ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 308
ตอนที่308 ไปพบเซียวต้าเจีย
หลินซินเยียนเมื่อได้ยินก็รีบเปิดประตูพุ่งออกไป “เขา อยู่ที่ไหน?”
เหล่าหลิวเห็นนางรีบร้อนเช่นนี้ก็ตกใจ จึงได้ยิ้มออก มาในทันที “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องสนใจ เพียงคิดไม่ ถึงว่าจะรีบร้อนขนาดนี้”
หลินซินเยียนเพิ่งตระหนักขึ้นได้ว่าตนเสียกิริยา จึงรีบ อธิบาย “เซียวตาเจียนอกจากจะเป็นอาจารย์ของข้าแล้ว ยังเป็นช่างฝีมือที่ข้านับถือมากที่สุดอีกด้วย ก็เหมือนกับ การได้พบวีรบุรุษที่ชื่นชมมาตลอด ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะ ตื่นเต้น นี่กลับทำให้ท่านหัวเราะเสียแล้ว”
“ไม่มีปัญหาน่า ข้าเข้าใจ ก็เหมือนกับที่ข้าชื่นชมอ่องอู่ เซวียน ในครั้งแรกที่ข้าได้พบกับอ่องอู่เซวียน ข้าก็ตื่นเต้น จนนอนไม่หลับไปหลายวันเหมือนกัน” เหล่าหลิวยิ้มด้วย ความใสซื่อ มิได้สงสัยคำกล่าวอ้างของนางเลยแม้แต่น้อย
แต่หลินซินเยี่ยนอกไม่ได้ที่จะตกใจ “ท่านชื่นชมอ๋องอู่ เซวียนงั้นหรือ?”
เหล่าหลิวพยักศีรษะ “แน่นอนอยู่แล้ว! ถึงแม้ชื่อเสียง เทพสังหารแห่งสนามรบจะเขย่าขวัญผู้คนอย่างมาก ทว่า ในฐานะบุรุษ เขาสามารถอยู่ในระดับแนวหน้า สามารถ ต่อสู้กับศัตรูทั่วสารทิศ สามารถทำให้ประเทศรอบด้านไม่ กล้ารุกรานดินแดนประเทศหนานเยว่ของเราแม้แต่ตาราง นิ้ว เพียงแค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนตื่นเต้นจน เลือดพล่านไปทั่วร่าง”
ในจุดๆนี้ หลินซินเยียนกลับไม่ปฏิเสธ ถึงแม้นิสัยโม่ จื่อเฟิงจะแปลกประหลาด อีกทั้งชอบทำให้ผู้คนรอบด้าน หวาดกลัวเขา แต่ทว่าสำหรับความแข็งแกร่งของเขาแล้ว มากพอที่จะทำให้ทุกคนเทิดทูนบูชา บางทีนี่อาจจะเป็น เหตุผลที่เขาเหล่านั้นกล่าวคำสาบาน ที่แม้ชีพวายก็จะพลี กายเป็นคนของเขาโดยมิแปรภักดิ์
กล่าวด้วยความสัตย์จริง เวลาที่ได้ยินผู้อื่นกล่าวชม สามีของตน ใจจริงของหลินซินเยียนเองก็รู้สึกดีใจอย่าง มาก เพียงแต่ความรู้สึกเช่นนี้ยิ่งทำให้นางเกิดความไม่ สบายใจ มักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าคืนวันที่ผ่านไปด้วยดีมักจะ อยู่ไม่ยาวนาน และมักจะคิดอยู่เสมอว่าความสุขที่ตนได้ รับในปัจจุบันนี้ก็เหมือนดั่งฟองสบู่ ที่เหมือนกับว่าใช้ลม เป่าเพียงเบาๆ ฟองสบู่นี้ก็พร้อมจะสูญสลายหายไปจาก โลก
นางส่ายศีรษะแรงๆเพราะต้องการจะสลัดความ กระวนกระวายในใจออกไปจากความคิด แต่ไม่ว่านางจะ พยายามอย่างไร ความรู้สึกเช่นนี้ก็ยังคงอยู่ นี่มันไม่ค่อย วางใจเท่าไหร่เลยนะ?
“เหล่าหลิว เซียวต้าเจียกลับมาแล้ว แล้วเขาอยู่ที่ไหน โหน สามารถพาข้าไปพบเขาได้ไหม?” หลินซินเยียนเอ่ยถาม
เหล่าหลิวตบลงบนหน้าอกพลางกล่าวว่า “ย่อมไม่เป็น ปัญหา ในเมื่อข้าเหล่าหลิวบอกข่าวคราวนี้แก่เจ้า ย่อมมีวิธี พาเจ้าไปพบกับเซียวต้าเจียอยู่แล้ว ….เพียงแต่ ในวันปกติ คนในครอบครัวของเซียวต้าเจียจะมาดูแลเขา ตอนที่พวก เราไปอาจจะยุ่งยากเล็กน้อย เกรงว่าต้องรู้สึกผิดต่อเจ้า..” ในตอนนั้น หลินซินเยียนยังไม่รู้ว่า คำรู้สึกผิดที่เหล่า หลิวพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร
จนกระทั่งนางปรากฏตัวขึ้นที่เรือนลับตาคนแห่งหนึ่ง ในขณะที่กำลังถือถังมูล นางจึงได้เข้าใจคำพูดของเขาว่า หมายความอย่างไร
“นี่คือรู้สึกผิดที่ท่านบอกหรือ?” หลินซินเยียนเกร็งแขน ถือถังมูล ถึงแม้ว่าถังมูลจะล้างจนสะอาดสะอ้านแล้ว แต่ กลิ่นนั้นเหม็นโฉ่ยังคงเหมือนกับว่าอัดแน่นอยู่ในประสาท ทั่วทั้งร่าง
เหล่าหลิวที่ไม่รู้จะยืนตรงไหนดี มือข้างหนึ่งถือ กระโถนฉี่ยืนอยู่ข้างๆนาง “ในเวลาเช้าตรู่เช่นนี้ นอกจาก จะไปเปลี่ยนถังมูลแล้ว ข้าก็ไม่สามารถนึกถึงเหตุผลอื่นที่ จะเข้ามาได้เลย”
“..” หลินซินเยียนถอนหายใจ ฝ่าเท้ายังเดินก้าว ตามเหล่าหลิวลึกเข้าไในเรือน เพื่อที่จะได้พบกับเซียวฝาน ไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะให้นางถือถังมูล จะให้นางล้างถังมูลก็
ยังไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรด้วยซ้ำ
“เรือนหลังนี้เป็นที่พักอาศัยของเซียวต้าเจียและคนใน ตระกูลของเขา และก็ไม่รู้ด้วยสาเหตุใดพวกเขาจึงหลบ มาในสถานที่ลับตาคนเช่นนี้ อีกอย่างอ่ะนะ ที่นี่ยังเปลี่ยน ถังมูลบ่อยเป็นพิเศษโดยเฉพาะในยามวิกาล โดยปกติสอง ชั่วยามก็จะเปลี่ยนหนึ่งครั้ง” หลังจากที่เหล่าหลิวกล่าว เสร็จ จากนั้นไม่นานก็พบกับพ่อบ้านของเรือน พ่อบ้านได้ นำทางทั้งสองคนไปถึงด้านหลังเรือน และหยุดลงที่เบื้อง หน้าห้องหนึ่งที่ด้านหลังของเรือน พลันยกมือขึ้นเคาะ ประตู
พ่อบ้านคนนั้นตะโกนเข้าไปด้านในห้อง “เซียวต้าเจีย มาสับเปลี่ยนถังมูลแล้ว”
หลินซินเยียนค่อนข้างตื่นเต้นอยู่บ้าง เพียงแค่คิดว่า ใกล้จะได้พบกับเซียวฝานในไม่ช้า แม้แต่มือของนางก็เริ่ม สั่นขึ้นมาน้อยๆ
“เข้ามา” น่าเสียดาย เสียงภายในห้องที่ตอบกลับมา นั้นไม่ได้มาจากเซียวฝาน เป็นเสียงที่หลินซินเยียนไม่เคย ได้ยินมาก่อน
พ่อบ้านจึงได้เปิดประตู และหลีกทางให้คนทั้งสอง เข้าไป
เหล่าหลิวถือกระโถนฉื่อยู่ด้านหน้า หลินซินเยียนเดิน ตามเข้าไปในห้องอยู่ที่ด้านหลังด้วยความกระวนกระวาย เป็นอีกครั้งที่ทำให้นางต้องผิดหวัง นางไม่เห็นเซียวฝาน อยู่ภายในห้อง เห็นเพียงแต่ชายชราหนวดขาวที่นั่งอยู่บน เก้าอี้ ยังได้ชี้ไปที่ถังมูลและกระโถนฉี่ที่วางไว้บนพื้นด้วย ใบหน้าที่รังเกียจ
“รีบนำของสกปรกพวกนี้เปลี่ยนออกไป กลิ่นเน่าจะ ตายอยู่แล้ว” ชายชราบ่นว่าอย่างไม่ขาดสาย
“ขอรับ ได้ขอรับ” เหล่าหลิวพยักศีรษะพลางส่งสายตา ให้หลินซินเยียน
ภายในถังมูลเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นหึง แต่ในเวลานี้ดู เหมือนกับว่าหลินซินเยียนจะไม่รับรู้ถึงกลิ่นนั้น สายตา ของนางมองทอดไปที่ฉากกั้นเพียงหนึ่งเดียวในห้อง บน ฉากกั้นห้องนั้นมีเงาคนสั่นไหวรางๆ ดูเหมือนจะมีคนอยู่ ด้านหลังฉากกั้นห้องนั้น
คนที่อยู่หลังฉากกั้นนั้นจะเป็นเซียวฝานหรือเปล่านะ?
มีช่วงพริบตาหนึ่งที่นางทนรอไม่ไหวที่จะพุ่งไปดูหลัง ฉากกั้นนั้น ภายในห้วงความคิดคือตอนที่อาจารย์คนแรก เสียชีวิต ศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รองสัญญากับอาจารย์ว่า จะดูแลนางอย่างดี หลังจากที่อาจารย์ตายไป ไม่ว่ายามใด ศิษย์พี่ทั้งสองก็ปกป้องอยู่ข้างกายของนาง
“เจ้ากำลังมองอะไร รีบเปลี่ยนถังพวกนี้ออกไปเร็ว เข้า!” ชายชราหนวดขาวถลึงตามองหลินซินเยียน คำราม ด้วยท่าที่จองหอง
หลินซินเยียนละสายตาอย่างไม่เต็มใจ จึงได้ไปยกถัง มูลออก เพียงแต่ในขณะที่ถือถังมูล ฝ่าเท้ากลับดูเหมือนมี รากหยั่งลึก ก้าวอย่างไรก็ไม่ขยับ เหล่าหลิวจึงมองอย่าง กังวลอดไม่ได้ที่จะดึงแขนเสื้อนางใช้สายตาส่งสัญญาณ ให้รีบจากไป
ครั้งนี้ไม่อาจที่จะพบได้สำเร็จ ครั้งหน้าก็ยังมีโอกาส นางรู้ว่าถ้าหากเหล่าหลิวเอ่ยปากจะต้องพูดแบบนี้แน่นอน แต่ทว่านางไม่เต็มใจจริงๆ ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ไปแบบนี้
“ฟูววว”
ด้านหลังฉากมีได้ยินเสียงอันน่าอึดอัดแว่วออกมา หลัง จากนั้นก็ตามมาด้วยกลิ่นเหม็นที่รุนแรง หลายๆคนยังไม่ทันจะตอบสนอง ชายชราหนวดขาวก็ พุ่งเข้าไปที่ด้านหลังฉาก หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงชาย ชราต่ากระทบในทันที “ไอ้หยา ท่านบรรพบุรุษเจ้าข้าเอ๊ย! นี่เพิ่งจะเปลี่ยนถังมูลเจ้าก็ทนไม่ไหวเสียแล้ว เจ้าดูที่เจ้า ทำสิ ต้องการให้ข้าปรนนิบัติเจ้าตลอดชีวิตหรือไร?”
บนฉากกั้นปรากฏภาพสะท้อนของชาย ชรา มือของ ชายชรานั้นยกสูงและก็ฟาดลงมาอย่างรุนแรง เสียงของ ฝ่ามือนั้นชัดเจนจนทำให้คนที่อยู่ในห้องล้วนได้ยิน
หลินซินเยียนตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะกระซิบถามเหล่า หลิว “เขา….กำลังทุบตีเซียวต้าเจีย?”
เหล่าหลิวถอนหายใจ สีหน้าค่อนข้างดูแย่ ได้แต่ กระซิบตอบ “เซียวต้าเจียผู้นี้ข้าก็ไม่เคยพบตัวจริงแต่เคย ได้ยินคนอื่นพูดว่าเซียวต้าเจียเป็นผู้ทำอาวุธฝีมือดี แต่ที่ นี่” เขาชี้ไปยังศีรษะของตนเองพลางกล่าวว่า “ดูเหมือน จะไม่ค่อยปกติ แต่ทว่ากลับได้ยินคนในครอบครัวเขาพูด กัน ว่าผู้ที่ตีคือบิดาของเขา บิดาทุบตีบุตร ใครเล่าจะ สนใจ ไม่ใช่งั้นหรือ?”