ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 484
ตอนที่484การใช้คำพูดหลอกคนขั้นสูงสุด
”เอาล่ะในเมื่อแบ่งคนเรียบร้อยแล้วพวกเราก็จะไม่ชักช้าเสียเวลาอีกแม่นางหลินเจ้าพูดมาสิเดี๋ยวอีกสักพักตอนที่อยู่ในน้ำพวกเราควรทำเช่นไร?”ตอนนี้หรงเย่ไม่ค่อยวางใจสิ่งที่อยู่ในสระน้ำเย็นเท่าไหร่ดังนั้นเขาเลยไม่มีเวลามาสนใจคนที่ดำน้ำไม่ได้
หลี่อวี๋นซ่านก็หันไปมองทางหลินซีนเยียนราวกับกำลังรอการตัดสินใจจากนางและแล้วหลินซีนเยียนก็พูดอย่างนิ่งสงบว่า:”จริงๆแล้วง่ายมากก็แค่พวกเราจะลงไปในน้ำพร้อมกันไม่ได้ต้องผ่านไปทีละคนทีละคน”
”โอ้?”หรงเย่ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเสียเท่าไหร่”ง่ายเช่นนี้เชียว”
หลินซีนเยียนพยักหน้า”จากประสบการณ์ครั้งที่แล้วของพวกเราปลาพวกนี้จะหวงเขตแดนมากก็เหมือนกับฝูงหมาป่าหากว่าเจ้าผ่านไปคนเดียวขอแค่ไม่ได้รับบาดเจ็บก็จะไม่ดึงดูดให้ฝูงปลากินเนื้อเข้ามาโจมตีหรอกแต่ว่าหากพวกเราทุกคนลงไปในน้ำพร้อมๆกันเช่นนั้นฝูงปลาก็จะรวมฝูงกันเข้ามาโจมตี”
ทฤษฎีนี้หลินซีนเยียนแต่งมั่วๆพูดออกมางั้นๆแต่ว่าพอนางพูดออกมากลับดูมีเหตุผลขึ้นมาบวกกับตั้งแต่ออกเดินทางมาจนถึงตอนนี้ทุกครั้งที่เจออันตรายนางก็จัดการได้เป็นอย่างดีแล้วก็ดูเหมือนว่านางจะช่วยชีวิตทุกคนจากอันตรายอยู่หลายครั้ง มาถึงตอนนี้ทุกคนก็เริ่มเชื่อใจนางขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวแล้วล่ะ
การสร้างความเชื่อใจขึ้นมาไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ว่าพอเชื่อใจขึ้นมาแล้วเรื่องโกหกมั่วๆเรื่องเดียวก็ไม่ถูกจับได้ง่ายๆหรอกนี่แหละคือผลลัพธ์ที่หลินซีนเยียนต้องการ
”ตกลงในเมื่อแม่นางหลินพูดเช่นนี้แล้วถ้างั้นพวกเราก็ไปทีละคนละกันแต่ว่ายังไงก็แค่ปลาไม่กี่ตัวจะทำร้ายยอดฝีมือเช่นพวกเราได้งั้นหรือ?”ในขบวนมีผู้อาวุโสฝีมือเป็นเลิศใจกล้าคนหนึ่งยืนขึ้นพูดอย่างกล้าหาญแน่นอนว่าจะต้องเป็นผู้อาวุโสแห่งตระกูลหรงแน่คนของตระกูลหลี่ถ้าไม่มีคำสั่งจากหลี่ห่ายและหลี่อวี๋นซ่านต่างก็ไม่กล้าทำอะไรตามอำเภอใจ
หรงเย่พยักหน้ามองดูผู้อาวุโสคนนั้นแวบหนึ่งแล้วพูดชมเชย:”เช่นนั้นก็ดีงั้นเริ่มจากผู้อาวุโสสวี๋ก่อนละกัน จริงสิในเมื่อเป็นคนนำเผื่อเกิดเหตุอะไรไม่คาดฝันข้ามีชุดเกราะอยู่เจ้าเอาไปใส่ซะสิ”
ตอนที่หรงเย่พูดก็เดินมาด้านข้างผู้อาวุโสสวี๋ด้วยหยิบชุดเกราะบางๆตัวหนึ่งออกมาจากในห่อผ้าข้างเอวแล้วก็หันหลังให้ทุกคนใช้ภาษาปากพูดกับผู้อาวุโสสวี๋อย่างระมัดระวัง เพราะว่าเป็นภาษาปากเลยไม่มีเสียงดังนั้นทุกคนเลยเห็นแค่ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนของกันเท่านั้นแต่ไม่รู้ว่าในเวลาเพียงแปปเดียวหรงเย่ได้แลกเปลี่ยนไปแล้วหลายเรื่อง
ผู้อาวุโสสวี๋พยักหน้าอย่างไม่เหลือร่องรอยจากนั้นก็สวมชุดเกราะแล้วลงน้ำไป
เสียงจ๋อมเบาๆดังขึ้นผืนน้ำก็เงียบสงบดังเดิม
ใครก็ไม่ทันได้สังเกตในตอนที่ผ้อาวุโสสวี๋ลงน้ำไปมุมปากของหลินซีนเยียนก็กระตุกยิ้มออกมาเล็กน้อยจริงๆแล้วนางรู้ว่าที่จิ้งจอกเฒ่าแบบหรงเย่เชื่อคำพูดนางง่ายๆยังมีอีกเหตุผลหนึ่งเพราะว่าหรงเย่ลงมือกับตระกูลหลิงไปแล้ว
สายตามองดูผ่านสระน้ำเย็นนี้ไปก็จะเป็นแหล่งสมบัติสุดท้ายแล้วหากเขาไม่ลงมือกับตระกูลหลี่ตอนนี้ถ้างั้นก็จะไม่มีโอกาสแล้วดูจากอำนาจด้านการต่อสู้แล้วตระกูลหลิงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหรงเสียเท่าไหร่ดังนั้นเลือกที่จะลงมือลับๆช่วงเวลานี้ถือว่าฉลาดที่สุดในการลดความเสียหายของอีกฝ่าย
นางรู้แผนการของหรงเย่ผ่านสระน้ำเย็นไปทีละคนแบบนี้รอคนของตระกูลหรงขึ้นไปบนฝั่งเสร็จแล้วคนของตระกูลหลี่ขึ้นมาหนึ่งคนพวกเขาก็สามารถจัดการได้หนึ่งคนถ้าเป็นแบบนี้ก็จะสามารถจัดการฝังคนของตระกูลหลี่ให้ตายอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายๆ
นางคำนวณแน่ชัดแล้วถึงจิ้งจอกเจ้าเล่ห์หรงเย่ถึงเสนอแผนการนี้ขึ้นมาส่วนหรงเย่สุดท้ายก็เห็นด้วยอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
แต่น่าเสียดาย….
”แม่นางหลินเจ้าดำน้ำได้ใช่มั้ย?”ถือโอกาสที่ผู้อาวุโสสวี๋ลงน้ำไปหรงเย่ก็มายืนคุยเล่นข้างๆหลินซีนเยียน
”นั่นมันปกติแต่ว่าข้าไม่รู้วรยุทธเลยไม่กล้าลงน้ำไปคนเดียวถึงแม้ว่าจะเป็นปลากินเนื้อไม่กี่ตัวแต่ข้าก็รับมือไม่ไหวหรอก”หลินซีนเยียนถอนหายใจออกมาพูดอย่างช่วยไม่ได้”เพราะงั้นอีกสักพักก็รบกวนนายใหญ่ทั้งสองช่วยจัดคนที่น่าเชื่อถือไปเสี่ยงอันตรายด้วยกันกับข้าหน่อยถึงจะบอกว่าไปคนเดียวมันสะดวกกว่าแต่ข้าก็ไม่มีทางเลือกได้แต่ลากใครสักคนไปเสี่ยงอันตรายเป็นเพื่อนข้า”
”พูดอะไรเช่นนั้นล่ะเจ้าน่ะเป็นถึงช่างประดิษฐ์ใหญ่ของพวกเราเชียวแน่นอนว่าจะต้องมีคนปกป้องเจ้าสิ”หรงเย่รีบตบอกตนเพื่อเป็นการรับประกัน:”เจ้าวางใจเถอะอีกสักพักข้าจะจัดการให้เจ้าอย่างเหมาะสม”
”โอ้เช่นนั้นก็ขอบคุณนายใหญ่หรงล่วงหน้าเลยก็แล้วกัน”หลินซีนเยียนก็ไม่เกรงใจแกล้งทำเป็นไม่เห็นว่าหรงเย่ไม่เปิดโอกาสให้หลี่อวี๋นซ่านพูดเลย
”ผู้อาวุโสสวี๋ที่ลงน้ำไปสักพักก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆคนของหรงเย่อยู่แถวๆด้านบนสระน้ำเย็นมองดูอย่างละเอียดมองไปมองมาสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันหันหน้ามาเรียกหรงเย่อย่างตื่นตกใจ”นายใหญ่ท่านมาดูนี่หน่อยทำไมข้ารู้สึกว่ามันแปลกๆ?”
หรงเย่ได้ยินเช่นนั้นก็มายังแถวๆขอบสระน้ำเย็นหลินซีนเยียนและหลี่อวี๋นซ่านมองตากันแปปหนึ่งแล้วก็ตามมา
”เกิดอะไรขึ้น?”หรงเย่ถามขึ้น
ที่แท้คนที่พบเห็นความผิดปกติก็คือผู้อาวุโสที่มีความรู้วิชาการแพทย์คนนั้นเขาชี้ไปที่สระน้ำเย็นแล้วพูดขึ้น:”นายใหญ่ท่านดูที่น้ำสิทำไมข้าเหมือนจะได้กลิ่นคาวเลือดอ่อนๆกันนะ?ผู้อาวุโสสวี๋จะผ่านสระน้ำเย็นนี้ไปได้หรือไม่ก็ไม่รู้ในน้ำก็ยังมีกลิ่นคาวเลือดอ่อนๆใจของข้ามันไม่ค่อยสงบเลย”
หรงเย่คิ้วขมวดแน่นอีกครั้งราวกับกำลังลังเล
หลินซีนเยียนก็ได้จังหวะเหมาะที่จะอ้าปากพูดพอดี”นายใหญ่หรงไม่ต้องตกใจไปหรอกในน้ำนี้ต่างก็เป็นปลากินเนื้อถึงแม้ว่าหนึ่งคนลงไปในน้ำจะไม่ดึงดูดฝูงปลาโจมตีแต่ว่าก็อาจจะมีปลากินเนื้อสองสามตัวเข้ามาหาผู้อาวุโสสวี๋วรยุทธเก่งกาจจะต้องฆ่าปลากินเนื้อที่แยกออกมาแน่ๆเลือดพวกนี้น่าจะเป็นของปลาพวกนั้นนั่นแหละแล้วอีกอย่างกลิ่นคาวเลือดนี้ก็อ่อนมากเลยหากว่าเป็นเลือดคนจริงๆคงจะไม่น้อยเช่นนี้หรอก”
นางพูดมั่วๆไปงั้นๆในใจกลับหัวเราะอย่างเย็นชาสระน้ำเย็นแห่งนี้ทั้งลึกทั้งกว้างแม้ว่าจะเป็นเลือดของทีละคนทุกๆคนกองอยู่ด้านในก็มีเพียงแค่กลิ่นคาวเลือดอ่อนๆเท่านั้นที่นางพูดไปแบบนี้ก็เพียงแค่เพื่อลบความสงสัยออกไปจากใจของคนตระกูลหรงก็เท่านั้น
อีกอย่างครั้งที่แล้วข้าก็เคยลงไปแล้วจากความเร็วของข้าผ่านสระน้ำนี้ไปก็ใช้เวลาประมาณ5นาทีผู้อาวุโสสวี๋น่าจะเร็วกว่าข้าไปอีกสักหน่อยตอนนี้น่าจะถึงบนฝั่งแล้วล่ะ”หลินซีนเยียนอธิบายอีกครั้ง
คนตระกูลหรงได้ยินนางยืนยันเช่นนี้ในใจที่เริ่มสับสนก็ค่อยๆกลับมาสงบเหมือนเดิม
แววตาที่ซับซ้อนของหรงเย่มองดูหลินซีนเยียนแวบหนึ่งแล้วก็มองที่ตระกูลหลี่แวบหนึ่งราวกับตัดสินใจได้แล้วกัดฟันแล้วก็ชี้ให้ผู้อาวุโสคนหนึ่งลงน้ำไป
ผู้อาวุโสคนนั้นลงน้ำไปก็เป็นเหมือนกับผู้อาวุโสสวี๋ไม่นานก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ทุกคนต่างก็รอสักพักหรงเย่ก็ชี้ที่ผู้อาวุโสคนหนึ่งอีกครั้งแบบนี้คนแล้วคนเล่าผ่านไปประมาณ1ชั่วยามคนตระกูลหรงก็ลงน้ำไปก่อนแล้วสุดท้ายตระกูลหรงก็เหลือแค่ผู้อาวุโสหนึ่งคนและหรงเย่
หรงเย่หัวเราะคิกคักชี้ไปที่ผู้อาวุโสคนนั้นแล้วพูดกับหลินซีนเยียน:”แม่นางหลินผู้อาวุโสท่านนี้เป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของข้าอีกสักพักนางจะลงน้ำไปเป็นเพื่อนเจ้า ข้าขอตัวล่วงหน้าไปก่อนล่ะ”
เขาที่เป็นถึงนายของตระกูลแน่นอนว่าไม่มีทางไปเสี่ยงอันตรายเพื่อหลินซีนเยียนหรอกหลินซีนเยียนทำเป็นว่าเข้าใจพยักหน้าอย่างว่าง่ายไม่บ่นใดๆทั้งสิ้น