ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 142
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่142 ชนบาดเจ็บ
นัยน์ตาของหลินซินเยียนฉายแววประหลาดใจ ครู่หนึ่ง แต่ว่าไม่นานก็หายไปจนมองไม่เห็น จน กระทั่งมองไม่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปสักนิด
ได้ยินที่เจ้าของร้านพูดอู่อี้ก็รีบถามว่า “ท่านเจ้า สัว เมื่อครู่ที่ท่านพูดว่างานใหญ่ คงไม่ใช่งานอภิเษก ของอู่เซวียนอ๋องหรอกกระมัง”
“จะไม่ใช่ได้อย่างไร พวกท่านไม่รู้หรือ แปลก ประหลาดจริง ไม่กี่วันมานี้เมืองเฟิ่งซีที่เงียบเหงาก็ กลับครึกครื้นขึ้นมาจนแทบจะพลิกฟ้า แค่กลัวว่าจะ หรูหราใหญ่โตไม่พอ ท่านดูถนนสายนี้สิ ไม่ใช่ว่าให้ พวกเราแขวนไว้หรอกหรือ แต่ว่าก็แปลก หนึ่ง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่เมืองเอก หนึ่งพี่น้องท้องเดียวกัน จับจักรพรรดิ งานแต่งครั้งนี้ไม่ใหญ่ได้หรือ หลัง จากมีการสมรสพระราชทาน การแต่งงานครั้งนี้ก็ ต้องหรูหรามากที่สุด” เจ้าของร้านพูดไปถอนใจไป
เสี่ยวเอ่อร์ที่ถือของอยู่ด้านข้างพูดได้ว่าเรื่องนี้ ช่างคึกคัก อดไม่ได้ที่จะพูดเสริม “ได้ยินมาว่าอู่เซวี ยนอ่องมีพระโฉมงดงาม บุตรสาวของผู้มีบุญหนัก ศักดิ์ใหญ่ล้วนชอบเขา วันพรุ่งขบวนงานแต่งจะ ต้องผ่านถนนสายนี้ เมื่อถึงเวลาข้าจะต้องไปดูให้ ได้ว่าอู่เซวียนอ่องมีหน้าตาเป็นเช่นไร”
เจ้าของร้านยิ้มไปแล้วก็ตีหัวของเสี่ยวเอ่อร์
“เจ้าเด็กน้อยสุดท้ายก็ยังไม่รู้จักโต เจ้าเป็นผู้ชาย ไปดูผู้ชายนี่มันน่าตื่นเต้นตรงไหน ถ้าหากเจ้าดูเจ้า สาวสิถึงจะถูก ได้ยินมาว่าบุตรสาวตระกูลเซียวก็ เป็นหญิงที่มีความสามารถอันดับหนึ่งของเมืองเฟิ่ง ซีเช่นกัน คู่แต่งงานนี้ช่างเหมาะสมกันเหมือนฟ้า ลิขิตเสียเหลือเกิน”
เจ้าของร้านและเสี่ยวเอ่อร์พูดไปหัวเราะไป ไม่ ได้สังเกตเห็นสีหน้าของอู๋อี้ที่ค่อยๆแข็งที่อ เขามอง ไปทางหลินซินเยียน ด้วยความที่เขากลัวว่านางจะ ถูกคำพูดเหล่านั้นทำให้ปวดใจ แต่ว่าเห็นสีหน้าของ หลินซินเยียนสงบนิ่ง ราวกับว่าเรื่องที่ทั้งสองคนพูด ถึงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับนางสักนิด
เห็นหูอี้มองตัวเอง หลินซินเยียนก็ฉีกยิ้มฝืนใจ “ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าชุดนี้ดีนะ ซื้อไว้ดีหรือไม่”
อู่อี้ได้สติกลับมา ทำเพียงแค่พยักหน้า “ดี”
หลินซินเยียนถามราคาจากเจ้าของร้าน เมื่อ เจ้าของร้านบอกราคามาแล้วหลินซินเยียนก็เบิก ตากว้าง “เหตุใดจึงแพงเช่นนี้”
“แม่นาง ท่านพูดเช่นนี้ ร้านของพวกเรานั้นเก่า แก่เป็นร้อยปี สินค้าคุณภาพนั้นถูกจัดวางไว้ที่นี่ ทั้งหมด เสื้อผ้าสำเร็จรูปของคนรวยหลายคนใน
เมืองนี้ก็ซื้อมาจากร้านของเรานี่แหละ พูดถึงบ้านตระกูลเซียวนั้น ไม่กี่วันมานี้ก็มาซื้อชุดสำเร็จรูป จากร้านเราไปชุดหนึ่ง สินค้าร้านเราดี ราคาก็ต้อง แพงกว่าร้านข้างนอกเป็นธรรมดา” เจ้าของร้านรีบ อธิบายไปยิ้มไป
หลินซินเยียนขมวดคิ้ว พิจารณามองชุดยาวตัว นั้น ฝีมือการเย็บนั้นไม่เลวเลย ดังนั้นก็ไม่ต้องพูด อะไรมากแล้วก็หยิบเงินออกมาจ่ายเลย
ทั้งสองคนถือเสื้อแล้วเตรียมจะออกจากร้าน หลินซินเยียนเดินด้านหน้า อู๋อี้ถือประเป๋าใหญ่ กระเป๋าเล็กอยู่ข้างหลัง ทั้งสองเดินเพิ่งจะเดินไปถึง ประตูก็พบคนถลันเข้ามาตรงหน้า
ฝีเท้าของคนที่เดินเข้ามานั้นเร็วเกินไป แค่เข้า มาก็ชนกับหลินซินเยียนจนเจ็บ นางถือของเยอะ มากไป รับน้ำหนักไม่ไหว ถูกชนจนเจ็บของที่ถืออยู่ จึงหล่นไปอยู่ที่พื้นอย่างเสียไม่ได้
“เจ้าคนเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้าเดินชนข้าเจ็บ รี” แม่นางชุดสีชมพูที่อยู่ตรงหน้าประตูคำรามขึ้น ไม่ได้สนใจเลยว่าตนเองที่เป็นฝ่ายชนคนอื่นเจ็บ ก่อน คำพูดที่ออกจากปากนางคำแรกก็คือต้องการ การความรับผิดชอบจากฝ่ายตรงข้ามก่อน
หลินซินเยียนถูกชนจนล้มไปกองอยู่กับพื้น ของหล่นไปอยู่กับพื้น นางกลับมองไม่ทัน นางเพียง แค่รู้สึกว่าปวดตรงท้องน้อยเป็นพักๆ ด้านล่างมีของเหลวร้อนไหลออกมา นางกัดฟัน ชั่วพริบตา เดียวเหงื่อก็ไหลชุ่มเต็มหน้า นางทำได้เพียงเรียก เสียงเบาว่า “ศิษย์พี่ ข้าปวดท้อง….”
อู่อี้ตกใจ เขานำของที่อยู่ในมือยัดใส่มือของ เจ้าของร้าน รีบนั่งยองตรวจดูสถานการณ์ของหลิน ซินเยียน เมื่อเห็นกระโปรงของนางมีรองเลือดเปื้อน เป็นจุดๆก็สติหลุดทันที อุ้มนางขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไป ด้านนอกอย่างไม่คิดชีวิต วิ่งออกไปสองก้าวก็รีบ หันกลับมาถามเจ้าของร้าน “โรงหมออยู่ที่ไหน”
เจ้าของร้านรีบชี้ไปทางขวาแล้วพูดว่า “เดิน ตรงไป ข้ามถนนนี้ไปได้ก็มีโรงหมอแล้ว” อู่อี้รีบร้อนมาก ทำเพียงกวาดตามองผู้หญิงชุด
สีชมพูคนนั้นแล้วอุ้มหลินซินเยียนวิ่งไปทางโรงหมอ
“คุณหนู ดูเหมือนว่าจะเจ็บจริงๆนะเจ้าคะ…” สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังผู้หญิงที่สวมชุดสีชมพูรู้สึก เป็นกังวล “ก่อนออกจากบ้านวันนี้ฮูหยินกำชับไว้ อย่างจริงจังมากว่าอย่าก่อเรื่อง ถ้าหากว่าเป็นเรื่อง อันตรายถึงชีวิตคนอื่นจะทำเช่นไรเล่า”
“เจ้าอย่าพูดสุ่มสี่สุ่มห้า ชนเบาๆจะถึงชีวิตได้ อย่างไร อีกอย่าง เป็นนางที่เดินออกมาชนเอง ไม่ เกี่ยวอะไรกับพวกเราเสียหน่อย” ผู้หญิงที่สวมชุด สีชมพูถลึงตาใส่สาวใช้อย่างดุร้าย
สาวใช้ก้มหน้าไม่กล้าส่งเสียง ก็เห็นชัดชัดอยู่ ว่าคุณหนูของนางให้นางวิ่งเข้าไปในร้านจนชนคน เจ็บ มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือว่า …..”คุณหนูเจ้าคะ เช่นนั้นพวกเราตามไปดูหน่อยดีหรือไม่”
หญิงชุดชมพูลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก็พูดว่า “งั้น….พวกเราตามไปดูหน่อยก็ได้ อย่างไรก็ไม่มี เรื่องอะไรอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่พวกเราต้องกลัว หรอกกระมัง กลับไปเจอแม่ เมื่อแม่ถามก็จะได้บอก ว่าไม่มีอะไร”
หญิงชุดชมพูดถึงได้พาสาวใช้ตามไปที่โรง
หมอ
โรงหมออยู่ไม่ไกลนัก แต่ว่าอู๋อี้ที่อุ้มหลินซิน เยียนไปอย่างรีบร้อนก็เหงื่อแตกท่วมหัว เพราะว่า มือของเขาถูกเหงื่อของหลินซินเยียนทำให้เปียก ชุ่ม แก้มของหลินซินเยียนเปลี่ยนเป็นขาวซีด
“ท่านหมอ ท่านหมอ รีบมาดูหน่อยเร็ว นางมี
ครรภ์ซ้ำยังถูกชนจนบาดเจ็บ” อู่อี้เข้ามาในโรงหมอ ก็คำรามเสียงดัง หมอที่อายุราวห้าสิบปีรีบวางยาที่ อยู่ในมือแล้วเดินเข้ามาหา หญิงชุดชมพูคนนั้นเพิ่งจะเดินเข้ามาถึงหน้า
ประตู ก็ได้ยินเสียงคำรามของอู๋อี้ ตกใจจนฝีเท้า
ชะงัก กึก สาวใช้ที่อยู่ด้านหลังนางตกใจมากจนหน้า
ถอดสี
“คุณหนู เขาพูดว่า…. แม่นางคนนั้นกำลังตั้ง ครรภ์…..” สาวใช้กล้าๆกลัวๆจนแม้แต่จะพูดยังติด อ่างเล็กน้อย
“ข้าได้ยินแล้ว” หญิงชุดชมพูไม่ได้แสดงความ โกรธออกมาแต่ว่าในใจของนางกลับมีความอ้างว้าง ถ้าหากว่าเกิดเรื่องจริงทั้งสองคนนี้จะต้องโวยวาย แน่ ถ้าพ่อของนางที่เคร่งครัดเรื่องจริยธรรมมากๆรู้ เข้า ครึ่งปีหลังจากนี้นางจะไม่ได้ออกจากบ้านอีก
เลย
หมอคลำชีพจรของหลินซินเยียน ค่อยๆขมวด คิ้ว เมื่อปล่อยมือออกแล้ว สีหน้าไม่ค่อยเห็นด้วย “ก็ รู้อยู่ว่าตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ เหตุใดจึงไม่ระวัง ตอน นี้มีเลือดออกมาแล้ว ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะรักษาเด็กคน นี้ไว้ได้หรือไม่ ทำได้แค่ลองดูก่อนแล้วกัน”
หมอให้อู่อี้อุ้มหลินซินเยียนเข้าไปในห้องด้าน หลัง กางฉากบังลมแล้วให้อู่อื้ออกไปรอด้านนอก หมอคนนั้นจึงเอาเข็มเงินมาเริ่มการรักษาให้หลินซิน เยียน
นอกฉากบังลม สองตาของอู๋อี้แดงก่ำ ยิ่งได้ เห็นหญิงสองคนที่กำลังกลัวหัวหดอยู่หน้าประตู ก็ โมโหจนเดินก้าวใหญ่ไปหยุดอยู่ที่หน้าผู้หญิง เสื้อชมพูกัดฟันคำรามเสียงดังว่า “ถ้าหากว่าศิษย์ น้องของข้าเป็นอะไรขึ้นมาละก็ เจ้าจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต”
“ข้า ข้า…. เป็นคน เป็นคนที่ชนนางเจ็บ…” แม่นางชุดชมพูยังพูดไม่จบ ก็ได้ยินเสียงอู๋อี้คำราม อีก
“หุบปาก จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ดีชั่ว ข้าอยากจะรู้ จริงว่าเจ้าเป็นคนของวังไหน จึงได้ลำพองเช่นนี้ ”
แม่นางชุดชมพูถูกเขาด่าเช่นนี้ ก็ร้องไห้ออก มา”ข้า ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจ ….”
“ท่านชาย โปรดปล่อยคุณหนูของข้าก่อนเถิด คุณหนูของข้าเป็นคนปากร้ายใจดี ไม่มีทางที่จะ ตั้งใจทำร้ายผู้อื่นหรอก เมื่อครู่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ท่านอย่าทำร้ายคุณหนูของข้าเลยนะ” สาวใช้พูด ไปก็ร้องไห้ออกมาด้วย
เวลานั้นผู้หญิงทั้งสองคนกำลังร้องไห้ อู๋อี้ก็ย่น คิ้ว เขาจึงได้ปล่อยคอเสื้อของแม่นางชุดชมพูออก ทำเพียงแค่เดินไปมองทางหลังฉากกั้นอย่างกังวล ใจ