ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 452 อยู่ห่างๆ เอาไว้ถูกต้องแล้ว / ตอนที่ 453 รวมตัวกันมาปลอบใจ
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 452 อยู่ห่างๆ เอาไว้ถูกต้องแล้ว / ตอนที่ 453 รวมตัวกันมาปลอบใจ
ตอนที่ 452 อยู่ห่างๆ เอาไว้ถูกต้องแล้ว
“อวี้จื้อ เจ้าต้องการจะเย็นชากับข้าเช่นนี้หรือ”
เห็นหลิงอวี้จื้อพูดจาด้วยน้ำเสียงห่างเหิน เฉินเซี่ยวหรูก็นึกถึงตอนที่เพิ่งรู้จักหลิงอวี้จื้อใหม่ๆ ตอนนั้นหลิงอวี้จื้อมักจะส่งยิ้มเขินอายให้เขา แถมยังให้กระเป๋าเงินแก่เขาเป็นการสารภาพความในใจ
กระเป๋าเงินนั้นยังเก็บไว้ตลอด ตอนนี้ผ่านไปเพียงช่วงสั้นๆ ยังไม่ทันถึงครึ่งปี ของอยู่แต่คนไปเสียแล้ว คิดถึงตรงนี้ เขาก็รู้สึกผิดหวังมาก หากรู้ก่อนว่าใจตนเองจะหวั่นไหวถึงเพียงนี้ ตอนแรกเขาจะไม่ปฏิเสธหลิงอวี้จื้อเด็ดขาด
หลิงอวี้จื้อยิ้มพูดเรียบๆ
“หรือว่าหม่อมฉันไม่มีมารยาทพอ ตอนนี้หม่อมฉันกำลังจะออกเรือนแล้ว ท่านอู๋อ๋องเป็นผู้ชาย หม่อมฉันย่อมต้องหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด มิเช่นนั้นก็จะเป็นขี้ปากชาวบ้าน เช่นนี้ต่างก็ไม่ดีต่อทั้งหม่อมฉันและท่านอู๋อ๋องเพคะ”
“ตอนนี้พวกเราไม่เป็นแม้กระทั่งเพื่อนกันแล้วหรือ”
หลิงอวี้จื้อเห็นแววตาจริงใจของเฉินเซี่ยวหรู คิ้วขมวด เฉินเซี่ยวหรูช่างแถจริงๆ ตอนนี้พูดว่าเพื่อน หากเห็นเธอเป็นเพื่อนจริงๆ คงไม่ทำเรื่องพวกนั้นได้ลง
เธอจงใจทำท่าทีเย็นชา เพื่อให้เฉินเซี่ยวหรูรู้ว่าเข้าหายากจะได้ถอยไป นึกไม่ถึงว่าเขาไม่เพียงแต่ไม่ไป ซ้ำยังทำหน้าราวกับว่าเธอทำให้เขาผิดหวังอย่างไรอย่างนั้น
นี่ทำให้เธอยิ่งไม่ชอบเฉินเซี่ยวหรูเข้าไปใหญ่ เมื่อก่อนถือว่าตนเองตาบอดไป นึกไม่ถึงว่าจะชอบคนหน้าไหว้หลังหลอกเช่นนี้ เขานอกจากจะหน้าตาคล้ายซ่งเฉิงแล้ว ด้านอื่นๆ ไม่มีอะไรเหมือนซ่งเฉิงเลยแม้แต่น้อย
“หากท่านอู๋อ๋องเห็นหม่อมฉันเป็นเพื่อนจริงก็คงไม่สั่งให้อวิ๋นซั่วทำเรื่องพวกนั้น ท่านอู๋อ๋องคงไม่ทราบ ว่าคำพูดของท่านเพียงประโยคเดียวฆ่าคนไปเท่าไร
ตำบลเถาหยวนเป็นดินแดนในอุดมคติ แต่ตอนนี้กลายเป็นนรกบนดิน ชาวบ้านที่นั่นทำผิดต่อท่านอ๋องตรงไหน ถึงแม้ท่านจะมีเรื่องขัดแย้งกับอาเหยี่ยน แต่จะเอาชาวบ้านมาเชือดเช่นนี้ไม่ได้ การกระทำเช่นนี้น่ารังเกียจเกินไป”
“อวิ๋นซั่วคือใคร”
เฉินเซี่ยวหรูถามด้วยหน้าตาสงสัย
“เสแสร้งได้เหมือนจริงมากเพคะ อวิ๋นซั่วที่ควรพูดถึงก็พูดไปหมดแล้ว เหตุใดท่านอ๋องต้องแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ความขัดแย้งระหว่างท่านกับอาเหยี่ยน หม่อมฉันเข้าใจ และไม่เคยคิดจะให้ท่านวางความขัดแย้งนั้นลง
แต่กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ท่านอ๋องคอยเอามีดมาแทงข้างหลังอยู่ตลอดเช่นนี้ ยังจะว่าหม่อมฉันเป็นเพื่อนอีก ใครเขาปฏิบัติเช่นนี้กับเพื่อนเพคะ”
เฉินเซี่ยวหรูอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง
“อวี้จื้อ ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้า และข้าก็ไม่รู้จักอวิ๋นซั่ว
ข้ารู้ว่าตอนนี้เจ้ามีอคติกับข้า ข้าจะไม่ทำเรื่องที่เป็นอันตรายต่อเจ้า และไม่ได้เป็นคนไร้มโนธรรมขนาดนั้น
ชาวบ้านคือรากฐานของประเทศ บุญคุณหนี้แค้นระหว่างข้ากับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ยุติแล้ว จู่ๆ จะเอาชาวบ้านผู้บริสุทธิ์มาเชือดได้อย่างไร
เกิดเป็นคนในราชวงศ์ มีบางเรื่องที่ต้องจำใจทำ หากไม่ต่อสู้ ก็มีแต่ทางตาย ไม่ว่าเจ้าจะยืนอยู่ข้างใคร ข้าก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายเจ้าเลย”
หากคำพูดนี้เป็นความจริง ก็จริงแค่เฉินเซี่ยวหรูคิดจะใช้ประโยชน์จากหลิงอวี้จื้อเท่านั้น แต่ไม่เคยคิดจะทำร้ายถึงชีวิตเธอ
ตอนนี้ดูแล้ว เซียวเหยี่ยนคงใช้เวลากับหลิงอวี้จื้อไปไม่น้อย ถึงทำให้หลิงอวี้จื้อปฏิเสธเขาเช่นนี้
เมื่อก่อนยังยินดีเป็นเพื่อนกับเขา ตอนนี้เห็นเขาก็หลีกหนีไปไกล เซียวเหยี่ยนคิดอะไรอยู่ เขารู้ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็จะไม่เกรงใจแล้ว
หลิงอวี้จื้อไม่รู้ว่าที่เฉินเซี่ยวหรูพูดนั้นจริงหรือหลอก และไม่อยากซักไซ้ อย่างไรพวกเขาทั้งสองคนก็ยืนกันคนละฝั่ง อยู่ห่างๆ เอาไว้ถูกต้องแล้ว
ตอนที่ 453 รวมตัวกันมาปลอบใจ
ตอนแรกอยากจะเดินเล่นคนเดียวสักหน่อย ตอนนี้เจอเฉินเซี่ยวหรูแล้ว ก็ไม่มีแก่ใจจะเดินเล่นอีก เธอโค้งตัวให้เฉินเซี่ยวหรู
“หม่อมฉันยังมีธุระขอตัวก่อนเพคะ เชิญท่านอ๋องตามสบาย”
พูดจบแล้ว หลิงอวี้จื้อก็หมุนตัวจากไป เฉินเซี่ยวหรูไม่ได้รั้งให้หลิงอวี้จื้ออยู่ต่อ รอจนนางเดินไปแล้ว ก็หยิบกระเป๋าเงินที่หลิงอวี้จื้อปักให้ออกมาจากอกเสื้อ งานปักบนนั้นบิดๆ เบี้ยวๆ เขาลูบรูปปักไผ่บนนั้น รำพึงรำพันว่า
“อวี้จื้อ ต้องมีสักวันที่เจ้าจะเป็นของข้า”
หลิงอวี้จื้อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกลับจวนไป เมื่อถึงจวนก็เข้าห้องทันที แถมยังปิดประตูด้วย ขังตัวเองเอาไว้ในห้อง ตอนแรกเธออยากไปดื่มเหล้าที่โรงเตี๊ยม แต่นึกถึงสภาพตอนเมาก็ ช่างมันเถอะ!
เลี่ยงการทำอะไรผิดประเพณีอีกเวลาเมา เมื่อสร่างเมาแล้วจะได้ไม่มาทอดถอนใจอีกว่าเหล้าไม่ใช่สิ่งที่ดี
เธอคลานขึ้นโต๊ะอย่างไร้เรี่ยวแรง เคาะโต๊ะอย่างเบื่อหน่าย เสียงหรูเยียนแว่วมาจากข้างนอก
“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูจูกับคุณชายมู่หรงมาเจ้าค่ะ”
หลิงอวี้จื้อเลิกเปลือกตาขึ้น แต่ไม่ขยับ
“พวกเขามาด้วยกันอีกแล้วหรือ ให้พวกเขาเข้ามาเถิด!”
“เจ้าค่ะ คุณหนู”
หรูเยียนตอบรับหนึ่งคำ ไม่นานประตูห้องก็มีคนผลักเปิดออก จูจิ่นกับมู่หรงนี่อวิ๋นเดินตามกันเข้ามา
จูจิ่นสวมชุดสีแดงชาด แต่งตัวสวยงามมีเสน่ห์มาก จูจิ่นปลอมเป็นผู้ชายมานานเกินไปแล้ว ยังคงมีกลิ่นอายความกล้าหาญแบบผู้ชายอยู่ ดังนั้นเมื่อสวมชุดสีแดงจึงเหมาะมาก ให้ความรู้สึกทรงพลังมาก
มู่หรงนี่อวิ๋นก็สวมชุดคลุมยาวสีแดงเข้ม ยังคงหล่อละมุน เจ้าสำราญเช่นเคย มองดูดีๆ เหมือนกับใส่เสื้อคู่กันมา
“พวกเจ้าสองคนตัดสินใจจะแต่งงานกันแล้วหรือ แต่งตัวเป็นมงคลขนาดนี้”
หลิงอวี้จื้อเอามือเท้าคาง หยอกเย้าทั้งสองคนเหมือนคนปกติไม่มีเรื่องอะไร
“เจ้าจะแต่งงานแล้ว พวกเราก็ต้องใส่ชุดให้เป็นมงคลสักหน่อย เจ้าสิทำตัวซึมเศร้าหม่นหมอง ไม่เหมือนคนที่จะเป็นเจ้าสาวเลย”
จูจิ่นเดินมานั่งลงข้างๆ หลิงอวี้จื้อก่อน
“จูจิ่น ป่านนี้แล้ว เจ้ายังล้อหลิงอวี้จื้ออีก”
“นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องดีๆ ที่พี่สาวคนโตของเจ้าทำหรอกหรือ มู่หรงนี่อวิ๋น เจ้าควรจะเข้าวังไปขอร้องพี่สาวของเจ้าเสีย”
มู่หรงนี่อวิ๋นนั่งลงตรงข้ามหลิงอวี้จื้อ
“วันนี้ไปมาแล้ว พี่สาวได้ยินข้าเอ่ยถึงเรื่องนี้ก็ไล่ออกมาทันที ไม่ให้ข้าอ้าปากพูดเลยด้วยซ้ำ”
หลิงอวี้จื้อหยิบกาน้ำชาขึ้นมารินชาให้พวกเขา
“รบกวนพวกเจ้าแล้ว มา มา ดื่มชากลั้วคอหน่อย”
จูจิ่นยกชาในมือขึ้นมา จิบไปหนึ่งคำ
“เจ้าก็อย่าผิดหวังนักเลย แม้เฉินปี้จะเข้าจวนไปก็เป็นแค่อนุ เจ้ายังสร้างอำนาจกับนางได้ หากนางไม่เชื่อฟังเจ้า เจ้าก็จัดการนางได้ง่ายๆ อย่างไรอาเหยี่ยนก็เข้าข้างเจ้าอยู่แล้ว เจ้าเองก็ไม่โง่ ไม่เสียเปรียบนักหรอก ชีวิตอย่างนี้สิถึงจะมีสีสัน มิเช่นนั้นอยู่คนเดียวในจวนจะน่าเบื่อเพียงใด”
หลิงอวี้จื้อไม่ได้ตอบจูจิ่น แต่ถามว่า
“อาจิ่น เจ้าชอบกินอะไรที่สุด”
หลิงอวี้จื้อเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างกะทันหัน ทำให้จูจิ่นอึ้ง แต่ก็ยังตอบตามจริงว่า
“ข้าชอบกินขนมแป้งอบรูปดอกเหมย”
หลิงอวี้จื้อเรียกมั่วชิงมา พูดสั่งว่า
“มั่วชิง เจ้าไปซื้อขนมแป้งอบรูปดอกเหมยที่ร้านขายขนมมาหน่อย”
“ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
มั่วชิงรับคำแล้ว ก็ออกไปทันที
“โอ๊ย อวี้จื้อ เจ้าเกรงใจกันเกินไปแล้ว!”
จูจิ่นงงไปหมด ไม่รู้ว่าหลิงอวี้จื้อจะมาไม้ไหน
มู่หรงนี่อวิ๋นยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่
“ป่านนี้แล้ว เจ้ายังมีแก่ใจดูแลนางอีกหรือ”