ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 328
ตอนที่328หนี่หว่านคุ้มกัน
หลินซีนเยียนหัวเราะเยาะเพิ่งหัวเราะ”เจ้าคงไม่ใช่จะพูดว่าผู้เฒ่านั้น ไปอย่างว่ากับหญิงสาวหรอกมั้ง?”
เหล่าหลิวก็ตะลึงตาค้างจ้องมองหลินซีนเหมือนมองตัว ประหลาดเช่นนั้น”อย่างว่าเจ้าทายถูกแล้วเขาไปอย่างว่ากับหญิงสาว มา!
ผู้เฒ่านั้นอย่างมีความต้องการทางเพศสูงเช่นนั้นเลยหรือ
เหล่าหลิวนั่งลงข้างๆหลินซีเยียนและพูดอย่างจริงจัง :”จะโทษ ก็โทษที่ไม่เหมือนผู้หญิงในหอนางโลมแต่กลับเหมือนฮูหยินในตระกูล ที่มีฐานะร่ำรวยฮูหยินนั้นใส่หมวกเลยเห็นโฉมหน้าไม่ชัดเพียงแค่ เห็นโครงร่างคราวๆเท่านั้นผู้เฒ่าไปพบนางที่ประตูเล็กด้านหลังโรง เจ้าไม่เห็นท่าทางของนั้นเหมือนหมาป่าที่หิวโซพร้อมจะ ขย้ำเหยื่อ
สำหรับเสียงคำบรรยายของเขานั้นหลินซีนเยียนรู้สึกเพียงว่าปกติ แต่ในใจกลายรู้สึกแปลกๆขึ้นมาผู้เฒ่านั้นเป็นคนของความลับแห่ง สวรรค์เวลานี้เขากลับพบฮูหยินนั้นเป็นแค่การพบปะกันธรรมดาจริงๆ หรือ?หรือมีอะไรแอบแฝง?แต่เมื่อทุกอย่างเกี่ยวข้องกับนางก็ จะระมัดระวังเป็นพิเศษ
“หรืออาจจะเป็นคนรู้จักของผู้เฒ่าที่บังเอิญมาที่นี้ดังนั้นเลยนัด พบปะกันเท่านั้น?”
“เป็นไปไม่ได้แน่นอน! “เหล่าหลิวหยุดการคาดเดาของหลินซีน เยียนทันทีและเข้าใกล้มาอีกนิดแล้วพูดเบาๆว่า: “เพราะว่าแม้กระทั่ง ตอนไปข้าเห็นผู้เฒ่านั้นโอบกอดฮูหยินแต่ดูเหมือนว่าฮูหยินไม่สมยอม ดังนั้นถึงได้ดิ้นรนแต่สุดท้ายก็สู้แรงของผู้เฒ่าไม่ได้ ผู้เฒ่าจะกัดบนใบ หน้าของฮูหยินอย่างให้ได้..”
พูดถึงเรื่องนี้เหล่าหลิวก็มีใบหน้าท่าทางสะอิดสะเอียนผู้เฒ่าคนหนึ่ง ทำกับหญิงสาวเช่นนั้นทำให้เหล่าหลิวที่เป็นชายบริสุทธิ์รู้สึกอับอาย เป็นอย่างยิ่ง
ฟังเหล่าหลิวพูดเช่นนี้ทำให้หลินซีนเยียนต้องคิดให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง พลังของศาลาความลับแห่งสวรรค์มีอยู่ทุกหนทุกแห่งใต้หล่าเมื่อนก่อ นที่อยู่ศาลาความลับแห่งสววรค์เคยได้ยินว่ามีครอบครัวมากมายที่ส่ง ลูกหลานไปล่ำเรียนวิชาที่ศาลาความลับแห่งสวรรค์เมื่อเรียนสำเร็จก็ กลับไปหาครอบครัวของตนเอง
เหล่าหลิวเกี่ยวข้องกับฮูหยินนั้นก็แปลว่าเกี่ยวข้องกับศาลาความลับ แห่งสวรรค์ด้วยเมื่อนึกถึงศาลาความลับแห่งสวรรค์หยุนเทียนฉีทำให้ อาจารย์ต้องตายและยังทำให้เซียวฝานมีสภาพเฉกเช่นทุกวันนี้หลิน ซีนเยียนในใจรู้สึกเครียดแค้นขึ้นมาทันทีเลยพาลให้ไม่อยากพบเห็น คนของศาลาความลับแห่งสวรรค์แม้แต่คนเดียว
หลังจากเหล่าหลิวพูดคุยกับหลินซินเยียนต่ออีกสักพักก็จากไปเขา เดินนำไปก่อนหลินซีนเยี่ยนหยุดเดินลังเลสักครู่พูดด้วยเสียง ใส: “หากโมจื่อเฟิงให้พวกเจ้ามาดูแลข้าอย่างลับๆข้าขอเชิญให้พวก เจ้าส่งคนออกมาเพื่อช่วยเหลือข้าข้าจะนับถึงสามหากว่าพวกเจ้าไม่ ออกมาละก็ข้าจะใช้มีดสั้นกรีดแขนตนเองหลังจากนั้นส่งสาส์นไปให้ โมจื่อเฟิงว่าพวกเจ้าไม่มีปัญญาดูแลข้าพวกเจ้าว่าโม่จื่อเฟิงจะเชื่อข้า หรือเชื่อพวกเจ้า?”
นางไม่รู้ว่ารอบตัวมีคนคุ้มกันตัวเองอย่างลับๆอยู่หรือเปล่าแต่ทว่า นางรู้จักโมจื่อเฟิงดีออกเดินทางไกลเช่นนี้เขาไม่มีทางเพิกเฉยต่อนาง แน่ดังนั้นนางถึงได้ลองทำเช่นนี้
เป็นไปตามที่นางคาดหวังเสียงของนางหายไปไม่ถึงสามวิก็มีคนเสื้อ ดำมาโผล่ต่อหน้านางสิ่งที่ทำให้นางตกใจคือคนสวมเสื้อดำนี้ยังเป็นคน ที่คุ้นเคยอีกด้วย
“หนี่หว่าน? “นางคาดไม่ถึงว่าคนที่โมจื่อเฟิงส่งมาคุ้มครองนางจะ เป็นหนี่หว่านนางรู้ว่าหนี่หว่านอยู่ข้างกายโมจื่อเฟิงในฐานะอะไรนาง คิดว่าเขาจะส่งสายลับทั่วไปมาเท่านั้นใครจะคาดคิดว่าสุดท้ายแล้วเขา จะส่งหนี้หว่านมา หนีหว่านถอนหายใจ”ผู้หญิงที่ทำให้นายท่านจดจำได้ไม่ได้โง่อย่าง ที่คิด”
สายลับที่กล้าพูดเช่นนี้กับหลินซีนเยียนก็มีแต่หนี่หว่านเท่านั้น
“ข้าหมดหนทางแล้วดังนั้นจึงคิดออกเพียงวิธีนี้หวังว่าเจ้าคงไม่แปลก ใจข้าไม่มีมีเจตนาใดๆ “หลินซีนเยียนหัวเราะอย่างเขินอาย
หนีหว่านยักไหล่อย่างไม่สนใจแล้วยิ้มตอบ: “เรียกข้าออกมาเพื่อ ช่วยเจ้าสิบเรื่องของฮูหยินที่มาพบผู้แฒ่านั้นหรือ?”
“ใช่” นัยตาของหลินซีนเยียนสั่นไหวอย่างแปลกใจแต่แล้วก็คิดได้ว่า
ในเมื่อนางดูแลอยู่ในมุมมืดเมื่อกี้คำพูดของเหล่าหลิวที่คุยกับนาง นาง ได้ยินก็ไม่แปลก “ข้ารู้แล้วพรุ่งนี้ก่อนฟ้าสางข้าจะรายงานเรื่องฮูหยินนั้นให้กับเจ้า”หนี หว่านพูดเช่นนี้แล้วหันหลังจะจากไป
หลินซีนเยียนลังเลสักพักก่อนจะเรียกนาง”ใช่แล้วหนีหว่านข้าอยาก ถามเจ้าหากว่าพวกเจ้าติดตามข้าตลอดก็รู้เรื่องแล้วสิว่า.ข้าเอ่ออ..อาบ น้ำให้กับเซียนฝาน..งั้น…*
เห็นนางตะกุกตะกักพูดไม่ออกเป็นครึ่งค่อนวันหนึ่หว่านทนไม่ได้ที่ จะมองบนแล้หันไปพูด: “วางใจได้เรื่องนี้นายท่านไม่รู้เขาเพียงให้ พวกข้าดูแลเจ้าในมุมมืดเพียงแค่สั่งให้รายงานเรื่องที่มีอันตรายกับ ชีวิตเจ้าเท่านั้นนายท่านรู้ว่าเจ้าหวงความเป็นส่วนตัวดังนั้นเรื่องพวกนี้ เขาไม่ถามและอีกอย่างนายท่านยุ่งเช่นนั้นไม่มีเวลามานั่งฟังเรื่องที่เจ้า ทำทั้งวันได้
นางไม่พูดอย่างแน่นอนที่จริงแล้วเพราะว่าไม่มีผู้ใดกล้าไปรายงาน เรื่องนี้ต่อหน้านายท่านทุกคนต่างก็รู้หากมีการรายงานเรื่องนี้นายท่าน ต้องพิโรธแน่นอนบางทีเพียงฝ่ามือเดียวชีวิตของหน่วยลับก็หาไม่แล้ว ดังนั้นจนถึงทุกวันนี้ถึงแม้พวกเขายังเถียงกันอยู่แต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดลอด ไปถึงหูของโม่จื่อเฟิง
ได้ยินหนี่หว่านพูดเช่นนี้หลินซินเยียนถึงได้วางใจรู้สึกเหมือนถูกจับ ได้ว่าทำอะไรผิดแล้วได้รับการพันโทษเห็นหนี่หว่านจะไปอีกแล้วหลิน ซินเยียนจ้องมองเบื้องหลังของนางแล้วยิ้มหวานพูดว่า”ขอบคุณ”
หนีหว่านก้าวไปข้างหน้าเพียงตอบนางเสียงเบาไม่มีการตอบสนองที่ ใหญ่โตอะไร
ค่ำคืนที่เงียบสงัดไร้เสียงรบกวนใดๆ โลกทั้งใบอยู่ในการหลับไหล
หลินซีนเยียนหลับสนิทในความฝันดูเหมือนว่านางเห็นโมจื่อเฟิงและ เสี่ยววี่จริงในความมึนงงครอบครัวของนางทั้งสามคนดูเหมือนว่าได้กลับ ไปสู่ยุคปัจจุบันแล้วอยู่ในบ้านหลังเล็กๆของนางที่มีหนึ่งห้องนอนหนึ่ง ห้องนั่งเล่นเสี่ยววี่จิงโตขึ้นเล็กน้อยกับโม่จื่อเฟิงแย่งรีโมททีวีกันไปมา เสี่ยววี่จิงจะดูการ์ตูนส่วนโม่จื่อเฟิงนั้นจะดูการแข่งขันฟุตบอลคนโต คนเล็กสุดท้ายคนโตแย่งไปได้เสี่ยววี่จิงร้องไห้โฮนางที่กำลังทำ กับข้าวในครัวรีบออกมาก็โยนผักกวางตุ้งไปแปะอยู่บนหน้าของโม จื่อเฟิงหลังจากนั้นก็ตะโตนว่า: “อย่ากลั่นแกล้งลูกชายของข้า!”
หลังจากนั้นภาพแตกแยกออกจากกันเหลือเพียงความว่างเปล่าช่วง เวลาที่สิ่งของเหมือนเดิมแต่คนกลายแปรเปลี่ยนเพียงแค่ได้ยินเสียง ร้องไห้ของเสี่ยววี่จิ่งและเสียงต่ำด่าว่าของโมจื่อเฟิง
นางตื่นขึ้นมาจากความฝันอย่างไม่สบายใจ หลังจากตื่นแล้วเห็น นอกหน้าต่างส่องแสงสว่างจ้าและในลานมีเสียงร้องไห้เอะอะโวยวาย จริงๆนางขมวดคิ้วสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยมาถึงในลานก็เห็นผู้คนล้อม รอบอยู่หน้าประตูห้องของเซียวฝ่านเสียงร้องไห้ก็มาจากทางนั้น