ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 184
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 184นี่มันเป็นโชคชะตาหรือไม่
ถ้าหากว่าตั๋วเงินจะเป็นเพียงแค่สิ่งยั่วยวนเช่นนั้น การไปเป็นแขกที่จวนอู่เซวียนอ๋องนั้นก็คือยาเสพติด ชนิดหนึ่งทุกคนก็รู้ว่านิสัยของอู่เซวียนอ่องนั้นเย็นชา ไม่ค่อยคบหาใครเข้าถึงยากคนที่จะสามารถไปเป็น แขกของจวนอู่เซวียนอ๋องได้นั้นมีน้อยนักถ้าหากผู้มี บุญหนักศักดิ์ใหญ่คนไหนได้ไปเดินในจวนอู่เซวียน องนั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่เอาไปคุยโม้ได้ทั้งชีวิต
ขณะนั้นทุกคนที่นั่นก็อิจฉาหลินซินเยียนจนตา ร้อนสายตาที่มองมายังหลินซินเยียนนั้นราวกับจะพ่น ไฟออกมาได้
“พี่สะใภ้”เห็นหลินซินเยียนไม่ส่งเสียงโม่จื่อเฟิงถึง ได้เรียกเช่นนี้อีกที
เสียงนี้ทำให้หลินซินเยียนขนลุกทั่วร่างขนลุก ราวกับหนังไก่ทั้งตัวโม่จื่อเฟิงเรียก”พี่สะใภ้”เมื่อฟังแล้ว ยังน่ากลัวยิ่งกว่าเรื่องผี
“เอ่อ…เรื่องดีเช่นนี้ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไรยินดี แน่นอน”หลินซินเยียนยิ้มไปถึงตา เวลาพูดทำท่า เหมือนคนละโมบโลภมาก
อวินเสียวอิงกวาดตามองนางอย่างดูถูกทีหนึ่ง ความมืดครึ้มในดวงตานั้นทำให้คนไม่หนาวก็สั่นแต่น่า เสียดายที่โม่จื่อเฟิงหันหลังให้ไม่ได้เห็นท่าทางเยือก เย็นของนาง
หลินซินเยียนรับตั๋วเงินมาจากโม่จื่อเฟิงอย่างก ลัวๆพูดคำพูดที่แสดงถึงการสำนึกในบุญคุณอย่ามี คุณธรรมอย่างประจบประแจงแต่ครั้งนี้โม่จื่อเฟิง ปิดปากเงียบทำแค่หันไปกำชับกับจินมู่ให้คุ้มกันนาง กลับไป
คุ้มกันนั้นไม่ใช่เรื่องจริงเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ต่างหากถึงจะถูกนี่แค่กลัวว่านางจะเอาเงินไปปัดหนี้ สินละสิแต่ว่าเขาไม่คิดหรอว่าในเมืองเฟิ่งซีนี้จะมีใคร กล้าไม่ขายเงินของจวนอู่เซวียนอ๋อง
โม่จื่อเฟิงพาอวิ่นเสียวอิงไปแล้วเมื่อจากไปเขาไม่ หันมามองหลินซินเยียนเลยเหมือนกับว่าเรื่องที่ให้หลิน ซินเยียนเข้าจวนอ๋องนั้นเป็นเรื่องที่เขาตัดสินได้ตามใจ ตัวเองก็เท่านั้น
จินมู่รับคำสั่งขับรถม้าคู่ใจอารักขาหลินซินเยียน แต่หลินซินเยียนยังหาสรือโถวไม่เจอจะกลับบ้านอย่าง วางใจได้อย่างไรกัน ดังนั้นจึงจะเป็นที่จะต้องรบกวนจิ นมู่ให้พานางวนรอบเมืองหนึ่งรอบ
“คุณนายหรือว่าท่านจะกลับไปดูที่บ้านก่อนไม่แน่ ว่าคุณชายน้อยของท่านจะกลับบ้านไปเองแล้วถ้า หากว่ายังไม่กลับไปข้าจะให้คนไปช่วยท่านตามหา”จิ นมู่มองรอบๆเห็นสีของท้องฟ้านั้นมืดแล้ว
หลินซินเยียนพยักหน้าพูด”ก็ดีเหมือนกัน”ในเมือง เพิ่งซีนี้จินมู่จะตามหาใครนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกทั้งยังมี ความกระตือรือร้นอย่างแรงกล้ายิ่งเป็นอัครเสนาบดีของเมื่อเฟิ่งซีนี้การหาคนนั้นคงไม่ยากหรอก
คิดเช่นนี้ใจของนางก็มั่นคงขึ้นนิดหน่อยถึงจะ บอกเส้นทางกลับให้จินมู่ที่จริงแล้วไม่ไกลเลยยิ่งนั่งรถ ม้าแล้วก็ยิ่งใกล้กว่าเดิมเวลาผ่านไปไม่นานก็มาถึงหน้า ประตูบ้านแล้ว
“ใช่แล้วคุณนาย…”เมื่อหลินซินเยียนลงจากรถจิ นมู่ก็เรียกนางไว้ราวกับว่ามีเรื่องอยากพูดแต่ก็ลังเลใจ
หลินซินเยียนมองเขาอย่างสงสัย “ผู้บัญชาการจิ หมู่มีอะไรก็พูดตรงๆมาได้เลย”
“ไม่มีอะไรก็แค่…ถ้าหากท่านรับผิดชอบเป็นเพื่อน คุยแก้เบื่อให้กับแม่นางเสียวอิงแล้วระวังตัวหน่อยก็ แล้วกัน”สิ่งที่จินมู่พูดนั้นเป็นคำพูดสองแง่สองง่าม
หลินซินเยียนตะลึงราวกับว่าเข้าใจอะไรบาง อย่าง”ขอบคุณความหวังดีของผู้บัญชาการจินมู่มากข้า เข้าใจแล้ว”
“อ่อเช่นนั้นก็ดี” ในที่สุดจินมู่ก็ได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจ ออกมาจึงได้ถอนใจออกมาด้วยความผ่อนคลาย”ที่จริง แล้วพูดถึงแม่นางเสียวอิงนั้นก็ไม่เคยทำเรื่องออกนอก กรอบแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรมักเกิดเรื่องกับคนที่คอยรับ ใช้ข้างกายแม่นางเสียวอิงโดยเฉพาะผู้หญิงหลาย เดือนมานี้มีสาวใช้ตายไปแล้วเจ็ดแปดคนข้าเห็นสะใภ้ มีท้องที่ใหญ่มากจึงไม่ง่ายเลยดังนั้นจึง..”
“ข้าเข้าใจแล้วขอบคุณผู้บัญชาการจินมู่ที่พูดประเด็น”สามารถทำให้จินมู่ผู้ซื้อตรงพูดคำพูดเช่นนี้ ออกมาได้นั้นเช่นนั้นอวิ๋นเสียวอิงก็น่าจะเป็นคนที่ไม่น่า คบหาเท่าไหร่
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้งั้นข้ากลับละพรุ่งนี้ท่านไปจวน อ่องด้วยตัวเองนะ”หลังจากจินมู่กำชับสองประโยคก็ขี่ รถม้าจากไป
หลินซินเยียนมองเขาออกจากซอยไปแล้วถึงได้ หันตัวเดินเข้าบ้านไปนางรีบเดินเข้าไปห้องของสรืีอโถ วเมื่อเปิดประตูก็เห็นเขานอนหลับอุตุอยู่บนเตียงและ นอนตะแคงข้างหนึ่ง
หลินซินเยียนถอนหายใจถึงได้เดินไปข้างเตียง จับเขานอนดีๆอดไม่ได้ที่จะพร่ำเสียงต่ำ”เจ้าเด็กคนนี้ ที่แท้ก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วแต่ว่าทำข้าตกใจกลัว เสียแล้ว”
สรือโถวที่นอนหลับอยู่ไม่ได้ยินเสียงพูดของนาง แต่ว่ารู้สึกได้ถึงว่ามีคนจับให้ตัวเขานอนดีดีสรือโถว พลิกตัวเบาๆ
หลินซินเยียนส่ายหัวถึงได้ออกจากห้องไปพัก ผ่อนฝีเท้าของนางเริ่มหนักอึ้ง เห็นกันอยู่ชัดๆว่าไม่ได้มี ส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว พบหน้ากับเขาเช่นนี้ ครั้งหนึ่งกลับทำให้เธอกับเขายังต้องมีความสัมพันธ์ ด้วยกันอีก ทุกอย่างนี้เป็นชะตาชีวิตอย่างนั้นหรอ
ในจวนอู่เซวียนอ๋องเทียนในห้องหนังสือส่องสว่าง
อยู่นาน
จินมู่ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จแล้วเมื่อเห็นไฟของ ห้องหนังสืออย่างสว่างอยู่ก็เคาะประตูเดินเข้ามา
หลังโต๊ะหนังสือโม่จื่อเฟิงยืมแสงจากเทียนวาด ภาพเขากำลังจดจ่ออย่างมากจึงไม่ได้สังเกตว่ามีคน เดินเข้ามาใกล้
จินมู่ยืนมองอยู่ข้างโต๊ะหนังสือมองภาพนั้นภาพ นั้นคือดวงตาคู่หนึ่งแต่ดวงตาคู่นั้นเป็นดวงตาที่คุ้น เคย”ท่านอ๋องที่ท่านให้คุณนายคนนั้นเข้ามาในจวน อ่องก็เพราะดวงตาคู่นั้นนะหรือ”
โม่จื่อเฟิงหยุดมือลงแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขา “จิ นมู่แม้แต่เจ้าเองก็คิดว่าข้าทำเรื่องคาดไม่ถึงใช่หรือไม่”
ใช่แต่ว่าประโยคนี้จินมู่เองก็ไม่กล้าเอ่ยปากถึงได้ เลือกที่จะเงียบ
โม่จื่อเฟิงหัวเราะ”เป็นเรื่องคาดไม่ถึงมากแม้แต่ตัว ข้าเองยังคิดไม่ถึงผู้หญิงคนนั้นและนางมีดวงตาที่ เหมือนกันจริงๆเจ้าเห็นหรือไม่”
“ข้าน้อยเห็นแล้วเหมือนจริงๆแต่ว่าโฉมหน้าของ พวกเขานั้นไม่ใช่คนคนเดียวกันข้าน้อยเองก็มองอย่าง พินิจพิเคราะห์แล้วไม่มีร่องรอยของหน้ากากเลย”ที่ จริงถ้าหากเขามองออกโม่จื่อเฟิงเองก็ต้องมองออก เช่นกันจุดนี้จินมู่เองนั้นไม่มีข้อสงสัยเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ใช่แปลงโฉมใบหน้านั้นก็ต้องเป็นนาง”โม่ จื่อเฟิงพยักหน้า”แต่ว่า…ไม่รู้ทำไมข้าไม่อยากให้นางเดินไปเช่นนั้นเป็นความรู้สึกเช่นนี้เจ้าเข้าใจหรือไม่”
.”จินมู่เงียบใบหน้าที่ซื่อตรงมีเส้นเลือดแดง ฝาดปรากฏขึ้น”ข้าน้อยไม่เคยมีคู่มาก่อน”คำพูดเช่น เดียวกับใจคิดเขานั้นย่อมไม่เข้าใจความสัมพันธ์ชาย หญิง
โม่จื่อเฟิงมองเขาอย่างประหลาดใจย่นคิ้ว”จินมู่ เจ้าโทษข้าเรื่องที่ไม่หาเมียให้เจ้ารี”
“ข้าน้อยไม่ได้หมายความเช่นนั้น”หน้าจินมู่แดง เข้าไปใหญ่
โม่จื่อเฟิงไม่สนใจเขาอีกลงมือวาดรูปต่อ”แล้วกัน ไปรอเมื่อข้าหานางพบค่อยเป็นห่วงเรื่องของเจ้า”
ประโยคนี้ทำให้หน้าของจินมู่ที่แดงกลายเป็นขาว ในพริบตาจินมู่รู้สึกว่าตัวเองจะต้องหายสาบสูญไปคน เดียวแม้แต่อิทธิพลของอู่เซวียนอ๋องที่มีอยู่ทุกหนแห่ง ยังหาไม่เจอเช่นนั้นโอกาสที่นางจะยังมีชีวิตอยู่นั้นก็ น้อยแท้จริงแล้วเขานั้นสงสัยว่าจะเกิดเรื่องสุดวิสัยกับ นางแล้วดังนั้นจึงไม่มีข่าวคราวอะไรเลย
ความหมายของท่านอ่องคือถ้าหาหลินซินเยียนไม่ เจอก็จะไม่ให้เขาแต่งงานนะหรือ
ในฐานะผู้ชายอย่างจินมู่นั้นอยากจะบ้าตายเขา มองไปยังโม่จื่อเฟิงอย่างเศร้าใจแต่ว่าน่าเสียดายเมื่อ โม่จื่อเฟิงมองมาเขาก็เปลี่ยนเป็นหวาดกลัวแล้ว