเหลียน
มือของเธอที่ยังยกอยู่นิดๆ ก็หยุดอยู่กลางอากาศไปแบบนั้น
ทันใดนั้นบรรยากาศก็เริ่มอึดอัด
มู่น่อนน่อนหันไปหาเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวมาได้มองเธอ แต่มือของเขาที่จับไหล่ของเธอกลับบีบอย่างอ่อนโยน เป็นสัญญาณให้เธอสบายใจ
“พวกเราไม่ได้เจอกันจะปีสองปีแล้วหนิ?” สีหน้าของเฉินเหลียนกลับไปเป็นปกติแล้ว เธอมองเฉินถิงเซียวด้วยใบหน้าที่โอบอ้อมอารี “ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าเสี่ยวฉินแอบหนีกลับประเทศไปหาเธอมา ลำบากเธอแย่เลยสิ”
เฉินถิงเซียวพยักหน้าอย่างไม่แยแส “อืม”
“…” ผู้ชายคนนี้พยักหน้าเนี่ยนะ?
“พี่ พี่จะบอกว่าผมกวนพี่หรอ ผมยังไม่ได้ไปกวนอะไรพี่เลยนะ!”
จู่ๆเสียงของเฉินเจียฉินก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเขา
พอมู่น่อนน่อนได้ยิน แล้วหันหน้าไปด้วยความตกใจ ก็เห็นเฉินเจียฉินที่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตขนสัตว์สีฟ้ากำลังเดินตรงมาทางนี้
“เสี่ยวฉิน!” เธอไม่ได้เจอเฉินเจียฉินมาพักหนึ่ง เลยคิดถึงเขามาก
เฉินเจียฉินยิ้มกว้าง วิ่งมาหาเธอ “เจ๊น่อนน่อน!”
“เหมือนจะสูงขึ้นอีกแล้วนะเนี่ย” มู่น่อนน่อนยื่นมือไปเทียบกับหัวตัวเอง รู้สึกว่าเฉินเจียฉินสูงกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อย
“จริงเหรอ? ผมก็ว่าผมสูงขึ้นมาหน่อย แต่พี่ชายผม…” เฉินเจียฉินจู่ๆก็หยุดพูด เสียงค่อยๆสั่นเล็กน้อย “พวกเขาเอาแต่บอกว่าผมไม่ได้สูงขึ้น”
มู่น่อนน่อนก็ได้ยิน “พี่ชายผม” สองคำที่เขาพึ่งพูดออกมา
ดูแล้วเฉินเจียฉินก็รู้ เรื่องของซือเฉิงหยู้กับเฉินถิงเซียวแล้ว
มู่น่อนน่อนยิ้มอย่างชัดเจน ยื่นมือไปไปตบหัวเขาเบาๆทีนึง
เฉินเจียฉินเกาหัว เหมือนเขินเล็กน้อย แล้วถามอย่างห่วงใย “ได้ยินว่าพี่ท้องแล้วหรอ?”
เขามองดูมู่น่อนน่อน “แต่ดูแล้วไม่เหมือนเลยนะ”
“ไอหยา ตอนนี้น้องยังเล็กอยู่ ต้องสองเดือนถึงจะเริ่มโต” มู่น่อนน่อนเขกหัวเขาอีกรอบอย่างอดไม่ได้
“นี่คือน่อนน่อนสินะ”
เสียงของเฉินเหลียนแทรกเข้ามา มู่น่อนน่อนกับเฉินเจียฉินถึงหันกลับไปมองเธอทั้งคู่
มู่น่อนน่อนก็พึ่งรู้ว่า เมื่อกี้ตอนที่เธอกับเฉินเจียฉินคุยกันอยู่นั้น ดูเหมือนเฉินถิงเซียวกับเฉินเหลียนจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย
เมื่อกี้ตอนคุยกับเฉินเจียฉิน ก็ไม่ได้อยู่ใกล้เฉินถิงเซียวมากนัก เฉินถิงเซียวจับเธอดึงมาไว้ข้างๆ แล้วแนะนำตัวเธออย่างคร่าวๆ “นี่คือภรรยาของผม มู่น่อนน่อน”
จากนั้นก็มองไปที่เฉินเหลียนแล้วพูดกับมู่น่อนน่อน “นี่คือคุณป้า”
ถึงเฉินถิงเซียวจะแนะนำเฉินเหลียนแล้ว มู่น่อนน่อนก็ยังเรียกอย่างสุภาพ “คุณป้า ฉันคือน่อนน่อนค่ะ”
“สวยจริงๆ” เฉินเหลียนยิ้มออกมา ให้ความรู้สึกอบอุ่นมาก
พอเธอพูดจบ ก็เสริมอีกหนึ่งประโยค “สวยกว่าในรูปอีก”
มู่น่อนน่อนประหลาดใจ “รูปอะไรหรอคะ?”
“ผมถ่ายส่งไปให้แม่เอง” เฉินเจียฉินเดินมาข้างๆเฉินเหลียน ยื่นมือไปจับไหล่ของเฉินเหลียน “ผมบอกแม่แล้ว เจ๊น่อนน่อนตัวเป็นๆสวยกว่าอีก”
มู่น่อนน่อนฉีกยิ้มมุมปาก
เฉินชิงเฟิงที่ไม่รู้ว่าเดินเข้ามาตอนไหนพูด “อย่ามัวยืนอยู่นี่เลย เข้าไปนั่งกันดีกว่า”
มู่น่อนน่อนสับสนเล็กน้อย ความสัมพันธ์ของเฉินถิงเซียวกับเฉินชิงเฟิงไม่ค่อยดีนัก งั้นเธอควรหรือไม่ควรเรียกเฉินชิงเฟิงกันนะ?
เฉินถิงเซียวไม่ให้เวลาเธอสับสน จับเธอแล้วเดินเข้าไปด้านใน “เข้าไปนั่งเถอะ”
พอมู่น่อนน่อนนั่งลง เฉินเจียฉินก็ขยับมาข้างๆเธอ ถามนู่นถามนี่ด้วยความสงสัย
ไม่มีใครพูดถึงเรื่องซือเฉิงหยู้
พอดีกับที่ตอนนี้ ซือเฉิงหยู้กับเฉินอินหย่าเดินเข้ามาพร้อมกัน