ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 325
ตอนที่325พรากจากกัน
เมื่อตอนดึกท่านโจวนำกล่องยาของเซียวฝานส่งมาให้และยังแถม ยาหลิงต้นหมิวให้หลินซีนเยียนขวดหนึ่งซึ่งเขาพูดว่าสามารถแก้พิษ ทั่วไปได้ถึงแม้ครั้งนี้ไปชายแดนดูเหมือนไม่มีอันตรายใดๆ แต่ทว่าไม่มี ผู้ใดสามารถรับประกันได้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
ท่านโจวใช้โอกาสนี้ในการลาหลินซีนเยียนที่เขาอยู่ในโรงงานอาวุธ นี้ก็เพื่อรักษาเซียวฝานหากตอนนี้เซียวผ่านก็จะไปชายแดนแล้วฉะนั้น เขาก็ไม่มีเหตุจำเป็นใดๆที่จะต้องอยู่ในโรงงานอาวุธนี้
เมื่อเวลาที่ท่านโจวออกไปหลินซีนเยียนจะเอ่ยปากถามเกี่ยวกับสือ โถวหลายครั้งแต่ว่าสุดท้ายนางก็ไม่ได้เอ่ยปากถามถึงแม้นางจะชื่น ชอบสื่อโถวเด็กนั้นแต่ว่าไม่รู้ว่าสิอโถวเป็นคนในค่ายของอินฉีต่อให้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะดีเพียงใดอยู่กันคนละฝ่ายของบางสิ่งเสีย ไปแล้วก็ไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้
เมื่อฟ้าสางหลินซีนเยียนจัดสัมภาระง่ายๆหลังจากนั้นก็ไปยังจุดนัด หมายที่อยู่นอกโรงงานอาวุธสิ่งหนึ่งที่นางโชคดีก็คือเมื่อคืนได้ไปหาโม จื่อเฟิงและได้เห็นเสี่ยววี่จิ่งก่อนออกเดินทางสามารถได้เจอพวกเขา ก่อนถึงว่าสมความปรารถนาไปได้เรื่องหนึ่ง
เพียงแต่ว่าเมื่อนึกถึงเสี่ยววี่จิ่งในใจของนางก็รู้สึกเจ็บปวดตั้งแต่ เสี่ยววี่จึ่งเกิดจนถึงตอนนี้นางไม่เคยได้ทำหน้าที่แม่เลยแม้แต่นางยังไม่ กล้าคิดหากมีวันใดเสี่ยววี่จิ่งจะใช้เหตุนี้ในการสร้างความห่างเหินกับ นาง
ในห้องอักษรของจวนอู่เซวียนอ่องผู้คุ้มกันคนหนึ่งคุกเข่าต่อหน้าโม่ จื่อเฟิงแล้วรายงานความเคลื่อนไหวของโรงงานอาวุธหลังจากฟังจบโม่ จือเฟิงขมวดคิ้วแล้วถาม : “เจ้าแน่ใจเกิงจีนในโรงงานอาวุธที่จริงแล้ว ยังมีอยู่?”
ผู้คุ้มกันนั้นพยักหน้าแล้วตอบ: “ถึงแม้ผู้เฒ่าที่ดูแลโกดังจะซ่อน
อย่างมิดชิดแต่ว่าข้าน้อยก็ยังสามารถที่จะไปตรวจสอบคลังสินค้าของ เกิงจีนด้วยตนเองมาแล้วคลังสินค้านั้นหากว่าใช้งานตามปกติยัง สามารถใช้งานได้อีกสองสามเดือน”
โมจื่อเฟิงเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดเบาๆว่า: “ดูเหมือนว่าหลื่อวื่นซ่านรีบ ร้อนที่จะไปที่ผลิตเกิงจีนไม่ใช่เพื่อไปซื้อเกิงจีนจริงๆหากแต่ไม่รู้เขามี จุดประสงค์อะไรกันแน่”
ผู้คุ้มกันที่คุกเข่าอยู่ไม่ได้พูดอะไรแต่ว่าแววตามีความสงสัย”ท่าน อ่องแล้วพวกข้า..
“พวกเจ้าติดตามต่อไป”โมจือเฟิงหยุดชั่วคราวแล้วรับสั่ง : “ให้คน
ของหนี่หว่านติดตามไปด้วยคนของนางฝีมือดีไม่ว่าอย่างไรตามต้อง
รับประกันความปลอดภัยของพระชายา”
ผู้คุ้มกันตกตะลึงแววตามีความแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ตอบรับทันที
กลางดึกดื่นลมหนาวเย็นยะเยือกพระจันทร์ส่องแสงมีหิมะเริงระบำ ไม่ขาดหลินซีนเยียนกำลังจะเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันและทันใดนั้น ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวบางอย่างที่นอกหน้าต่างนางลังเลชั่วครู่ สุดท้ายก็คลุมผ้าแล้วไปที่หน้าต่าง
เมื่อเปิดหน้าต่างก็เห็นนกพิราบอยู่บนประตูหน้าต่างนกพิราบยังคงมี เกล็ดหิมะอยู่บนปักดูเหมือนว่าอยู่ทางกลางหิมะเริงระบำเป็นเวลาสอง สามชั่วยามถึงมาถึงที่นี้ร่างกายมีอาการอ่อนเพลียอย่างมาก
หลินซึนเยียนยกยิ้มมุมปากหยิบกระบอกไม้ไผ่เล็กๆจากนกพิราบส่ง สาส์นอย่างรวดเร็ว
“เดินทางปลอดภัยอย่าลืมคิดถึง”แปดคำลายมือชัดเจนและอย่าง
แฝงไปด้วยความเอาแต่ใจอักษรนี้นางมองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าโม่จื่อเฟิง เป็นคนเขียน ในใจของนางรู้สึกถึงความอ่อนหวานเล็กน้อยปากนางอดไม่ได้ที่จะ พึมพำ”อย่าลืมคิดถึงเจ้าเหตุใดไม่ใช่เจ้าที่อย่าลืมคิดถึงข้า?ยังคง
เอาแต่ใจเช่นเคย!”
เพราะว่าได้รับสาส์นจากโมจื่อเฟิงหลินชีนเยียนถึงได้กลับไปนอน อย่างสบายใจไม่น้อยพริบตาเดี่ยวก็ค่อยๆหลับไปอย่างเงียบๆ
การเดินทางไปชายแดนครั้งนี้มีหลี่อวิ๋นซ่านนำขบวนมีผู้คุ้มกัน ติดตามไปด้วยสิบกว่าคนเพื่อดูแลความปลอดภัยเมื่อร่วมกับช่างฝีมือ อีกหกคนและผู้ช่วยของพวกเขานับร่วมๆแล้วถึงเป็นขบวนใหญ่ที่มีคน นับสิบนี่เป็นเพียงเดินทางไปเท่านั้นเมื่อถึงเวลากลับนั้นเพราะมีการขน เก๋งจีนดังนั้นคงต้องเลือกทหารจากชายแดนเดินทางมาส่งด้วย
เมื่อต้องขึ้นรถม้าหลินเซียนเยียนมุ่งหน้าไปยังทางเชียวฝ่านนางไม่ สนใจสายตาของผู้อื่นพูดเพียงแต่ว่าชื่นชมเซียวต้าเจียมาเป็นเวลา นานดังนั้นจึงอยากเรียนรู้ให้ได้มากที่สุดข่างฝีมืออาวุโสท่านอื่นๆเป็น ธรรมดาที่ไม่เถียงกับนางอยู่แล้วดังนั้นจึงรวมรถคันเดียวชั่วคราว
รถม้าของหลื่อวิ้นซ่านอยู่หน้าสุดของขบวนเขาเปิดผ้าม่านของรถ เดิมที่เขาจะไหว้วานให้ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างกายเขาให้ไปพาหลินซีนเยียน มาใครจะรู้ยังไม่ทันได้พูดก็เห็นหลินเชียนปืนขึ้นไปบนรถม้าของเชียว ฝ่านเขาโกรธขึ้นมาทันทีสีหน้าเรียบนิ่งแล้วกระแทกผ้าม่านลงด้วย ความโกรธ
เหล่าหลิวก็ขึ้นรถม้าตามหลินซีนเยียนสำหรับเซียวต้าเจียเขาก็รู้สึก เกรงใจในความคิดของเขาทุกคนที่หลินซีนเยียนเคารพนับถือก็ควรค่า แก่การให้เขาเคารพนับถือเช่นกันแต่ว่าผู้เฒ่าที่เรียกตนเองว่าเป็นพ่อ ของเซียวต้าเจียนั้นตั้งแต่เริ่มจนจบก็หันหน้าไปทางอื่นในสายตาของ เขาแท้จริงแล้วดูถูกหลินซึนเยียนและเหล่าหลิว
ระหว่างทางหลินซีนเยียนดูแลเซียวฝ่านอย่างดีเทน้ำชาส่งน้ำจัดหา อาหารให้นางทำหมดทุกอย่างอยู่ข้างกายเซียวฝานนางเปรียบเสมือน เสี่ยวซื้อคนหนึ่งดีๆนี่เอง
เมื่อถูกถามว่าเหตุใดถึงได้ดูแลเอาใจใสเช่นนี้นางได้แต่ยิ้มแล้ว ตอบ: “ข้าชื่นชมทักษะของเซียวต้าเจียเป็นอย่างมากไม่พยายาม บริการเซียวต้าเจียแล้วจะสามารถให้เขาชี้แนะข้าได้อย่างไรกัน”
เพราะนางพูดอย่างจริงจังดังนั้นทุกคนจึงค่อยๆเชื่ออย่างสนิทตั้งแต่ ต้นจนจบที่จริงแล้วหลินซีนเยียนไม่เคยตั้งคำถามใดๆกับเซียวฝานเลย แต่ผู้เฒ่าหนวดขาวนั้นดูเหมือนจะพอใจความขยันหมั่นเพียรของหลิน ซินเยียนเป็นอย่างมากทุกครั้งที่อ้างชื่อของเซียวฝาน เขาไม่เคยลืมที่ ให้หลินซีนเยียนเป็นยันม้าให้
หลังจากเจ็ดวันขบวนรถก็มาถึงเมืองใหญ่แห่งแรกหลังจากออกจาก เมืองเฟิ่งชีขบวนรถเข้าสู่เมืองได้รับการเติมเต็มเป็นประจำตั้งรกราก อยู่ที่โรงเตี้ยมที่หรูหราที่สุดในฮวงฮุ่ย
คนอื่นๆยังถึงว่าดีดูเหมือนหล่อซ่านใช้ชีวิตคุณชายจนชินดังนั้น ไม่เคยคิดที่จะทำลายตัวเองเข้ามาในโรงเตี้ยมก็จองห้องเดี่ยวทันที แถมยังเลือกห้องที่ดีที่สุดอีกด้วย
ในลานมีห้องมากมายพอที่จะให้คนนับสิบปักหลักได้ในมุมของลาน ยังมีคอกม้าสะดวกต่อผู้ที่นั่งรถม้ามา
เป็นธรรมดาที่หลินซีนเยียนเลือกห้องที่ติดกับเซียวฝานเพิ่งเข้าห้อง พักนางก็เข้าตรงไปยันห้องครัวทันที่เพื่อตักน้ำให้เซียวฝานอาบ เตรียมพร้อมที่จะอาบน้ำให้กับเซียวฝาน
วิ่นให้ผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างกายให้ไปซื้อผลไม้สดๆใหม่ๆมาให้ เขากำลังเตรียมบางส่วนที่จะส่งไปให้หลินเยียนก็เห็นหลินซีนเยียน ถือน้ำร้อนเข้าไปยังห้องของเซียวผ่านเขาตกใจจับเหล่าหลิวที่กำลังให้ อาหารม้าตรงมุมแล้วถาม : “นางถือน้ำร้อนเข้าไปในห้องของเซียวต้า เจียทำอะไร?”
เหล่าหลิวมองตาสายตาเขาแวบเดียว”อ่ออเจ้าว่าเรื่องนี้หรือเซียวต้า เจียทุกคืนต้องอาบน้ำหลายรอบนางคงเตรียมที่จะไปอาบน้ำให้เซียว ต้าเจีย”
“อาบ อาบน้ำ?”หลื่อนึกว่าตัวเองฟังผิดหันกลับไปถามอีก ครั้ง: “เจ้าว่าหลินเฟิงอาบน้ำให้เซียวต้าเจีย?นางช่วยอาบน้ำให้ด้วย ตนเอง?”