ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 57
ตอนที่ 57 วัดลัทธิเต่าที่น่าสงสัย
“ไม่ทราบว่าพวกท่านมีเรื่องอันใดรี? “นักพรตหญิง น้อยที่มาเปิดประตูน่าจะมีอายุ 20 กว่าปี เอ่ยถามด้วยน้ำ เสียงอ่อนโยน
นักพรตหญิงที่ดูสาวและอ่อนโยนเช่นนี้ ทำให้จินมู่ตก ตะลึงจนลืมตัวไปชั่วขณะ “เอ่อ คืออย่างนี้ขอรับ เสื้อผ้า ของน้องสาวข้าคนนี้โดนฝนจนเปียกโชกไปหมด ท่านดู.. ที่หน้าประตูนี้มีแต่บุรุษ น้องสาวของข้ารู้สึกเขินอาย เลย อยากจะขอเข้าไปหลบฝนข้างในวัดนี้ได้หรือไม่ หากได้ ล่ะก็ ช่วยหาเสื้อผ้าสะอาดๆ ให้นางเปลี่ยนด้วยจะดีมา เลย”
จินมู่กลัวว่านักพรตหญิงจะปฏิเสธ จึงหยิบตั๋วเงินออก มาจากในเสื้อและยื่นส่งไปให้ “แน่นอนว่าพวกเราไม่เอา เปรียบ นี่คือเงินบริจาคของข้า ”
เมื่อนักพรตหญิงได้ฟังที่เขาพูด ในหน้าที่อ่อนโยนก็จาง หายไปทันที คล้ายกับหมดความอดทน พอมองไปที่ จำนวนเงินบนตั๋วเงินก็เริ่มรู้สึกลังเลขึ้นมา นางหันหน้าไป มองหลินซีนเยียน ความลังเลที่หลงเหลือบนใบหน้าก็หาย ไปหมดแล้ว
“ได้ งั้นเชิญแม่นางเข้าไปมาก่อนเถิด”นักพรตหญิงเอ่ย ด้วยวาจาอ่อนโยน
จินมู่รีบเรียกให้หลินซีนเยียนเข้าไปข้างในวัดลัทธิเต๋า หลินซีนเยียนหนาวจนปากม่วงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงเดินผ่านจินมู่เข้าไปในวัด
ส่วนจินมู่ก็จูงมืออี้เชิงกำลังจะเตรียมตามเข้าไป แต่ถูก นักพรตหญิงห้ามเอาไว้ “ทั้ง 2 ท่านช้าก่อน!
“ทำไม? “จินมู่ท่าหน้าขรึม เสียงที่เอ่ยขึ้นเห็นได้ชัดว่า ไม่พอใจอย่างมาก
“บุรุษทั้ง 2 ท่านไม่สามารถเข้ามาได้ ต้องขออภัยด้วย พวกท่านด้วย วัดลัทธิเต๋าของพวกเราล้วนมีแต่นักพรต หญิง ในยามที่ฟ้าสางเช่นนี้ หากมีบุรุษเข้ามาในวัด เกรง ว่า…. ”
จินมู่ที่เตรียมจะเข้าไปรู้สึกลังเลไปสักพัก เขาจูงมืออี้ เชิงอยู่มายืนที่หน้าประตู”เอาอย่างนั้นก็ได้ พวกข้าจะรอ อยู่ที่หน้าประตู รบกวนนักพรตหญิงช่วยดูแลน้องสาว ของข้าด้วย”
“ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”นักพรตหญิงรับตั๋วเงินพร้อม ส่งเสียงตอบรับ
จินมู่คล้ายกับยังไม่วางใจ จึงไปกำชับกับหลินซีนเยียน “เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดๆ ก่อน หากว่ากลัวก็ให้หา พวกเราที่หน้าประตูได้ ข้ารออยู่ที่หน้าประตูนี้ตลอด”
หลินซีนเยียนไม่ได้พูดอะไร ส่วนนักพรตหญิงที่ยืนอยู่ ข้างๆ ได้ยินที่จินมู่พูดก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “พี่ชายท่านนี้ ในวัดของพวกเราไม่ใช่ถ้ำเสือซะหน่อย แม่นางท่านนี้ก็โต แล้ว หากอยู่ในวัดของพวกเราแล้วนางจะหายไปรี? ”
“ต้องขออภัยนักพรตหญิงด้วย พี่ใหญ่ของข้าเพียงแค่ขี้ ขลาดไปเท่านั้น”หลินซีนเยียนพูดจาขบขันแล้วพยักหน้า
ให้จินมู่
หลังจากที่นักพรตหญิงน้อยปิดประตูลง แล้วเดินนำ หลินซีนเยียนเข้าไปข้างใน นักพรตหญิงน้อยบอกว่าเดิน ผ่านไป 3 ประตูก็จะถึงที่พักของเธอ
เมื่อเดินเข้าไปข้างใน หลินซีนเยียนก็เกิดฉงนใจขึ้นมา นี่เป็นเวลากลางวัน แต่ในวัดนี้กลับไม่ได้ยินนักพรตหญิง ท่องคัมภีร์เต๋าและก็ไม่เห็นนักพรตหญิงทำความสะอาด เลยสักคน
หรือว่าวัดลัทธิเต๋าของที่นี่ ไม่ได้เข้มงวดเรื่องความ สะอาดเหรอ?
“ในวัดแห่งนี้ไม่มีคนอยู่เลยรี?”หลินซีนเยียนทนไม่ได้ จึงเอ่ยปากถามนักพรตหญิงจากด้านหลังออกไป
“มีคนเยอะจะตาย อย่าดูถูกวัดของพวกเราเลยเชียว พวกเราพี่น้องยังมีอีก 20 กว่าคน เพียงแต่ตอนนี้ฝน ตกหนัก พวกนางน่าจะพักผ่อนอยู่ด้านหลัง”นักพรตหญิง น้อยเดินไปพูดไป ไม่ทันไรก็มาถึงห้องหนึ่ง นางผลัก ประตูแล้วเดินเข้าไป จากนั้นก็กวักมือเรียกหลินซีนเยียน “ที่นี่มีห้องว่างอยู่ เจ้าเข้ามารออยู่ในนี้ก่อน ข้าจะไปนำ เสื้อผ้ามาให้เจ้าเปลี่ยน”
หลินซีนเยียนส่งเสียงตอบกลับ เธอเข้ามาในห้องแล้ว หาเก้าอี้นั่ง
นักพรตออกมาจากในห้องแล้วก็เดินไปข้างใน ตอน ที่จะไปได้พูดขึ้นว่า “ลมฝนอาจจะแรง ข้าจะปิดประตูห้อง ให้เจ้า กันไม่ได้น้ำฝนกระเด็นสาดเข้าไปในห้อง ของที่อยู่ ในห้องจะได้ไม่เย็นชื้น”
“ขอบคุณท่าน”หลินซีนเยียนตอบกลับ เธอนั่งถูมือให้ความอบอุ่นบนเก้าอี้เพราะว่าทั้งตัวเปียกขึ้นไปหมด และ เพิ่งจะโดนลมพัดมาไปนาน คราวนี้จึงรู้สึกหนาวจนปาก สั่น
เธอมือไปสักพักก็หยุดชะงักทันที ในใจของเธอนึก ภาพหนึ่งได้ ภาพที่นักพรตหญิงคนนั้นได้ปิดประตูให้เธอ ที่มีอของนักพรตหญิงคนนั้นทั้งขาวและนุ่มมาก นักพรต หญิงที่ไหนเขาเป็นแบบนี้กัน?
เธอรู้สึกหวาดผวา รีบเดินไปที่ริมประตูแล้วผลักประตู ออกไปอย่างแรง แต่กลับได้ยินเสียงโซ่ดังเคร้งคร้างมา จากนอกประตู !
ประตูนี้มีคนล็อคมาจากข้างนอก!
ตอนที่เธอเข้ามาในวัดนี่ก็รู้สึกแปลกๆ แล้ว นักพรต หญิงที่ไหนเห็นเงินแล้วแสดงอาการดีอกดีใจขนาดนั้น? คิดมาถึงตอนนี้ เกรงว่านักพรตหญิงคนนั้นต้องมีอะไรไม่ ชอบพากลแน่! แล้วยัง เรียกนักพรตหญิงคนอื่นว่า “พี่ น้องอีก!
“ฉันมันโง่จริงๆ ! “หลินซีนเยียนด่าตัวเองอย่างรู้สึกผิด แล้วใช้มือตีหัวของตนเองอย่างแรงหลายครั้ง ฝนตก อย่างนี้ สงสัยสมองไม่จะทำงานก็ได้?
เธอเดินไปเดินมาในห้องอยู่หลายรอบ ในห้องนี้ตกแต่ง อย่างเรียบง่าย แค่จะหาของมาทำเป็นอาวุธป้องกันตัวยัง ไม่ได้เลย
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากนอกประตู ฟังจากเสียง คนที่มาต้องไม่ใช่แค่ 1 คน
ในสถานการณ์ฉุกละหุกแบบนี้ เธอร้อนรนอย่างมากเมื่อเธอเห็นถ้วยน้ำชาที่อยู่ตรงมุม เธอจึงโยนถ้วยน้ำชา ลงพื้นจนมันแตกเป็นเศษถ้วย แล้วเธอก็รีบหยิบมันซ่อน ไว้ในกระโปรง
ด้านนอกประตูมีเสียงผู้หญิงคุยกันดังขึ้น “เจ้าว่านางเด็กนั้นสวยงั้นรึ?
“ใช่แล้ว เดี๋ยวเจ้าเห็นเองก็จะรู้ รับรองว่าสวยกว่าพวกพี่ น้องของเราที่นี่อีก ไม่ต้องเอ่ยถึงบุรุษเลย แค่สตรีเห็น กันเองก็อดไม่ได้ที่จะอยากไปลูบคลำ”
“หากเป็นอย่างที่เจ้าจริงก็คงดี เฮอ วันนีนี้จะรู้ได้ยังไงว่า จะมีนายท่านที่ปรนนิบัติยากมาคนหนึ่ง พี่น้องหลายคน เขาก็ไม่ชอบแล้ว! แต่ว่าฐานะของคนผู้นั้น พวกเราก็ไม่ อาจไปมีเรื่องด้วยได้ วันนี้ฝนตกหนักแขกก็ยังอยู่กัน คน ผู้นั้นก็ไม่คิดที่จะไปซะด้วย ตอนนี้ข้าจะไปหาคนที่ทำให้ เขาพอใจได้ที่ไหนกัน? หากเขาไม่พอใจล่ะก็ คงจะ ทำลายข้าวของของเราที่นี่พังหมดแน่!”
“พี่ไม่ต้องกังวลไปนะ หากพี่เห็นสตรีในห้องก็จะรู้เอง บุรุษทั่วไปต้องพอใจเป็นอย่างแน่ เพียงแต่ว่าสตรีผู้นั้น ต้องไม่ยอมเชื่อฟังพวกเราโดยง่ายดาย ..”
“หากนางไม่อยากเชื่อฟังก็ไม่ต้องเชื่อฟังอย่างงั้นรี? สำหรับสตรีที่ไม่ยอมฟังล่ะก็ ข้ามีวิธีจัดการ”
ผู้หญิงที่ยืนคุยกันอย่างโอ้อวดที่หน้าประตูโดยไม่สนใจ คนในห้องเลยสักนิด บางทีคำพูดนี้อาจจะจงใจให้คนใน ห้องได้ยิน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปอธิบายให้ยุ่งยาก สำหรับพวกนางแล้ว คนในห้องเป็นเพียงเนื้ออยู่บนเขียง ไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเสียงได้ดังเข้ามาในห้องนี้ หลินซีนเยียนจะไม่ เข้าใจเรื่องที่นักพรตหญิงพูดคุยที่ไหนกัน
หลายวันที่ผ่านก็ได้ยินสาวใช้ในจวนอ่องหลายคนที่พูด นินทากัน พวกนางพูดว่าตอนนี้เหล่าคุณชายที่มีอิทธิพลมี รสนิยมแปลกๆ ไม่เพียงแต่ชื่นชอบสตรีที่หอโคมเขียว แต่ ยังชอบอะไรที่ทำให้เร้าใจด้วย
พอคิดมาถึงตรงนี้ ในวัดลัทธิเต่าคงจะมาเล่นเป็น นักพรตหญิงกัน และก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้มีอิทธิพลเหล่า นั้นอีกด้วย
ผู้หญิงที่อยู่หน้าห้อง เมื่อได้ยินเสียงของแตกจากใน
ห้อง ก็รีบปลดโซ่ออกแล้วผลักประตูเข้ามา เห็นว่าหลิน
ซีนเยียนยังยืนอยู่ดี พวกนางก็ถอนหายใจกันอย่างโล่ง กัน “แหม ที่แท้ก็เป็นสาวงามนี่เอง”นักพรตหญิงแก่มอง ใบหน้าของหลินซีนเยียน สีหน้าของนางก็เต็มไปด้วย
ความปลาบปลื้ม