ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 482
ตอนที่482พื้นดินที่พลิกคว่ำ
ภายในอุโมงค์ที่มืดมิดทุกๆคนสามารถรับรู้ได้ถึงการมีตัวตนของกันและกันแต่มองไม่เห็นเงาของกันและกันแม้แต่เหล่าผู้อาวุโสที่ผ่านสนามรบมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนก็ยังยากที่จะไม่ตื่นเต้นไม่ได้
จุดคบไฟ”เสียงของหลินซีนเยียนยามปกติดังขึ้นทำให้ใจที่ตื่นเต้นของทุกคนคลายลงเล็กน้อย
แสงสว่างจากคบไฟที่ถูกจุดขึ้นทีละอันทีละอันทำให้ทุกคนถึงจะมองเห็นสภาพแวดล้อมที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจนนี่เป็นอุโมงค์ยาวแห่งหนึ่งสูงประมาณคนสองคนกว้างประมาณคนสี่คนล้อมรอบไปด้วยกำแพงหินเรียบๆสถานที่ที่จะใช้ประโยชน์ได้สักนิดก็ไม่มี
”เมื่อกี้….มันเกิดอะไรขึ้น?”มีผู้อาสุโสคนหนึ่งอดที่จะถามคำถามที่ทุกคนต่างก็คาใจออกมาไม่ได้พวกเขาจำได้แค่ว่าเมื่อกี้อยู่ในถ้ำจู่ๆคบไฟก็ดับลงอย่างกะทันหันหลังจากนั้นพวกเขาก็รู้สึกแค่ว่าร่างกายของตนเองตกลงไปข้างล่างเล็กน้อยตอนที่จุดคบไฟใหม่อีกครั้งก็มาอยู่ที่อุโมงค์นี้แล้ว
หรงเย่และหลี่อวี๋นซ่านต่างก็มองไปทางหลินซีนเยียนหรงเย่พูดขึ้นว่า:”ใช่แม่นางหลินเจ้ารีบบอกพวกข้ามาเถอะเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้พวกข้าต่างก็ตกใจกันไม่น้อย”
แม้ว่าจะพูดเช่นนี้แต่ว่าดูจากใบหน้าของหรงเย่มองไม่ออกถึงร่องรอยความตกใจเลยสักน้อยยิ่งกว่านั้นนัยน์แววตาคู่นั้นของเขาฉายแววตื่นเต้นดีใจอย่างชัดเจนใช่ตื่นเต้นดีใจเพียงเวลาพริบตาก็กำจัดคนของตระกูลหลิงไปได้หมดเขาคิดถูกแล้วที่ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ตัวของหลินซีนเยียน
นี่มันก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?พวกเราเข้ามาในกลไกของถ้ำแห่งนี้แล้ว”หลินซีนเยียนพูด
อืมแน่นอนว่าพวกข้ารู้ว่ามันคือกลไกก็แค่ทั้งหมดนี้ตกลงว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรกันล่ะเจ้า….ค้นพบกลไกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”หลี่อวี๋นซ่านก็อดไม่ได้ที่จะถามเหมือนกัน
เผชิญหน้ากับหลี่อวี๋นซ่านท่าทางของหลินซีนเยียนก็อ่อนโยนขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจนครั้งนี้นางถึงจะชี้ไปที่ด้านบนสุด”บนหัวของเราก็คือถ้ำที่เราอยู่เมื่อสักครู่ส่วนพวกเราร่วงลงมาที่ในนี้มันก็แค่เพราะว่าพื้นดินพลิกคว่ำก็เท่านั้นเอง”
พื้นดินพลิกคว่ำ?”มีคนอุทานตกใจออกมาราวกับรู้สึกว่าเหนือความคาดหมาย
แถมความจริงของเรื่องยังทำให้บางคนคาดคิดไม่ถึงอีกด้วยใครจะไปคิดได้ว่ากลไกของถ้ำแห่งนั้นจะอยู่ใต้เท้าของทุกคน
”ใช่พื้นดินพลิกคว่ำ”หลินซีนเยียนพยักหน้าแล้วก็พูดต่อว่า:”เพียงแต่ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นดินพลิกคว่ำแต่ข้างในก็ยังมีกลไกอีกมากถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าข้าค้นพบวิธีเปิดกลไกล่ะก็พวกเราทุกคนก็จะกลายเป็นกองเลือดแบบผู้อาวุโสตระกูลหลิงในพริบตา”
ใบหน้าของทุกคนเผยสีหน้างุงงงสงสัยออกมาหลินซีนเยียนชี้ไปที่ด้านข้างของอุโมงค์ทั้งสองฝั่งแล้วก็พื้นที่ด้านหน้าที่ยาวติดๆกันมา”พวกเจ้าดูตรงนั้น….”
”นั่นมัน…”หลี่อวี๋นซ่านกลืนน้ำลายลงคอไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง”ใบมีดคม?”
”ใบมีดหยักคบกริบซ้ำด้านบนยังเต็มไปด้วยน้ำยาละลายอีกด้วย”หลินซีนเยียนอธิบาย:”ก่อนหน้านั้นผู้อาวุโสตระกูลหลิงก็ถูกมีดคมกริบแทงตายตอนที่แผ่นดินพลิกคว่ำจากนั้นก็ละลายกลายเป็นเลือดน้ำยาละลายปกติแน่นอนว่าไม่สามารถละลายร่างทั้งหมดให้กลายเป็นเลือดได้ในพริบตาแต่ว่าที่พวกเราเห็นก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของผู้อาวุโสข้างบนที่ถูกละลายก็เท่านั้นพวกเจ้าดูที่ล่างเท้าสิ…”
ตามที่นางบอกทุกคนถึงพบว่าใต้เท้าของตนเองนั้นก็มีเลือดอยู่เหมือนกันมีบางคนในนั้นกลัวจนส่งเสียงร้องออกมาเพราะว่าแถวๆเท้าของเขายังมีซากส่วนที่ยังไม่ละลายหลงเหลืออยู่
เลือดและใบมีคมที่ขอบอุโมงค์ณสถานที่เกิดเหตุนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าคำพูดของหลินซีนเยียนเป็นความจริงขณะนั้นทุกคนต่างก็อดกลัวไม่ได้ออกมาหากว่าไม่มีหลินซีนเยียนที่หากลไกเจอถ้างั้นพวกเขาก็คงจะโชคร้ายมีจุดจบแบบเดียวกับคนของตระกูลหลิงไปแล้วล่ะ
สีหน้าของหลินซีนเยียนเองก็รู้สึกโชคดีเหมือนกันแต่ว่าในใจกลับอดที่จะหัวเราะอย่างเย็นชาไม่ได้นางไม่มีทางบอกคนพวกนี้หรอกตอนที่นางพบว่าคบไฟดับลงทั้งหมด ในเวลาเดียวกันนางก็คิดว่าลมมาจากทิศทางไหนกันสามารถทำให้คบไฟดับลงทั้งหมดได้ภายในพริบตาต้องรู้ให้ได้ในตอนที่ทุกคนกระจายกันยืนอยู่นางใช้เวลาคิดอยู่นานมากแล้วก็คิดออกแค่ทิศทางเดียวนั่นก็คือข้างใต้เท้า
ดังนั้นพอนางแน่ใจในการคาดเดาของตนแล้วนั้นก็เริ่มตามหากลไกที่อยู่ใต้เท้าบางทีในด้านแบบนี้ความสามารถของนางถือว่ามีมากกว่าคนปกติทั่วๆไปดังนั้นก็เลยทำให้นางพบร่องรอยนูนเว้าอยู่บางส่วนบนพื้น
คนตระกูลหลิงสองคนที่ตายไปก่อนแรกนั้นเป็นอุบัติเหตุจริงๆแต่ว่าคนที่ตายไปทีหลังพวกนั้นต่างก็เป็นการทดลองของนางเพราะงั้นตอนที่อยู่ใกล้ๆหรงเย่นางเลยให้คนของหรงเย่เข้ามาอยู่ข้างหลังใกล้ๆนางในเวลาเดียวกันก็ให้คนของหลี่อวี๋นซ่านมาอยู่ข้างหลังใกล้ๆตนด้วยตอนที่นางเปิดกลไกขึ้นอีกครั้งก็มีเพียงแค่คนของตระกูลหลิงที่ยังอยู่ในวงล้อมของคมมีดก็เท่านั้น
ดูราวกับว่าจะเป็นการแก้กลไกอย่างง่ายๆครั้งหนึ่ง แต่ว่าสำหรับนางทำไมต้องเอาชีวิตมาเดิมพันแล้วนางจะต้องชนะเท่านั้นจะแพ้ไม่ได้เพราะว่าเพียงแค่พนันแพ้นั่นก็คือจุดจบของชีวิต
โชคดีที่พระเจ้าเห็นใจคนที่เตรียมใจพร้อมจะตายอย่างนางอีกครั้ง
โชคดีที่ทั้งชีวิตของนางต้องอยู่ร่วมกับกลไกอาวุธมาตลอดสำหรับด้านนี้นางฝึกฝนมาเป็นเวลานานในที่สุดในช่วงเวลาจำเป็นก็ช่วยชีวิตตัวเองไปได้หนึ่งครั้ง
แต่ว่าอุโมงค์แห่งนี้ทั่วทุกทิศต่างก็ปิดหมดตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี?จะรอตายอยู่ที่นี่เฉยๆไม่ได้หรอกนะ?อีกอย่างข้ารู้สึกหายใจลำบากนิดหน่อย”หรงเย่หายใจแรงสองทีดูแล้วสีหน้าแดงผิดปกติ
ที่นี่พื้นที่เล็กแคบพวกเรามีคนเยอะก็เลยใช้อากาศหมดอย่างรวดเร็วเพราะงั้นพวกเรารีบไปหาทางออกกันเถอะ”หลินซีนเยียนพูดพร้อมผายมือเริ่มสำรวจบนกำแพงของอุโมงค์นี้ทั่วๆ
คำพูดและการกระทำของนางทำให้หรงเย่ตกใจอย่างแรง”นี่เจ้ายังไม่รู้ว่าทางออกของที่นี่อยู่ที่ไหน?เจ้ากล้าให้พวกข้าตกลงมาเนี่ยนะ?”
ถูกนางโมโหไม่เบาสีหน้าของหรงเย่ยิ่งแดงขึ้นมาชัดเจนนั่นเป็นอาการของการขาดอากาศระดับเล็กน้อย
”ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าทางออกอยู่ที่ไหนแต่ว่าเมื่อกี้ตอนอยู่ในถ้ำก็มีแค่ที่นี่ที่เดียวที่มีกลไกถ้าหากพวกเราไม่ตกลงมาก็จะถูกขังอยู่ด้านบนนั้นต่อไปในเมื่อทางเลือกมีอยู่แค่ทางเดียวพวกเราก็ต้องลงมา”หลินซีนเยียนพูดอย่างมีเหตุผลมือก็ยังคงทำต่อไปเหมือนเดิม”ข้าขอแนะนำให้ทุกคนหาไปด้วยกันถ้าหากไม่อยากเฉาตายอยู่ที่นี่ล่ะก็นะ”
คำพูดก็มาถึงขั้นนี้แล้วคนอื่นๆยังจะพูดอะไรได้อีกได้แต่ช่วยกันเริ่มตามหากลไกไปทั่วๆ
ไม่นานก็มีผู้อาวุโสท่านหนึ่งพบหินบนฝ่ามือสามารถขยับได้เขาตื่นเต้นดีใจตะโกนเรียกไปด้วยกดมันลงไปด้วย”ข้าหาเจอแล้…”
ที่น่าเสียดายก็คือเขายังไม่ทันพูดจบมีดสั้นเล่มหนึ่งก็พุ่งออกมาจากกำแพงหินแทงเข้าไประหว่างคิ้วของเขาอย่างจังบางทีเขาตายไปก็อาจจะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
”ค้นพบกลไกแล้วอย่าพึ่งทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้ารอข้าไปดูก่อน”หลินซีนเยียนถอนหายใจแล้วพูดออกมา
มีผู้อาวุโสคนนั้นเป็นตัวอย่างทุกคนต่างก็ยิ่งตื่นกลัวหนักเข้าไปอีกในอุโมงค์เงียบมากความตายของคนอีกคนหนึ่งทำให้ในใจของพวกเขานิ่งสงบขึ้นมา
ต่อมาก็มีคนพบบางแห่งที่มีกลไกขยับได้แต่ว่าครั้งนี้คนคนนั้นเลยไม่กล้าไปแตะต้องมัน ได้แต่เรียกหลินซีนเยียนมาดู