ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 369
ตอนที่ 369รสนิยมสูง
ในห้องแม่นมสองคนนำเหลียงชิ้นลงไปในอ่างไม้ขัดๆๆๆ ทำความสะอาดเหมือนนางเป็นของสิ่งหนึ่งที่ต้องทำความสะอาด ตอนที่ทำก็ไม่ได้คุยอะไรมากมายกับหลินซีนเยียนซักเท่าไหร่
หลินซีนเยียนคิดว่าคนที่ทำตัวสูงส่งชอบดูถูกคนอื่นอย่างหนึ่ง ห้าวคงจะไม่ทําเรื่องบังคับฝันใจใครหรอกแต่ว่าการกระทำของ แม่นมสองคนนี้กลับทำให้ใจนางเริ่มสับสน
ตอนนี้นางก็เหมือนเนื้อปลาบนเขียงถ้าหากหลังห้าวจะทำอะไร นางจริงๆนางอาจจะหยุดยั้งไว้ไม่ได้
“มีดอกไม้มุกประดับผมไหม? เอาที่เป็นเงินหรือทองยิ่งหนักๆ ยิ่งดี”หลังจากที่หลินซีนเยียนสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็พูดกับแม่นม ทั้งสอง
แม่นมทั้งสองคนต่างก็แปลกใจไปชั่วขณะราวกับคิดไม่ถึงเลย ว่าผู้หญิงคนนี้ยังจะมีกะจิตกะใจมาสนใจการแต่งตัวอีก
ทำไมที่นายใหญ่ของพวกเจ้าหมายถึงไม่ได้ให้ข้าอาบน้ำแต่ง ตัวให้เรียบร้อยหรอ? ใส่ดอกไม้มุกประดับผมไม่กี่อันยิ่งทำให้ นายใหญ่ของพวกเจ้าพอใจมากขึ้น “หลินซึนเขียนยิ้มบางๆนิ่งๆ สงบๆแต่ว่าในรอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความน่ากลัวแม่นมทั้งสอง คนลังเลอยู่สักพักถึงจะพานางไปยังหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
สิ่งของในห้องนี้มีครบครันทุกอย่างราวกับของใช้ทุกอย่างเตรียมไว้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะดูเหมือนว่าหลังท้าวเมื่อก่อนก็ คงพาผู้หญิงกลับมาทำเรื่องอย่างว่าไม่น้อย
แม่นมคนหนึ่งหยิบกล่องกล่องหนึ่งออกมาจากลิ้นชักเปิด กล่องออกด้านในมีเครื่องประดับผมต่างๆนาๆเหมือนกับว่าตระ กูลหลิงตระกูลผู้ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกนี้ที่ไม่ขาดแคลนที่สุด ก็คือเครื่องเงินดังนั้นแม้แต่ของประดับบนหัวที่หยิบขึ้นมาแต่ละ อันล้วนแต่ไม่ใช่ของที่ครอบครัวธรรมดาๆ จะใช้กันได้แต่ว่าที่นี่ กลับเป็นของธรรมดาๆทั่วๆไปที่วางไว้มั่วๆ ในลิ้นชักตามอำเภอ ใจ
หลินซีนเยียนเลยหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาลองอันหนึ่งมองดูอยู่สัก พักแล้วไม่ถูกใจเลยพูดขึ้นว่า “ข้าจะตั้งใจเลือกดีๆจะเลือกอันที่ นายท่านของพวกเจ้าชอบถึงจะดี”
แม่นมทั้งสองคนรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์กับคำพูดของนางนัก หลินซีนเขียนคือคนที่ถูกเฉินเทียนจับมาดังนั้นพวกนางรู้ว่านี่ ไม่ใช่ผู้หญิงที่เต็มใจจะไปปรนนิบัตินายท่านด้วยตนเองแต่ว่า ผ่านไปแค่แปปเดียวท่าทางก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมากตอนแรกที่ ทำเป็นแข็งข้อคือแกล้งทำออกมางั้นหรอ? เรียกร้องความสนใจ งั้นหรอ?
แม่นมทั้งสองเพราะแบบนี้ก็เลยรู้สึกดูถูกหลินซีนเขียนขึ้น มา”ปิ่นปักผมของที่นี่ก็มีตั้งเยอะแยะมากมายแล้วหากว่าเจ้ายัง ไม่ถูกใจพวกข้าก็ทำอะไรไม่ได้
“แบบนั้นไม่ได้นะถ้าหากว่าหาอันที่ข้าขอบไม่ได้กลับมาหลังจากไปปรนนิบัตินายท่านของพวกเจ้าแล้วข้าจะบอกเขาว่าจริงๆ ข้าสวยได้มากกว่านี้อีกแต่ว่าเหลามามาทั้งสองคนจงใจให้ข้า แต่งตัวขี้เหร่ๆ”หลินซีนเขียนถอนหายใจออกมาแล้วเหยียบตา ไปสังเกตสีหน้าของแม่นมทั้งสองนางเดาว่าขนาดคนที่เดือดร้อน แบบเฉินเทียนยังเกรงกลัวหลังห้าวแม่นมสองคนนี้ก็จะต้องยิ่ง กลัวหลิงห้าวขึ้นไปอีกถึงจะถูก
แล้วก็เป็นจริงแม่นมสองนั้นราวกับกลัวนายท่านสุดตัวแค่ ได้ยินว่าจะทำให้นายท่านไม่พอใจทั้งสองคนก็ยอมอ่อนทันที ข้า คิดออกแล้วตรงนั้นยังมีที่สวยๆอยู่อีกไม่กี่วันแม่นางรอสักครู่ข้า จะไปเอามาให้เจ้าเลือก
แม่นมคนหนึ่งก็รีบหมุนตัววิ่งไปแม่นมอีกคนถึงจะไม่ค่อย พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“มามาคนนี้ข้าหิวแล้ว”หลินซีนเขียนถือปิ่นปักผมขึ้นมาแล้ว ขูดลงบนโต๊ะไปมาพร้อมทั้งพูดขึ้นไม่ได้สนใจโต๊ะตัวนี้เลยแม้แต่ น้อยว่าเป็นโต๊ะไม้แดงขีดเขียนจนเป็นรอยเป็นเส้นๆ แม่นมที่อยู่ ข้างรู้สึกสะเทือนใจหน่อยๆ
“รอนางกลับมาแล้วข้าจะไปทำอะไรให้เจ้ากิน สำหรับแม่นม คนที่สามารถทำร้ายนายทำให้นางรู้สึกอัดอั้น
“ข้ารอไม่ไหวแล้วยังไงซะข้าอยู่ในห้องนี้ก็ออกไปไม่ได้อยู่ดี ประตูใหญ่ไม่ใช่มีกลอนประตูไงเจ้ากลัวอะไรยังไงข้าก็หนีไป ไหนไม่ได้นายท่านของพวกเจ้าจะมารอข้าค่อยๆกินข้าวแล้วค่อย ไปปรนนิบัติเขาหรอ?”
ไม่รอแน่นอน สีหน้าของแม่นมเหมือนถูกทารุณหลิงห้าวนั้น ปรนนิบัติดูแลยากสุดๆ ยิ่งกับคนรับใช้ยิ่งเข้มงวดใหญ่หากว่าไม่ พอใจขึ้นมาก็ฆ่าทิ้งดังนั้นพวกนางไม่กล้าที่จะทำเรื่องอะไร ทำให้เขาไม่พอใจเด็ดขาด ที่จะ
แม่นมลังเลอยู่แปปหนึ่งแล้วก็ออกไปดีกว่าแค่ทำตามที่หลิน ซีนเขียนพูดล็อกกลอนที่หน้าประตูห้องซะ
มันก็เป็นวิธีไล่เสือออกจากภูเขาง่ายๆ ขอแค่จุดอ่อนของ ฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ก็ไม่ยากที่ได้ในสิ่งที่ต้องการใบหน้าของหลิน ซีนเยียนเผยให้เห็นรอยยิ้มบางๆ รอจนทั้งสองคนไปแล้วก็รีบ ลงมือรื้อเครื่องประดับในกล่องทันที
ที่น่าดีใจสุดๆก็คือในกล่องนี้มีเครื่องประดับเยอะมากนางน ส่วนประกอบเล็กๆออกก็ไม่ยากที่จะสร้างเป็นอาวุธแบบง่ายๆ
ผ่านไปไม่นานนักแม่นมที่ไปเอาเครื่องประดับก็กลับมานาง เห็นประตูถูกล็อกก็หมุนตัววิ่งออกไปราวกับวิ่งไปเอากุญแจน แหละรออีกสักพักนางถึงจะกลับมาพร้อมเอากุญแจมาเปิดประตู ห้อง
เห็นหลินซีนเขียนสวมใส่แหวนอยู่ในมือนางก็สะดุ้งตกใจ เจ้า ไปเอาแหวนมาจากไหน?”
ของของหลินขึ้นเขียนพวกนางได้เก็บเอาไปหมดแล้วเสื้อผ้าที่ ให้นางใส่ก็เป็นชุดที่พวกนางจัดเตรียมให้นางมั่นใจเลยว่าใน ร่างกายของหลินซึนเยียนไม่มีแหวนของพรรค์นี้อย่างแน่นอน
หลินขึ้นเขียนยิ้มแล้วยิ้มอีกชี้ไปที่ปั่นปักผมอันหนึ่ง “สวยมั้ย?ข้าใช้เส้นจากปิ่นปักผมทำออกมา
แม่นมมองไปที่ปั่นปักผมอันนั้นก็เห็นร่องรอยที่ถูกแยกชิ้นส่วน
อยู่จริงๆ
“ทำไมปั่นปักผมอันนี้ข้าแกะไม่ได้ไง?”หลินซีนเยียนเลิกคิ้ว
กาม
แม่นมไม่ได้ขัดอะไรแค่นำเอาเครื่องประดับในมือวางลงบน โต๊ะของพวกนี้ตระกูลหลิงมีมากมายนักนายท่านคงไม่เพราะสิ่งนี้ ถือสากับผู้หญิงพวกนี้หรอกดังนั้นนางเป็นแค่คนใช้คนหนึ่งจะไม่ ควรพูดอะไรมาก
ผ่านไปไวมากแม่นมอีกคนก็ยกอาหารกลับมา
หลินซินเยียมรับชามถ้วยกับตะเกียบมาแล้วลงมือกินข้าว อย่างรวดเร็วราวกับลืมไปเลยว่าตนเองกำลังจะถูกบังคับใน ใจความไม่สนใจสิ่งใดที่ทำให้แม่นมเอื้อมจนพูดอะไรไม่ออกอีก ครั้ง
ท้องฟ้ามืดสนิทแล้วมีเสียวมาบอกให้แม่นมทั้งสองทราบว่า ถึงเวลาที่ต้องพาหลินซีนเยียนไปยังห้องของหลิงห้าวแล้ว
แม่นมทั้งสองรีบขานรับทันทีคนหนึ่งถือโคมไฟอีกคนนำทาง ทั้งสองคนพาหลินซินเยียนเดินไปทางตำหนักของหลังห้าว
พอมาถึงประตูตำหนักแม่นมทั้งสองก็หยุดเดินมีนางกำนัลมา รับช่วงต่อแทนนางกำนัลนางนั้นน่าจะราวยี่สิบปีหน่อยๆลักษณะ การเดินอ่อนช้อยงดงามให้ความรู้สึกของสาวน้อยแสนสวยวัยแรกแย้มนางมองหลินซีนเขียนตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่งใน
สายตาเต็มไปด้วยความริษยาอย่างเห็นได้ชัด” ตามข้ามา” หลินซีนเขียนลังเลครู่หนึ่งแล้วก็ตามนางกำนัลคนนั้นเข้าไปพึ่ง จะเดินเข้าไปในตำหนักก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักตั้งมาแต่ไกล
ฟังจากเสียงน่าจะไม่ใช่ผู้หญิงแค่คนเดียว
ท่านชายของบ้านเจ้ารสนิยมไม่เบา”หลินซีนเขียนเบ้ปากเผลอ พูดออกมา
นางกำนัลนางนั้นหันกลับมาจ้องนางตาขวางท่านชายของข้า แบบนี้เรียกว่ารักอิสระการได้รับความรักความเอ็นดูจากท่าน ขายบ้านข้าเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงไม่น้อยเจ้าอย่าได้ใจไป ข้างในมีผู้หญิงที่สวยกว่าเจ้าอยู่อีกมากท่านชายก็ไม่แน่ว่าจะแตะ ต้องเจ้า”
ไม่แตะต้องนาง ? พอเหลียงซีนเยียนได้ยินเข้าตาก็เป็นประกาย ทันทีถ้างั้นก็ต้องขอร้องอ้อนวอนเทพพระเจ้าแล้วล่ะแม้แต่นาง กำนัลนาง นางก็ไม่ได้เกลียดชังอะไรมากแล้ว
“เอาล่ะเจ้าผลักประตูเข้าไปเองละกัน”นางกำนัลไม่กล้าไปข้าง หน้ามากกว่านี้อีกไปทางประตูบานหนึ่งที่อยู่ข้างๆแล้วพูดกับ หลินชินเขียน
หลินขึ้นเขียนก้าวเท้าเดินไปตามขั้นบันไดหยุดยืนอยู่ที่หน้า
ประตูพอได้ยินเสียงผู้หญิงครวญครางดังออกมาจากในบ้านมือที่ กำลังยกขึ้น ในขณะนั้นก็ค้างอยู่อย่างนั้น