ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 430
ตอนที่430 เกิดเหตุการณ์ร้ายตามมา
วรยุทธกินขาดของสวี่ห้าวเมื่ออยู่ท่ามกลางความวุ่นวายเช่นนี้มีเขาอยู่อี้เซิงไม่ได้รับอันตรายแม้แต่น้อยและมีหลินซีนเยียนเป็นผู้ปกป้องที่เหมาะสมของเขายิ่งทำให้เขาได้เปรียบมากที่สุดฉะนั้นในเวลาแค่ไม่กี่พริบตาเดียวเขาพาอี้เซิงหนีออกมาระยะทางถึงประตูห่างไปไม่กี่ก้าว
เสี่ยวหลงกำลังปกป้องหลินซีนเยียนซึ่งไม่มีวรยุทธจึงต้องเหนื่อยหน่อยแม้ร่างกายเขาคล่องแคล่วปราดเปรียวแต่สุดท้ายคนๆเดียวไม่อาจสู้กับหลายมือแค่เวลาไม่นานบนร่างกายทั้งร่างหลงเหลือแผลคมมีดมากมายแต่เขาเป็นบุรุษไม่ว่าบนร่างกายจะมีร่องรอยมากเท่าไหร่เขาก็กัดฟันไม่ร้องออกมาและยังใช้ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บปกป้องหลินซีนเยียนจากการจู่โจมทุกทิศทาง
หลังจากเสี่ยวหลงใช้หลังอันแข็งแกร่งรับคมดาบหลินซีนเยียนใจอ่อนทั้งใจนางเศร้าสุดจะฝืนพูดว่า“อย่ามัวแต่ปกป้องข้าถ้าดูแลไม่ไหวก็จงดูแลตัวเองเถิดเจ้าก็เป็นคนไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตเพื่อรับผิดชอบคนๆเดียว”
แม้นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้พิทักษ์ลับซื่อสัตย์จงรักภักดีเช่นนี้แต่สำหรับตัวนางเองกลับไม่ยอมเห็นคนอื่นสละชีพเพื่อตัวเองจริงๆโดยเฉพาะนางไม่มีคุณค่าพิเศษกับคนๆนี้นางเป็นแค่ภาระของเขาเท่านั้นเอง
“หลินซีนเยียนนอกเสียจากข้าตายเท่านั้นมิฉะนั้นข้าจะไม่ให้เจ้าเป็นอะไรเด็ดขาดนี่คือคำสั่งของนายท่าน”ท่ามกลางเลือดกระเซ็นไม่คิดว่าเสี่ยวหลงจะยิ้มออกเขาต่อสู้กับรอบข้างพลางค่อยๆพูด“แต่ว่าแม่นางหลินขอบคุณเจ้านะ”
หลินซีนเยียนไม่เข้าใจแต่ไม่ได้ถาม
เสี่ยวหลงก็ไม่รอให้นางถามและพูดต่อเอง“เจ้ารู้หรือไม่เจ้าเป็นเพียงคนเดียวในชีวิตนี้ที่ให้ข้าปกป้องชีวิตตัวเองตั้งแต่เริ่มจำความได้ข้าก็เป็นผู้พิทักษ์ลับแล้วภารกิจของข้าคือการทำภารกิจให้สมบูรณ์ต่อเนื่องไม่ขาดรอบตัวข้าไร้สหายไม่จำเป็นต้องมีสหายด้วยฉะนั้นแต่ไหนแต่ไรมาไม่มีคนบอกข้าตอนทำภารกิจยังบอกให้ดูแลตัวเอง”
ตอนที่คำพูดไม่มีความรู้สึกที่เสียใจกับตัวเองกลับพูดด้วยท่าทีเรียบง่ายสบายๆเสียด้วยซ้ำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนน่าสงสารแต่ว่าเมื่อคำพูดนี้มาอยู่ในใจหลินซีนเยียนกลับทำให้หัวใจนางกระตุกขึ้นมาเล็กน้อยเป็นคนๆหนึ่งที่น่าสงสารอะไรเยี่ยงนี้ตลอดชีวิตไม่เคยได้รับความรักเลย?
“ระวัง!”ตอนเห็นดาบยาวมาทางคอเสี่ยวหลงหลินซีนเยียนเปิดกลไกกำไลข้อมือโดยต้องยั้งคิดในกำไลข้อมือยิงเข็มออกมาแท่งหนึ่งแทงเข้าไปบริเวณหัวคิ้วอย่างแรงคนๆนั้นร้องแล้วล้มลงไปคนอื่นๆก็กระโจนโผล่เข้ามาไม่ขาดสายสายตาเสี่ยวหลงหยุดและมองลงไปที่กำไลข้อมือของนาง“อาวุธลับของเจ้าช่างร้ายกาจเสียจริง!”
หลินซีนเยียนพยักหน้า“อย่าพูดตั้งใจต่อสู้ให้ดี!”
เสี่ยวหลงตอบหันกลับไปต่อสู้ต่อไม่พูดกับนางอีกเลยแต่เป็นผู้นำกองทัพทหารพระราชวังที่กำลังยืนอยู่ตรงประตูตอนกำลังมองกำไลของหลินซีนเยียนดวงตาเผยความใคร่สนใจออกมา
เห็นคนสองสามคนใกล้มาถึงประตูผู้นำทัพคนนั้นสีหน้านิ่งมีสมาธิพร้อมชักดาบยาวข้างเอวออกมาเขามองไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจพลางพูดด้วยเสียงเย็นชา“กำไลของเจ้าช่างไม่เลวนักส่งมาให้ภรรยาข้าใช้พกติดตัวน่าจะเหมาะกว่านะ!เจ้าส่งกำไลออกมาข้าจะเว้นชีวิตเจ้า!”
“เจ้าพูดจริงหรือ?”ในดวงตาหลินซีนเยียนแสดงความดีใจออกมาทันทีถอดกำไลบนมือออกมาไว้ในมือ“ข้าเอากำไลให้เจ้า เจ้าปล่อยข้า”
เหมือนผู้นำทัพคนนั้นคาดไม่ถึงว่าหลินซีนเยียนจะตอบตกลงได้ง่ายดายขนาดนี้อย่างไรเขาก็เป็นผู้นำทัพล้วนค้นหาชีวิตบนคมดาบอาวุธชั้นเลิศล้ำค่าชิ้นใดเขาใช้สายตาแยกแยะเขาก็ยังมีของพวกนั้นกำไลแบบนี้เอาไปวางที่ใดก็ไม่มี
ราคาตลาด
แต่ทันทีหลังจากนั้นเขาก็ปล่อยแล้ว“ได้สิพวกเจ้าทั้งหมดจะตายเสียด้วยซ้ำส่งกำลังมาด้วยตัวเองสามารถแลกได้หนึ่งชีวิตคุ้มค่าแน่นอนเช่นนั้นเจ้ายื่นออกมาเถิด”
ผู้นำทัพคนนั้นกล้าให้หลินซีนเยียนยื่นกำไลออกไปเพียงสังเกตผ่านไปเมื่อกี้นั้นเขาก็มั่นใจว่าหลินซีนเยียนไม่มีวรยุทธ นางคุกคามอะไรเขาไม่ได้
เดิมที่พวกหลินซีนเยียนยังกังวลว่าจะเข้าไปไกลตัวผู้นำทัพให้เร็วที่สุดอย่างไรดีนึกไม่ถึงว่าผู้นำทัพคนนั้นจะมอบโอกาสใหญ่ให้พวกเขาเช่นนี้
บางทีเมื่อก่อนสวี่ห้าวและเสี่ยวหลงก็เหมือนกับผู้นำทัพคนนั้นดูตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกหลินซีนเยียนดูไม่ใช่คนมีอันตรายอย่างสิ้นเชิงแต่เมื่ออยู่ด้วยผ่านมาหลายวันขนาดนี้พวกเขาสองคนที่มีฝีมือชั้นเลิศก็ไม่กล้าดูถูกดูแคลนหลินซีนเยียนอย่างน้อยๆตอนดูพฤติกรรมศัตรูพวกเขาไม่ให้หลินซีนเยียนเข้าใกล้ตัวเองแม้แต่ครึ่งก้าวอย่างเด็ดขาด
มีคำสั่งของผู้นำทัพคนนั้นตอนหลินซีนเยียนเดินไปด้านหน้าคนเดียวก็ดูท่าทางสบายๆไม่มีพิรุธอย่างชัดเจนจนกระทั่งตอนหลินซีนเยียนยิ่งเดินยิ่งเข้าใกล้ทุกทีในดวงตาผู้นำทัพคนนั้นเผยความตกตะลึงที่แฝงลึก
ในกองทัพล้วนมองพวกนายท่านเป็นสายตาเดียวกันแม้ว่าผู้นำทัพผู้นี้แต่งงานแล้วแต่สำหรับคนงามคนอย่างพวกเขาย่อมให้ความสนใจมากกว่าชายอื่นโดยเฉพาะสำหรับพวกเขาพวกหลินซีนเยียนเท่ากับเป็นเชลยศึกแล้วสำหรับหญิงเชลยศึกของทุกอย่างที่ใช้ได้ดีมากจึงเป็นของที่พวกเขาชอบมากที่สุด
ห้าก้าวสี่ก้าวสามก้าว……
หลินซีนเยียนยิ่งเดินยิ่งใกล้รอยยิ้มของผู้นำทัพคนนั้นยิ่งยิ้มมากขึ้นตอนที่หลินซีนเยียนมีระยะห่างกับตัวเองเพียงหนึ่งก้าวเขายื่นมือขวาออกมาคว้าหลินซีนเยียนเข้าไปในอ้อมอก“คนสวยกำไลนั่นกับเจ้าน่ะ……ข้าต้องการหมดเลย!”
หลินซีนเยียนสะดุดเข้าไปในอ้อมแขนผู้นำทัพสีหน้าไม่ตกใจแม้แต่น้อยราวกับคาดการณ์ได้ถึงเหตุการณ์สภาพนี้นางไม่เพียงไม่โกรธเคืองกลับเผยสีหน้าดีอกดีใจออกมาเสียด้วยซ้ำ“โอ้?ความหมายของท่านแม่ทัพคือจะไม่ฆ่าข้าแล้วหรือ?”
“แน่นอนเจ้าเป็นคนงามเช่นนี้จะฆ่าลงได้ที่ไหนกัน?”ผู้หญิงประเภทนี้ควรเย้าหยอกจนตายถึงจะถูก!ในใจผู้นำทัพกำลังคิดเช่นนี้มือก็ไม่นิ่งบีบรัดบนเอวหลินซีนเยียน
ตอนกุมชัยชนะจะประมาทเลินเล่อได้ง่ายที่สุดผู้นำทัพก็เป็นเช่นนี้เขาคิดเองว่าแม้แต่ผู้หยิงคนเดียวยังกลัวเช่นนั้นก็เป็นคนขี้ขลาดตาขาวในสนามรบครั้งนี้จริงๆ
“แต่ว่าท่านแม่ทัพไม่ฆ่าข้าแล้วข้าอยากฆ่าเจ้าล่ะ?”ตอนหลินซีนเยียนพูดบนมือขวาถือปืนรุ่นแรกสุดไว้แล้วปลายกระบอกปืนเล็งบนหน้าอกผู้นำทัพคนนั้น
“จะใช้…….”
ผู้นำทัพคนนั้นพูดคำว่า“เจ้า”ไม่ทันจบแค่ได้ยินเสียงปั้งดังมาก หลินซีนเยียนแค่รู้สึกว่าง่ามนิ้วสั่นสะเทือนจนชาหลังจากนั้นเลือดสดก็สาดกระเด็นบนหน้าตัวเอง
บนหน้าอกผู้นำทัพคนนั้นถูกแหวกเป็นรูเลือด เลือดสดไหลย้อยลง มาแววตาเขายากที่จะเชื่อ
หลินซีนเยียนไม่ใช่มือปืนระดับเซียนฉะนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีทางพลาดอย่างเด็ดขาดนางจำเป็นต้องยิ่งใกล้ตัวสิ่งที่สมกับความโชคดีคือนางทำได้แล้ว
ตอนผู้นำทัพล้มลงไปทหารทั้งหมดพุ่งเข้ามามองทางหลินซีนเยียนทันทีตอนนี้ข้างกายนางไม่มีเสี่ยวหลงปกป้องจึงดูเหมือนจะเกิดเหตุการณ์ร้ายตามมาทันที