ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 334 ฟ้ากำหนดให้มีภัยครั้งนี้ / ตอนที่ 335 ปริศนา
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 334 ฟ้ากำหนดให้มีภัยครั้งนี้ / ตอนที่ 335 ปริศนา
ตอนที่ 334 ฟ้ากำหนดให้มีภัยครั้งนี้
“เรื่องนี้โทษเจ้ามิได้ คุณหนูใหญ่คนนี้ฉลาดแกมโกงที่สุด ส่งคนๆ นี้มาให้ข้าเถิด ข้าจะพาไปพบเจ้าสำนัก เจ้าถอยไป”
มู่หรงกวานเสวี่ยโบกมือ เซียนเอ๋อร์ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก ได้แต่ถอยไปอย่างเคารพ
สำนักอู๋จี๋มีผู้คุมกฎทั้งหมดสี่คน นอกจากเฟิงอิ๋นแล้ว คนอื่นไม่ค่อยได้อยู่ที่สำนักอู๋จี๋
เวลาที่มู่หรงกวานเสวี่ยกลับมานั้นน้อยมาก แต่นางเป็นคนแรกที่มาไหว้ฝากตัวกับเจ้าสำนัก ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนสำคัญที่สุดของเจ้าสำนัก แต่เป็นคนที่เจ้าสำนักโปรดที่สุด ดังนั้นทุกคนในสำนักอู๋จี๋เห็นมู่หรงกวานเสวี่ยต่างก็เคารพนอบน้อม
เซียนเอ๋อร์ไปแล้ว มู่หรงนี่อวิ๋นก็ทนไม่ไหว รีบซักต่อ
“พี่รอง พี่กลายเป็นผู้คุมกฎสำนักอู๋จี๋ได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เห็นได้ชัดว่ามู่หรงกวานเสวี่ยก็ไม่นึกว่าจะเจอมู่หรงนี่อวิ๋นที่นี่ แต่กลับไม่คิดจะพูดอะไรกับมู่หรงนี่อวิ๋นมาก ชี้มู่หรงนี่อวิ๋น สั่งการว่า
“พวกเจ้าพาเขาออกไปจากสำนักอู๋จี๋”
อย่างไรเขาก็เป็นน้องชายนาง นางไม่อยากทำอะไรมู่หรงนี่อวิ๋น อยากพาเขาส่งออกไปจากสำนักอู๋จี๋เท่านั้น ถึงแม้เขาจะอยากเข้ามาก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
ได้รับคำสั่งจากมู่หรงกวานเสวี่ย สาวใช้ข้างหลังก็รีบก้าวขึ้นมา เตรียมพามู่หรงนี่อวิ๋นไป
หลิงอวี้จื้อยังอยู่ที่นี่ มู่หรงนี่อวิ๋นย่อมไม่ไปอยู่แล้ว เพิ่งหยิบกริชเล่มหนึ่งออกมาจากอก ไม่ทันพ้นสามกระบวนท่า เขาก็ถูกสาวใช้ของมู่หรงกวานเสวี่ยจับได้แล้ว พวกนางคล้องแขนมู่หรงนี่อวิ๋นไว้อย่างแน่นหนา ทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่ได้
มู่หรงนี่อวิ๋นร้อนใจแล้ว ตะโกนเสียงดังว่า
“พี่รอง พี่อย่าทำอะไรหลิงอวี้จื้อเลย พี่ปล่อยนางไปเถิด ถือว่าข้าขอร้อง”
“เจ้าถูกผีสิงไปแล้วหรือ นางนี่มันมีอะไรดี ดูปราดเดียวก็เห็นแล้วว่ายังไม่โตเต็มที่เลย นางเป็นว่าที่พระชายาท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ถึงทีเจ้าต้องเป็นกังวลด้วยหรือ
เรื่องของข้าเจ้าไม่ต้องมายุ่ง ออกไปจากสำนักอู๋จี๋แล้ว เจ้ารีบกลับเข้าเมืองหลวงทันที เรื่องที่เจ้าออกจากเมืองหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต พี่ใหญ่กับท่านพ่อไม่พอใจแล้ว”
มู่หรงกวานเสวี่ยไม่ชอบหลิงอวี้จื้ออยู่แล้ว เรื่องที่เธอถ่มน้ำลายใส่นางครั้งที่แล้ว นางยังจำได้ตลอด หากไม่ใช่เพราะไม่สามารถทำโจ่งแจ้งต่อหน้าหัวหน้าพ่อบ้านได้ วันนั้นนางคงเก็บหลิงอวี้จื้อไปแล้ว วันนี้ได้เจอโอกาสทองที่นานทีมีหน นางย่อมไม่ปล่อยไปแน่นอน
“พี่รอง เรื่องของพี่ร้ายแรงกว่าเรื่องของข้านัก พี่ปล่อยหลิงอวี้จื้อ ข้าจะช่วยปิดความลับนี้ให้”
“เจ้าอยากพูดก็พูดไป เรื่องนี้ก็ต้องให้พวกเขาเชื่อด้วยถึงจะได้นะ”
มู่หรงกวานเสวี่ยพูดจบก็โบกมือ สาวใช้เข้าใจความหมายของนาง บังคับให้มู่หรงนี่อวิ๋นเดินออกไป
หลิงอวี้จื้อไม่ได้ให้มั่วชิงห้ามไว้ มู่หรงนี่อวิ๋นไปจากที่นี่ก็ดี จะได้ไม่ทำให้เขาต้องลำบากไปด้วย ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่หือไม่อืออะไร
สำหรับสถานะของมู่หรงกวานเสวี่ย เธอก็ตกใจไม่น้อยไปกว่ามู่หรงนี่อวิ๋น ที่เธอไปจวนมู่หรงแล้วพบกับมู่หรงกวานเสวี่ยคราวที่แล้ว มั่วชิงก็อยู่ข้างๆ ด้วย
มั่วชิงเปลี่ยนใบหน้าแล้ว แต่มู่หรงกวานเสวี่ยคงไม่ได้เปลี่ยน เหตุใดตอนนั้นมั่วชิงถึงจำมู่หรงกวานเสวี่ยไม่ได้ ออกไปแล้ว เธอต้องถามให้กระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้น สำนักอู๋จี๋แห่งนี้ยังเป็นลัทธิมารจริงๆ
มู่หรงนี่อวิ๋นออกไปไกลมากแล้วยังคงเรียกมู่หรงกวานเสวี่ยอยู่
เมื่อทำอะไรไม่ได้ สาวใช้จึงทำได้เพียงกดจุดเขา มู่หรงนี่อวิ๋นเริ่มเสียดายอีกครั้งที่ตนเรียนมาไม่ดี หากรู้เร็วกว่านี้สักนิดจะต้องได้ฝึกวิทยายุทธ์อย่างหนักแน่ เมื่อก่อนหลงคิดว่าวิทยายุทธ์ของตนเองเพียงพอแล้ว ตอนนี้ได้พบผู้มีฝีมือสูงส่งถึงได้รู้ว่าตนเองยังอ่อนอยู่มาก
เมื่อมู่หรงนี่อวิ๋นถูกพาตัวไปแล้ว มู่หรงกวานเสวี่ยก็เดินไปตรงหน้าหลิงอวี้จื้อ นางหน้าตางดงามอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้นางจึงสูงกว่าหลิงอวี้จื้อเพียงเล็กน้อย นางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
“นึกไม่ถึงเลยนะ นึกไม่ถึง แค่ข้ากลับมาสำนักอู๋จี๋หนหนึ่งก็ได้รับรางวัลเช่นนี้เลย หลิงอวี้จื้อ ข้าได้ยินมาว่าวันนี้เฟิงอิ๋นแต่งงาน ผู้ชายของนางคงไม่ใช่เซียวเหยี่ยนหรอกกระมัง!”
“ข้ามาหาอาเหยี่ยนที่อำเภอฉางหนิงจริง แต่ข้าถูกจับเข้ามา
เจียงฮูหยินปิดได้มิดชิดจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นผู้คุมกฎแห่งสำนักอู๋จี๋ ดูท่าสำนักอู๋จี๋นี้มีมาหลายปีแล้ว หากใต้เท้าเจียงรู้ข่าวนี้คงยินดีอย่างยิ่ง”
ใจหลิงอวี้จื้อเข้าใจดี พบมู่หรงกวานเสวี่ยแล้วคงหนีไม่พ้นภัย
ฟ้าคงกำหนดให้มีภัยครั้งนี้จริงๆ ถึงดันมาพบกับมู่หรงกวานเสวี่ยที่นี่ได้
ตอนที่ 335 ปริศนา
ยังมีอีกเรื่องที่เธอคิดไม่ตก ในเมื่อมู่หรงกวานเสวี่ยเป็นผู้คุมกฎของสำนักอู๋จี๋ เช่นนั้นสำนักอู๋จี๋คงมีมานานแล้ว ตอนนี้นางเพิ่งจะอายุยี่สิบกว่าปี ตอนที่มาสำนักอู๋จี๋อายุคงยังน้อยมาก
เหตุใดอยู่ดีๆ มู่หรงหงถึงส่งลูกสาวในไส้ของตนเองมาสถานที่เช่นนี้ได้ ตามคำบรรยายของมั่วชิง การฝึกวิชาของสถานที่ประหลาดนี้ค่อนข้างน่ากลัว ไม่ต่างอะไรกับนรก
ฝึกวิชาหลายปีเข้า โดยปกติจะมีคนตายไปครึ่งหนึ่ง
ลูกสาวของภรรยาหลวงสำคัญกว่าลูกสาวของอนุภรรยามาก หรือว่ามู่หรงหงกับสำนักอู๋จี๋มีความเกี่ยวข้องกันมาตั้งนานแล้ว กลุ่มสมาคมในยุทธภพนี้ นึกไม่ถึงว่าจะมีความเกี่ยวพันไปถึงราชสำนัก
“เจ้าไม่ต้องมาขู่ข้าหรอก เจ้าคิดว่าเจ้าจะออกไปจากสำนักอู๋จี๋ได้หรือ”
มู่หรงกวานเสวี่ยหัวเราะเย็นชาหนึ่งครั้ง แล้วโบกมือ
” พาตัวไป”
พูดจบก็ไปนำทางข้างหน้า สาวใช้ของมู่หรงกวานเสวี่ยกำลังจะเข้ามาจับตัวหลิงอวี้จื้อกับมั่วชิง หลิงอวี้จื้อผลักพวกนางออก
“ข้ามีขา เดินเองได้ ไม่ต้องรบกวนพวกเจ้า”
สาวใช้ก็ไม่ได้บังคับ ตามหลังพวกนางมา บริเวณนี้ในสำนักอู๋จี๋จุดโคมไฟทุกที่ ดังนั้นจึงสว่างไสวมาก เดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาสักครู่ พวกเธอก็มาถึงเรือนที่ใหญ่ที่สุดของสำนักอู๋จี๋ ข้างในจุดโคมไฟแถวหนึ่ง ทำให้ทั้งเรือนเปล่งประกาย สว่างราวกับกลางวัน
ยืนอยู่ตรงประตูเรือน หลิงอวี้จื้อก็ร้องอุทาน เรือนนี้หรูหราเกินไปหน่อย
ข้างในเรือน การตกแต่งจัดวางตึกศาลาต่างๆ ประณีตบรรจง มีภูเขาปลอม หินใหญ่ยักษ์ ได้ยินเสียงธารน้ำไหลอยู่ไกลๆ ระดับความหรูหรานี้ไม่ต่างจากวังหลวงนัก ถึงขั้นวิจิตรกว่าวังหลวงเสียอีก
เดินผ่านระเบียงทางเดินยาวๆ เข้ามา พวกเขาก็เข้ามาถึงข้างในโถงใหญ่ของเรือนหลัก ภาพที่เข้ามาในดวงตา คือทุกที่ล้วนเป็นสีทองประกาย แวววาวจนเธอรู้สึกแทบลืมตาไม่ขึ้น พื้นห้องเป็นสีเขียวมรกต ดูเหมือนจะเป็นหินหยกชนิดหนึ่ง มีหยกรูปร่างแปลกตาต่างๆ นานาวางอยู่ทั้งสี่ทิศ บนเสาล้วนฝังทองคำ
หรูหราเกินไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าเจ้าสำนักสำนักอู๋จี๋จะอวดหรูสุดๆ เช่นนี้ พวกเขาเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน หรือว่าเบื้องหลังจะมีเสี่ยเลี้ยงซ่อนอยู่
ที่นั่งหลักในห้องโถงใหญ่มีผู้หญิงสวมชุดสีดำนั่งอยู่ ผมยาวเกล้าขึ้นปักด้วยปิ่นเพียงอันเดียว หน้าตากลางๆ ไม่สวยไม่ขี้เหร่ ท่าทางดูเป็นเพศตรงกลางมาก เห็นครั้งแรกนึกว่าเป็นผู้ชาย เพียงแต่ดูนุ่มนวลกว่าผู้ชายสักหน่อย
มู่หรงกวานเสวี่ยคุกเข่าลงทำความเคารพอย่างนอบน้อม
“ศิษย์มาแล้วเจ้าค่ะ ยังดีที่ท่านอาจารย์ยังไม่ไปพักผ่อน”
“คืนนี้ดื่มไปหลายจอก คราวนี้ปวดหัวมาก ได้ยินว่าเจ้ามา ดื่มยาแก้เมาไปแล้วถึงได้ฝืนลุกขึ้นมาได้ กวานเสวี่ย เจ้ามาสายแล้วจริงๆ เฟิงอิ๋นเข้าห้องหอไปแล้ว จะแสดงความยินดีกับนาง ต้องรอพรุ่งนี้แล้ว”
เจ้าสำนักพูดจบก็นวดขมับ ตอนเย็นนางดื่มสุราไปไม่น้อยจริงๆ ยังคงปวดหัวอยู่ ไม่ได้ดื่มจนสุดขนาดนี้มาหลายปีแล้ว
หลิงอวี้จื้อกับมั่วชิงคุกเข่ากับพื้น หลิงอวี้จื้อยังดี สบายตัวมาก
แต่มั่วชิงไม่เหมือนกัน ตัวสั่นเล็กน้อย ราวกับกำลังควบคุมตัวเองสุดกำลัง ตรงหน้าเป็นคู่อริที่ฆ่าครอบครัวนางทั้งตระกูลด้วยน้ำมือตนเอง แต่นางกลับทำอะไรนางไม่ได้ ความหวาดกลัวนั้นแทรกซึมลึกเข้าไปในไขกระดูกตั้งนานแล้ว
“กวานเสวี่ย สองคนข้างหลังเจ้าคือใคร”
ไม่มีร่องรอยความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของเจ้าสำนัก นางกวาดตามองหลิงอวี้จื้อกับมั่วชิงปราดหนึ่งแล้วก็ย้ายสายตาไปที่อื่น
“ท่านอาจารย์ ข้ากำลังจะแนะนำอยู่พอดี ท่านนี้เป็นคุณหนูใหญ่ ลูกสาวของภรรยาหลวงแห่งจวนท่านมหาเสนาดีเจ้าค่ะ”
“คนที่เมื่อก่อนปัญญาอ่อนหรือ”
ได้ยินตัวตนของหลิงอวี้จื้อ เจ้าสำนักก็เริ่มสนใจ ถามขึ้น
มู่หรงกวานเสวี่ยพยักหน้า
“ใช่คุณหนูใหญ่คนนั้นเจ้าค่ะ นางเป็นว่าที่พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อยู่ๆ นางก็แฝงตัวเข้ามาข้างในสำนักอู๋จี๋ คงจะมาหาท่านอ๋อง ศิษย์ได้ยินมาว่าท่านอ๋องหายตัวไปเจ้าค่ะ”