ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 236
ตอนที่ 236 ระบายความแค้น(2)
คำพูดของนาง กลับทำให้ โม่จื่อเฟิงอดไม่ได้ที่จะ ยิ้มออกมา “ถูก แบบนี้สิผู้หญิงที่ข้าต้องการ ถ้าหากว่า เจ้าคิดว่าเงินทองเป็นของไม่มีค่าแล้วละก็ ข้ากลับรู้สึก ว่ามันน่าขยะแขยง”
นางยืนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหน โม่จื่อเฟิงจูงมือนาง เดินนำมาถึงหน้าหีบเครื่องเพชรเครื่องประดับหีบหนึ่ง แล้วหยิบสร้อยหินโมราขึ้นมา (ซึ่งเป็นหินที่หายาก) “พวกนี้เจ้าชอบหรือไม่? ”
หินโมราสีเงินผสมทองคำสวยมากทุกเม็ดส่องแสง แวววาวเหมือนจะสามารถมองเห็นเงาสะท้อนตัวเอง จากด้านใน หินโมราแบบนี้ตามท้องตลาดไม่สามารถ ทำเลียนแบบได้ นางเคยได้พบเห็นหีบเครื่องประดับ พวกนี้แล้ว ของดีๆแบบนี้ราคาต้องไม่ใช่ถูกๆเป็นแน่
นางยังไม่กล้าที่จะหยิบเอาแต่มองบรรยากาศ บริเวณรอบๆที่เงียบขรึมและใบหน้าอันขึงขังของเหล่า องครักษ์ นางกลัวว่าถ้าสัมผัสจับต้องเข้ากับของพวกนี้ นางอาจจะไม่ได้มีชีวิตรอดออกไปจากตรงนี้ก็เป็นได้
“ชอบก็คงชอบ แต่ไม่กล้าหยิบ”หลินซีนเยียนพูด ตามความจริงพร้อมกับใบหน้าที่พยายามเก็บซ่อน ความเขินอาย
โม่จื่อเฟิงตกตะลึงพร้อมกับยิ้มออกมา “อย่างเจ้า ที่กล้าต่อร้องต่อเถียงกับข้า? “เขาส่ายหน้าไปมาพร้อมกับชี้ไปที่หีบแล้วกระซิบเบาๆกับขันที่ “หีบ ทั้งหมดพวกนี้ส่งไปที่ตำหนักใน”
ใบหน้าของขันที่ยังคงยิ้มประจบสอพลอแต่ สายตาที่นิ่งเฉยก็ยังมีอาการหวาดหวั่นแสดงออกมาให้ เห็น หีบที่มีค่าใบนั้นต้องใช้ความพยายามทั้งชีวิตที่เขา ไม่สามารถจะหาได้ มีแค่อู่เซวียนอ๋องที่ใจกว้างมอบให้
หลินซีนเยียนได้แต่มองขันทีที่ซี้สั่งให้องครักษ์เริ่ม ทำการเคลื่อนย้ายหีบใบนั้น นางขานรับและนึกขึ้นว่านี่ มันคือเรื่องจริง นางกำลังจะถูกคนที่ทำตัวเป็นเจ้าถิ่น ท้องพระคลังมอบของออกเรือนล้ำค่าให้
” เจ้ามากับข้า ข้าพอจะรู้ว่าเขาสะสมของอะไร ไว้” ในขณที่โม่จื่อเฟิงกำลังพูดอยู่นั้นเขาก็จูงมือหลิน ซีนเยียนเดินต่อไปจนถึงตู้ที่ทำจากไม้จันทร์ บนตู้ที่ว่าง ของบางอย่างไว้ของทุกชิ้นที่เปล่งแสงแวววาวระยิบ ระยับออกมารอบๆดูมีคุณค่าอย่างหาเปรียบไม่ได้
“พระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอินนั่นเจ้าให้ข้า? “หลิน ซีนเยียนเหงยหน้าขึ้นมองก็เห็นหยกแกะสลักรูปพระ โพธิสัตว์อยู่ด้านหน้า
โม่จื่อเฟิงส่ายหัว พูดว่า “ของพวกนี้ยังนับว่าเป็น ของดีที่เขาสะสม? “โม่จื่อเฟิงเพิ่งพูดจบก็เห็นเขาขยับ สิ่งของที่อยู่บนตู้แล้วหลังจากนั้นประตูหินข้างๆก็เปิด ออก ทำให้เห็นห้องที่อยู่ด้านใน
หลินซีนเยียนเดินเข้าอย่างสนอกสนใจและเบิก ตากว้าง ข้างในเป็นห้องที่ไม่ใหญ่แต่สิ่งของที่วางอยู่ในห้องทุกชิ้นเป็นของที่ หลินซีนเยียนไม่เคยพบเห็น แม้แต่ในพิพิธภัณฑ์ เครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่าง ก็ถูกส่งมาเก็บไว้ในห้องที่ดูเก่าแก่แห่งนี้ที่ไม่พูดก็พอจะ รู้ค่า
“ของในนี้ค่อนข้างจะดีกว่าของข้างนอกมากแต่ คนขี้งกอย่างเขาคงไม่สามารถให้เจ้าได้มากนัก งั้นเจ้า ก็เลือกเอาไปสักสองชิ้นก็พอ”โม่จี่อเฟิงยืนอยู่ข้างๆ นางค่อยแนะนำ
คนเราเพื่อที่จะได้มาซึ่งเงินทองของมีค่านั้นก็ยอม ที่จะแลกแม้แต่ชีวิต หลินซีนเยียนได้สัมผัสกับความ โลภในตัวเอง นางอยากที่จะโอบอุ้มสิ่งของทั้งหมดในนี้ กลับไปทุกชิ้นที่จำเป็นและทำให้นางมีกินมีใช้ไปชั่ว ชีวิต
แม้ว่าห้องจะเล็กแต่มันก็สามารถแบ่งออกได้เป็น
หลายส่วน ทุกส่วนก็จะมีแผ่นป้าย หลินซีนเยียนเดินดู ผ่านไปแล้วไปหยุดอยู่ที่ส่วนชั้นยา มองดูนางยืนจ้องที่ชั้นยา โม่จื่อเฟิงที่ยืนหน้านิ่วคิ้ว
ขมวดอยู่ “แม้ว่ายาสมุนไพรพวกนี้จะล้ำค่าแต่ก็ไม่ง่าย ที่จะเก็บรักษา มีสมุนไพรบางอย่างถ้าเอาไปแล้วไม่ได้ ใช้มันก็จะเสีย เจ้าคิดว่ามีของสิ่งไหนที่มีค่ามากและไม่ สามารถเปลี่ยนเป็นของไม่มีประโยชน์? ‘
หลินซีนเยียนหันกลับมามองเขายิ้มที่มุมปากอย่าง อ่อนโยน แต่ยังคงไม่ไปขยับเดินไปไหน กลับหยิบยา สมุนไพรบางอย่างขากบนชั้นออกมา สมุนไพรต้นหนึ่งแห้งเหลืองที่ดูไม่น่าสนใจ แต่ป้ายที่แขวนอยู่นั้นกับ บอกว่าสมุนไพรชนิดนี้ล้ำค่าที่สุด
“ผลไม้เหมิงเสว่”หลินซีนเยียนจำได้ที่เมื่อก่อน ท่านโจวเคยพูดว่าผลไม้เหมิงเสว่มาจากฝั่งตะวันตก เหมือน จะมีพิษร้ายที่สามารถนำมาใช้ได้ เป็นพิษที่ สามารถนำมาใช้รักษาได้สารพัดโรค
โม่จื่อเฟิง หันกลับมามองด้วยสายตาที่อบอุ่น”เจ้า คิดว่าของชิ้นนี้มีประโยชน์กับข้าหรือไม่? ”
“เคยได้ยินมาว่ามันสามารถใช้ถอนพิษได้ เจ้าเคย ลองใช้หรือไม่? “หลินซีนเยียนชอบผลไม้เหมิงเสว่จน ถือไม่วางมือ ผลไม้ชนิดนี้ให้ความรู้สึกอุ่นๆเมื่อถือไว้ใน มือเหมือนเลือดในมือกำลังพลุ่งพล่าน
โม่จื่อเฟิงยิ้มแบบแห้งๆแล้วพยักหน้า “เคย แต่แค่ กินเปลือกเพียงเท่านั้นก็ทำให้กระจายไปตามพิษใน ร่างกายข้าอย่างรวดเร็ว”
หลินซีนเยียนคิดว่าก็ใช่ โม่จื่อเฟิงเข้าออกท้อง พระคลังเป็นว่าเล่นของในนี้เขาต้องรู้เรื่องทั้งหมด แล้ว ทำไมถึงไม่รู้ว่ายาสมุนไพรชนิดไหนมีประโยชน์กับเขา
แต่นางคิดไปคิดมาชั่วนึง ของอะไรจะสำคัญไป กว่าร่างกายที่แข็งแรงล่ะ?
นางคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ยังคงหยิบผลไม้เหมิงเสว่ ลงมา และยังหยิบเอายาสมุนไพรไม่กี่ชนิดที่สามารถ ถอนพิษได้ หลังจากนั้นนางชูของที่อยู่ในมือ พูดว่า”เสร็จแล้ว”
โม่จื่อเฟิงขมวดคิ้วเข้าอย่างงุนงง”ข้าเคยบอกเจ้า หรือเปล่าว่าข้าไม่ได้ต้องการผู้หญิงคนดีขี้ใจอ่อน เจ้า ไม่จำเป็นต้องลำบากใจที่หรือกลัวที่จะเข้าหน้าไม่ติด ไปหยิบของที่เจ้าอยากได้เถอะ”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่ได้ชอบของพวกนี้ จริงๆ? “หลินซีนเยียนกลอกตาใส่เขาแล้วเดินเข้าไป ในห้องเล็ก แต่แค่ในใจนั้นก็นับถือโม่จื่อเฟิงอย่างหา เปรียบมิได้
จริงๆแล้วก่อนที่โม่จื่อเฟิงจะย้ายหีบ ในหีบนั้นนาง ก็ถือว่ามีค่ามากพอแล้วส่วนของในห้องเล็กๆนี้นางก็ไม่ จำเป็นต้องเอาไป ไม่มีใครหน้าไหนไม่ถือสา แม้แต่โม่ จื่อเฟิงคนโปรดของพระราชา แต่คนโปรดก็ต้องทำตัว ให้เหมาะสมถึงจะถูก เพื่อที่จะได้ไม่เสียความไว้เนื้อ เชื่อใจ ไม่ใช่ว่าอยากจะเปลี่ยนของ
แต่คือ คำพูดพวกนี้นางไม่จำเป็นต้องพูดออกมาโม่ จื่อเฟิงก็รู้อยู่แล้ว
เมื่อมองนางจากด้านหลัง แววตาของโม่จื่อเฟิงก็ เปลี่ยนไปอย่างลึกซึ้ง กำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว เลือด ขึ้นหน้าขึ้นมาทันที นางหน้าซีดกัดฟัน
ยังเหลือเวลาอีกสองวันจะถึงวันจัดงานแต่งงาน หลินเทียนเฉิงพาฮูหยินและลูกชายของเขามาที่จวนอู่ เซวียนอ่อง จุดประสงค์ที่พวกเขามาเดาไม่ได้ยากคือ
การมาบอกกล่าวหลินซีนเยียนคือคนตระกูลหลิน หากจะแต่งงานก็ต้องเริ่มที่บ้านตระกูลหลิน ดังนั้น พวกเขา จึงมารับหลินซีนเยียนกลับบ้าน
โม่จื่อเฟิงอยู่ห้องโถงใหญ่เพื่อรับหน้ากับกลุ่มคนที่ บอกว่าเป็นครอบครัวของหลินซีนเยียน เขานั่งลงบนที่ นั่ง แววตาที่มีความดุดันมองไปยังหลินเทียนเฉิง”ท่าน แม่ทัพหลินพูดว่าซีนเยียนคือบุตรสาวของท่าน มีหลัก ฐานอะไร? จะบอกอะไรเจ้าให้ ตั้งแต่หลินซีนเยียน ถูกพระองค์ท่านประทานให้แต่งงานมา ทุกวันก็มักจะมี คนพวกนั้นมาแอบอ้างว่าเป็นญาติ บอกว่าเป็นลูกหลาน มั่งล่ะ เป็นพี่ป้าน้าอามั่งล่ะ สุดท้ายพอข้าตรวจสอบได้ ก็แค่พวกสิบแปดมงกุฎทั้งนั้น ท่านแม่ทัพหลินโปรด อย่าถือสาข้าเป็นคนซื่อตรงเสมอ”