ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 254
ตอนที่ 254 ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย
อากาศแต่เดิมก็เย็นอยู่แล้ว แถมหลินซีนเยียนก็ มีเพียงแค่เสื้อผ้าบางๆคลุมไว้ ตั้งแต่หัวจรดหางรู้สึก ได้ถึงความเย็นยะเยือก เพียงแต่ ความหนาวเย็นนั้น เทียบไม่ได้เลยกับความหนาวเหน็บในใจ
สุดท้ายแล้ว สำหรับพวกผู้ชายที่มีลาภยศ ผู้ หญิงก็เป็นเพียงแค่สิ่งของประดับบารมี ไม่มีชายใด ที่จะทำละทิ้งทุกสิ่งอย่างเพื่อหญิงงาม มีแต่ในละคร โทรทัศน์เท่านั้นที่จะมีเรื่องแบบนี้
หลินซีนเยียนหน้าละห้อย ไม่มีความรู้สึกอยากที่ จะมองโม่จื่อเฟิงอีก ผู้ชายคนนี้ ทำไมทุกครั้งมัก ทำให้เธอมีความหวังแล้วก็ทำลายความหวังอันน้อย นิดนี้ลงอย่างไม่ใยดี
โม่จื่อเฟิงวางเธอลงบนพื้น หยิบมีดออกมา แสง เงาสะท้อนอันเย็นยะเยือกกระทบลงบนหน้าของซีน เยียนเผยให้เห็นหน้าที่ขาวซีดกว่าเดิมของเธอ ใน สภาพที่น่าสงสารแบบนี้แต่นั้นกลับไม่ทำให้โม่จื่อเฟิง หยุดได้
“ลงมือเถอะ”อู่จิ้นเร่ง ในแววตายิ่งดูยิงตื่นเต้น เรื่องทั้งหมดเป็นดั่งที่เขาวางแผนไว้ เขาชอบดูฉาก แบบนี้ เขาอยากเห็นนางสารเลวนี้ถูกโม่จื่อเฟิงลงมือจัดการด้วยตัวเอง เมื่อคิดได้แบบนั้น อู๋จิ้นเลียปาก มี ความอำมหิตแผ่ออกมาจากตัวเขาตัวเองอย่างน่า กลัว
โม่จื่อเฟิงจ่อมืดไปที่คอของหลินซีนเยียน มีดอัน แหลมคม แต่เพียงเพิ่งเขาใกล้ผิวของเธอ ก็ทำให้ผิว มีบาดแผลเล็กๆแล้ว เลือดสดๆไหลออกมา เพียงแค่ เขาลงแรงอีกนิดเดียว ก็สามารถตัดขาดคอหอยของ หลินซีนเยียนได้
อู่จิ้นกำลังจะชื่นชมเขา แต่ว่า ทันใดนั้น โม่ จื่อเฟิงหันกลับมา โม่จื่อเฟิงกำลังยิ้ม ยิ้มอย่างดูหมิ่น เยาะเย้ย อู่จิ้นยังไม่ทันได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มีด ก็ได้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว
” ฉีก! “เสียงมีดแทงเขาไปในเนื้อหนัง
อู่จิ้นไม่อยากที่จะเชื่อมองไปยังมีดที่ปักอยู่บน หน้าอกของตัวเอง”เจ้า เจ้า….*
“เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้ายังคงเป็นเด็กที่ยังไม่โต ในตอนนั้น?” โม่จื่อเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา ลุกขึ้น ยืน ค่อยๆเดินไปทางอู๋จิ้น”เจ้าคิดว่า เพียงแค่เจ้า จะ สามารถทำร้ายข้าได้? ข้าทำเป็นแกล้งอ่อนให้เจ้า ให้เจ้าปล่อยวางความระแวงระวังลง การใช้กำลังแก้
ปัญหา ข้าไม่ใช้อย่างแน่นอน”
อู่จิ้นไม่อยากจะเชื่อ ส่ายหัวไปมาสุดชีวิต เขาไม่หยุดถอยหลัง อยากส่งสัญญาณให้ชายชุดดำทั้ง สอง แต่ว่ามือของเขาเพิ่งจะชูขึ้นมา ก็พลันเห็นเงา ร่างของคนตกลงมาจากข้างบน
ทั้งสองคนร่วงลงมายังทางเข้าปากถ้ำ ไม่ว่าคน เป็นหรือคนตาย ตกลงมาจากความสูงเช่นนี้ ไม่มีทาง ที่จะมีชีวิตรอดได้
“เจ้า เจ้า ….”อู่จิ้นตกตะลึงอย่างมาก เขาไม่อยาก เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตอนนี้
โม่จื่อเฟิงส่ายหัว สายตามองเขาเหมือนกับมอง คนโง่เง่า”เจ้าคงไม่คิดว่าข้ามาที่นี้เพียงลำพังหรอก ใช่ไหม?”
เหมือนกับว่าต้องการรับรองคำพูดของโม่จี่อเฟิง ที่ปากถ้ำคนชุดดำห้าหกคนปรากฏตัวขึ้น คนชุดดำ ในมือถือดาบยาว แววตาของพวกเขาช่างเย็นชา เหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น แต่ดูตั้งแต่ก่อนที่ พวกเขาจะปรากฏตัวขึ้นมันรวดเร็วเกินไป พวกเขา ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
อู่จิ้นเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ชี้ไปที่โม่ จื่อเฟิง”วิทยายุทธของตระกูลมิอาจเอาไปเผยแพร่ ข้างนอก เจ้ากล้ามากที่เอาไปฝึกคนพวกนี้…”
“ตระกูล? “โม่จื่อเฟิงส่ายหัว “นั้นมันตระกูลของ เจ้า ไม่ใช่ของข้า ตระกูลที่ไม่เคยมองข้าเป็นคนอย่างนั้น เจ้าคิดว่าข้าจะภักดีรี? ”
อู่จิ้นหน้าซีด หน้าอกยังคงมีเลือดไหลออกมา เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องจะกลับกลายเป็นแบบนี้ เขามอง ไปข้างหลัง แล้วหันกลับมามองโม่จื่อเฟิง เหมือน กำลังคิดว่าจะหนีออกไปจากที่นี่อย่างไรดี
แต่ว่า โม่จื่อเฟิงเหมือนว่ารอนานมากแล้ว เขา
ไม่มีความอดทนอีกแล้ว เพราะฉะนั้นเขาไม่พูดพล่าม อะไร แต่ยกมือขึ้น ต่อยเข้าไปหนึ่งที่ อู๋จิ้นก็ล้มลงไป กับพื้น
หลังจากหมัดนั้น อูจิ้นก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ อีก นี่ นี่คือพลังที่แท้จริงของเจ้า …”เขาเงยหน้าขึ้น มองโม่จื่อเฟิง
โม่จื่อเฟิงเดินไปหยุดข้างหน้าอู่จิ้น นั่งลงยองๆ ไม่ลังเลดึงมีดออกมาจากหน้าอก หลังจากนั้นก็แทง ลงไปอีกครั้งหนึ่งใต้หน้าท้องของอู๋จิ้น
หลินซีนเยียนมองอย่างงุนงง ก็เห็นตอนที่มืด หล่นลงที่พื้น สิ่งๆนั้นของผู้ชายที่อยู่ข้างล่างของอู่ จิ้นลอยขึ้นมา ตอนแรกเธอคิดว่าโม่จื่อเฟิงจะแทงเขา ให้ตาย แต่ว่าเขาไม่ได้ทำ เขาเพียงแต่ทำให้อู่จิ้นก ลายเป็นขันที
“เอามันกลับไป ให้มันตายอย่างนี้ มันง่ายไป”โม่ จื่อเฟิงรู้สึกสกปรก เขาทิ้งมีดในมือลง หันเดินกลับไปหยุดตรงหน้าหลินซินเยียน ใบหน้าของเขา เปลี่ยนเป็นหน้าโมโห สายของเขามองไปยังรอยจูบ ตรงกระดูกไหปลาร้า
ม่านตาของเขาหดตัวลง มองไปที่หลินซีนเยียน อีกครั้งด้วยสายตาเย็นชา
“ข้าไม่ได้ เขาไม่ได้แตะต้องข้า จริงๆนะ”หลินซีน
เยียนรีบร้อนที่จะอธิบาย แต่เขากลับหันหลังเดินจาก ไป ถึงตอนที่เธออยากจะพูดต่อเขาก็หายตัวไปเสีย แล้ว
คนชุดดำกพวกนั้นก็พาอู่จิ้งที่เจ็บหนักออกมา จากตรงนั้น เหลือไว้เพียงแค่คนชุดดำคนหนึ่ง คนชุด ดำเก็บเสื้อผ้าขึ้นจากพื้น และใส่ให้หลินซีนเยียนที ละชิ้นทีละชิ้น
เมื่อคนชุดดำเดินมาใกล้เธอถึงได้เห็นว่า คนชุด ดำผู้นี้เป็นผู้หญิง แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้หญิงก็เป็นผู้ หญิงที่ช่างเลือดเย็น ตอนที่ใส่เสื้อผ้าให้เธอ ในแวว ตาของคนชุดดำไม่มีความอารมณ์ความรู้สึกใดทั้ง สิ้น ไม่มีเลย
หลินซีนเยียนมองไปทางถ้ำ ปากถ้ำมีแต่ความ ว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยของโม่จื่อเฟิง แต่ว่าในหัวเธอ กลับเป็นภาพที่เขาหันหลังเดินจากไป
หลังจากที่เขาได้รู้ว่าเธอแปดเปื้อนแล้ว เขาไม่ได้เป็นห่วงว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บตรงไหน หรือเปล่า เขาเย็นชาแบบนั้นหันหลังเดินจากไปอย่าง รังเกียจ
ผู้ชายเป็นแบบนี้สินะ สิ่งที่คิดเป็นสิ่งแรก ก็คือ ศักดิ์ศรีของตัวเอง
เสมือนว่าวินาทีนั้น ใจของหลินซีนเยียน ก็เย็น ลงในที่สุด
คนชุดดำแต่งตัวให้หลินซินเยียนเรียบร้อยแล้ว พยุงเธอออกมาจากถ้ำ หลินซินเยียนรู้สึกเพียงแค่มี เสียงลมพัดผ่านข้างหู และเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอได้อยู่บนจุดชมวิวแห่งหนึ่งแล้ว
บนจุดชมวิว นักบวชชราผู้หนึ่งค่อยๆคุกเข่าลง ข้างหน้า ข้างๆมีเด็กชายผู้หนึ่งก็ทำตามอย่างกล้าๆ กลัวๆแต่ไม่กล้าพูดอะไร
หลินซินเยียนเพียงหันไปมองแค่แวบเดียว ก็เห็น ดวงตาทั้งสองของนักบวชชรามีเลือดไหลออกมา แม้แต่เด็กผู้นั้นดวงตาทั้งสองข้างก็ถูกควักออกไป อย่างสดๆ แค่เพียงเพราะพวกเขาเห็นในสิ่งที่ไม่ควร เห็น ดังนั้นพวกเขาก็เลยไม่มีดวงตาให้มองเห็นอีกต่อ
ไป
จิตใจของคน ช่างโหดร้ายกว่าที่เธอคาดคิดยิ่ง
นัก
นายท่านไว้ชีวิตพวกเจ้านับว่าท่านเมตตามาก แล้ว คิดให้ดีๆอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูดคงรู้ตัวนะ
นักบวชชราพยักหน้าไม่หยุด “ข้ารู้ ข้ารู้ ไม่มีทาง ปากมากแม้แต่คำเดียว”
คนชุดดำพยักหน้า ตอนที่หันกลับไปมองหลินซิ นเยียนอีกครั้งในที่สุดก็มีความรู้สึกหงุดหงิด”เหอะ! ผู้หญิงอย่างเจ้านี่มันตัวซวยจริงๆ ทั้งสองคนนี้ที่จริง ควรฆ่าทิ้งเสียด้วยซ้ำ นายท่านกลับใจอ่อนไว้ชีวิต พวกมัน ได้แต่หวังว่าความใจอ่อนของนายท่านจะ ไม่นำพาความวุ่นวายมาให้พวกเรา”