ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 429
ตอนที่429ตีฝ่าวงล้อม
หลังจากประตูเมืองเมืองหลวงแคว้นหมันถูกกองทัพของโจว่เฉิงตีแตกแล้วในเมืองก็เข้าสู่ภาวะสงครามแม้โจว่เฉิงเคยสั่งว่าไม่ให้ก่อกวนประชาชนแต่เมื่อป่าใหญ่ขึ้นแล้วนกแบบไหนก็ย่อมมีท่ามกลางความวุ่นวายยอมสังหารไม่ละเว้นหลีกเลี่ยงทำร้ายคนไม่ได้ในกลุ่มคนพวกนั้นต้องมีประชาชนที่บริสุทธิ์แน่นอน
ดังนั้นประชาชนทั้งแคว้นรีบหนีไปทางกลางบ้านในช่วงนั้นบนถนนใหญ่มีการรวมกลุ่มกันวุ่นวายพวกที่ระยะทางไกลจากบ้านนั้นก็รีบเร่งกันสุดชีวิต
“ตอนนี้กลางเมืองเป็นอย่างไรบ้าง?”หลินซีนเยียนกับอี้เซิงรอในจวนอย่างตึงเครียดเห็นสวี่ห้าวที่ออกไปสืบข่าวกลับมาก็เข้ามาถามทันที
สวี่ห้าวหอบแฮ่กๆดื่มน้ำไปอึกหนึ่งหลังจากนั้นนั่งบนม้านั่งหินข้างจวนพูดว่า“แม้กองทัพโจว่เฉิงเก่งฉกาจแต่ฮ่องเต้แคว้นหมันนั้นทรงหาได้ถึงขั้นสวรรคตไม่ตอนแรกสามารถทำลายยึดพระราชอำนาจได้แต่ทรงหาใช่ผู้ไร้สมองไม่ตอนนี้ฮ่องเต้ส่งกองทัพทหารลับกองหนึ่งมุ่งสังหารประชาชนหลังจากนั้นกล่าวหาใส่กองทัพโจว่เฉิงตอนนี้ประชาชนในเมืองคิดว่ากองทีพโจว่เฉิงลอบสังหารปล้นชิงทรัพย์สร้างความไม่พอใจให้กับเองทัพโจว่เฉิงแต่เห็นทหารที่ปั่นป่วนขึ้นไปรายงานกับขุนนางแล้ว
“ฮ่องเต้แคว้นหมันเป็นคนฉลาดนักรู้ว่ากำลังในเมืองตัวเองไม่พอก็ปลุกระดมประชาชน”ขณะที่หลินซีนเยียนพูดอย่างนี้ในใจกลับอดจะประกาศสงครามกับราชสำนักไม่ได้เพื่อพระราชบัลลังก์คนพวกนี้คิดจริงใจกับประชาชนที่ไหนกันแต่สับเปลี่ยนวิธีที่ใช้ประโยชน์จากประชาชนเท่านั้นเอง
ฉะนั้นทุกสนามการต่อสู้การเมืองทุกสงครามทุกครั้งที่พระราชบัลลังก์สับเปลี่ยนในความเป็นจริงคนที่ต้องแบกรับความเจ็บปวดถึงที่สุดก็คือประชาชนเท่านั้นเอง
“อีกอย่างคนของฮ่องเต้แคว้นหมันกำลังหาอี้เซิงทีละบ้านตอนข้ากลับมาเห็นกองทัพมาถึงปากทางถนนแล้วข้าคิดว่าไม่นานจะมาถึงที่นี่แล้วตอนนี้ทหารของโจว่เฉิงกับทหารพระราชสำนักน่าจะกำลังเผชิญหน้ากันที่บนถนนแล้วข้าคาดการณ์ว่าสักพักถ้ากองทัพฮ่องเต้ถูกสังหารไปแล้วกองทัพของโจว่เฉิงอาจปกป้องพวกเราเอาไว้”สวี่ห้าววิเคราะห์เช่นนี้
“แม้ปกป้องไว้ได้สุดท้ายโจว่เฉิงไม่ไว้ชีวิตพวกเราแต่สงครามยิ่งวุ่นวายยิ่งเกิดประโยชน์กับพวกเราสักพักพวกเราจะได้โอกาสมีโอกาสก็หาจังหวะหนีไปจากที่นี่คนทั้งสองฝ่ายไม่ไว้ชีวิตพวกเราฉะนั้นสงครามพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา!”หลินซีนเยียนพูด
สวี่ห้าวมองนางอย่างประหลาดใจนางไม่ใช่นักปกครองถึงกับขนาดไม่ใช่ชายที่เข้าใจเรื่องราวในราชสำนักแต่การวิเคราะห์ของนางกลับถูกต้องกินขาดผู้หญิงเช่นนี้เกิดผิดร่างมาเป็นหญิงแล้วล่ะถ้าเปลี่ยนกลายมาเป็นชายอาจจะไม่ต้องทำอะไรมากมาย
สวี่ห้าวลูบหัวอี้เซิงทอดถอนหายใจ“เด็กน้อยเช่นเจ้านี้ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือไม่มีโชคเกิดมาชีวิตลำบากกลับมาพบพี่สาวเช่นนี้”
อี้เซิงยิ้มมีความสุขใช่สิที่จริงสวรรค์ดีกับเขาตอนที่เขาไม่มีอะไรไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเรื่องปาฏิหาริย์ขึ้นมาจริงๆทำให้เขาพบนาง
ทั้งสามคนกำลังคุยกันตรงประตูจวนมีเงาหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
คนที่พุ่งเข้ามาคือเสี่ยวหลงใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความรีบร้อนสายตาไม่เหลียวมองสวี่ห้าวและอี้เซิงมองมุ่งตรงแต่หลินซีนเยียนที่อยู่ตรงหน้ากล่าวว่า“คนของฮ่องเต้แคว้นหมันมาแล้วต่อสู้อยู่กับคนของโจว่เฉิงที่หน้าจวนจวนถูกล้อมไว้แล้วโชคดีคนของฮ่องเต้แคว้นหมันออกไปแล้วไม่นานต้องมีกองทัพสนับสนุนมาถึงข้าจะพาท่านออกไปก่อน!”
เขาเป็นผู้พิทักษ์มืออาชีพความถนัดไม่ใช่การต่อสู้ความถนัดของเขาคือ
ปกป้องเป็นผู้พิทักษ์ลับที่เก่งที่สุดอยู่ภายใต้การโอบล้อมเป็นชั้นๆโอกาสที่เขาจะพาคนๆหนึ่งออกไปสูงมากแต่ต้องไปทั้งสามคนพร้อมกันเช่นนั้นเกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้
“เจ้าก็รู้ดีว่าข้าไปไม่ได้”หลินซีนเยียนจ้องมองเขา“อี้เซิงเป็นหนึ่งในคนที่สำคัญที่สุดของข้าถ้าเขาเกิดเรื่องอยู่ที่นี่ข้าออกไปก็ไร้ความหมาย”
“แต่เจ้าอยู่ที่นี่จะอันตรายมากเกินไปแล้ว”เสี่ยวหลงอดพูดชักจูงไม่ได้“หรือว่าหลังจากข้าพาเจ้าออกไปแล้วย้อนกลับมาช่วยพวกเขาล่ะ?”แต่จะช่วยได้หรือไม่ เขาไม่อาจบอกได้แน่นอน
หลินซีนเยียนมองท่าทีของเขาออกนางรู้การเป็นผู้พิทักษ์ลับตัวเองต้องปกป้องเป้าหมายเป็นคนแรกคนอื่นไม่ใช้ภาระหน้าที่ของเขา
ฉะนั้นนางจึงส่ายหน้า
เสี่ยวหลงถอนหายใจพูดว่า“ในเมื่อเจ้ายังยืนกรานเช่นนี้เช่นนั้นคงทำได้แค่ทำตามเหตุการณ์แล้วหวังว่าพวกเราทั้งหมดจะรอดชีวิตออกไปได้”
กลิ่นคาวเลือดรุนแรงโชยตามลมหนาวเข้ามาในจวนกลิ่นยิ่งเข้ามายิ่งแรงขึ้นจนในที่สุดมีทหารหนึ่งยกดาบนำหน้าบุกเข้ามาที่ประตูใหญ่ของจวนทหารคนนั้นเห็นคนสองสามคนในจวนโดยเฉพาะอี้เซิงก็ตะโกนขึ้นมาทันที“เจอคนแล้วอยู่ที่นี่!เกือบเหมือนหน้าคนที่บนภาพ……”
แต่ทว่าทหารคนนั้นพูดไม่ทันจบดาบยาวก็แทงทะลุบนอกเขาทันทีทหารคนนั้นถลึงตามองไม่ตอบโต้ออกมาปากจมูกมีเลือกไหลนองตอนเขาถึงแก่ความตายก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรออกมาดาบยาวนั่นทะลุออกจากด้านหลังได้อย่างไรกัน
หลังจากทหารคนนั้นล้มลงคนของโจว่เฉิงที่ปกป้องจวนก็โผล่เข้ามาในจวนแต่พวกเขาเหลือไม่มากแล้วแค่ยี่สิบสามสิบคนเท่านั้นพวกเขาถอยเข้ามาป้องกันในจวนหน้าประตูก็ปรากฏกองทัพกลุ่มใหญ่ทหารกลุ่มนั้นใส่ชุดเกราะทหารราชสำนักแคว้นหมันน่าจะเป็นทหารที่มาจากพระราชวัง
“นอกจากเว้นชีวิตพยานที่เหมือนบนภาพวาดคนอื่นฆ่าไม่เว้นโทษ!”ทหารนำของพระราชวังสั่งการคนทั้งหมดเริ่มพุ่งเข้ามาในจวนในช่วงที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้พวกเขาไม่สนใจจะเจรจาไร้สาระกับคนพวกนั้นสำหรับพวกเขาสังหารศัตรูคนเดียวก็ลดอันตรายไปหนึ่งส่วน
ราวกับกำลังของศัตรูกำลังอยู่ในขั้นจะต่อสู้กันเมตตาปราณีต่อศัตรูก็คือการทำร้ายต่อตัวเองในเมื่อถูกลิขิตไว้แล้วเช่นนั้นก็ต้องสังหารศัตรูให้หมดสิ้น!
คนทั้งสองฝ่ายดูเหมือนต่างเข้าความจริงเรื่องนี้ดังนั้นไม่ต้องพูดเจรจากันคนทั้งสองฝ่ายก็เข้าสังหารอีกฝ่าย
สวี่ห้าวปกป้องอี้เซิงเสี่ยวหลงปกป้องหลินซีนเยียนท่ามกลางทหารทั้งสองฝ่ายสังหารกันคงมีชีวิตรอดได้ยากลำบากแต่สถานการณ์ศึกนี้เห็นได้ชัดว่ากองทัพพระราชวังได้เปรียบและทหารกองสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องทหารที่เหลือของโจว่เฉิงก็อ่อนแรงลงมากอย่างเห็นได้ชัด
“ดูท่าคนของโจว่เฉิงควบคุมไม่อยู่แล้วข้าว่าเป็นไปได้มากที่สุดเวลาเพียงจอกชาเล็กพวกเราคงตายกันหมด!”สวี่ห้าวตะโกน
หลินซีนเยียนพยักหน้าถ้าพวกเขาตกอยู่ในมือของฮ่องเต้แคว้นหมันเกรงว่าคงจะตายอย่างอนาถนัก“หาช่องโหว่พุ่งออกไป!”
สวี่ห้าวพยักหน้าหลังจากมองไปรอบๆหัวคิ้วขมวดแน่นขึ้นมา“ทางออกจวนมีแค่ทางเดียวแต่คนทางฝั่งนั้นเยอะมากที่สุดและหัวหน้ายังอยู่ที่หน้าประตูอีกด้วย”
“ฆ่าทิ้งไปซะ!”หลินซีนเยียนพูดไม่ลังเลแต่น้อยถ้ามีทางเดียวยังมีทางเลือกอะไรอีก?
“ได้!”สวี่ห้าวและเสี่ยวหลงตอบพร้อมกันหลังจากนั้นทั้งสี่คนเคลื่อนตัวออกไปทางประตู