ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 451
ตอนที่451 เรื่องราวทั้งหมด
เพียงแต่ ตอนที่หลินซีนเยียนเห็นคนนั้นที่ถือตระกร้าดอกไม้เดินมาในห้อง มุมปาก็อดกระตุกเกร็งไม่ได้
นางคาดไม่ถึง คนที่มา จะเป็นสาวใช้อายุสิบกว่าปี
สาวใช้คนนั้นมองเห็นเสี่ยวหลง ก่อนจะมองหลินซีนเยียน ขมวดคิ้วถาม “เป็นพวกเจ้าจุดควันรึ?”
“จันทร์กระทบดอกแพร์ นั่นไม่ใช่ควัน แต่เป็นความมืดแห่งไร้จันทร์” เสี่ยวหลงกล่าวตอบคำถาม
เมื่อได้ยินเสี่ยวหลงพูดคำต่อของรหัสลับออกมา เด็กรับใช้คนนั้นก็ทอดถอนใจยาวออกมา “พวกเจ้าอยากสืบข่าวคราวของเจ้านายกระมัง…หลายวันมานี้มีคนสนิทของเจ้านายสองสามคนเข้ามาสืบข่าวที่นี่โดยพลการแล้ว แต่น่าเสียดาย…”
“สรุปว่าเกิดเรื่องอะไรกับเจ้านายกันแน่” เสี่ยวหลงถามอย่างร้อนรน
“เขาตายแล้วจริงๆ?” หลินซีนเยียนเกือบจะเอ่ยปากถามออกมาพร้อมกันกับเสี่ยวหลง
สาวใช้คนนั้นมองหลินซีนเยียนอย่างงุนงงแวบหนึ่ง ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ แต่กลับไม่ได้รีบร้อนตอบคำถาม แต่กลับย้อนถามอย่างมีเหลี่ยมคืน “ท่านเหมือนกับผู้หญิงที่พวกเขาพูดเสียจริง ก็คือผู้หญิงของเจ้านายที่มีเสน่ห์คนนั้น ท่าน…ชื่อหลินซีนเยียนใช่หรือไม่”
หลินซีนเยียนมุ่นหัวคิ้ว ไม่รู้เลยสักนิดว่าท่ามกลางคนสนิทของโม่จื่อเฟิงตนเองกลายเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ของโม่จื่อเฟิงไปเสียแล้ว นางค่อนข้างไม่อาจเข้าใจท่าทางของสาวใช้คนนี้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะเงียบ
“ดูท่า จะเป็นท่านแล้วจริงๆ” ตอนที่สาวใช้คนนั้นเอ่ยประโยคนี้ออกมา ในตาเผยความจงใจออกมาอย่างชัดเจน นางที่อายุอานามยังเล็ก บนเรือนกายกลับมีกลิ่นอายที่ค่อนข้างคล้ายเงาของโม่จื่อเฟิงอยู่หลายส่วนแสดงออกมา นางเดินเข้ามาใกล้หลินซีนเยียนอย่างแช่มช้า ตอนที่ย่างก้าวเข้ามาใกล้หลินซีนเยียนครึ่งก้าว ฉับพลันก็ยิ้มเย็นออกมา จากนั้นก็พลิกหลังมือออกมากลางมือก็มีกริชเล่มหนึ่งเพิ่มขึ้น
หลินซีนเยียนเป็นวรยุทธ์ ดังนั้นจึงมองสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ชัดเจนเลยสักนิด แต่รู้สึกเพียงว่าเสี่ยวหลงดึงนางออกมาหนึ่งก้าวเพื่อให้รอดพ้นจากการโจมตีของสาวใช้คนนั้นอย่างรีบร้อน
“เจ้าทำอะไร” เสี่ยวหลงแผดเสียงทุ้มต่ำ
สาวใช้ตัวน้อยจ้องเสี่ยวหลงแวบหนึ่ง “เจ้าถามว่าข้าทำอะไร เจ้ายังเป็นคนของเจ้านายอยู่หรือไม่ เจ้านายก็ถูกหญิงนางนี้ทำร้ายจนตาย เจ้ายังจะช่วยนางหรือ ข้าขอบอกเจ้า ชีวิตของข้าเป็นของเจ้านาย วรยุทธ์ของข้าก็คือสิ่งที่เจ้านายสอนเองกับมือ ข้ามีชีวิตอยู่ก็เพื่อเจ้านาย เจ้านายถูกนางทำร้ายจนตาย เจ้านายตายแล้ว ข้ายังมีชีวิตอยู่ ก็เพื่อสังหารผู้หญิงคนนี้ล้างแค้นให้แก่เจ้านาย! ดังนั้น หากว่าเจ้ายังสำนึกบุญคุณของเจ้านายอยู่สักนิด ก็หลบไปเสีย!”
เด็กหญิงตัวน้อยเนื่องจากหงุดหงิด จึงทำให้น้ำเสียงค่อนข้างสากกระด้าง ดวงตาทั้งคู่ของนางจ้องหลินซีนเยียนอย่างไม่กะพริบ ท่ามกลางความหุนหันนั้นอาจจะพ่นไฟออกมาได้ สามารถมองออกว่าความเกลียดชังในอกของนางมีความรุนแรงมากเพียงใด
เสี่ยวหลงลากหลินซีนเยียนมาป้องไว้ข้างหลัง หัวคิ้วขมวดแน่นปางตาย กล่าวอย่างบันดาลโทสะ “ตอนมีชีวิตอยู่เจ้านายทำใจไม่ได้แม้จะแตะนิ้วของนาง เจ้านายบัญชาให้ข้าปกป้องนาง ชีวิตของนาง ก็คือชีวิตของข้า นางมีชีวิตอยู่ ก็คือความหมายของเจ้านาย!”
“แต่ว่านางทำให้เจ้านายต้องตาย!” สาวใช้ตัวน้อยตะโกนเสียงทรงพลัง
เสี่ยวหลงกระซิบในลำคอ เผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาของสาวใช้ตัวน้อย แต่กลับไม่รู้ว่าพูดอะไร
ตอนที่ทั้งสองสนทนากัน สีหน้าของหลินซีนเยียนกลับค่อยๆ ซีดขาวขึ้นมา นางผลักเสี่ยวหลงออกไปเล็กน้อย จากนั้นก็ถามสาวใช้คนนั้น “เมื่อครู่เจ้าพูดว่าข้าทำให้โม่จื่อเฟิงตาย หมายความว่าอย่างไรกันแน่”
“ท่านยังจะตีหน้าซื่ออยู่ได้ หากไม่ใช่ท่าน เจ้านายจะตายไหม ล้วนเพราะท่าน เพราะท่านทำร้ายให้เจ้านายต้องตาย!” สาวใช้ตัวน้อยพูดๆ อยู่ก็ร้องไห้อย่างโศกเศร้าขึ้นมา แม้จะยังเป็นสาวใช้ที่อายุเพียงสิบกว่า ต่อให้เลียนแบบกลิ่นอายทรงพลังของโม่จื่อเฟิงมาหลายส่วน แต่ในใจก็ยังคงไว้ซึ่งความไร้เดียงสาของเด็กน้อยคนหนึ่งเอาไว้อยู่
ในอกของหลินซีนเยียนก็ยิ่งเริ่มสับสนวุ่นวาย นางเห็นว่าสาวใช้ตัวน้อยร้องไห้อย่างปวดใจ พูดจาไม่มีแก่นสารใดๆ ก็ถามเสี่ยวหลงที่อยู่ด้านข้าง “เจ้าบอกข้ามา สรุปว่าเรื่องเป็นอย่างไรกันแน่”
เสี่ยวหลงยังคงไม่ส่งเสียง
“พูด!” หลินซีนเยียนกัดเรียวปากล่าง ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำจนจะหลั่งน้ำออกมา
เสี่ยวหลงมองนางแวบหนึ่งอย่างใจเสาะ ในที่สุดก็ก้มหน้างุดเชื่องช้า ก่อนกล่าว “ยังจำหญ้าจื่ออวี๋นได้หรือไม่”
หัวใจของหลินซีนเยียนกระตุกวูบ มีความคิดหนึ่งผุดแวบเข้ามาหัว นางขบปากล่างไม่ส่งเสียง ทว่าโดยทั่วไปก็สามารถเดาได้ว่าเสี่ยวหลงจะพูดอะไรต่อไป
“หญ้าจิ๋ออวี๋นเป็นยาวิเศษที่รักษาอาการต้องคำสาป ตอนแรกคนของพวกเราก็ค้นพบร่องรอยของหญ้าจื่ออวี๋นในมือของเจ้าของร้านยาวิเศษนั่นอย่างไม่ง่ายนัก หญ้าจื่ออวี๋นนั่นเพียงแค่ลำเดียวเท่านั้น แต่ว่า…ตอนหลังที่ท่านรู้อยู่ ภายใต้การช่วยเหลือของท่าน หญ้าจื่ออวี๋นรักษาอี้เซิงไว้ อันที่จริงตอนแรกที่เจ้านายมอบใบหย่าแก่ท่าน ลำคอก็กลายเป็นอัมพาตทั้งหมดแล้ว นึกอยากรักษาการบาดเจ็บรุนแรงในร่างกายของเขา ขอเพียงภายใต้เหตุการณ์การได้กลืนหญ้าจื่ออวี๋นสักหน่อยก๋จะเข้าสู่บึงยะเยือกต้องห้ามของตระกูลหรงได้ ทว่า…พวกเราไม่ได้รับหญ้าจื่ออวี๋น…”
คราวนี้เสี่ยวหลงจึงสารภาพความยากเข็ญของโม่จื่อเฟิงในตอนแรกให้หลินซีนเยียนฟัง เพียงแต่คำอธิบายเหล่านี้สำหรับหลินซีนเยียนแล้ว กลับสายเกินไป สายเกินไปแล้ว
ชั่วขณะนั้นหลินซีนเยียนมีความรู้สึกวิงเวียนอยู่ นางมีท่าทางยืนไม่มั่นคงอยู่บ้าง พาดมือลงบนหัวไหล่ของเสี่ยวหลงโดยสัญชาตญาณ นิ้วมือของนางค่อยๆ กำแน่นขึ้น คว้าหมับไหล่ของเสี่ยวหลง ทำให้เสื้อผ้าบนหัวไหล่ของเขาย่นผิดรูปร่าง
“เจ้า เจ้าว่าตอนนั้นคนที่ต้องการแย่งหญ้าจื่ออวี๋นไป ก็คือโม่จื่อเฟิง” นางน่าจะคิดได้แต่แรก อย่างมากที่สุด บางที นางได้คาดเดาได้บางส่วน เพียงแต่สัญชาตญาณไม่เต็มใจไปเชื่อความจริงอันโหดร้ายนี้ก็เท่านั้นเอง “เจ้าว่าเขาเป็นอัมพาต เจ้าพูดเรื่องตลกอยู่หรือ คนแบบเขานั่น จะเป็นอัมพาต?”
เสี่ยวหลงก้มหน้างุดมองดิน มองไม่เห็นสีหน้าของเขาชัดเจน แต่กลับมีของจำพวกหยดน้ำใสๆ กลิ้งไหลมาจากใบหน้าของเขา “เป็นเรื่องจริง ข้าคิดว่า บางทีเขาทำเพื่อปกป้องท่าน หากว่าเขาตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไปตระกูลหรง สร้างข้อผูกมัดกับตระกูลหรงแล้วล่ะก็ ท่านจากไป ก็คือทางเลือกที่ดีที่สุด ท่านสำหรับเขาแล้ว จะกลายเป็นจุดอ่อนที่ตระกูลหรงใช้เล่นงานเขาได้ง่ายดายนัก ข้าเองก็รู้เรื่องนี้ในตอนท้ายเช่นกัน เพียงแต่ตอนที่ข้ารู้ เรื่องราวได้เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้…”
ไม่ได้บอกนาง?
คำพูดเหล่านี้ แต่ไรมาไม่เคยมีคนมาพูดกับหลินซีนเยียนเลย แต่นาง เหมือนคนโง่ที่ถูกเขากอดไว้ตลอดเวลา และเขา จากไปอย่างสงบใจเพื่อนาง จึงทำเรื่องเย็นชาเช่นนั้นกับเซียวฝาน เขาเลือกจะให้นางเกลียดเขา และต้องการผลักไสนาง เต็มใจแบกรับความผิดถูกตราหน้าว่าเป็นคนทำร้ายเซียวฝาน เขาก็ยังต้องการให้นางอยู่ในที่ที่ปลอดภัย
ทั้งทำเรื่องเลวร้าย และทำเรื่องดีงามในเวลาเดียวกัน…
เขาเต็มใจเป็นคนชั่วร้าย เพื่อต้องการปกป้องนาง แล้วนางเล่า ยังคงเกลียดชังว่าเขาทำร้ายเซียวฝาน หรือว่าจะให้อภัยเขาทั้งอย่างนี้ ให้อภัย? ให้อภัยเขา เช่นนั้นสัตย์สาบานที่นางให้กับเชียวฝานจะทำอย่างไรเล่า
หลินซีนเยียนแค่รู้สึกว่าหัวใจ รัดเกร็งอย่างร้ายแรง เขาปล่อยให้นางอยู่ในสถานที่ต้องห้ามอันยากลำบากเช่นนั้นได้อย่างไร ทำได้อย่างไร!
เสี่ยวหลงสงบอารมณ์ของเขาแล้วพูดต่อ “บึงยะเยือกของตระกูลหรงก็ไม่ใช่สถานที่ที่จะเข้าไปได้ทุกเมื่อเชื่อวัน หากว่าไม่ได้ฝึกหัวใจสำคัญวรยุทธ์ของตระกูลหรงโดยเฉพาะ หลังจากเข้าไปแล้วก็จะต้องอาคมเข้าสู่กระแสเลือด ดังนั้นตอนนั้น เจ้านายต้องการหญ้าจื่ออวี๋นมาก…”