ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 6
ตอนที่ 6 ช่างยากลำบากจริงๆ
หลินซินเยียนยังคงทำหน้าปกติแต่ในใจกลับรู้สึกตก ตะลึง คนผู้นี้เห็นอยู่ว่าเป็นบุรุษวัยเยาว์ไม่ใช่คนแก่ แน่ๆ
คนที่ยิ่งปิดบังฐานะเท่าไรยิ่งเป็นคนอันตราย
ชายแก่เรียกสติกลับมายกหม้อสุราขึ้นแล้วรินให้ กับนาง”น้องเล็กดื่มสุราเก่งยิ่งนัก”
หลินซินเยียนตอบรับแล้วเงยหัวขึ้นดื่มแก้วนี้ให้ หมดเขยิบถอยออกมาจากโต๊ะ”คืนนี้ก็ดึกมากแล้วคุณ ลุง…รีบกลับไปพักผ่อนหน่อยเถอะ ข้าก็จะกลับห้อง
แล้ว”
นางเพียงอยากมีชีวิตที่สงบในโลกนี้เช่นนั้น แล้ว คนที่อันตรายและเรื่องที่นางสู้ไม่ได้จึงทำได้เพียงหลบ
ชายแก่มีแววตาประหลาดใจ ริมฝีปากขยับเหมือ นอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกเพียง พยักหน้าเล็กน้อย”ดี”
แต่ว่าสายตาของเขามองไปร่างของหลินซินเยียนเป็นนานๆตอนที่นางหันกลับมาหิมะลอยตกลงบนเส้น ผมสีดำสนิทของนางทีละน้อยๆราวกับดาวตกในภาพ แห่งความฝัน
ยิ่งดึกยิ่งหนาวเย็นเข้ากระดูก
หลังจากที่เปลี่ยนเทียนไปแล้ว3แท่ง เสี่ยวอวี่ก็รู้สึก ง่วงนอนจนทันไม่ไหวแล้วแต่ยังคงนั่งบนเก้าอี้อยู่ที่ หน้าประตู
“คุณหนูท่านคิดว่าฮูหยินจะส่งคนมาจัดการเรา แต่นี่ก็ยาม3แล้วทำไมยังไม่มา”เสี่ยวอวี่มองไปทาง หน้าประตูล็อกสนิทไม่เห็นผิดปกติสักนิด
หลินชินเยียนได้ยินคำพูดของนางยิ้มและส่าย หัว”ในห้องสว่างขนาดนี้ยังจะมีใครกล้ามาอีกหรือ ฟังข้ารีบไปดับไฟเทียนให้หมดแล้วขึ้นเตียงนอนได้ แล้ว”
“แต่ว่า…”เสี่ยวอวี่สีหน้าขาวซีดพักหนึ่งพูดออกมา สองคำ”ข้ากลัว..
หลินซินเยียนถอนหายใจแล้วลูบหัวของเสี่ยวอวี่ เบาๆ จะว่าไปนางยังเป็นเด็กอายุ10กว่าปีเจอเรื่องค วามเป็นความตายมาแล้วยากที่จะไม่รู้สึกกลัว
แต่ความเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องมีประสบการณ์บางอย่าง ที่ต้องผ่านด้วยตนเอง ดังนั้นหลินซินเยียนก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเพียงแต่เดิน
ไปที่หน้าโต๊ะแล้วดับเทียนทั้งห้องตกลงในความมืด
ความเงียบกริบแม้แต่เสียงลมหายใจเบาๆก็ฟังได้ ชัดเจนมาก
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่ว ยามนอกหน้าต่างก็มีเสียง แมวดังขน
ในชั่วขณะนั้นหลินซินเยียนที่นอนอยู่บนเตียงก็ ลืมตาขึ้น
ในช่วงรอคอยที่หน้าสิ่วหน้าขวานเสี่ยวอวี่นอนหลับ อย่างไม่รู้ตัวอยู่ข้างๆ หลินซินเยียนไม่ได้ปลุกนางกลับ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง กริชที่อาบยาพิษอยู่ในมือส่ง แสงสลัวออกมา
คนที่อยู่นอกหน้าต่างระมัดระวังอย่างมากรออีกสัก พักถึงจะใช้มีดเล็กงัดหน้าต่างหมายจะเปิดหน้าต่าง การกระทำของเขาระวังอย่างมาก ถ้าไม่ได้เตรียมตัว มาล่วงหน้า การกระทำเช่นนี้จะไม่มีใครสังเกตเลย
แน่ๆ
เรียกได้ว่าชำชองอย่างมาก
หลินซินเยียนอดที่จะยิ้มเย็นชาไม่ได้ เฉินฮูหยินนั่น เพื่อที่จะถอนรากถอนโคนลงทุนหนักจริงๆ
ไม่นานหน้าต่างก็ถูกเปิดออกอย่างไม่มีเสียง คนที่ อยู่นอกหน้าต่างกำลังอยากจะเข้ามาในห้อง หลินซิ นเยียนถือโอกาสยื่นมือใช้กริชแทงเข้าไปที่หอคอย ของคนผู้นั้น
คนผู้นั้นมีปฏิกิริยาตอบโต้เร็วมากช่วงที่เห็นกริชก็ หลบตัวไปด้านข้างทันที
น่าเสียดายตอนนั้นหลินซินเยียนได้ตัดสินใจโจม ตีรอบเดียวจบฉะนั้นความเ ามเร็วและความแรงนางจึง ลงอย่างสุดกำลัง
ถ้าเขาไม่ตายนางกับเสี่ยวอวี่ต้องตายแน่ ความจริง ก็น่าเวทนาอย่างนี้
ดังนั้นนางไม่มีทางถอย!
นักฆ่าที่ปิดหน้าคนนั้นตอนที่ล้มลงไปสายตาเต็ม ไปด้วยความไม่เชื่อ
“ฟู”หลินซินเยียนถอนหายใจออกมา มือที่ถือกริชอยู่สั่นเล็กน้อย เลือดที่ติดอยู่บนกริชหยดลงพื้นที่ ละหยดแต่ในความมืดไม่แสดงสีออกมา
ช่างอันตรายมาก
หากนางมองธาตุแท้ความโหดร้ายอำมหิตของ เฉินฮูหยินไม่ออก เดาได้ว่านางต้องไม่ยอมปล่อยให้ ไปง่ายๆแน่เช่นนั้นหลินซินเยียนจึงได้เตรียมการไว้ ล่วงหน้าไม่งั้นคืนนี้อาจเป็นวันตายของนางและเสี่ย จะเสีย วอวี่
“คุณคุณหนู..”เสี่ยวอวี่ได้ยินเสียงจึงตื่นขึ้นมาเห็น สถานการณ์ข้างหน้าต่างอดไม่ได้ที่จะตกใจ
หลินซินเยียนเรียกสติกลับมาเก็บสีหน้าตึงเครียด ไว้แล้วพยายามยิ้มออกไป”ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว..”
“ระวัง! ”
เสียงร้องตะโกนอย่างเจ็บปวดของเสี่ยวอวี่ หลิน ซินเยียนรู้สึกเสียวสันหลังพอหันหน้าไปก็เห็นเงาดำ หนึ่งพุ่งเข้ามา
นางคิดจะใช้กริชต่อสู้แต่คนที่มาครั้งนี้เหมือนได้ เตรียมตัวไว้เพียงใช้มือสกัดก็หลบกริชในมือของนา งออกอย่างง่ายดาย
“นางสารเลวกล้าฆ่าน้องของข้า วันนี้เจ้าจะตาย แน่! “คนที่มาชำนาญด้านการต่อสู้อย่างมาก สตรีที่ แรงอ่อนๆอย่างหลินซินเยียนไม่สามารถไปรับมือได้
หลินซินเยียนไม่ทันมองเห็นเขาใช้ศิลปะการต่อสู้ อะไรก็ถูกเขาจับแขนทั้งสองข้างเอาไว้แล้ว
นางคาดไม่ถึงว่าคนที่มาครั้งนี้ไม่ใช่แค่หนึ่งคนแต่
เป็นสามคน
นักฆ่าสามคน ฝีมือช่ำชอง เฉินฮูหยินช่างรอบคอ บนัก!
“นี่น้องชายเจ้าเห็นหน้านางนี่หรือไม่งดงามยิ่ง
นัก”นักฆ่าคนหนึ่งจับกริชเดินมายังไม่ได้ลงมือ ทัน ใดนั้นก็เห็นใบหน้าของหลินซินเยียนผ่านแสงจาก นอกหน้าต่าง
นักฆ่าที่จับแขนของหลินซินเยียนอยู่ก็ยื่นหน้าเข้า ไปจ้องใกล้ๆดวงตาทั้งคู่แสดงออกถึงความ ปรารถนา”ช่างงดงามจริงๆ ร่างกายของแม่นางนุ่ม กว่าคนในหอซุนเยว่ซะอีก”
“งั้น..”คนผู้นั้นหัวเราะอย่างมีความหมายลึกลับ “นางฆ่าน้องชายของเรา ถ้ารีบฆ่านางไปก็ถือว่าเสียเปรียบนางไม่ใช่หรือ ต้องเล่นนางให้หายแค้น ก่อน! “อีกคนรีบเห็นด้วยทันทีซ้ำยังหาเหตุผลที่ดูเห มือนจะถูกหลักธรรมนองคลองธรรมด้วย
ทั้งสองคนรวมหัวกันคิดแผนรู้สึกว่าคนในโรงเตี้ยม มีเยอะเกินไป ไม่สามารถทำเรื่องอย่างว่าได้จึงเตรี ยมที่จะฆ่าเสี่ยวอวี่แล้วจับตัวนางไป
เสี่ยวอวี่ตกตะลึงอย่างมากเบิกตาโตมองชายชุด ดำคนหนึ่งถือกริชเข้ามา
แสงของกริชชี่เย็นชาได้ส่องมาบนหน้าของนาง ทำให้นางยิ่งดูอ่อนขึ้น
หลินซินเยียนถอนหายใจอย่างจนใจใบหน้า ปรากฏรอยยิ้มที่เย็นชา”รอก่อน”
นักฆ่าที่ถือกริชหันหน้ามานางสีหน้าไม่ เปลี่ยน”นางเป็นแค่สาวใช้คนหนึ่งไม่มีความสำคัญ อะไร หากปล่อยนางไปพวกเจ้าจะจัดการข้าอย่างไร ข้าก็ไม่ขัดขืน”
“ไม่ขัดขืน? “นักฆ่าทั้งสองไม่เคยเห็นสตรีที่อยู่ใน ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานยังมีกะจิตกะใจต่อรองอีกจนลืม ลงมือต่อในชั่วขณะหนึ่ง
“ใช่ข้ายอมไม่ขัดขืน การเล่นก็ต้องเล่นให้สนุกสิ พวกเจ้าฆ่านางข้าก็จะกัดลิ้นตัวเองตาย หากพวกเจ้า ะ ๘ส อยากเล่นสนุกกับศพงั้นก็รีบลงมือเลย นางเป็นแค่ สาวใช้คนหนึ่งหากปล่อยนางไปพวกเจ้าก็ได้ผลประ โยชน์เหมือนเดิมปล่อยนางข้าจะให้พวกเจ้าจัดการ อย่างถึงอกถึงใจเลย”
ต่อหน้าความเป็นความตายย่อมพูดจาอย่างมี เหตุผลใบหน้านอกจากความเย็นชาแล้วอย่างอื่นก็ไม่
มี
สาวงามเช่นนี้ล้วนทำให้บุรุษหวั่นไหว นักฆ่าทั้งสอง สบตากันล้วนมองเห็นความต้องการที่รุนแรงของทั้ง สองฝ่าย
คนหนึ่งทำตาให้อีกคนหนึ่ง คนนั้นก็พยักหน้าแล้ว เก็บกริช
หลินซินเยียนถอนหายใจอย่างโล่งอกหันไปมอง เสี่ยวอวี่ที่ร้องไห้จนตาแดงไปแล้ว นางส่งยิ้มให้”อย่า ร้องไห้เลยต่อไปก็หาคนดีๆไปใช้ชีวิตด้วยกัน เจ้าต้อ งมีความสุข การเสียสละของข้าก็คุ้มแล้ว”
ยังไงก็ต้องตายทำไมต้องเอาชีวิตเด็กคนนี้ไปด้วย