ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 58
ตอนที่ 58 ช่วงเวลาที่สำคัญ
นักพรตหญิงอยู่หลายคนที่อยู่ด้านหลังของนาง เมื่อ เดินเข้ามาก็มีสีหน้าตกตะลึง ราวกับไม่เคยเห็นสาวงาม เช่นนี้มาก่อน มีบางคนที่ทำหน้าอิจฉาและไม่พอใจอย่าง มาก
“มัวรออะไรอยู่เล่า ยังไม่รีบไปจับตัวของนางอีก!” นักพรตหญิงที่ดูมีอายุมากกว่าคนอื่นตะคอกจนทำให้คน อยู่ล้อมข้างสะดุ้งตัว พอเรียกสติกลับคืนได้ก็รีบไปจับตัว หลินซีนเยียนเอาไว้
สองหมัดยากจะสู้สี่มือ หลินซีนเยียนไม่เป็นวรยุทธ สุดท้ายก็โดนนักพรตหญิงพวกนั้นจับตัวได้อย่างรวดเร็ว นักพรตหญิงที่แก่คนนั้นแค่นเสียง เดินเข้ามาใกล้แล้ว หยิบยาเม็ดหนึ่งใส่ ” 1 9
ปลดล็อกสำเร็จ ใช้91เหรียญทอง
ปากของเธอบังคับให้เธอกล่นลงไป
หลินซีนเยียนขัดขึ้นอยู่นาน แต่สุดท้ายก็สู้แรงของพวก นางไม่ไหว เธอไอแค่กๆ ยาเม็ดนั้นเธอได้กลืนลงท้องไป แล้ว ในชั่วขณะนั้น เธอรู้สึกว่าร่างกายของตนเองเริ่มมีไฟ สุมขึ้นมา ความรู้สึกแบบนี้เธอไม่เคยเป็นมาก่อน ทว่า ภายในกายมันรู้สึกเหมือนต้องการอะไรสักอย่างอย่าง มาก ความต้องการแบบนี้ คนที่เคยผ่านเรื่องนั้นมาแล้ว แบบเธอเข้าใจดีที่สุด
ยาเม็ดนี้ เป็นยาปลุกเซ็กส์อย่างแน่
เหล่านักพรตหญิงเห็นว่าเธออ่อนแรงจนทรุดตัวลงพื้น จึงได้คลายมือที่จับเธออยู่ออก มีนักพรตหญิงเตรียมชุดนักพรตหญิงที่สะอาดมาให้ พวกนางก็ช่วยกันเปลี่ยนชุด นักพรตหญิงให้หลินซีนเยียน แล้วก็ทำทรงผมแบบ นักพรตหญิงให้อีก ผ่านไปไม่นาน หลินซีนเยียนก็กลาย เป็นนักพรตหญิงน้อยที่มีใบหน้างดงาม
“ข้าว่านางเด็กนี่น่าจะพอรับมือไหว” นักพรตหญิงน้อย คนก่อนหน้านั้นยิ้มอย่างพอใจ
” อืม ครั้งนี้เจ้าทำได้ไม่เลว หากว่าเรื่องนี้ผ่านพ้นไป คน ผู้นั้นตบรางวัลให้หนักต้องแบ่งให้เจ้าเยอะหน่อย” 2 นักพรตหญิงแก่มองนักพรตหญิง 2 คนที่ลากตัวหลินซีน เยียนออกอย่างรู้สึกพอใจ นางเอ่ยขึ้นอีกว่า ” จริงด้วย แล้วนางเด็กนี่มาคนเดียว รี? ”
” ไม่ใช่ นางยังมีพี่ชายคนหนึ่งและก็น้องชายคนหนึ่ง กำลังยืนรออยู่ที่หน้าประตู เป็นแค่ชาวบ้านที่มายืนหลบ ฝน คงจะไม่ใช่ตระกูลที่ร่ำรวยอะไร”
” อย่าเพิ่งชะล่าใจไป หากไม่ทำให้นายท่านพอใจ พวก เราต่างหากที่จะลำบากเอาได้ เจ้าออกไปหน้าประตู แล้ว ไล่ 2 คนนั้นไปซะ” นักพรตหญิงแก่กำชับอีกครั้ง
” ได้! ” นักพรตหญิงน้อยตอบรับ แล้วเดินตรงไปที่หน้า
ประตู
ฝนเริ่มจะซาลงกว่าตอนแรกอยู่มาก ชาวบ้านที่มาหลบ ฝนใช้จังหวะที่ฝนเริ่มซาเดินจากไปหมดแล้ว เหลือเพียงจิ นมู่กับอี้เชิงที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตู เขาไม่ได้ยินเสียงอะไร จากด้านในเป็นเวลานาน ในใจก็เริ่มวิตกกังวล พออยาก จะเคาะประตูถามกลับเห็นประตูเปิดออกมา เป็นนักพรต น้อยคนก่อนหน้านั้นที่เดินออกมา
เมื่อนักพรตหญิงน้อยเปิดประตูออกมาก็เจอพวกเขา และแสดงความประหลาดใจ “อ้าว พวกเจ้ายังอยู่ที่นี่อี กรึ? ”
“พูดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ข้าบอกไปแล้วไม่ใช่รึ ว่าจะรอ น้องสาวของข้าอยู่ที่นี่ ? ” จินมู่ที่รอเป็นเวลานาน เริ่มจะ ใจคอไม่ดี
นักพรตหญิงคนนั้นตวัดสายตาไปจ้องเขา “น้องสาว ของเจ้าคนนั้นเพิ่งจะไปจากวัดแล้ว พวกเจ้ายังรออยู่ที่นี่ จะได้ประโยชน์อะไรรี? ”
” ไปแล้ว? จะเป็นไปได้อย่างไรกัน พวกเรารออยู่ตรงนี้ ตลอด นางจะไปที่ไหนได้? ” จินมู่ไม่เชื่อ ในกลับร้อนรน eM.
นักพรตหญิงคนนั้นกลอกตามองบน แล้วจะปิดประตู ” ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร นางเปลี่ยนชุดเสร็จก็เดินออกจาก ประตูหลังไป ที่นี่เป็นวัด เป็นโอกาสที่ชายหญิงที่เลื่อมใส มาพบเจอกัน น้องสาวของเจ้าคงไม่ได้ทิ้งพวกเจ้าแล้วไป หาชายในดวงใจหรอกรี? เอาล่ะ ตอนนี้ฝนก็เริ่มซาแล้ว พวกเจ้าอย่ามายืนขวางหน้าประตูวัดของพวกข้า รีบไป ซะ รีบไป! ”
พอนักพรตหญิงน้อยพูดจบก็ปิดประตูทันที
จินมู่ตะลึงงัน มองไปที่อี้เซ็งที แล้วมองไปที่ประตูที่ปิด สนิทที จากนั้นก็กลืนน้ำลายลงคอ “แม่นางหลิน คงไม่ใช้ โอกาสนี้หนีไปหรอกนะ…”
“พี่สาวไม่ทิ้งข้าอย่างแน่นอน!” อี้เซิงมีสายตาเชื่อมั่น ไม่รู้สึกสงสัยเลยสักนิด เขาจับแขนของจินมู่อย่าร้อนใจ “พวกเรารีบเข้าไปดูเถอะ พี่สาวอาจจะเจอปัญหาอยู่ก็ได้?”
เมื่อจินมู่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ หลายวัน มานี้หลินซีนเยียนคล้ายกับมีใจให้กับท่านอ่องแล้ว และ นางก็เป็นห่วงอี้เชิงมากด้วย นางไม่มีทางทิ้งแล้วหนีไป อย่างแน่นอน นอกจากเจอปัญหาอะไรอยู่
แต่ทว่า ถ้อยค่าที่นักพรตหญิงคนนั้นใช้พูด ไม่เหมือน กับนักพรตหญิงเลยสักนิด! !
จินมู่ครุ่นคิด รู้สึกว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่ จึงรีบ หยิบบ้องไม้ไผ่ออกมาจากในเสื้อ แล้วจุดมันขึ้นไฟ ควัน เส้นสีขาวที่ลอยขึ้น ทันใดนั้นก็เกิดเสียงก้องสะท้อนตรง กลางเขา
หน้าวัดบนยอดเขา มีเณรน้อยที่ถือร่มให้ โม่จื่อเฟิงอยู่ เมื่อเขาแหงนหน้าขึ้นมาก็เห็นควันสีขาวลอยขึ้นมาจาก กลางเขา คิ้วก็ขมวดขึ้น เพียงชั่วพริบตา คนตรงนี้ก็ไป ปรากฏตัวที่อยู่ห่างออกไป 10 จั้งแล้ว
เณรน้อยขยีตาอย่างุนงง คิดว่าตนเองตาฝาดไป เห็นๆ อยู่ว่าคนที่อยู่ใต้ร่มยังยืนอยู่ตรงนี้ ในชั่วพริบตาเขาเดิน ไปไกลได้ขนาดนั้นเชียวหรือ?
ฝนซาลงแล้ว แต่ท้องฟ้ายังมืดครึ้มอยู่
หลินซีนเยียนที่กำลังสะลึมสะลือถูกลากไปที่ห้องลับ ห้องหนึ่ง หลังจากที่นักพรตหญิง 2 คนพาเธอเข้าไปใน ห้องแล้วก็รีบออกมาทันที
เธอเริ่มไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่เธอก็บังคับฝืนจับเศษ ถ้วยนั้น ร่างกายของเธออ่อนแรงอย่างมาก ไม่มีแรงที่จะ ใช้เศษถ้วยนั้นทำร้ายใคร แต่อย่างน้อย ขอเพียงเธอมีแรงกรีดฝ่ามือของตนเอง เพียงจะใช้ความเจ็บมาเรียกสติ ให้ตนเอง
แต่เธอกลับถูกผลักลงพื้น เธอนอนลงบนพื้นอย่างหมด แรง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาตรงหน้า เธอก็เงยหน้าขึ้น สายตาที่พร่ามัวแต่ก็พยายามเพ่งมอง
เธอไม่รู้ตัวว่า ตอนนั้นเธอกำลังส่งสายตาเคลิบเคลิ้ม และทั้งตัวที่สวมชุดนักพรตหญิงนั้น ก็ยิ่งขับให้หน้าตา ของเธอดูงดงามมากขึ้น สักพักก็ทำให้บุรุษที่ยืนอยู่ตรง หน้าปรบมือแล้วเอ่ยปากชม
“ไม่เลว ไม่เลว คนนี้ไม่เลวเลย” เป็นบุรุษร่างท้วมอายุ 30 กว่าปีคนหนึ่งปรบมือพร้อมแล้วเอ่ยปากชม ชุด สำเร็จรูปสุดเริดหรูที่สวมใส่บนร่าง พร้อมจี้หยกเขียว 2 อันที่ห้อยอยู่ตรงเอว ตอนเดินมาไขมันที่อยู่ในพุงก็สั่น กระเพื่อมอยู่หลายครั้ง เขาได้เปล่งเสียงพูดกับคนที่อยู่ นอกประตู “คนนี้ไม่เลวเลย ข้าชอบ อีกเดี่ยวข้าเสพสุข 31 เพียงพอแล้ว จะตบรางวัลให้พวกเจ้าอย่างงาม! ” 17
ผู้ชายแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นช่วงเวลาปกติ หลินซีนเยียน เห็นแล้วก็รู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอ้วก แต่ในช่วงเวลานี้ เป็นเพราะฤทธิ์ของยา เมื่อหลินซีนเยียนเห็นเขาก็กลืน น้ำลายลงอย่างทนไม่ไหว ราวกับปรารถนาเป็นอย่างมาก
“สาวงาม มาให้พี่ชายจะถนอมเจ้าเถิด” บุรุษร่างท้วม ก้มตัวลงแล้วอุ้มหลินซีนเยียนขึ้นมา เดินโซซัดไปที่เตียง เดิมคิดว่าตนเองเป็นบุรุษเจ้าเสน่ห์ แต่เพราะรูปร่างที่อ้วน ท้วมพร้อมกับขาดการออกกำลังกายมาเป็นเวลานาน เขา อุ้มหลินซีนเยียนแล้วก้าวเดินไปอย่างโซซัดโซเซ พออุ้ม หลินซีนเยียนถึงข้างเตียงก็โยนเธอไปลงนอนกลิ้งบนเตียง
หลินซีนเยี่ยนกำหมัดแน่น อยากจะถือเศษถ้วยขึ้นมา แล้วปาดคอของเขาเสีย! แต่ทว่า ถึงเธอจะโหดเหี้ยมแค่ ไหน แต่ร่างกายที่อ่อนเพลียอย่างมาก แค่แรงถือมันขึ้น มาก็ยังไม่มีเลย
ชายร่างท้วมเดินขึ้นเตียง นวดแขนที่รู้สึกเจ็บปวดแล้วก็ ขึ้นค่อมไปบนร่างของหลินซีนเยียนทันที เขาฉีกเสื้อของ เธออย่างรอคอยไม่ไหว
“ ไม่…” หลินซีนเยียนอยากจะตะโกนด่า แต่ว่าเสียงที่ เปล่งออกมากลับอ่อนเบา และยิ่งไปกระตุ้นสัตว์ร้ายใน กายของผู้ชายอีก