ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 489
ตอนที่489ช่องว่างพลิกกลับ
ครึกครึกครึก!
ทั้งสองคนพึ่งจะเดินได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงดังมาจากไหนไม่รู้รอบๆต่อมาทั้งถ้ำก็สั่นไหวขึ้นอีกครั้งพื้นดินสั่นไหวทำให้ทั้งสองคนถึงกับยืนเซหรงเย่และหลินซีนเยียนล้มลงไปกับพื้นพร้อมๆกัน
หรงเย่รู้ว่าตอนนี้เบี้ยที่เขาอันเดียวมีอยู่ก็คือหลินซีนเยียนดังนั้นถึงแม้จะล้มลงกับพื้นเขาก็ยังใช้มือข้างหนึ่งดึงรั้งหลินซีนเยียนเอาไว้ไม่ปล่อยโอกาสให้นางหนีไปแม้แต่น้อย
หลินซีนเยียนเผลอกินดินทรายเข้าไปเลยไอติดต่อกันออกมาพักหนึ่งรอจนถ้ำหยุดสั่นลงอีกครั้งนางถึงจะหายใจได้อย่างปกติ
เกิดอะไรขึ้น?”หรงเย่ถามขึ้นอย่างรีบร้อน
”หลินซีนเยียนเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ว่านางเองก็ไม่รู้เรื่องดังนั้นเลยตอบคำถามของหรงเย่ไม่ได้แต่ว่าตรงหน้าของนางก็พบบางอย่างนางชี้ไปทางสระน้ำเย็นแล้วพูดขึ้น:”เจ้ารีบดูนี่สิ!”
หรงเย่มองไปตามทางที่นางชี้ก็พบสระน้ำที่หายไปก่อนหน้านี้ปรากฎขึ้นมาอีกครั้งตรงหน้าของพวกเขาตอนนี้”
หลินซีนเยียนครุ่นคิดสักพักแล้วพูดขึ้น:”คงจะมีใครไปแตะกลไกเข้าอีกครั้งดังนั้นช่องว่างก็เลยพลิกกลับอีกครั้งเพราะงั้นสระน้ำเย็นนี่ก็เลยปรากฎขึ้นอีกครั้ง!”
”สระน้ำเย็นนี่ก็คือทางออก…”หรงเย่พึมพำประโยคนี้ออกมาตื่นเต้นเล็กน้อยผลักหลินซีนเยียนแล้ววิ่งไปทางสระน้ำเย็นนั่นดูจากท่าของเขาคงจะกระโดดลงสระน้ำเย็นแล้วก็หนีไปจากที่นี่ทันที
หลินซีนเยียนถูกเขาพลักจนเกือบเซล้มลงกับพื้นอีกครั้งแต่ว่านางกลับยิ้มอย่างเยือกเย็นขึ้นอีกครั้งแล้วพูดว่า:”นายใหญ่หรงข้าขอแนะนำเจ้าว่าอย่าพึ่งลงไปในสระน้ำเย็นตอนนี้จะดีกว่า”
หรงเย่ตกใจอย่างแรงพูดเสียงต่ำออกมาว่า:”เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
”นายใหญ่หรงตอนนี้มีคนอยู่ที่กลไกตรงก้อนหินผันใครจะรู้ว่าเขาจะแตะกลไกอีกเมื่อไหร่หากว่าเขาเปิดกลไกขึ้นอีกครั้งพวกเราอยู่ในสระน้ำเย็นพอดีเจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
ตอนที่ถ้ำพลิกกลับพวกเขาติดอยู่ในช่องว่างของสระน้ำเย็นเกรงว่าคงถูกบีบจนกลายเป็นเนื้อบดแน่ๆถ้าเช่นนั้นพวกเขาก็จะยิ่งตายเร็วขึ้น
หรงเย่คิดอย่างละเอียดก็รู้สึกเสียวสันหลังดูเหมือนว่าถ้าอยากจะออกไปจากที่นี่ก็ต้องไปจัดการคนที่แตะกลไกบนก้อนหินผันเสียก่อน
ครึกครึกครึก!
หรงเย่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจถ้ำก็สั่นไหวขึ้นอีกครั้งที่แท้กลไกกูถูกเปิดออกอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นานสระน้ำที่อยู่ไม่ไกลก็หายไปอีกครั้งกลายเป็นพื้นดินแข็งๆเหมือนเดิม
”ช่างเป็นสวะเสียจริง!ตกลงว่ามันเป็นไอ้ตัวไหนไม่แหกตาดูจับกลไกมั่วๆกัน!”หรงเย่สาปแช่งเบาๆรู้สึกหายใจลำบากเลยผลักหลินซีนเยียนแล้วเร่งฝีเท้าไปทางก้อนหินผันให้เร็วยิ่งขึ้น
หลินซีนเยียนนับถือเซ้นส์ด้านทิศทางของหรงเย่จริงๆหมอกหนาทึบขนาดนี้นางยังแยกไม่ออกเลยว่าทิศไหนเป็นทิศไหนแต่ก็ไม่รู้ว่าหรงเย่ใช้วิธีอะไรถึงหาทิศทางเจอทั้งสองคนเดินไปสักพักก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันเบาๆดังออกมา
หรงเย่ก้าวเท้าช้าลงในขณะเดียวกันก็ล็อคคอหลินซีนเยียนให้แน่นขึ้นบ่งบอกว่านางอย่าได้ส่งเสียงออกไปตามอำเภอใจ
ทั้งสองคนซ่อนตัวอยู่ในหมอกหนาหลังจากค่อยๆเข้าไปใกล้ๆถึงได้ยินเสียงของคนสองสามคนพูดคุยกัน
”ซ่านเจ้าเจอออะไรผิดปกติบ้างหรือไม่?”ฟังจากเสียงก็คือหลี่ห่ายกำลังพูดอยู่
”ไม่มีแล้วก็ไม่รู้ว่าตกลงว่าก้อนหินผันก้อนนี้มีอะไรแปลกแต่เมื่อกี้ข้าก็ลองดูสองสามครั้งแล้วสัมผัสโดนกลไกอยู่สองครั้งก็แค่ไม่รู้ว่ากลไกอันนี้เปิดแล้วจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นทำไมทุกครั้งพื้นดินถึงสั่นไหว”ตอนที่หลี่อวี๋นซ่านตอบในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความสงสัย
พวกเขาศึกษากลไกบนก้อนหินผันมาโดยตลอดไม่รู้ถึงเหตุการณ์ของสระน้ำเย็นนั่นรู้สึกเพียงแค่ว่าถ้ำสั่นไหวแต่กลับไม่รู้ว่าเมื่อสัมผัสกลไกจะทำให้เกิดช่องว่างพลิกกลับ
ดวงตาคู่นั้นของหรงเย่เยือกเย็นเขาไม่พอใจเป็นอย่างมากยอดฝีมือของตระกูลหรงทั้งหมดหายไปจากที่นี่ส่วนคนของตระกูลหลี่ทุกคนยังอยู่ครบแค่คิดถึงที่นี่เขาก็ยิ่งเกลียดหลินซีนเยียนยิ่งขึ้นไปอีกล้วนแต่เป็นเพราะเชื่อนางติดกับแผนของนางถึงตกมาอยู่ในสภาพแบบนี้
แต่ว่าเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้ตระกูลหลี่ได้ผลประโยชน์ขนาดใหญ่ไปง่ายๆหรอกสายตาเขาหันควับมือที่ถือมีดข้างหนึ่งปาดเข้าที่คอของหลินซีนเยียนเพราะว่าความเจ็บปวดหลินซีนเยียนเลยร้องเสียงเบาๆออกมา
”ใครกัน!”
เสียงร้องของหลินซีนเยียนดึงดูดความสนใจของคนที่อยู่บนเนินสูงในทันทีหลี่ห่ายมองไปรอบๆอย่างระวังตัวตะโกนออกมา:”ใครกันที่เล่นลูกไม้อะไรแบบนี้ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”
รอบๆไม่มีเสียงอะไรแม้แต่น้อยไม่มีใครตอบกลับคำถามของเขาเลยสักคน
กลับเป็นหลี่อวี๋นซ่านขมวดคิ้วแน่นเหมือนกับกำลังคิดถึงเสียงร้องเบาๆก่อนหน้าทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป:”ข้ารู้แล้วเมื่อกี้คือเสียงของหลินซีนเยียน!ไม่ได้นางจะต้องกำลังตกอยู่ในอันตรายแน่ๆข้าจะไปตามหานาง!”
”พูดแล้วหลี่อวี๋นซ่านก็กำลังจะเดินลงไปด้านล่างเนินสูงหลี่ห่ายสะดุ้งตกใจรีบคว้าแขนรั้งเขาไว้”หมอกหนาทึบเกินไปใครจะรู้ว่าข้างในจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้คนของเราที่กระจายออกไปก็ตายลงตั้งหลายคนเจ้าอย่าเดินไปไหนมั่วๆเชียวเจ้าเป็นนายใหญ่แห่งตระกูลหลี่จะเกิดเหตุอะไรขึ้นกับเจ้าไม่ได้เด็ดขาด”
”แต่ว่าหลินซีนเยียนจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ!”หลี่อวี๋นซ่านตะคอกกลับไปสีหน้าของเขานิ่งขรึมพูดเบาๆว่า:”ท่านลุงหากว่าตำแหน่งนายใหญ่ของตระกูลมันจะรั้งข้าไว้ตลอดชีวิตละก็ตำแหน่งนายใหญ่นี้ใครอยากได้ก็ยกให้คนนั้นไปเลยแล้วกันข้าไม่เสียดายแม้แต่น้อย!”
”ซ่าน!เจ้าพูดจาเพ้อเจ้ออะไรออกมา!พวกเราลงทุนลงแรงไปตั้งเท่าไหร่ถึงจะได้ของที่ต้องการมาทำไมถึงทิ้งมันไปเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวล่ะ?ซ่านเจ้าลุ่มหลงจนเสียสติไปแล้วงั้นเรอะ!”หลี่ห่ายผิดหวังที่คาดหวังไว้สูงเกินไปโกรธจนกัดฟันกรอด
”หลี่อวี๋นซ่านไม่ฟังที่เขาพูดอีกแล้วเพียงแค่พูดว่า:”ท่านลุงข้าตัดสินใจแล้วตำแหน่งนายใหญ่ของตระกูลตอนนี้ข้าขอมอบมันให้แก่ท่านท่านปล่อยมือเถอะข้าจะไปตามหานาง!ข้าพลาดไปหลายครั้งแล้วครั้งนี้ข้าไม่อยากพลาดไปอีกแล้วจริงๆ”
ตอนที่เขาพูดก็ปัดมือหลี่ห่ายออกไปด้วยหลี่ห่ายมองเขาอย่างประหลาดใจราวกับไม่เชื่อว่าจะยังคงมีผู้ชายที่ละทิ้งอำนาจที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ไปเพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียวแต่ว่าตอนที่เขาได้สติกลับมานั้นหลี่อวี๋นซ่านก็เดินไปถึงขอบๆเนินสูงแล้ว
”เฮ้อ!”หลี่ห่ายถอนหายใจอย่างแรงเฮือกหนึ่งแล้วก็ก้าวเท้ายาวๆตามไปคว้าแขนหลี่อวี๋นซ่านไว้ออกแรงดึงกระชากเขากลับมา”นายใหญ่ตระกูลหลี่คิดว่าจะเปลี่ยนได้ตามใจรึไง?ซ่านเจ้าถือว่าเป็นลูกของลุงครึ่งหนึ่งลุงแก่แล้วแค่อยากจะทำเพื่อตระกูลหลี่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็จะวางมือแล้วล่ะตระกูลหลี่นี้ในอนาคตยังต้องพึ่งเจ้า!ในเมื่อเจ้าอยากจะไปถ้างั้น…ลุงจะไปแทนเจ้าเอง!”
หลี่อวี๋นซ่านนิ่งอึ้งยังไม่ทันมีปฏิกิริยาใดๆหลี่ห่ายก็แซงหน้าเขาลงจากเนินเขาไปเรียบร้อยแล้ว
”เจ้าตามหากลไกต่อเถอะข้าจะช่วยเจ้าตามหาผู้หญิงคนนั้นเอง!ลุงรับปากเจ้าจะต้องทำให้หญิงงามของเจ้ากลับมาให้ได้!”เสียงของหลี่ห่ายค่อยๆหายไปในหมอกหนาทึบ
หลี่อวี๋นซ่านยืนอยู่บนเนินสูงขอบตาค่อยๆแดงขึ้นมาท่านลุงของเขาบุญคุณครั้งนี้เขาจะจดจำไว้
ในความสับสนเขาราวกับนึกถึงท่านแม่ของตนตอนที่เขายังเด็กๆเวลาที่ท่านแม่มองท่านลุงขอบตาก็จะแดงขึ้นมาเหมือนกัน