ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 378 ข้ายินดีเป็นผลความสุขของท่านตลอดไป / ตอนที่ 379 ความลับเรื่องข้ามภพ
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 378 ข้ายินดีเป็นผลความสุขของท่านตลอดไป / ตอนที่ 379 ความลับเรื่องข้ามภพ
ตอนที่ 378 ข้ายินดีเป็นผลความสุขของท่านตลอดไป
มุมปากเซียวเหยี่ยนยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“ใครบอกว่าข้าไม่มีความสุข อวี้จื้อ เจ้ารู้หรือไม่ ไม่ว่าข้าจะเจอเรื่องรำคาญใจเพียงใด ขอเพียงได้เห็นเจ้า อารมณ์ข้าก็ดีขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว”
“มิน่าถึงยืนกรานจะขอข้าแต่งงานให้ได้ ที่แท้ข้าก็เป็นผลความสุข [1] ของท่านนี่เอง”
หลิงอวี้จื้อทำหน้าเข้าอกเข้าใจแจ่มแจ้ง จากนั้นก็หัวเราะพลางพูดว่า
“แต่ข้าก็ยินดีนะ”
“เจ้ายินดีอะไรหรือ”
“ข้ายินดีเป็นผลไม้แห่งความสุขของท่านตลอดไปไง”
เซียวเหยี่ยนถูกหลิงอวี้จื้อหยอกให้ยิ้มอีกแล้ว เขามองหลิงอวี้จื้อด้วยแววตาอบอุ่นอ่อนโยน
ตอนแรกหลิงอวี้จื้ออยากจะช่วยพูดแทนอวิ๋นซั่วสักหน่อย แต่คิดไปคิดมาก็ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะพูดเรื่องเหล่านี้
ที่จริงเธอเข้าใจที่เซียวเหยี่ยนปฏิบัติต่ออวิ๋นซั่วเช่นนั้น หากเปลี่ยนเป็นเธอ เธอก็คาดว่าตนเองคงไม่ต้อนรับน้องชายที่จู่ๆ ก็โผล่มาเช่นกัน จากการที่อวิ๋นซงปิดบังทุกสิ่งทุกอย่าง เขาก็เหมือนถูกพรากแม่ไป
นางเป็นว่าที่ภรรยาของเซียวเหยี่ยน ย่อมยืนอยู่ข้างเซียวเหยี่ยน ไม่อยากใช้มุมมองของพระแม่มารีย์ผู้เมตตา โน้มน้าวให้เซียวเหยี่ยนยอมรับตระกูลอวิ๋น เช่นนี้จะเป็นการฝืนใจเกินไป
จู่ๆ เซียวเหยี่ยนก็เอาปิ่นระย้าปักบนผมของหลิงอวี้จื้อ หลิงอวี้จื้อยังตะลึงอยู่
“อาเหยี่ยน นี่เป็นมรดกของพระชายา เหตุใดท่านไม่เก็บไว้เพคะ”
“เก็บเอาไว้ก็ไร้ค่า ท่านแม่ชอบเจ้า ปิ่นระย้านี้ข้าให้เจ้า อวี้จื้อ นี่ถือว่าเป็นของขวัญวันพบหน้ากันของแม่ข้า และเป็นสินสอดที่ข้ามอบให้เจ้า”
หลิงอวี้จื้อยิ้มออกมา ส่ายหน้าไปมา พู่ระย้ากระทบกันเสียงดังกังวาน เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถามว่า
“สวยหรือไม่เพคะ”
“สวย”
“ไม่มีคำชมอื่นอีกหรือเพคะ”
หลิงอวี้จื้อรู้ว่าตอนนี้เซียวเหยี่ยนอารมณ์ไม่ค่อยดี อยากแหย่เขาให้อารมณ์ดี ด้วยเหตุนี้จึงจงใจถามต่อ
“สวยงามมาก”
หลิงอวี้จื้อกลั้นไม่ไหว หัวเราะฮาลั่น
“ท่านพูดไม่เก่งเลย หากข้าให้ท่านชมอีก ประโยคต่อไปคงจะเป็นสวยงามมากๆ ใช่หรือไม่”
เซียวเหยี่ยนหัวเราะแต่ไม่ตอบ หลิงอวี้จื้อแขวะ
“นึกไม่ถึงว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ผู้ยิ่งใหญ่จะพูดชมคนไม่เป็น”
“ก็มีแต่คนพูดชมข้ามาโดยตลอด”
เซียวเหยี่ยนพูดโอ้อวดโดยไม่ละอายใจ
หลิงอวี้จื้ออึ้งไปครู่หนึ่ง หมดคำพูดจะมาต่อปาก ก็ได้ เขาเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แถมยังมีนิสัยเย็นชาเช่นนั้น มีแต่คนชมเขามาโดยตลอดจริงๆ อยากจะฟังคำชมจากปากเขาสักคำคาดว่ายากกว่าปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก จะว่าไป ตนเองได้อยู่กับเซียวเหยี่ยนที่นี่ ถือว่าเป็นคนที่ได้รับการปฏิบัติอย่างสูงที่สุดแล้ว
หลิงอวี้จื้อเห็นผ้าห่มบนตัวเซียวเหยี่ยนลื่นตกลงมา ก็ก้มตัวลงห่มให้เซียวเหยี่ยนดีๆ เธอกับเซียวเหยี่ยนอยู่ใกล้กันมาก กลิ่นหอมจางๆ วนเวียนอยู่ที่ปลายจมูกเซียวเหยี่ยน ทำให้เขารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย กลิ่นของเธอ เป็นกลิ่นที่เขาคุ้นเคยยิ่งนัก
“สองสามวันนี้ท่านอย่าออกไปไหนมั่วซั่ว อยู่รักษาแผลบนเตียงให้ดีๆ มิเช่นนั้นข้าเกรงว่าท่านจะไม่มีแรงแม้จะอยู่ข้ามคืนวันสิ้นปีกับข้านะเพคะ”
“ได้ ข้าเชื่อฟังเจ้า”
เซียวเหยี่ยนเอาแต่คอยมองหลิงอวี้จื้อ ทำให้หลิงอวี้จื้อรู้สึกเขินอายมาก
“ท่านเอาแต่จ้องข้าทำไม ข้าบอกท่านตั้งนานแล้ว ว่าหน้าข้าไม่หนาเท่าท่าน ทนให้ท่านคอยมองหน้าอยู่เช่นนี้ไม่ไหวนะเพคะ”
เซียวเหยี่ยนหัวเราะออกมาเบาๆ
“ควบคุมไม่อยู่ ทำอย่างไรดี”
หลิงอวี้จื้อมองหน้าเซียวเหยี่ยนด้วยใบหน้าไร้เดียงสา หน้าแดงราวกับผลแอปเปิลสุก
“ถ้าท่านยังทำเช่นนี้อีก ข้าจะออกไปแล้วนะ”
เป็นนักแสดงแท้ๆ ตั้งแต่เริ่มทำงานก็แสดงเป็นคู่รักกับนักแสดงคนอื่นมาไม่น้อย เธอควบคุมตัวเองได้ดีตลอด ไม่เคยใจเต้นรัวจริงๆ แสดงละครก็คือแสดงละคร เมื่อออกจากเฟรมไปแล้วก็ดึงตัวเองออกมาได้อย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเซียวเหยี่ยน เธอก็เหมือนสาวน้อยที่ลุ่มหลงเสียสติ เพียงเพราะคำพูดเขาประโยคเดียวก็ใจเต้นระรัว เพียงเพราะสายตาของเขาก็หน้าแดง ควบคุมตัวเองไม่ได้โดยสิ้นเชิง ทั้งที่ชีวิตจริง เธอก็เป็นคนหน้าหนาอยู่แท้ๆ เซียวเหยี่ยนต้องเป็นคู่ปรับของเธอแน่ๆ
ตอนที่ 379 ความลับเรื่องข้ามภพ
เซียวเหยี่ยนไม่หยอกหลิงอวี้จื้อต่อ หยิบสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งจากอกเสื้อยื่นไปตรงหน้าหลิงอวี้จื้อ สร้อยทำจากเงิน ข้างบนประดับด้วยลูกปัดสีแดง
หลิงอวี้จื้อนึกว่านี่เป็นของขวัญที่เซียวเหยี่ยนมอบให้เธอ จนเธอรับสร้อยข้อมือเส้นนั้นไปจากมือของเซียวเหยี่ยน พอมองเห็นชัดเจนแล้ว หลิงอวี้จื้อก็ตะลึงงัน
ล้อเล่นน่า! บนโลกนี้มีเรื่องบังเอิญเช่นนี้จริงๆ หรือ นึกไม่ถึงว่าสร้อยข้อมือในยุคปัจจุบันของเธอจะปรากฏให้เห็นในยุคโบราณอย่างน่าประหลาด
เพื่อพิสูจน์ว่าสร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นสร้อยเส้นเดียวกับของเธอจริงๆ เธอหยิบสร้อยข้อมือขึ้นชูในทิศทางที่แสงอาทิตย์ส่อง ตามคาด ลูกปัดบนสร้อยข้อมือเริ่มประกายลำแสงสีแดงจางๆ สวยงามมาก
ลักษณะพิเศษนี้เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ที่แท้เป็นสร้อยข้อมือของเธอจริงๆ นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ สร้อยข้อมือเส้นนั้นของเธอ เป็นของขวัญวันเกิดที่ซ่งเฉิงมอบให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดในปีนี้ เธอดีใจสุดขีด ใส่มันทุกวัน ซ่งเฉิงบอกว่าเขาเลือกมาจากร้านขายของเก่า
วันที่เธอข้ามภพมาก็ใส่สร้อยข้อมือนี้เอาไว้ แต่เธอข้ามภพมาเพียงวิญญาณ ร่างกายสลับกัน สร้อยข้อมือไม่ได้อยู่ที่ตัวก็เป็นเรื่องปกติมาก เธอเองก็ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ
เธอนึกย้อนถึงเหตุการณ์ในความทรงจำอย่างละเอียด วันนั้นเป็นวันเฉลิมฉลองหลังปิดกล้องของทีมงาน เธอดื่มมากไปหน่อย เห็นซ่งเฉิงโทรศัพท์มา ก็ออกไปรับโทรศัพท์
เพิ่งจะรับโทรศัพท์ติด จู่ๆ เธอก็เวียนหัว เหมือนจะหกล้มตกบันไดลงมา
เรื่องราวหลังจากนั้นเธอจำไม่ได้แล้ว จำได้รางๆ ว่าสร้อยข้อมือก็เปล่งแสงออกมา สร้อยข้อมือของเธอก็ต้องได้รับแสงอาทิตย์ถึงจะเปล่งแสง ตอนนั้นเป็นตอนค่ำ ไม่มีแสงอาทิตย์แน่นอน
ทำไมจู่ๆ สร้อยข้อมือถึงเปล่งแสง ตอนนั้นเธอไม่ได้สังเกต พอเกิดเรื่องแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตอนนี้ได้เห็นสร้อยข้อมือเส้นนี้อีกครั้ง เธอก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เรื่องนี้ชักจะแปลกพิกลเกินไปแล้ว
หรือว่าการข้ามภพของตนเองจะเกี่ยวข้องกับสร้อยข้อมือเส้นนี้
สร้อยข้อมือเส้นนี้มีความลับอะไรกันแน่
เห็นหลิงอวี้จื้อรับสร้อยข้อมือไปแล้วเหม่อลอย แววตาเซียวเหยี่ยนก็มีประกายตกใจ หรือว่าเธอเคยเห็นสร้อยข้อมือเส้นนี้มาก่อน ตามหลักเหตุผลแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้
“อวี้จื้อ เจ้าจำสร้อยข้อมือเส้นนี้ได้หรือ”
“อาเหยี่ยน ท่านรีบบอกข้ามา สร้อยข้อมือเส้นนี้มาจากไหน”
หลิงอวี้จื้อจับแขนเซียวเหยี่ยน ถามอย่างร้อนรน
ปฏิกิริยาของหลิงอวี้จื้อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของเขา เขาไมได้ถามต่อ แต่แนะนำที่มาที่ไปของสร้อยเส้นนี้
“คืนวันนั้น ข้าไปขโมยกุญแจห้องทิศตะวันตกที่ห้องของเจียงสือ ข้าพบสร้อยข้อมือเส้นนี้ในช่องลับในห้องของนาง”
“สร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของเจียงสือหรือ”
หลิงอวี้จื้อตกใจอีกครั้ง ที่แท้การข้ามภพของเธอเกี่ยวข้องกับลัทธิมารนี้หรือ
“เดิมสร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของในวัง มีทั้งหมดหนึ่งคู่ เป็นสมบัติที่เก็บซ่อนไว้ในวัง สูญหายไปหนึ่งเส้นเมื่อหลายปีก่อน เมื่อฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต สร้อยข้อมือที่เหลืออีกเส้นก็หายไป ตอนนี้กลับไปปรากฏอยู่ที่สำนักอู๋จี๋
พวกนางจะต้องติดต่อกับคนในวังแน่นอน หนำซ้ำคนผู้นั้นจะต้องมีตำแหน่งสูงระดับหนึ่งในวัง
สิ่งนี้เก็บซ่อนไว้ในคลังสมบัติข้างในวัง ข้างนอกมีทหารยามเฝ้าหลายชั้น ซ้ำยังมีกลไกต่างๆ ติดตั้งไว้ คนที่ไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ภายใน ไม่สามารถเข้าไปได้เลย คนที่ทำเรื่องนี้ได้ต้องเป็นคนในวังแน่นอน”
เซียวเหยี่ยนวิเคราะห์ให้หลิงอวี้จื้อฟังอย่างใจเย็น ตอนที่เห็นสร้อยข้อมือเส้นนี้ ตอนนั้นเซียวเหยี่ยนก็ค่อนข้างตกใจ แต่ไม่นานเขาก็ฟันธงไม่ได้ว่าคนที่แอบสมรู้ร่วมคิดกับสำนักอู๋จี๋คือใคร
เรื่องนี้เขาจะต้องสืบให้กระจ่าง เหตุใดคนผู้นี้ถึงได้มอบสร้อยข้อมือเส้นนี้ให้เจียงสือ
นี่เป็นสมบัติที่ตกทอดต่อกันมา สามารถมอบให้เจียงสือได้ เป็นข้อพิสูจน์ว่าสองคนนี้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมาก เจียงสือคิดจะเอาสร้อยเส้นนี้ไปทำอะไร พวกเขาแอบวางแผนทำอะไรกัน ข้อสงสัยเหล่านี้เป็นเรื่องที่เขาจะต้องสืบหาต่อไป
——
[1] ผลแห่งความสุข มาจากคำว่า 开心果 หมายถึง ถั่วพิสตาชิโอ แปลจากภาษาจีนตรงตัวว่า ผลไม้แห่งความสุข เนื่องจากถั่วพิสตาชิโอมีเปลือกอ้าออกคล้ายรอยยิ้ม จึงดูเหมือนถั่วยิ้มตลอดเวลา จึงเรียกว่า ผลไม้แห่งความสุข และคำว่า 开心果 นี้ยังใช้เรียกคนที่ร่าเริงสดใสด้วย