ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 426
ตอนที่426รวบรวมวัตถุดิบ
ใช่สิคนตระกูลหรงไม่ใช่พวกที่น่าคบหาด้วยถ้าหลินซีนเยียนตกอยู่ในกำมือตระกูลหรงไม่ใช่แค่โม่จื่อเฟิงที่มีอันตรายกลัวว่าหลินซีนเยียนก็เอาชีวิตรอดยาก
“แต่ว่า……..พระชายาแย่งหญ้าจื่ออวี๋นไปตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?ต้นหญ้าจื่ออวี๋นนั่นเป็นของล้ำค่าในร้านยาวิเศษมีเพียงพี่สาวหลีฉวนถึงจะหยิบมาได้แต่เดิมข้าน้อยคิดว่าด้วยมิตรภาพที่พี่สาวหลีฮวนมีต่อท่านเรื่องนี้น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ยากนักแต่คิดไม่ถึงว่าจะทำให้พระชายาแย่งชิงไปกลางทางเสียแล้วแล้วยังทำร้ายพี่สาวหลีฮวนจนตาย……”
พอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาหนีหว่านอดร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ได้ถ้าองครักษ์มังกรกลับมาบอกข่าวด้วยตัวเองนางไม่เชื่อว่าหลินซีนเยียนตัวคนเดียวแบบนั้นจะทำร้ายชีวิตคนบริสุทธิ์เพื่อหญ้าจื่ออวี๋นก้านเดียว
โม่จื่อเฟิงเงียบไปชั่วครู่ไม่สนใจจะมองหนังสือเขามองให้คนรับใช้หนุ่มปิดหนังสือคนรับใช้หนุ่มปิดหนังสือแล้วก็จากไปในห้องเหลือเพียงโม่จื่อเฟิงและหนีหว่าน
“นายท่านพวกเราต้องนั่งรอรับความพ่ายแพ้เช่นนี้หรือ?”ยิ่งหนีหว่านเป็นทุกข์นายท่านจึงตกลงทำพันธะสัญญากับตระกูลหรงได้ยากทำให้ตระกูลหรงเปิดบึงน้ำเย็นให้เขาถ้าเวลานี้เกิดเรื่องไม่คาดฝันนางคงไม่ยอมจริง!
โม่จื่อเฟิงมองหิมะปลิวว่อนที่นอกหน้าต่างผ่านสักพักถึงพูด“บางทีเรื่องทั้งหมดพรหมลิขิตกำหนดเอาไว้แล้วหล่ะ……..”
“พรหมลิขิต?”หนีหว่านแปลกใจ“นายท่านตั้งต่ไหนแต่ไรมาท่านไม่เคยเชื่อเรื่องพรหมลิขิต?”
“บางทีคนแก่ตัวลงแล้วล่ะเมื่อก่อนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้นึกไม่ถึงว่าตอนนี้เริ่มจะเชื่อเสียแล้ว”โม่จื่อเฟิงโศกเศร้าเป็นอย่างยิ่งหลังจากผ่านไปสักพักเขาค่อยๆพูด“เจ้าส่งคนไปที่ร้านยาวิเศษอีกครั้งถามดูยังมีหญ้าจื่ออวี๋นต้นอื่นหรือไม่ตอนนี้ทำได้แค่เสี่ยงเพื่อกาลเวลาข้างหน้าแล้วถ้าหากสวรรค์จะรับข้าไปเช่นนั้นข้าก็คงจนปัญญาแล้วแต่ทว่าสุดท้ายต้องตายในเงื้อมมือของนางข้าก็เต็มใจอยู่แล้ว”
คนเหมือนโม่จื่อเฟิงกลัวความตายที่ไหนกัน?เริ่มตั้งแต่อายุห้าขวบเขาพร่ำบอกตัวเองไม่ขาดช่วงหลายปีนี้ใช้ชีวิตอย่างว่างเปล่าในเมื่อใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่าแล้วเช่นนั้นก็เผด็จการตามใจตัวเองเสียเลย!
“หนีหว่าน…….”หลังจากโม่จื่อเฟิงสั่งเสร็จแล้วเขาอดพูดไม่ได้“ถ้าข้าพบกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดจริงๆส่งวี่จิ่งน้อยไปอยู่กับนางหลังจากนั้น…..มอบองครักษ์มังกรให้แก่นาง”
นี่เป็นคำสั่งสุดท้าย?
ดวงตาหนีหว่านแดงก่ำแต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยเห็นโม่จื่อเฟิงหมดอาลัยตายอยากนางอยากพูดปลอบใจเขาสักสองสามคำริมฝีปากขยับแต่สุดท้ายไม่ได้พูดออกมาจวบจนสุดท้ายนางยอมพยักหน้าอย่างกล้ำกลืน
ดูเหมือนหิมะกลางภูเขาเพิ่มขึ้นมาบ้างไม่รู้ว่าบรรพบุรุษตระกูลหรงคิดอย่างไรถึงเลือกที่เยี่ยงนี้เป็นถิ่นตั้งหลักปักฐานจากรุ่นสู่รุ่น
ลมหิมะยังคงอยู่ต่อไปแต่ใจคนแข็งตัวจนกลายเป็นน้ำแข็งไปเคลื่อนไหวไม่ได้อีกต่อไป
สองวันนี้หลินซีนเยียนยังทำของเล่นที่ห้องเหมือนเดิมทำอาวุธไม่ใช่เรื่องง่ายการผลิตอาวุธไม่ใช่เรื่องง่ายตั้งแต่วาดกระดาษโครงไปจนถึงตัวอย่างหนังสือสุดท้ายคิดต้นทุนทดลองทำปรับปรุงทดลองทำอีกปรับปรุงอีกทุกขั้นตอนต้องใช้กำลังและเวลาเป็นอย่างมาก
ดังนั้นในช่วงเวลาครึ่งเดือนกว่านางสามารถผลิตอาวุธออกมาได้ไม่มากนักแต่ธนูที่ลักษณะเหมือนกำไลดอกหนึ่งสามารถแทรกไว้ในดาบอ่อนที่เอวและยังมี
กระโจมมือคู่หนึ่งที่สามารถดีดมีดคมออกมาได้
และสองวันนี้นางมักจะไม่มีสมาธิทุกๆครั้งจะหยุดมือความคิดของนางยุ่งเหยิงว้าวุ่นยิ่งนักตอนใจลอยนางได้ยินเสียงวี่จิ่งน้อยตะโกนร้องไห้เสียใจสุดจะพรรณนาแต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้นางเชื่อลางสังหรณ์ของผู้หญิงนางจึงคิดว่าต้องมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ช่วงบ่ายในวันนี้เสี่ยวหลงมาส่งวัตถุดิบแล้วแต่ครั้งนี้นางดูมีความสุขอย่างชัดเจนโดยเฉพาะตอนนำหีบสี่หีบส่งในมือหลินซีนเยียนเขารู้สึกคาดไม่ถึงว่าจะพูดคำว่าสำเร็จไม่ออกแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหตุใดยอมก้มหัวอยู่ใต้การบังคับบัญชาต่อผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเพราะนางคือสตรีของนายท่านกระมัง?
“ข้าไปเหมืองแร่ที่นอกเมืองไม่ง่ายนักกว่าจะทราบว่าที่ปากถ้ำเหมืองแร่จะมีหินเผาไหม้ได้จริงๆแต่เหมืองแร่นั้นไม่มีแต่เคยเห็นในเหมืองแร่เล็กที่อยู่ห่างไปร้อยลี้ข้าขี่ม้าไปเหมืองแร่เล็กทั้งคืนแม้เหมืองแร่เล็กไม่มีคนอยู่แล้วแต่โชคดีนักข้าอยู่ในโรงเหล็กของตำบลยังหาทางเอาชีวิตรอดได้เล็กน้อยถ้าหากข้ามาไม่ทันกาลชีวิตที่เฉียดตายคงถูกช่างตีเหล็กจุดไฟเผาไปแล้ว”
เสี่ยวหลงเล่าออกมาท่าทีแสดงออกว่าประสบความสำเร็จมากที่แท้ช่วงนี้เขาออกสำรวจเงียบๆเขาเลื่อมใสศรัทธาหญิงตรงหน้าโดยไม่รู้ตัวผู้หญิงคนหนึ่งมีเชาวน์ปัญญาถึงเพียงนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
หลินซีนเยียนซาบซึ้งใจนางคิดไม่ถึงจริงๆว่าของที่ต้องการครบถ้วนแล้ว!
นางซาบซึ้งใจย้ายหีบสองสามหีบเข้าไปในห้องหลังจากนั้นรอไม่ไหวเปิดหีบพวกนั้นมาดูแม้หีบนั้นไม่ใหญ่นักของในหีบก็มีไม่มากโดยเฉพาะดินประสิวที่มีน้อยที่สุดแต่แม้จะเป็นเช่นนี้ก็รวบรวมวัตถุดิบที่จะสร้างดินปืนได้ครบถ้วนแล้ว
“แม่นางของพวกนี้ล้วนเป็นของทั่วๆไปท่านจะเอาไปทำอะไรหรือขอรับ?”เสี่ยวหลงถามอีก
หลินซีนเยียนจิตใจดีเผยหน้าตาอ่อนโยนต่อเขาอธิบายไม่ปิดบังกลับหยิบพู่กันขึ้นมาวาดเสียด้วยซ้ำผ่านไปสักพักนางยกกระดาษขึ้นมาส่งให้เสี่ยวหลง“ข้าทำอะไรรอให้เสร็จแล้วเจ้าจะรู้เองตอนนี้ยังต้องรบกวนเสี่ยวหลงไปที่โรงตีเหล็กในเมืองเพื่อหาของสองสามอย่างให้ข้าอีกครั้ง”
เสี่ยวหลงหยิบกระดาษขึ้นมาดูอย่างละเอียดแต่ยิ่งดูยิ่งสงสัยมากกว่าเดิมของที่ถูกวาดบนกระดาษวาดรูปเขามองแล้วไม่เข้าใจแต่เป็นคนเรียนวิทยายุทธเขาเดาออกว่าน่าจะเป็นอาวุธชนิดหนึ่ง“อาวุธชนิดนี้แปลกนักปลายด้านหน้าเป็นกระบอกไม้ไผ่เล็กๆทั้งไม่คมไม่ยาวอาวุธเช่นนี้จะทำร้ายคนได้หรือขอรับ?”
“ได้ไม่ได้ถึงเวลาทำออกมาเจ้าก็จะรู้เองแต่เป็นเพราะเวลาเร่งนักถ้าเป็นไปได้ข้าหวังว่าจะออกไปหาของพรุ่งนี้ได้”หลินซีนเยียนพูด
“พรุ่งนี้?”เสี่ยวหลงอดพูดออกมาไม่ได้“แม่นางของพวกนี้ข้าดูไม่เข้าใจไม่รู้ว่านายช่างจะทำออกมาได้หรือไม่ให้เวลาแค่หนึ่งวันยากเสียยิ่งยากแล้วขอรับ”
“ข้าก็รู้ว่าให้เวลาน้อยเกินไปแต่พวกเราไม่มีเวลาแล้วข้ารู้สึกว่าสองวันนี้จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นถ้ามาไม่ทันกลัวว่าพวกเราทั้งหมดคงไม่ได้ออกไปจากแคว้นหมัน”หลินซีนเยียนแสดงสีหน้าหนักแน่นบรรยากาศเช่นนี้ต้องพูดโน้มน้าวเสี่ยวหลงทันที
เขาขมวดคิ้วพูดอีก“ข้าจะทำให้เต็มที่แล้วกันขอรับค่ำวันนี้ข้าจะเฝ้าพวกนายช่างรีบทำแต่สุดท้ายจะทำออกมาได้หรือไม่ข้าไม่กล้ารับประกันขอรับ”
“รีบไปเถิด”หลินซีนเยียนพยักหน้าว่าเข้าใจแต่ในมือกลับสั่นเทาเห็นชัดว่าในใจนางตื่นเต้นตึงเครียดจริงๆ