ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 247
ตอนที่ 247 ออกเรือน (4)
“อ๋อ…..”ในขณะที่เธอไม่รับรู้อะไรเลย เขากลับ จัดการเรื่องราวมากมาย
ชุดแต่งงานไม่เหมือนเสื้อผ้าชุดอื่น แบ่งเป็นข้าง นอกข้างในสามชุด ทุกชุดก็มีวิธีการใส่ที่ไม่เหมือนกัน ชิงจู่ใช้เวลาเป็นครึ่งค่อนวันถึงจะใส่ชุดให้หลินซีน เยียนได้สำเร็จ
หลินซีนเยียนสวมชุดเสร็จแล้ว รู้สึกเหมือนโดนมัด ไว้ทั้งตัว ชุดพอดีกับตัว แต่ทว่ามันรัดแน่นจนเห็นรูป ร่างของเธอได้อย่างชัดเจน เธอเดินไปส่องกระจก เห็น หญิงสาวในกระจกที่ข้างหน้านูนข้างหลังเด้งแบบนั้น ก็ อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงใจเต้น
“ชุดนี้ ….”หลินซีนเยียนหน้าเกร็งอย่างไม่รู้ตัว
“งามใช่หรือไม่? “ชิงจู่ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไร “ชุด แต่งงานนี้ท่านอ๋องให้คนเอาไปแก้มาแล้ว ช่างพอดีกับ ตัวท่าน ท่านดูเรือนร่างส่วนนี้ ขนาดข้าเห็นยังแทบจะ เลือดสูบฉีด เพียงแต่ว่าจะทำอะไรไม่สะดวก แต่ว่าไม่ เป็นไร แบบนี้ท่านก็สามารถเดินออกไปแบบสง่า ผ่าเผย”
“เหอะๆ”หลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแห้งๆ ออกมา รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว
ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของกลุ่มคน คนที่ผู้ดูแลพามา หนึ่งในนั้นรูปโฉมงดงามดูสูงส่งพาคนอีกหลาย คนเดินเข้ามา
เมื่อหลินซีนเยียนมองหน้าอย่างเห็นชัดเจน อดไม่ ได้ที่จะตกตะลึง หากไม่ใช่ชิงจู่ดึงแขนเสื้อเธอ เธอคง ดึงสติกลับมาไม่ได้
“ทำความเคารพกุ้ยเฟ่ย”หลินซีนเยียนดึงสติกลับ มา รีบทำความเคารพเว่ยกุ้ยเฟย เธอไม่คิดเลยว่าคน ที่มาช่วยทำผมให้เธอจะเป็นเว่ยกุ้ยเฟย ผู้หญิงที่มี อำนาจในวังไม่ต่างจากฮองเฮา
“ลุกขึ้นเถิด วันนี้เป็นวันดีของเจ้า รีบนั่งให้ดีๆ อย่า ทำชุดแต่งงานพังเสียก่อน” เว่ยกุ้ยเฟยพยุงเธอขึ้นมา ด้วยตัวเอง ยิ้มแล้วพูด”แปลกใจมากใช่ไหม ข้าเองก็ แปลกใจมากเช่นกัน เมื่อคืนวานอ๋องอู่เสวียนรีบร้อน เขาไปในวัง ไปพบฮ่องเต้ทูลเรื่องทำผมนี้ เขาอยากที่ จะให้ฮองเฮามาทำผมให้เจ้า แต่ทว่าฮ่องเต้รู้สึกว่าแบบ นั้นไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใด เช่นนั้นจึงให้ข้ามาแทน น้องคงไม่เสียใจใช่หรือไม่? ”
“ไม่ไม่ไม่ ข้ารู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก! “หลินซีน เยียนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากจากใจจริง ตอนนี้เว่ ยกุ้ยเฟยเป็นคนที่ฮ่องเต้รักเอ็นดูมากที่สุด ผู้คน มากมายอยากที่จะได้มาครอบครองแต่มิอาจเอื้อม
เว่ยกุ้ยเฟยยิ้มอย่างพอใจ”เช่นนั้นก็ดี”
เมื่อนางพูดจบก็หันไปหาสาวใช้วัยชรากำชับสั่ง สาวใช้วัยชราหยิบกล่องทอเดินเข้ามา เปิดออก ข้างในมีชุดเครื่องประดับศีรษะ”ชุดเครื่องประดับศีรษะนี้ ฮ่องเต้ให้เจ้า ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงาน”
ชุดเครื่องประดับศีรษะนั้นเป็นทองทั้งหมด ทำออก มาอย่างประณีต ดูก็รู้ว่าเป็นฝีช่างในวัง ของที่ได้รับ พระราชทานราคาช่างมากเกินตัวของมัน
หลินซีนเยียนรีบทำความขอบคุณ จากนั้นถึงจะ นั่งลงอย่างเรียบร้อย ให้เว่ยกุ้ยเฟยช่วยตนทำผม
” ที่จริงแล้วข้าอายุมากกว่าเจ้าไม่กี่ปี อายุสิบหก เข้าวังได้รับความรักความเอ็นดูจากฮ่องเต้ นี่ก็ผ่านมา เจ็ดแปดปีแล้ว ในที่สุดก็ให้กำเนิดเจ้าหญิงน้อยออกมา แต่ทว่าดูดวงตาและคิ้วนี้ แล้วดูข้าสิ เฮ้อ….ข้าน่ะแก่ แล้ว ” เว่ยกุ้ยเฟยทำผมไปคุยกับหลินซีนเยียนไป
หญิงที่มีอายุยี่สิบปีกว่าๆบอกว่าตัวเองแกแล้ว นั่น ทำให้หลินซีนเยียนไม่เข้าใจ ความงดงามของเว่ ยกุ้ยเฟยแน่นอนไม่ต้องพูดถึง มิเช่นนั้นคงไม่ได้รับ ความเอ็นดูจากโม่จื่อยี่ แต่ว่าดวงตาทั้งสองของนาง กลับมีความแก่ชราอย่างที่นางพูด ในดวงตาคู่นั้น ไม่มี ความใสซื่อของหญิงสาววัยยี่สิบปีกว่าๆ แต่กลับเป็น แววตาของคนชราที่ถึงจะมีความปลงนั้น
หลินซีนเยียนอยากเอ่ยพูด ท่านไม่แก่เลยแม้แต่ น้อย แต่ทว่าเมื่อกำลังจะเอ่ยออกมา เธอกลับพูดในสิ่ง ที่ใจไม่ได้คิดได้ ทำได้เพียงถอนหายใจ พูด”จริงๆ ข้าก็ แก่แล้วเช่นกัน”
เว่ยกุ้ยเฟยชะงัก แล้วยิ้มออกมา “มิน่าอ่องอู่เสวียนถึงได้ชอบเจ้า นิสัยแบบเจ้า ข้าก็ชอบ อยู่เคียง ข้างชายที่มีอำนาจลาภยศ ทุกวันมีแต่เรื่องมากมาย พวกเราจะไม่แก่ได้อย่างไร หากไม่แก่ชราลง ไม่นาน คงถูกกินลงไปทั้งหนังทั้งกระดูก”
นางพูดออกมาแฝงไปด้วยความน่ากลัว แต่นั้นก็ จริง ทำให้หลินซีนเยียนรู้สึกเห็นด้วย พยักหน้าอย่าง ไม่รู้ตัว
เว่ยกุ้ยเฟยเหมือนจะชอบพูดคุยกับเธอ แล้วพูด ต่อ”เจ้าเป็นผู้หญิงที่ปราดเปรื่อง สำหรับผู้หญิงอย่าง เรา สำคัญที่สุดก็คือความรักความเอ็นดูของผู้ชาย ผู้ชาย คือทั้งหมดของเรา เพียงแค่เขารักเรา เราก็ สามารถใช้ชีวิตต่อไป แต่ว่า ความรักของผู้ชายมันจะ นานแค่ไหนกัน ลูกชาย นั่นถึงจะเป็นที่พึ่งได้ เพราะ ฉะนั้น…. ”
หลินซีนเยียนกำลังส่องกระจกอยู่ เว่ยกุ้ยเฟยเอน หน้าลงมาเล็กน้อย เหมือนรู้ว่าเธอจะพูดอะไร”ข้าจะ ดูแลปกป้องวี่จิ่งเป็นอย่างดี ท่านอ่อง….ก็เช่นกัน”
เว่ยกุ้ยเฟยยิ้มพยักหน้า “อูม เป็นเช่นนั้นก็ดี ข้า เพียงรู้สึกว่ายากนักที่จะหาคนที่คุยกันถูกคอ เพราะ ฉะนั้นข้าขอให้เจ้ามีชีวิตที่ดี”
เว่ยกุ้ยเฟย บนหน้ามีความโศกเศร้าแสดงออกมา ความโศกเศร้าแบบนี้ กลับมีความเห็นใจอยู่ เสมือนว่า ตอนนี้ใจของเธอกำลังสับสน
และความสับสนของเธอ ก็ทำให้หลินซีนเยียนเกิดความกังวลขึ้น เธอรู้สึกว่า เว่ยกุ้ยเฟยกำลังบอกอะไร เธอสักอย่าง แต่ว่าเมื่อจะเอ่ยออกมากลับ เก็บไว้ไม่พูด
“เสร็จแล้ว เจ้าลองดู ชอบหรือไม่? ” เว่ยกุ้ยเฟย ไม่เปิดโอกาสให้เธอถาม แต่กลับยิ้มและชี้ไปในกระจก
หลินซีนเยียนทำได้แค่หลบสายตา”ช่างงามมาก เว่ยกุ้ยเฟยฝีมือดีมาก
“เจ้าชอบก็ดีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าทำผมให้เจ้า สาว กลัวว่าจะทำได้ไม่ดี ตื่นมาตอนเช้าให้แม่นมสอน ข้าอย่างละเอียดอีกรอบ ดีที่ไม่มีความผิดพลาดอะไร
เว่ยกุ้ยเฟยยิ้ม ใบหน้าไม่มีร่องรอยของความกังวล เมื่อครู่แล้ว เหมือนกับว่าเมื่อชั่วครู่เป็นความรู้สึกของ หลินซีนเยียนเอง
เมื่อทำผมเสร็จแล้ว ก็มีคนทำพิธีเข้ามาในห้อง หลินซีนเยียนไม่เคยพบเห็นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก ผู้ที่ ใส่ชุดสีแดง ใบหน้าวาดอย่างเกินจริงถือถั่ว สร้อย และ ลำไยเดินไปรอบห้องพร้อมทั้งท่องบทสวดมงคลทั้ง โปรยถั่วไปรอบๆห้อง
เมื่อเสร็จทุกอย่างตามขั้นตอนแล้ว ก็ถึงเวลามงคล พอดี ได้ยินเสียงฆ้องและกลองดังสนั่นขึ้นที่หน้าบ้าน จากนั้นหลินเทียนเฉิงฝ่าดงผู้คนเข้ามาในบ้าน
เมื่อเสร็จพิธีกรรมในห้อง หลินซีนเยียนคลุมผ้า คลุมหัว และมีหลินเทียนเฉิงเป็นคนแบกเธอออกไป นอกจวนแม่ทัพ
ประตูจวนแม่ทัพ มีผู้คนมากมายรออยู่นานแล้ว คนที่มาเบียดเสียดกันจนแน่นในมุมต่างๆ เพื่อที่จะมอง ได้ชัดบางคนถึงกับปืนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน
บนกลางถนน มีองครักษ์กั้นทางแบ่งไว้เป็นทาง เส้นหนึ่ง บนถนนตอนนี้เต็มไปด้วยหีบบรรจุของออก เรือนของเจ้าสาว มีชายที่สวมชุดเหมือนกันทั้งหมด กำลังตรวจดูของ ในกลุ่มผู้คน มีคนลองนับดูคร่าวๆ ทันใดนั้นก็สูดหายใจอย่างเย็นยะเยือก
“แปดสิบแปดหีบ! มีแปดสิบแปดหีบ!
“ไม่แปลก ตอนที่อ่องอู่เสวียนแต่งมเหสีก็แบบนี้ วันนี้แต่งพระชายาก็ไม่แปลกที่จะเยอะเพียงนี้”
“แต่แบบนี้เท่ากับตบหน้าตระกูลเซียวก็ไม่ปาน แต่ ก็นั่นแหละ มเหสีแต่งเข้าจวนอ่องก็สองปีมาแล้ว ท้อง กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดใด แต่กลับเป็นแซ่ฉินที่ให้ กำเนิดลูกชายอ่องอู่เสวียนก่อน แม่ต่ำต้อยลูกสูงศักดิ์ ก็ธรรมดาที่จะได้เชิดหน้าชูตาขึ้นมา”
“เหอะ! ข้าได้ยินมาว่า แซ่ฉินนั้นเป็นเพียงเด็กสาว อุ่นที่นอนของอ่องอู่เสวียน ยั่วยวนอ๋องอู่เสวียนให้ติด กับแล้วแอบไปคลอดลูกไว้ เมื่อเด็กเกิดมาแล้วถึงได้ กลับมา ไม่ใช่เพราะกลัวท่านอ่องกับพระชายารี? เหมือนนางจิ้งจอกแบบนี้มันไม่ใช่อะไรที่ดีนัก”
“แหม่! ท่านย่าของข้า พูดเสียงเบาๆ ถ้าหากมีใคร ได้ยินเข้า เราทุกคนได้โดนตัดหัวหมดบ้านแน่”มีคน ลากหญิงคนนั้นลงไป แต่ทว่าคำพูดของนางผู้คนรอบข้างต่างก็ได้ยินหมดแล้ว
ในเมืองเฟิงซี ปกติเรื่องเล็กๆน้อยๆก็แพร่กระจาย ไปไวแล้ว โดยเฉพาะเรื่องลับๆของบ้านคนใหญ่คนโต แบบนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
โม่จื่อเฟิงขี่หลังม้า สวมใส่ชุดแต่งงานสีแดงทำให้ เขาดูสง่ามาก ช่างน่าหลงใหล เขาเพียงแค่นั่งนิ่งๆอยู่ ตรงนั้น นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนไม่อาจละ สายตาไปจากเขาได้
ในกลุ่มคน พวกผู้หญิงทั้งหลายไม่มีใครไม่อิจฉา ริษยา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแต่งงานกับอ๋องอู่เสวียนเป็น พระชายา เพียงแค่ได้เป็นผู้หญิงของเขาที่อยู่ข้างๆเขา นั้นก็เพียงพอแล้ว