ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 455
ตอนที่455เจอหนีหว่านแล้ว
น้ำที่เน่าเสียมานานนับสิบปีไม่รู้แช่ซากศพและสัตว์แมลงต่างๆมามากเท่าไรทั้งงูหนูและหนอนเมื่อเทียบกับมูลในห้องน้ำนั้นที่นี่สกปรกมากกว่ามากนักดังนั้นมีคนเฝ้าอยู่หน้าประตูทางเข้าของคุกใต้ดินแต่ว่าเมื่อผ่านประตูใหญ่เข้ามาแล้วนั้นไม่เห็นผู้คุมเฝ้าแม้แต่คนเดียวเพราะข้างในมีกลิ่นแรงมากถึงแม้จะใช่ผ้าปิดจมูกเอาไว้หลินซีนเยียนก็รู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากจะอ้วกออกมา
ในขณะเดียวกันนั้นสีหน้าของนางก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นนางไม่กล้าคิดเลยว่าหนีหว่านที่งดงามและพราวเสน่ห์เช่นนั้นจะถูกขังอยู่ในสถานที่ที่มีสภาพเช่นนี้
หรงอวี๋นคิดว่าที่หลินซีนเยียนมีท่าทีแปลกๆเพราะว่าไม่คุ้นเคยกับสถานที่เช่นนี้ดังนั้นจึงไม่ได้สงสัยในตัวนางเขาพานางและเสี่ยวหลงเดินตรงไปยังส่วนลึกของคุกใต้ดิน
พวกเขาเพิ่งเดินได้ครึ่งทางก็เห็นภายในห้องคุกด้านข้างมีชายชราคนหนึ่งครึ่งตัวบนถูกมัดไว้กับท่อนไม้ครึ่งตัวล่างถูกแช่ไว้ในน้ำราวกับว่าได้ยินเสียงตัวอะไรสักอย่างกำลังกัดกินอยู่ในน้ำผู้คนที่ได้ยินต่างขนลุกซู่และชายชราคนนั้นไม่ขยับตัวสักนิดลองสังเกตุอย่างละเอียดอีกทีปากของเขามีสีม่วงคล้ำหน้าอกของเขาไม่มีจังหวะการเต้นของหัวใจเลยสักนิด
“แม่งเอ้ย!มีคนตายอีกแล้ว”หรงอวี๋นถุยน้ำลายอย่างขยะแขยงตวาดใส่หน้าผู้ติดตามด้านหลังคนหนึ่งว่า“คนตายแล้วพวกเจ้าไม่เห็นหรือ?รีบลากซากศพออกไปซะมีเลือดของศพเพิ่มในน้ำนี้อีกหนึ่งรายน่าขยะแขยงเป็นบ้า”
“ขอรับ”ผู้ติดตามขานรับทันทีผู้คุ้มกันที่ค่อยดูแลคุกใต้ดินเปิดประตูห้องขังหลายคนเข้าไปแก้มัดแล้วนำร่างของชายชราผู้นั้นลงมาจากนั้นก็ลากออกไปด้านนอก
หลินซีนเยียนมองเพียงแวบเดียวก็เห็นบนขาของชายชรานั้นมีหนอนสีดำห้อยติดอยู่หนอนสีดำนั้นมีความยาวหนึ่งฟุตหัวของมันมีรูปร่างคล้ายกับงูภายในปากยังมีเขี้ยวที่แหลมคมเหมือนของหมาป่าเพียงแวบเดียวก็ทำให้มันรู้สึกชาไปทั้งตัวจนต้องรีบดึงสายตากลับมา
“ท่านหรงคนที่อยู่ที่นี่ล้วนถูกของสิ่งนั้นกัดหรือ?”หลินซีดเยียนถามด้วยสีหน้าที่เริ่มซีด
“แม่นางหลินไม่ต้องกลัวของสิ่งนั้นไม่กัดคนเป็นกัดเพียงแต่ซากศพเท่านั้นข้าก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมีชื่อเรียกว่าอะไรมันมีชีวิตอยู่ใต้น้ำนี้มานานหลายปี”หรงอวี๋นอธิบายจากนั้นก็เดินนำไปทางด้านหน้าต่อไป
ฟังเขาพูดเช่นนี้หลินซีนเยียนถึงได้วางใจก็ยังดีหากว่าหนีหว่านยังมีชีวิตอยู่ก็จะไม่ถูกสัตว์ประหลาดเหล่านี้กัดกินร่างกายหากมีสภาพเช่นนั้นละก็นางก็ไม่แน่ใจว่าจะยังสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้หรือเปล่า
เดินได้สักพักเมื่อใกล้ถึงข้างในสุดของคุกใต้ดินแล้วนั้นในที่สุดหรงอวี๋นก็หยุดเดินจากนั้นก็ชี้ไปที่ตะเกียงไฟข้างๆทางเดินที่ดับไปแล้วก็มีผู้ติดตามไปจุดไฟทันที
ในมุมมืดสุดของข้างในมีแสงสว่างอีกครั้งและยังทำให้ผู้คนทั้งหลายที่เข้ามาเห็นภาพเบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน
ถึงแม้หลินซีนเยียนจะมีการเตรียมใจมาก่อนหน้านี้แต่ว่านางก็ยังตกใจจนส่งเสียงออกมาและโคมไฟในมือก็ร่วงหล่นลงพื้น
เทียนในโคมไฟแผดเผาโคมไฟจนมอดไหม้ไปต่อหน้าของนางแสงไฟส่องมาที่หน้านางมีแต่สีหน้าที่ซีดเซียวเท่านั้น
นางปิดปากตนเองเอาไว้แล้วกลั้นเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของตนเอง
ภายในห้องขังมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงบนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นบนร่างกายไม่มีส่วนไหนเลยที่ยังสมบูรณ์เสื้อผ้าของนางราวกับว่าถูกแส้ฟาดจนขาดจนสามารถทำให้มองเห็นตามรอยขาดมีรอยแผลเป็นที่เน่าเปื่อยและมีหนองไหลออกมาอย่างน่าขยะแขยงครึ่งท่อนล่างของนางก็ถูกแช่ไว้ในน้ำเหมือนกับชายชราที่ตายไปก่อนหน้านี้ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียงสัตว์กำลังกัดกินร่างกายแต่ก็สามารถมองได้ชัดว่าบริเวณรอบๆตัวของนางมีตัวสัตว์ประหลาดเหล่านั้นที่คล้ายกับงูกำลังแหวกว่ายอยู่ภายในน้ำ
เบื้องหน้าคนที่ถูกทำให้เสียโฉมแล้วนี้เหลือเพียงเศษเสี้ยวของลมหายใจดังนั้นสัตว์ประหลาดที่กัดกินซากศพเหล่านั้นจึงอยู่รอบๆตัวนางรอเมื่อนางสิ้นใจจากนั้นพวกมันก็จะตรงเข้ามากัดกินเนื้อจานใหญ่นี้ทันที
น้ำตาของหลินซีนเยียนไหลพรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่งนางไม่สามารถควบคุมตนเองได้นางใช้น้ำเสียงที่สั่นถามหรงอวี๋นว่า“นะนี่.นี่ก็คือ..แม่นางที่เจ้าเอ่ยถึงคนนั้นหรือ?”
หรงอวี๋นคิดว่าภาพเบื้องหน้านี้คงทำให้หลินซีนเยียนตกใจกลัว“ใช่นี่ก็คือผู้คุ้มกันหญิงหนีหว่านคนนั้นที่อยู่ข้างกายโม่จื่อเฟิงที่จริงข้าชื่นชอบนางมากแต่ว่านางไร้เดียงสาในสมองของนางยังคงเต็มไปด้วยเจ้านายเก่าของนางที่สูญเสียไปแล้วทั้งที่นางแต่งงานกับข้าแล้วแท้ๆแต่ก็ยังคิดถึงชายอื่นจะให้ข้าทนได้อย่างไรกันดังนั้นด้วยอารมณ์ชั่ววูบก็ให้คนจับนางมาขังในนี้แล้วที่จริงข้าปฏิบัติกับหญิงข้างกายข้าอย่างดีขอเพียงนางอ้อนวอนข้าพูดจาดีๆสักคำข้าก็จะให้คนพานางออกไปทันทีแต่ว่านาง…เฮ้อ…”
ความหมายคำพูดของหรงอวี๋นนั้นยังมีท่าทีที่แฝงไปด้วยความเสียดายเล็กน้อยนี้ทำให้หลินซีนเยียนรู้สึกสะอิดสะเอียน
คนอย่างหรงอวี๋นเช่นนี้ทั้งชีวิตไม่เคยได้สัมผัสความลำบากมาก่อนสำหรับเขามีเพียงคนที่มีประโยชน์และไร้ประโยชน์เท่านั้นความคิดของพวกเขาปลูกฝังมาอย่างผิดๆดังนั้นจึงไม่คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นผิดบาปอะไรและยังภูมิใจในตนเองอีกด้วย
หลินซีนเยียนเกลียดชังคนตรงหน้าจนอยากจะฆ่าให้ตายนางก้าวไปด้านหน้าแล้วยกฝ่ามือขึ้นไอสังหารจากสายตาของนางเด่นชัดเกินไปทำให้เสี่ยวหลงที่มีวรยุทธ์สูงรับรู้ได้อย่างเร็วดังนั้นเสี่ยวหลงที่ค่อยติดตามอยู่ข้างกายนางจึงได้พบความผิดปกติของนางก่อน
เสี่ยวหลงก้าวไปข้างหน้าแล้วดึงไหล่ของนางไว้แล้วพูดว่า“แม่นางหลินอย่าเพิ่งเห็นอกเห็นใจแม่นางคนนั้นเลยเร่งถามเรื่องสำคัญก่อนดีกว่า!”เวลาที่เขาพูดเขาค่อยขยิบตาให้กับหลินซีนเยียน
ที่ไหล่ของนางเริ่มรู้สึกปวดเล็กน้อยจึงทำให้หลินซีนเยียนได้สติเพียงชั่วพริบตานางก็เก็บซ่อนความเกลียดชังเอาไว้ภายในใจแล้วพูดกับหรงอวี๋นว่า“ทำให้ท่านหรงเห็นเรื่องน่าขันเสียแล้วแต่ว่ามันเป็นภาพที่น่ากลัวเกินไปจริงๆข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อนจึงรู้สึกรับไม่ไหว”
“เฮ้อที่นี่มีอะไรเจ้าเป็นเพียงสาวน้อยบอบบางเห็นภาพเช่นนี้ไม่ได้เป็นเรื่องปกติ”หรงอวี๋นทำท่าทีเหมือนเข้าใจและเขาคิดจะยื่นมือมาโอบกอดนางแต่หลินซีนเยียนกลับเบี่ยงตัวหลบเสียก่อน
“ท่านหรงข้างในนี้มีกลิ่นฉุนรุนแรงหนักข้าเริ่มทนไม่ไหวแล้วจริงๆในเมื่อประมุขหรงตอบรับที่จะมอบคนให้กับข้าแล้วถ้าเช่นนั้นพาคนออกไปก่อนได้หรือไม่รอชำระล้างตัวนางสะอาดแล้วข้าค่อยสอบสวนนาง?อยู่ในนี้ข้าถามไม่ลงจริงๆและอีกอย่างหากมองนางอีกสักพักข้าเกรงว่าชาตินี้ข้าคงนอนไม่หลับอีกเป็นแน่”หลินซีนเยียนใช้มารยาแกล้งทำเป็นพะอืดพะอมและไม่หันไปมองทางด้านหนีหว่านอีกเลย
หรงอวี๋นพยักหน้ารับแล้วมอบหมายให้กับผู้ติดตามที่อยู่ด้านข้างทันทีว่า“ยังยืนเฉยกันทำไม.ไม่ได้ยินที่แม่นางหลินพูดหรือ?พาคนออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่!กลับไปทำความสะอาดนางให้เรียบร้อยแล้วค่อยส่งตัวไปให้แม่นางหลินที่ห้องพักเร่งลงมือเร็วหากยังทำให้แม่นางหลินกลัวอีกกลับไปข้าจะเอาเรื่องกับพวกเจ้า!”