ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 460
ตอนที่460จะเกิดสงครามแล้ว
หลังจากที่หลินซีนเยียนพูดสิ่งเหล่านั้นออกมาทำให้นางรู้สึกว่าการตายของเซียวฝานเกี่ยวข้องการโม่จือเฟิงนี่เป็นความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงนี่คือความผิดของโม่จือเฟิงแต่ว่า…เขาทำเพื่อนางจึงได้ทำผิดเช่นนั้นนางก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน”
นางควรเกลียดโม่จื่อเฟิงแต่ว่าส่วนลึกในใจกลับหลงรักผู้ชายคนนี้ทงรักทั้งเกลียดในเวลาเดียวกัน
“หลุมฝังศพศิษย์พี่ใหญ่อยูที่ไหน?”หลินซีนเยียนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หนีหว่านขมวดคิ้วแล้วบอกสถานที่กับนางบนเขาที่มีทิวทัศน์สวยงามด้านหนึ่งของแคว้นหมันหลินซีนเยียนยังจำเขานั้นได้ตอนที่เพิ่งมาถึงแคว้นหมันเขายังมองไปจากระยะไกลรู้สึกเหมือนมีไอเทพและปีศาจแต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นที่ที่สุดท้ายของเซียวฝาน
หนีหว่านไม่รับรู้รสชาติหลินซีนเยียนก็ไม่มีอารมณ์ป้อนนางแล้วเช่นกันทั้งสองไม่พูดจาใดๆเพียงแต่นอนบนเตียงของตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง
หลังจากหลับใหลหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นก็เป็นวันเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง
สมบัติเกิงจีนมีที่มาคือประเทศหนานเยว่เป่ยหมิงและแคว้นหมันที่มีประเทศทั้งสามมาบรรจบกันแต่ว่าอย่างไรก็ตามก็อยู่ตรงกลางระหว่างทะเลทรายดังนั้นไม่มีหัวเมืองใหญ่อยู่ใกล้ๆจากแคว้นหมันเดินทางไปทางตอนใต้อีกห้าสิบลี้ก็จะสามารถไปถึงแหล่งกำเนิดเกิงจีน
การเดินทางผ่านไปสิบกว่าวันในที่สุดขบวนเดินทางของหลินซีนเยียนก็มาถึงหัวเมืองสุดท้ายของชายแดนแคว้นหมัน
เมื่อถึงชายแดนหรงเยว่ไม่ได้นั่งรถม้าแต่กลับขี่ม้าแทนเขาเห็นหลินซีนเยียนชี้ไปด้านนอกรถม้า“นอกจากเมืองที่ติดชายแดนห่างออกไปทางใต้ห้าสิบลี้มีเมืองเล็กๆอยู่เมืองหนึ่งเป็นพื้นที่ทั้งสามประเทศไม่สนใจแต่ว่าคนที่อยู่ที่นั่นไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแต่เป็นคนที่ทั้งสามประเทศขับไล่ออกไป”
หลิซีนเยียนมองไปทางที่ชี้ให้กับหรงเย่แวบเดียวแต่สีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย“แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นเพียงนกน้อยเท่านั้นเมื่อต้องเผชิญกับทั้งสามตระกูลใหญ่”
หรงเย่พยักหน้าอย่างได้ใจ“เป็นเช่นนั้นครั้งนี้นัดพบอีกทั้งสองตระกูลที่นี่ไม่รู้ว่าพวกเขามาถึงกันหรือยังพูดตามจริงข้าตื่นเต้นนิดหน่อยข้าไม่ได้พบประมุขของทั้งสองตระกูลนั้นมานานหลายปี”
“บ้านของตระกูลทั้งสองนั้นห่างจากที่นี้มากนักน่าจะยังมาช้ากว่าพวกเราประมุขหรงไม่ต้องกังวลคนที่ควรมาต้องมาแน่นอน”หลินซีนเยียนพูดจบก็ปล่อยม่านลงทันที
เพราะต้องเดินทางในทะเลทรายดังนั้นขบวนเดินทางต้องการของใช้เป็นจำนวนมากโชคดีที่นี่ตลาดกลางคืนถึงแม้จะมืดค่ำแล้วแต่ก็ยังคงต้องการได้
ผู้เฒ่าของตระกูลหรงต่างแยกย้ายกันไปซื้อของหลินงซีนเยียนและเสี่ยวหลงก็ออกไปซื้อของเช่นกันแต่ประมุขกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของนางจึงให้คนติดตามนางไปด้วย
หลินซีนเยียนรับรู้ได้สถานะนางตอนนี้นั้นไม่ธรรมดาแล้วการที่หรงเยว่กังวลนั้นมันก็มีเหตุผลแต่บางทีหรงเยว่กลัวว่านางจะติดต่อกับอีกสองตระกูลอย่างลับๆ
หลินซีนเยียนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักทำเหมือนพวกนั้นไม่มีตัวตนพาเสี่ยวหลงใส่เสื้อคลุมเดินไปจนได้ยินเสียงตีเหล็กจึงได้เดินไปดู
เป็นเพียงช่างตีเหล็กธรรมดาๆด้านในยังทีหลายสิบคนทุกคนกำลังทำงานใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและหลงใหล
“เฒ่าแก่อยู่ไหม?”เสี่ยวหลงก้าวไปด้านแล้วเคาะประตูเรียก
ช่างตีเหล็กทุกคนต่างมองมาทางนี้แวบเดียวเท่านั้นแล้วทำงานตัวเองต่อผ่านไปสักพักจึงมีชายหนุ่มคนหนึ่งวางมือลงแล้วเดินเข้ามาถาม“ท่านทั้งสองมีเรื่องอะไร?”
หลินซีนเยียนนำภาพวาดที่อยู่ในแขนเสื้อให้กับเสี่ยวหลงในนั้นมีรายละเอียดของปืนถึงแม้นางจะมีแล้วหนึ่งกระบอกแต่ว่าแค่กระบอกเดียวคงไม่พอประทังมีผู้มีฝีมือเก่งกาจเหล่านั้น ดังนั้นนางจึงอยากให้หนีหว่านและเสี่ยวหลงคนละกระบอกเมื่อถึงเวลานั้นก็มีทางคุ้มกันตัวอีกทาง
เสี่ยวหลงนำภาพวาดยื่นให้ช่างฝีมือแล้วพูดว่า“คุณหนูของข้าอยากให้ทำเครื่องมือชนิดหนึ่งรบกวนให้เฒ่าแก่เร่งมือให้หน่อยเงินไม่ใช่ปัญหา”
ชายหนุ่มคนนั้นมองภาพวาดแล้วพูดว่าสิ่งที่เจ้าต้องการนี่ข้าเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกมองดูแล้วไม่ยากเท่าไหร่น่าจะทำได้แต่ว่าต้องขออภัยจริงๆตอนนี้พวกข้าทุกคนเร่งทำอาวุธกันอยู่ไม่มีเวลาว่างมาทำให้งั้นเจ้าเดินไปยังบ้านตรงมุมนั้นลองไปถามดู”
ชายหนุ่มไม่ถามถึงราคาก็ปฏิเสธแล้วเขาคืนภาพวาดให้กับเสี่ยวหลงแล้วกลับไปทำงานต่อ
“เฒ่าแก่ไม่ลองคิดดูอีกสักรอบหรือ?ตระกูลเซียวของเราจ่ายหนักบอกแล้วเงินไม่ใช่ปัญหา”เสี่ยวหลงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยลองถามดูอีกครั้ง
ชายหนุ่มส่ายหัวและมองไปทางด้านหลินซีนเยียนคนสักครู่หน้าตาดูเหมือนเสียดาย“ไม่ใช่ข้าไม่อยากได้เงิน แต่ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษจริงๆพวกท่านมองดูพวกข้าสิพูดอย่างไม่ปิดบังเลยว่าเดิมทีก็มีข้าและลูกศิษย์อีกสองคนแต่ว่าได้รับรายการใหญ่จากราชสำนักจึงต้องหาคนมาเพิ่งต้องทำให้เสร็จตามกำหนด เงินใครจะไม่อยากได้แต่ว่าราชสำนักใครก็ใช่ว่าจะไปทำผิดต่อได้หากทำการไม่สำเร็จกลับไปแล้วข้าต้องรับโทษต่อให้มีเงินก็ไม่สามารถใช้ได้นะสิ”
เขาพูดเช่นนี้หลินซีนเยียนก็ไม่ได้ขอร้องอีกแต่ว่าหลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะถาม“เฒ่าแก่ท่านบอกว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษหมายความว่าอย่างไร?”
ชายหนุ่มมองหน้านางอย่างแปลกใจแต่ก็ตอบนางว่า“แม่นางแม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็ยังไม่รู้อีกเหรอประเทศเป่ยหมิงและประเทศหนานเยว่ใกล้จะมีสงครามกันแล้วหากสู้กันจริงใครจะรับประกันว่าที่นี่จะไม่ได้รับความเสียหายไปด้วย?ราชสำนักจะไม่เตรียมการได้อย่างไร?”