ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต - ตอนที่ 70
ตอนที่ 70 ยอมแพ้อย่างเต็มใจ
หลินซินเยียนได้ยินคำกล่าวหาที่ไม่สุภาพของเขา แต่ กลับไม่ยักจะโกรธ นางรู้สึกว่าการคุยโวโอ้อวดเป็นเรื่องที่ เสียเวลา เป็นการดีกว่าที่จะพิสูจน์ตนเองด้วยการกระทำ
นางหันกลับไปมองโม่จื่อเฟิง “อ่านอ๋องเพคะ ไม่ใช่ว่าแม้ กระทั่งท่านอ๋องก็คิดว่าหม่อมฉันไม่สามารถสร้างอาวุธหน้า ไม้ออกมาได้ใช่ไหมเพคะ? แต่ทว่าท่านอ่องไม่เชื่อก็ไม่ เป็นไร หม่อมฉันเพียงหวังว่าท่านอ๋องจะรักษาคำพูด ถ้า หากหม่อมฉันทำอาวุธหน้าไม้ออกมาได้จริง ก็ต้องปล่อย หม่อมฉันและอี้เซิงไปจากจวนอ๋อง”
โม่จื่อเฟิงนิ่งเงียบ ดวงตาที่ลุ่มลึกทั้งคู่ของเขามองไม่เห็น กันบึง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ หลังจากที่ เงียบอยู่นาน เขาจึงกล่าวขึ้น แต่ไหนแต่ไรข้าพูดคำไหน ย่อมเป็นคำนั้น ถ้าหากเจ้าสามารถทำออกมาได้จริง ข้าก็ จะปล่อยพวกเจ้าไป
ในขณะที่อยู่ต่อหน้าจินมู่และโจวชาง เมื่อโม่จื่อเฟิงกล่า วออกมาเช่นนี้ ทำให้หลินซินเยียนอดไม่ได้ที่จะเกิดความ ยินดี
โจวชางเหลือบมองนางด้วยสายดูหยามเหยียด “ที่ว่ามา เหมือนกับว่าเจ้าสามารถทำได้จริงงั้นล่ะ”
“คุณชายโจว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราไม่สู้ลงเดิมพันกัน สักหน่อยล่ะเจ้าคะ เดิมพันว่าข้าน้อยจะสามารถทำอาวุธ หน้าไม้ได้หรือไม่เป็นอย่างไรดี?” หลินซินเยียนหัวเราะเสียงเย็น ดวงนัยน์ตาส่องประกายเจ้าเล่ห์
“เดิมพันก็เดิมพัน! แต่ต่อให้ชนะสตรีเช่นเจ้าได้ก็ไม่เห็น น่ายินดี” โจวชางส่ายศีรษะถอนหายใจ พลางถามว่า “เจ้า คิดจะเดิมพันอะไร?”
“ข้าน้อยเป็นคนเถรตรง สิ่งที่ชื่นชอบมากที่สุดก็คือเงิน งั้นก็เดิมพันเงินกันเถิดเจ้าค่ะ” ในขณะที่หลินซินเยียน กล่าวก็นำหยกแขวนชิ้นหนึ่งออกมา ร่างกายนางปราศจาก สิ่งของฟุ่มเฟือย สิ่งเดียวที่มีค่าบนร่างของนางก็คือหยก แขวนชิ้นนี้ที่โม่จื่อเฟิงมอบให้กับนาง ข้าน้อยจะใช้หยก แขวนนี้ลงเดิมพัน ถ้าหากข้าน้อยแพ้ หยกแขวนนี้ก็เป็น ของท่าน และถ้าหากท่านแพ้ ก็ให้เงินแก่ข้าน้อยที่มีมูลค่า เทียบเท่าหยกชิ้นนี้เป็นอย่างไร?
เมื่อนางหยิบหยกแขวนชิ้นนี้ขึ้นมา โจวชางตกใจอ้าปาก ค้างจนเกือบกลัวว่าคางจะหลุดออกมา เขาชี้ไปที่หยก แขวนแล้วหันไปหาโม่จื่อเฟิง “ท่านอ๋อง ท่านกระทั่งมอบ หยกแขวนติดตัวให้แก่นางเชียวหรือ? ท่านแน่ใจนะว่านาง เป็นแค่สาวใช้อุ่นเตียง?”
เขาไม่คิดหนักคงไม่ได้ ถ้าหากท่านอ๋องยังมีความคิดที่ จะส่งเสริมเลื่อนตำแหน่งให้สาวใช้ เช่นนั้นเขาก็ต้องกลัว อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าสาวใช้จะไม่มีคุณสมบัติขึ้นเป็นหวางเฟย แต่ถ้าหากได้กลายเป็นเจ้านายแห่งจวนอ๋องอย่างแท้จริง ตัวเขาในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาคงไม่อาจทำหยิ่งยโสเกิน ไป
แน่นอนว่าเป็นเพียงสาวใช้อุ่นเตียง โม่จื่อเฟิงตอบอย่างราบเรียบ ทว่าเรียวคิ้วกลับขมวดแน่น เกี่ยวกับแหล่ง กำเนิดของหลินซินเยียน ภายในใจเขาจริงๆแล้วก็ไม่สบ อารมณ์อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อสายตาเขาเห็นหยกแขวนในมือ ของนาง สีหน้าพลันเปลี่ยนจนแทบดูไม่ได้ ข้าเคยกล่าวไว้ ว่า ถ้าหากหยกแขวนชิ้นนี้หาย ศีรษะเจ้าก็ต้องหายไปด้วย ดูเหมือนว่าเจ้าจำไม่ได้ว่าเป็นหว่างเคยกล่าวไว้
หลินซินเยียนยักไหล่ “หม่อมฉันจำได้เพคะ แต่ว่าหม่อม ฉันมิอาจพ่ายแพ้”
ความเชื่อมั่นในตนเองของนางทำให้โจวชางจิตใจกระ
สับกระส่ายขึ้นมาทันที นางสามารถทำออกมาได้จริงหรือ
นี่?
“ตกลงเดิมพันตามนี้ ทีนี้เจ้าก็เอาอาวุธหน้าไม้ที่เจ้าทำ ออกมาให้ข้าดู” โจวชางอยากจะไปยกอาวุธหน้าไม้จาก อ้อมแขนของนางจนแทบทนไม่ไหว
ในคราวนี้หลินซินเยียนกลับยกห่อผ้าให้เขาอย่างใจ กว้าง “คุณชายโจว ท่านควรระวัง สิ่งนี้มีเพียงหนึ่งเดียว ถ้าหากท่านทำลายแล้วพูดว่าข้าน้อยไม่ได้ทำออกมา มัน จะดูน่าเกลียดเกินไป”
“เจ้าวางใจ ถ้าทำลายของเจ้าเสียหาย ข้าจะลด…” ยัง กล่าวไม่ทันจบประโยค โจวชางที่เปิดห่อผ้าออกก็เห็น อาวุธหน้าไม้ที่อยู่ข้างใน เพียงแค่ได้มอง ใบหน้าของเขาก็ เปลี่ยนเป็นตกตะลึง
เขามองหลินซินเยียนอีกครั้ง กลับไม่มีความเหยียด หยามในสายตาอีกต่อไป หลังจากนั้นจึงหยิบอาวุธหน้าไม้แล้วเดินไปที่ลานยิงธนูอย่างรวดเร็ว สมกับเป็นช่างฝีมือ ระดับเงิน ไม่ต้องให้หลินซินเยียนอธิบายเขาก็คล่าหาตัว กลไกของอาวุธหน้าไม้เจอ เขาเล็งเป่าที่อยู่ไกลออกไป แล้วกดกลไกยิง
“พี่บๆๆๆๆ..”
กลุ่มลูกศรเหล็กทั้งสิบห้าดอกถูกยิงออกมา ในชั่วเวลาที่ กระพริบตาก็เรียงเป็นวงกลมตรงกลางบนเป้ายิง เขายกอาวุธหน้าไม้ขึ้นด้วยความรู้สึกที่ง มือทั้งสองข้าง สั่นไม่หยุด ตะลึงอ้าปากค้างจนถึงกับพูดอะไรไม่ออก
โม่จื่อเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง ถึงกับหรี่ตาหดวูบ ความ รวดเร็วและความแรงของลูกศรเหล็กนั่น แม้จะเป็นความ สามารถของเขาก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อหลบ หลีกมัน ถ้าหากใช้ในสนามรบ อาวุธชนิดนี้เกือบจะไร้คู่ ต่อกรเลยทีเดียว
การแสดงออกความตกตะลึงของทั้งสอง ทำให้หลินซิน เยียนปรบมือด้วยความภูมิใจ และเดินเข้ามาอย่างนิ่งๆ “ฝีมือในการยิงธนูของคุณชายโจวนับว่าไม่เลว ลูกศร เหล็กทั้งสิบห้าล้วนเข้าเป้าทุกดอก”
เมื่อเสียงปรบมือของนางกระทบถึงหูโจวชาง ก็กลับแปร เปลี่ยนเป็นการเยาะเย้ยที่รุนแรง ทำให้โจวชางหน้าแดงขึ้น ทันควัน เขานิ่งอยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะกล่าวด้วยความ ตะกุกตะกัก ทำให้แม่นางต้องเห็นความขายหน้าเสียแล้ว อาวุธหน้าไม้ที่แม่นางทำมีความเสถียรอย่างมาก
อันที่จริง ต่อให้เป็นนักธนูฝีมือดี หากต้องเจอกับธนูที่ ความเสถียรไม่ดี ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ลูกธนูมากมาย ขนาดนี้เข้ากลางเป้าทั้งหมด
คนในวงการดูช่องทาง คนนอกวงการดูเพื่อสนุกเพียง ครั้งแรกที่ทดสอบยิง โจวชางก็รู้แล้วว่าตนนั้นได้พ่ายแพ้ อย่างสิ้นเชิง ถึงแม้จะเป็นวัยรุ่นมุทะลุ แต่เขาก็ยังเป็น สุภาพบุรุษ การเดิมพันครั้งนี้ข้าแพ้แล้ว แพ้ด้วยความ เลื่อมใสสุดจิตสุดใจ
คุณชายโจวอย่าได้ถ่อมตนเกินไป ข้าน้อยคิดว่าหากให้ เวลาแก่คุณชายโจวมากกว่านี้ คุณชายโจวย่อมจะทำธนู หน้าไม้แบบนี้ออกมาได้แน่นอน คำกล่าวประโยคนี้ หลินซิ นเยียนได้ให้ทางลงแก่เขาแล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้างศัตรูให้ ตนเองมากเกินไปในทุกที่ทุกเวลา
“ไม่หรอก ต่อให้เวลาข้ามากกว่านี้ข้าก็ไม่สามารถสร้าง อาวุธหน้าไม้ที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ออกมาได้ ถึงแม้ข้าจะ ไม่เคยเห็นอาวุธหน้าไม้จริงในแบบร่าง แต่ข้าแน่ใจว่า อาวุธหน้าไม้ของเจ้าดีกว่าในแบบร่างนั่นแน่นอน”
สายตาที่โจวชางมองหลินซินเยียนเปลี่ยนเป็นนับถือไป ในทันที ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นกับตาตนเอง จะอย่างไรเขาก็ไม่ เชื่อว่าบนโลกจะมีสตรีเช่นนี้อยู่
หลินซินเยียนยิ้มบาง แต่กลับไม่ได้แสดงท่าทีถ่อมตน หน้าไม้ที่นางทำย่อมต้องดีกว่าแบบดั้งเดิมอยู่แล้ว นางพลัน ยอบกายคารวะแก่โจวชาง คุณชายโจว แล้วการเดิมพัน
ของพวกเราเมื่อสักครู่นี้
โจวซางอึ้ง พลางลูบคลำศีรษะของตนกระทั่งใบหน้าก็ แดงกำขึ้นเรื่อยๆ “หยกแขวนติดตัวของท่านอ๋อง มูลค่า เทียบเท่าเมืองๆหนึ่ง ช่างฝีมือผู้หนึ่งอย่างข้ามีปัญญาซื้อ ได้ที่ไหนกัน? เกรงว่าทำให้แม่นางหัวเราะเยาะเสียแล้ว ข้า…. ข้า..
ได้ยินเช่นนี้ กล้ามเนื้อบนใบหน้าของหลินซินเยียนก็บิด เบี้ยวเล็กน้อย มารดาแกสิ นี่จะเบี้ยวหนี้กันใช่ไหม?
ตำลึงเงินที่มูลค่าเทียบเท่ากับหยกแขวนนี้ ข้าคงจะไม่มี ปัญญาจ่าย แต่ว่าข้าจะให้ทุกอย่างในสกุลของข้ามอบให้ แก่แม่นาง โจวชางอับอายใบหน้าแดงก่ำ ส่งสายตาขอ ความช่วยเหลือกับโม่จื่อเฟิง
โม่จื่อเฟิงไม่ได้สนใจมองตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะสายตา ของยังทอดมองไปที่อาวุธหน้าไม้ และก็ไม่ทราบได้ว่าเขา คิดอะไรอยู่ แต่เมื่อเขามองหลินซินเยียน มีความแตกต่าง ในดวงตาอย่างเห็นได้ชัด
“เจ้ามองข้าทำไม นี่เป็นการเดิมพันของพวกเจ้า” โม่ จื่อเฟิงพลันกลับลำ หมายความว่าไม่ต้องการที่จะมีส่วน ร่วม
“คิดไม่ถึงว่าคุณชายโจวก็เป็นเช่นนี้… หลินซินเยียนไม่ พอใจ คำพูดก็เปลี่ยนไปเป็นไม่สุภาพ
“ไม่ ไม่นะ ข้ามิได้เจตนา ข้าคนแซ่โจวไม่เคยพบพาน
เรื่องราวแบบนี้มาก่อน โจวซางตัดบทนางและรีบกล่าวต่อ
อนิจจา ข้ามีเพียงสามหมื่นตำลึงเงิน ถ้าหากแม่นางว่าน้อย
ไป ก็มีแต่ต้องยกคนแซ่โจวผู้นี้ให้กับเจ้า หลังจากนั้นข้าจำหาเงินแล้วค่อยๆนำมาชดใช้คืนเจ้า”